ลมพัดผ่านดาว + เพลงสายลม-หน้าต่างสายลม......ว.วินิจฉัยกุล

โปรยปกหลัง

   เส้นทางของสายลม         ชื่นชมในเสรี
พัดไปในวันนี้                    และวันหน้า
ผ่านทะเลอันกว้างไกล        ผ่านพงไพรสุดสายตา
ผ่านไปใต้ท้องฟ้า              อย่างชื่นบาน
หากจะกักสายลม              เพื่อชมให้ชื่นใจ
สายลมอยู่เคียงใกล้           เวลานาน
ก็จับด้วยความรัก              กับดักคือความหวาน
ได้สายลมเนิ่นนาน            ชั่วกาลนิรันดร


        ชายหนุ่มรู้ตัวหลอกตัวเองไปก็ได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว 
ถึงเวลาเมื่อไร ความจริงก็ตามประจันหน้า ให้หนีหน้าไม่ได้อีกต่อไป
        หนีไม่พ้นจากความจริงที่ว่า....ถึงอย่างไรเขาก็ยังรัก "หนูดาวของผม" อยู่ไม่เสื่อมคลาย 
ไม่ว่าหล่อนจะกลายไปเป็นของใครก็ตาม

หลังอ่าน

      ถ้ามีโอกาสได้พบผู้เขียนตัวเป็น ๆ ตอนนี้ จะขอกราบงาม ๆ สักครั้งด้วยความชื่นชม ในฝีไม้ลายมือทางวรรณศิลป์ของท่าน....ไม่รู้จะหาคำบรรยายใด มาแสดงความชื่นชอบ ต่อนิยายเรื่องนี้ 

เราเองเป็นคนที่ชอบผลงานของอ.วินิตา  แต่ก็แค่ชอบนะคะ คือ ในหลาย ๆ เรื่องมันมักจะมีบางจุดที่เราไม่ชอบใจ    แต่นิยายเรื่องนี้ เปลี่ยนความคิดค่ะ จากเพียงแค่ชอบ มันทำให้เรา หลงรัก....

      จากชื่อเรื่อง และบทต้น ๆ ของเรื่องก็พอเดาทางได้ละค่ะ ว่าไม่ใช่นิยายที่จบแบบสุขนิยม   ( แต่ก็รู้ล่วงหน้าว่าเรื่องนี้ผู้เขียนมีการเพิ่มตอนจบ แบบที่สองเข้าไปด้วย ) .....เรื่องราวของความรักระหว่างหนุ่มสาวที่ฝ่ายชายตามมาตรฐานของสังคมแล้ว เขาอ่อนด้อย ไม่คู่ควรแก่ฝ่ายหญิง  ไม่ว่าจะด้วย วัยวุฒิ หรือคุณสมบัติ ตลอดจนนิสัยใจคอ ....ตัวผู้เขียนเองในเริ่มแรกก็ไม่คิดว่า สองคนนี้จะสามารถลงเอยกันได้  จนมีนักอ่าน ท้วงมาประโยคหนึ่งว่า “ อยู่กับเธอถึงทนทุกข์ทรมานใจแค่ไหน ดีกว่าอยู่อย่างเป็นสุขโดยปราศจากเธอ “ 

      ก็เหมือน  Sliding door* ที่เปิดอยู่ได้ปิดฉับลง ก่อให้เกิดอีกเส้นทางหนึ่งของตัวละคร  ถามตัวเองว่า ชอบแบบไหน ก็ต้องตอบว่า รับได้ทั้งสองแบบ ( คงเป็นพวกเสื้อขาว...คิดเสียว่าดู Sliding door ในรูปแบบนิยาย ) ก็เหมือนกับชีวิตคนเรา ทุกคนมักจะมีจุดพลิกผันของชีวิต  บางครั้งเมื่อมองย้อนกลับไป ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้า....ทำ / ไม่ทำ ....แบบนั้น ตอนนี้ชีวิตนี้จะเป็นอย่างไรนะ

       เหตุการณ์ทุกจุด ทุกตอนของเรื่อง ถูกเรียงร้อยไว้อย่าง สมจริง และสมเหตุสมผล หลายตอนในเรื่อง เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราพบเห็นในสังคมปัจจุบัน บทกลอนที่ไพเราะ ภาษาที่สละสลวยและคมกริบเชีอดเฉือนในบางตอน  ของผู้เขียน ทำให้เราสะท้านสะเทือน ไปกับความร้าวลึกของตัวละคร (ในแบบแรก ) รัก... แต่ไม่อาจอยู่ร่วม 

และเมื่อมองอีกฝั่งหนึ่งของ Sliding door ก็เห็นคู่รัก หรือคู่สามีภรรยาหลายคู่ ที่ในชีวิตจริง พวกเราเฝ้ามองและต่างลงความเห็นว่า เลิกกับ เขา/เธอ เสียเถอะ จะทนทุกข์อยู่ทำไม....เหมือนที่ผู้เขียนบอกไว้ มาตรฐาน ความสุข ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

       แต่ตัวผู้เขียนเองนี่ซิ แม้จะเชื่อ จะเดินเรื่องแบบ Option แรกไปจนจบแล้ว เมื่อมีภาคต่อทั้งสองแบบ  คนอ่านอย่างเรา ๆ ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า อ.วินิตา แอบเทใจให้กับการจบแบบ Option 2 นะ  ( อดคิดแย้งนิดหน่อยไม่ได้ว่า ในเป็นจริง หนูดาวเองก็ไม่น่าจะเป็นสุข ในทางเลือกแบบที่ 2 )

       ข้อเสียของนิยายเรื่องนี้ถ้าจะมีก็คือ มันทำให้เราติดหนึบ ละทิ้งการงานทั้งสิ้นทั้งปวง  และทำให้เกิดความยากที่จะหยิบนิยายเรื่องใหม่ขึ้นมาอ่าน



* มาจากชื่อภาพยนต์ ที่นำแสดงโดย กวินเนธ พัทโธรว์ ...เรื่องราวชีวิต  2 แบบ หากเธอขึ้นรถไฟได้ทัน และไม่ทัน

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2555 Last Update : 5 พฤศจิกายน 2555 23:57:59 น. Counter : 2755 Pageviews.		12 comments
Share Tweet