Group Blog All Blog
|
คนเลี้ยงม้า.......อี้เหรินเป่ย ผู้แปล เฟือง หม่าฟูทุ่มเทแรงกายแรงใจค่อยๆประคับประคองลู่ชี่จนเติบใหญ่ ช่วยสอนวิชายุทธ์และรักอีกฝ่ายมากเสียยอมพลีกายให้ เขาไม่เรียกร้องอะไรอื่น ขอแค่เด็กคนนั้นไม่ลืมตัวเองก็พอแล้ว โปรยปก เล่มจบ
ทำไมคนเราถึงรักใครอีกคนได้มั่นคงขนาดนี้ แม้ลู่เฟิ่งเทียนจะเลือดเย็นกับตนสักแค่ไหนหม่าฟูก็ไม่ยอมตัดใจและไม่ยอมแพ้ จนหลี่เฉิงซิ่งเพื่อนรักทั้งโมโหทั้งเป็นห่วง เหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้นในจวนแม่ทัพลู่ทำให้ลู่เฟิ่งเทียนตัดขาดกับเขาในที่สุด ไม่แยแสกระทั่งบุญคุณแต่หนหลัง การทุ่มเทหัวใจรักใครสักคน...ก็ผิดด้วยหรือ? หลังอ่าน แค่อ่านบทแรก กลิ่นดราม่าลอยอวลมาเลยค่ะ ( ชอบนะเออ ) อ่าน ๆ ไป เอ๊ยมันไม่ใช่ขายรักชายธรรมดานะ มันเรทเข้าข่ายBDSM แล้วอ่ะ เรื่องราวของ หม่าฟูเด็กหนุ่ม ที่เข้าไปทำงานเป็นคนเลี้ยงม้าให้บ้านตระกูลลู่ เขาได้พบกับลู่เฟิ่งเทียนเด็กชายลูกท่านเจ้าบ้านกับหญิงม่ายบ่าวในเรือน เขาถูกเลี้ยงแบบอนาถายิ่งกว่าข้ารับใช้ ด้วยความสงสารหม่าฟู จึงช่วยเหลือเกื้อกูลเด็กน้อย คอยจุนเจืออาหาร เจียดเงินซื้อเสื้อผ้าให้กระทั่งให้วิชา และคัมภีร์ยุทธ์อันล้ำค่า ในช่วงเวลาที่หม่าฟูรับโทษทัณฑ์แทนลู่เฟิ่งเทียนในคุก ลู่เฟิงเทียนก็ได้ไต่เต้าจากจอหงวนบู๊จนได้เป็นแม่ทัพ ....และวันที่ลู่เฟิ่งเทียนเพียบพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง การพบกันอีกครั้งกับหม่าฟู คืออุปสรรคที่กั้นขวางอำนาจวาสนาที่กำลังรุ่งโรจน์ของเขา ผู้เขียนสร้างมิติตัวละครได้ดีชะมัดเลยค่ะตัวเอกทั้งสองคนมีอัตตาสูง โดยเฉพาะตัวละครอย่างลู่เฟิ่งเทียนเนี่ยชัดเจนนะคะ คนที่เคยสิ้นไร้ เมื่อได้มาซึ่ง ลาภ ยศ สรรเสริญแล้วเขายินดีที่จะตัดทิ้งหม่าฟูมากกว่า ความรักความกตัญญูมันเป็นอดีตไปแล้ว หากตัวหม่าฟูเองก็เป็นตัวละครสีเทา เอาความต้องการของตัวเองเป็นที่ตั้ง รู้แหละว่าลู่เฟิ่งเทียนไม่ต้องการตนแล้ว หากก็ทำทุกวิธี ทุกเล่ห์เพื่อดึงเขากลับมาเป็นของตน เรื่องราวดราม่าของสองคนนี้ถูกเล่นสลับไปมาค่ะ ช่วงแรกจะรู้สึกว่า หม่าฟูข่างโง่งมจนน่าสงสาร หากแต่ในช่วงท้ายก็มีการหักปมกลับถึงสิ่งที่หม่าฟูกระทำ พออ่านแล้ว อืมม ชายสองคนนี้ก็เหมาะกันดีแล้วแหละ หนึ่งร้าย หนึ่งเล่ห์ รวมแล้วเลวเหมาะสมกันดี การเล่าเรื่องในช่วงแรกที่เป็นการปูพื้นเรื่อง ทำได้ดี ช่วงกลางการกระทำของหม่าฟูให้ความรู้สึกน่ารำคาญมากกว่าสงสารนิ๊ดนึง แต่กระนั้นก็มีการเล่นปม พลิกมูลเหตุไปมา ทำให้น่าติดตาม พอถึงฉากพีค ( ตัดหัวม้า ) สร้างได้ดีค่ะ สะเทือนอารมณ์เลย ช่วงท้ายเรื่องตอนที่หม่าฟูเล่าสิ่งที่ตัวเองวางแผนให้ลู่เฟิ่งเทียนได้ยิน อ่านแล้วเห็นชัดเลยถึงความลุ่มลึกของผู้เขียน ( ทำไม๊ ทำไม ไม่เขียนแนวหญิง-ชายปกติ บ้างน้า ) จากที่รำคาญความโง่งมของหม่าฟู กลายเป็นชอบตัวละครตัวนี้เลยค่ะ (ช่างเป็นคู่ผีเน่ากับโลงผุ ดีจริง ) จะมีก็ตอนพิเศษค่ะ มันหวานเกินโทนของเรื่องที่อ่านมา ....