Less is now.
<<
ธันวาคม 2560
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
7 ธันวาคม 2560

The good old days... Pattaya, Thailand 2017



มาต่อกันกับบล็อกท้ายสุดของไทยแลนด์ทริปกันค่ะ หลังจากที่พักผ่อนนอนหลับอยู่หาดกะรนมาสิบคืนแล้ว ถึงเวลาบินข้ามกลับไปฝั่งอ่าวไทยกันแล้วค่ะ แต่เนื่องด้วยไฟลท์ที่ต้องบินกลับนั้นออกตอนบ่ายสาม เราจึงมีเวลาอ้อยอิ่งกันอีกนิดหน่อย หลังอาหารเช้านั่งย่อยไปสักชั่วโมง อิชั้นก็ไปนอนขัดตัวและนวดตัวด้วยน้ำมันหอมๆ โอย สบายตัวเป็นที่สุด เป็นการฆ่าเวลาที่ดีมากๆ จัดการแพ๊คกระเป๋าไว้ให้เรียบร้อย เที่ยงนิดๆ เดินกลับมาโรงแรม สามีทำการเช็คเอ้าท์เรียบร้อย รถแท๊กซี่ก็มารับแล้ว เดินทางไปสนามบินอย่างสะดวกสบายอุรามากๆ อิชั้นโปรดปรานการนวดตัวด้วยน้ำมันหอมๆ กลิ่นมะลิหรือกลิ่นน้ำมันมะพร้าวนี่ถูกใจสุดๆ ส่วนร้านที่นวดก็ร้านธรรมดาสามัญทั่วๆไป เพียงแต่ต้องมีม่านปิดพอให้มีความเป็นส่วนตัวด้วย เพราะมันต้องเปลื้องผ้าเปลื้องผ่อนเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว ส่วนใหญ่จะเลือกร้านที่ดูโปร่งๆ ตกแต่งง่ายๆ สะอาดๆตา ไม่ยัดเตียงนวดจนดูแน่นๆ อันนี้ดูอึดอัดไป ราคาค่านวดแถวหาดกะรน ค่านวดน้ำมันก็อยู่ที่ 400 บาท 


เราสองคนบินจากภูเก็ตไปลงอู่ตะเภากับบางกอกแอร์เวย์ นัดพี่ให้มารับที่สนามบิน เครื่องบินจะเป็นลำเล็กๆที่มีใบพัดด้านหน้าสองอัน เครื่องก็จะสั่นๆเล็กน้อย แต่โอเค สายการบินนี้อิชั้นบินด้วยทุกครั้งที่กลับไทยเพราะส่วนใหญ่จะใช้ฐานอู่ตะเภาเป็นหลัก ไม่บินไปสมุยก็ภูเก็ต เราไปทะเลสองแห่งนี่บ่อยมากๆ เคยคิดๆที่จะไปเกาะอื่นบ้าง แต่สุดท้ายกลับมาตายรังที่เดิมทุกที เนี่ย ปีหน้ากะจะกลับไปสมุยอีก 

ปล.เคยไปเกาะช้างนะคะ แถบนั้นก็สวยดี แต่ไม่ถึงกับติดอกติดใจอะไรนัก

ห้าโมงเย็นนิดๆ เครื่องลงพอดี พี่สาวมารอรับอยู่แล้ว และก็พาไปกินมื้อเย็นต่อเลยทันทีเพราะบ้านพี่เค้ากินข้าวเย็นกันไว มีหนึ่งเมนูที่ทำเอาเราสองคนติดใจคือ พล่าปลาแซลม่อน ถ้าเจอสมุนไพรไทยๆที่อิตาลีจะลองทำกินเองดูบ้าง ในรูปจากร้านบอใบไม้ สัตหีบค่ะ





หลังมื้อเย็นก็แวะบ้านพี่ก่อน พี่เขยเล่นเปียโน คุณสามีเล่นกีต้าร์ กล้อมแกล้มกันไป ฟังเพลินๆจนเกือบหลับ 




