Just keep walking.
06/10/16 เลิกงานตอนเกือบๆบ่ายโมงตัดสินใจปุบปับว่าจะจอดรถทิ้งไว้ริมทาง แล้วออกเดินชมวิวซะหน่อย เป็นถนนตรงจุดเดิมๆที่เคยไปปั่นจักรยานหรือเดินช่วงฤดูใบไม้ผลิ อิชั้นจอดรถริมถนน ที่เดิมๆที่เคยจอด คว้าหมวกสีชมพูมาใส่ หยิบผ้าพันคอผ้าบางๆใส่กระเป๋าหิ้วสีม่วงไปด้วย กลัวลมหนาวจะวูบมาแบบไม่ทันตั้งตัว มีน้ำแอ๊บเปิ้ลเหลืออยู่ครึ่งขวดพร้อมครัวซองค์อีกสองอัน เอาไว้กินยามเดินจนหมดแรง เดินเลียบริมแม่น้ำไปเรื่อยๆสวนทางกับนักปั่นจักรยานหลายคน แต่มีอยู่คนนึงอิชั้นกำลังเล็งถ่ายรูปบนถนนแล้วฮีก็ปั่นสวนมาอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงส่วบๆของล้อ ทำเอาอิชั้นตกใจ ร้อง อ่ะ ออกมาเสียงดังจนฮีหันมามอง คือตอนนั้นตกใจกลัวฮีจะชนอิชั้นจนล้ม เห้อ นี่ไงที่เค้าบอกว่า สติ นั้นสำคัญจริงๆอย่ามัวใจลอยเคลิ้มอยู่กับวิวทิวทัศน์ ก็ไม่ให้ใจลอยละล่องจนไม่ระวังตัวได้อย่างไรกับวิวแบบนี้
เดินๆหยุดๆนั่งบนโขดหินริมทาง แวะถ่ายรูปบ้าง แต่ก็ถ่ายไม่เยอะแล้วตอนนี้อย่างมากก็ไม่เกินสิบรูป เริ่มรู้สึกตัวว่ามองไปข้างหน้าด้วยสองตาของเราจะดีกว่า ชัดบ้าง มัวบ้าง แต่ไม่ต้องมองผ่านพึ่งใคร อิชั้นเดินไปได้หนึ่งชั่วโมงแล้วชั่งใจว่าจะเดินกลับทางเดิมหรือเดินผ่านหมู่บ้านเล็กๆที่เห็นรถวิ่งผ่านไปทางตรงนั้นดี คิดว่าน่าจะมีถนนมาเชื่อมต่อกับจุดที่อิชั้นเริ่มเดิน คิดไปสองสามวินาทีตัดสินใจเดินเข้าไปในหมู่บ้านนั้น เป็นกลุ่มบ้านเก่าๆหลังเล็กๆที่สร้างจากหิน ถนนแคบๆรวมตัวกันไม่เกินสิบหลัง แต่ละบ้านมีสวนผัก แปลงดอกไม้สวยๆที่ยังไม่เหี่ยวจนเกินไปเดินไปเรื่อยๆ ผ่านป้าที่ผูกผ้ากันเปื้อนออกมาล้างผักตรงน้ำพุกลางหมู่บ้าน โอ้ย นี่มันบ้านและชีวิตในฝันของอิชั้นเลยนี่นา อิชั้นยิ้มสยามให้ป้าพร้อมกับถามทางไปด้วยว่าถนนเส้นนี้ทะลุไปเจอถนนเส้นใหญ่ตรงโน้นไหมและมีหมาหรือเปล่า ป้าตอบว่าเดินผ่านไปได้ หมาก็ล่ามทุกตัวไม่ต้องกลัวหรอก อิชั้นกล่าวขอบคุณป้าเดินยิ้มน้อยๆออกมา เดินออกมาได้ไม่เท่าไหร่ผ่านบ้านหลังนึงจู่ๆก็มีหมาเห่าขู่กระโชก เสียงดังปานกับว่าจะกระโจนออกมาขยุ้มหนังหัวกันเลยทีเดียว ตกใจอีกรอบ แต่คราวนี้หันไปมองค้อนๆ เบ้ปากใส่หมาทีนึงเพราะเห็นว่าล่ามโซ่อยู่ได้แต่คิดในใจว่า รอบหน้าจะเห่าใส่มันก่อน ให้หมามันตกใจมั่ง สุดท้ายแล้วอิชั้นเดินไปและกลับใช้เวลาไปสองชั่วโมงสิบนาทีรวมเวลานั่งพักกินครัวซองค์และดื่มน้ำริมแม่น้ำด้วย วันนี้เลยรู้สึกดีเป็นพิเศษ ในวันที่ไม่ร้อนไม่หนาวได้สูดอากาศดีๆ ถึงแม้บางช่วงจะเดินผ่านฟาร์มเลี้ยงวัวเหม็นอุนจิวัวลอยมาเป็นช่วงๆ แต่นั่นแหละ ได้ออกนอกบ้าน ออกจากเขตเดิมๆไปนิดเดียวก็มีเรื่องมาเล่าสู่กัน ตามประสา a storyteller ใครชอบฟังเรื่องเล่าจากอิชั้นหรือรูปวิวทิวทัศน์บ้านป่าริมเขาติดตามกันได้ค่ะ Page on Facebook and Instagram : Life in Italy by PK
ถูกตาถูกใจกันบ้างไหมคะ กับวิวแบบนี้?
Create Date : 07 ตุลาคม 2559 |
|
0 comments |
Last Update : 7 ตุลาคม 2559 20:26:12 น. |
Counter : 1232 Pageviews. |
|
|