เป็นคู่รักในโลกคู่ขนานกับต้นเรื่องใช่ไหม สำนวนในเรื่องนี้ มีหลุดอยู่บางคำนะคะ แต่โดยรวมแล้วเราว่าแปลได้ดีเชียวละค่ะ
ปล. ตกลงคัมภีร์ มันหายไปไหนน่ะ เปี้ยนชิงอี๋ (เมียแต่งของลู่เฟิ่งเทียน ) ขโมยจริง ๆ หรือเปล่าเนี่ย ไม่มีเฉลยชัดเจนนะในจุดนี้ สงสัยมาก หม่าฟูถ้ามีตัวตนอยู่รอบตัวจริงนี่แอบกลัวนะคะ ออกแนวรักตามหลอกหลอน ยึดติดมาก ส่วนลู่เฟิ่งเทียนก็ ...นะ แต่โอเข้าใจตัวละครนี้มากกว่าหม่าฟู ผีเน่ากับโลงผุจริงๆ ค่ะ ส่วนตอนพิเศษเหมือนอยู่โลกคู่ขนานจริงๆ ด้วย ไม่เข้ากับเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเล้ย ฮ่าๆ
โดย: ออโอ วันที่: 22 ตุลาคม 2558 เวลา:19:53:11 น.
ร้าวรานมากค่ะเรื่องนี้ ทำร้ายกันเช่นนี้ ข้าชอบมากกก วะฮะฮ่าา (จิตไปแล้วเรา 555)
ปอลิง..เราคิดว่าเมียแต่งขโมยไปจริงนะคะ ขโมยไปให้เพื่อนพี่หม่าคนนั้น ...ตามแผนการของพี่เค้าแหละ หึหึหึ โดย: kunaom วันที่: 22 ตุลาคม 2558 เวลา:20:27:00 น.
คุณProphet Doll........ลู่เหริน ดูผิดกลิ่นมากจริง ๆ ค่ะสำหรับนักเขีนนคนนี้ เราไม่รู้ด้วยแหละนะ ว่าเค้าแต่งเรื่องไหนก่อนหลัง ยังไง มันอาจเป็นการทดลองเขียนก็ได้...... ความดราม่า โรคจิต ของอี้เหรินเป่ย เนี่ย อิชั้นชอบมากกกค่ะ ขอบอก ( จริง ๆ เรื่องนี้ถ้าจบแบบตายกันไปข้างนึงเนี่ย จะสะใจมากนะ )
คุณโอ......คนเขียนเค้าเก่งมากค่ะ ช่วงแรกหม่าฟู สามารถพลิกมุมของหม่าฟูได้สุดยอด แบบว่าจิตกว่าลู่เฟิ่งเทียนอีก ....ในชีวิตจริง ๆ มันก็มีนะคะคนประเภทนี้ เพียงแต่อาการอาจไม่ลึกเท่าหม่าฟู คุณอ้อม........คือมันยังสงสัยไงคะว่า พ่อคนดี (คนเดียวในเรื่อง ) จะไม่ยอมฝึกฝีมือหรือถ้าได้คัมภีร์ไปจริง ( เพราะมาสู้กับพระเอกอีกครั้งก็แพ้ จนอีตาลู่สงสัยไงคะ ) ช่วงหม่าฟู เฉลยแผนการณ์ จุดนี้ยังไม่เคลียร์นะคะ รู้กันแค่ว่าคัมภีร์หายไป โดย: Serverlus วันที่: 23 ตุลาคม 2558 เวลา:9:42:17 น.
|
Serverlus
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?] |
ทำไมถึงแต่งนิยายมาได้ Dark และสะใจขนาดนี้เนี่ย .....
เอามีดมาแทงกันเลยดีกว่า .......
แต่เพราะเล่มนี้หรือเปล่าไม่รู้ พอได้อ่าน ลู่เหริน แล้วแบบว่า....
คนเดียวกันแต่งชิมิ
หรือเพราะคนแปลคนละคนก็ไม่รู้ เลยไม่ค่อยอินกับ ลู่เหริน เท่าไหร่
แต่กับ องค์ชายอัปลักษณ์ ยังชอบอยู่นะ นิยายรักตลกร้าย กัดเจ็บ
โอ้ย...........ติ่งหนักมากอะ นักเขียนท่านนี้