ดึกๆพี่สาวอีกคนก็ขับรถไปส่งที่โรงแรมทวินปาล์มรีสอร์ทพัทยา ตรงพัทยากลางติดกับโรงแรมฮาร์ดร็อค เป็นโรงแรมเก่าแก่อยู่คู่พัทยามาช้านาน แต่เค้าก็ปรับปรุงอยู่เรื่อยๆนะคะ ห้องก็โอเค สะอาดดี ลักษณะเหมือนห้องพักสแตนดาร์ดทั่วไป ไม่ค่อยจะเก็บเสียงนัก ไม่มีกาต้มน้ำร้อนให้แต่ตรงรีเซฟชั่นด้านล่างของแต่ละตึกจะมีหม้อต้มให้ไปกดดื่มได้ ไดร์เป่าผมก็ไม่มีนะ ขอยืมที่รีเซฟชั่นก็ไม่มีให้ แป่ว! เราเลือกห้องพักที่มีระเบียง ณ ตอนนั้นราคา 1300 บาท ไม่รวมอาหารเช้า คือราคานี้ได้อยู่ตรงพัทยากลาง ติดหาด เดินไปห้างเซ็นทรัลได้ เดินไปซอยบัวขาวได้ ก็โอเคแล้ว และที่ไม่เลือกรวมอาหารเช้าก็เพราะว่าเบื่ออาหารเช้าโรงแรมนี่แหละ อิชั้นตื่นเช้ากว่าคุณสามี ก็ซื้อกาแฟซองมาชงกินคู่ขนมปังลูกเกดจาก 7/11 หรือขนมไทยๆที่ซื้อจากตลาดพัทยากลาง พอสายๆคุณสามีตื่น ก็อาบน้ำแต่งตัวเดินไปกินเบรคฟาสต์แบบที่คุณสามีเค้าคุ้นเคย ส่วนอิชั้นก็นั่งดื่มกาแฟคาปูชิโน่เป็นเพื่อน 





ปล. ลองคาปูชิโน่มาหลายร้านแล้ว ให้ร้าน Segafredo ชั้นใต้ดินห้างเซ็นทรัลเป็นที่หนึ่งค่ะ อยู่ฝั่งที่มีซูเปอร์มาร์เก็ตของห้าง ร้านอื่นยังตีฟองนมไม่โอเค ร้านนี้พอจะกล้อมแกล้มได้ 


เย็นย่ำของวันอาทิตย์วันนึงก็นั่งรถไปบ้านพี่ที่สัตหีบอีกครั้ง เพราะพี่เค้าจะย่างกุ้งปลาหมึกให้กิน คือถ้าไปบ้านพี่นี่ กินทั้งวันกินจนต้องบอกว่าพอแล้วๆ ไม่งั้นจะหาโน่นนี่นั่นมาให้เราชิมตลอด ส่วนเราก็ทำเครื่องดื่ม Spritz ให้พวกพี่ๆเค้าลองดื่มกัน หอบ Prosecco มาจากอิตาลีกันเลยทีเดียว 




แต่วันที่พีคสุดๆของทริปพัทยาของอิชั้นก็คือ นุชพี่สาวและนุชน้องสาว เราทั้งสองนุช นั่งรถทัวร์จากพัทยาไปหาสามี(มโน)ถึงห้างเอ็มควอเทียร์ที่กรุงเทพ ค่ะ ออกตัวว่าเป็นนุช ก็คงหนีไม่พ้น เป๊ก ผลิตโชคสุดหล่อนั่นเอง เป็นงานเปิดตัวมาส์กหน้าของกิฟฟารีนเค้า ไปรออยู่สามสี่ชั่วโมงก็ไม่หวั่น ก็คนมันรักอ่ะเน๊อะ ฮิๆๆ เป็นอีกหนึ่งวันดีๆที่ไม่มีวันลืมแน่นอน จะเก็บไว้ในความทรงจำเสมอ

เลิกงาน รู้สึกอิ่มเอมใจมาก จนไม่หิวข้าว แต่ก็ต้องหาอะไรกินรองท้องเพราะเดี๋ยวต้องนั่งรถทัวร์กลับพัทยาอีก เลยเดินเข้าไปในฟู้ดคอร์ทของห้าง เลือกกินข้าวเหนียวมะม่วงจานเล็กๆนี้ ก็อร่อยดีนะ มะม่วงหวานดี แต่ข้าวเหนียวมูนแข็งไปหน่อยนึง 





ปล. รู้สึกดีนะคะที่ได้ไปกรุงเทพวันนั้น ได้เดินห้างนิดๆหน่อยๆ พอให้ได้ระลึกถึงวันเก่าๆที่เคยเรียนที่ มศว. ย่านอโศก แต่ตอนนั้นมีแค่เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ยังไม่มีเด้อ แต่รถไฟฟ้าก็มีแล้วนะตอนนั้นน่ะ 


พักเบรคดูดอกไม้สีม่วงนี่แป๊บนึง ที่โรงแรมเค้าปลูกต้นไม้ดอกไม้เยอะอยู่นา สบายตาดี






เอาละ ไปอยู่พัทยาถิ่นเก่ามาสิบวัน กลับไทยทุกปีแวะพัทยาทุกปี มีพี่ทำงานอยู่พัทยา มีบ้านอยู่สัตหีบ ก็ต้องแวะละเนอะ แต่เราไม่เคยเบื่อพัทยานะ พี่ก็ถามทุกปีว่าเบื่อพัทยาไหม ไม่ ไม่เลย เคยทำงานอยู่ที่นั่นหลายปี พบคุณสามีที่นั่น มันมีความผูกพัน มันมีสตอรี่อยู่ในนั้น ที่นั่นคือบ้านอีกหนึ่งหลัง ไม่แวะไม่ได้หรอก คิดถึง.





และเราได้ไปพักในช่วงที่เค้ามีงานสวนสนามทางเรือเอเชี่ยนและนานาชาติด้วยอ่ะ เค้าจัดการเอาร่มชายหาดและสิ่งเกะกะรกตาออกซะเกลี้ยง พัทยาเลยได้อวดโฉมความสวยเก๋ แบบที่นานๆจะได้เห็นกัน เนอะ ถ้าไม่มีอะไรๆมาทำให้รกหาดนี่ สวยไม่แพ้ใครนะเออ 





อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นคือ เค้าปรับปรุงทางเดินเลีบยหายชาดจากพัทยาเหนือถึงใต้ ให้มันราบเรียบ ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น มีจุดนั่งพักผ่อนเป็นระยะๆ ก็ดูดีและสวยขึ้นเยอะเลย 





และในวันงานสวนสนามทางบกในวันที่ 19 พ.ย ตอนเที่ยงฝนตกค่ะ หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ถนนเลียบชายหาดพัทยาก็กลายสภาพเป็นคลอง ให้พี่ๆทหารเรือนานาชาติใส่ชุดเต็มยศเดินลุยน้ำเล่น 555 แหม่ อยู่ติดทะเลขนาดนั้น แต่น้ำท่วมถนนซะจมน่อง





เมืองพัทยาคงได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดของผังเมือง ของการจัดการระบบน้ำสงน้ำเสีย น้ำขังรอระบาย หรือน้ำอะไรก็แล้วแต่ อย่าพลาดบ่อยๆนะคะ นักข่าวมากันเต็มบ้านเต็มเมือง อายเค้า เอาเถอะ เรารอให้คุณแก้ตัวใหม่ งานหน้านะคะ อย่าพลาดอีกล่ะ 

เอารูปชายหาดพัทยาอีกด้าน  จากพัทยาเหนือใกล้โรงแรมดุสิตธานี ถ่ายไว้ตอนเช้าในวันที่ฟ้าไม่แจ่มนัก ส่วนคืนวันนั้นเราก็เหมารถกลับไปสุวรรณภูมิ เพื่อบินกลับมายังอิตาลี เป็นการจากลาบ้านเกิดเมืองนอนที่ห่อเหี่ยวเหมือนเดิม ทุกๆปี ขากลับนี่ อารมณ์บ่จอย ไม่อยากขึ้นเครื่อง อยากอยู่บ้านเรา ไม่อยากกลับมาอยู่อย่างหนาวๆที่บ้านบนดอย ให้ตายเหอะ นี่ถ้าคุณสามีไม่ดีจริงเนี่ย ตรูไม่อยู่หรอก

แค่คาปูชิโน่อร่อย คาโบนาร่าสปาเก็ตตี้ พิซซ่า4seasons ชีสเยิ้มๆ ไวน์ขาวซ่าๆ แค่นี้เอาชนะใจชั้นไม่ได้หรอกย่ะ! อย่างชั้นมันต้อง น้ำบูดู ข้าวยำ ขนมจีนแกงไตปลา ผัดสะตอ ลูกเนียงลูกเหรียงโน่น คุณค่าที่อิชั้นคู่ควร!




และนี่คือทั้งหมดที่อิชั้นได้ประสบพบเจอที่ไทยแลนด์ การกลับไปทุกๆครั้งไม่ว่าจะพบเรื่องดี(เยอะกว่า) เรื่องไม่ดี บางทีก็ขวางหูขวางตาไปบ้าง บางเรื่องก็ทำให้รู้สึกว่า แม่ง ประเทศนี้มันเอาแต่ใจตนเองจริงๆว่ะ ยึดความสะดวกสบายของตัวเองเป็นที่ตั้ง ส่วนรวมช่างมัน แต่ช่างมันเถอะมองข้ามไปบ้างก็ได้ ไม่ว่าจะยังไงๆ ที่นั่นคือบ้านค่ะ บ้านที่อิชั้นรอคอยการกลับไปเสมอ รักเธอ ประเทศไทย.

เจอกันบล็อกหน้า เอาหิมะมาฝากดีกว่าเนอะ 





 

Create Date : 07 ธันวาคม 2560
1 comments
Last Update : 7 ธันวาคม 2560 20:41:14 น.
Counter : 1176 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณKavanich96

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 8 ธันวาคม 2560 2:43:33 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


settembre
Location :
Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




A minimalist mindset>>>minimalist lifestyle.
I try to pay attention to everything I buy and keep.
Now I live by the concept of BALANCE.




เริ่มนับจำนวนคนอ่าน วันที่ 22/04/15




New Comments
[Add settembre's blog to your web]