มิถุนายน 2555

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
12
14
16
17
18
19
20
22
24
25
27
29
 
All Blog
แรขอบฟ้าอรุโณทัย...ดวงตะวัน


เล่ม 1..... ตะวันสาดแสง ดาวดับวับหาย
เล่ม 2..... วาวรุ้งเพชรพราย รักคืนเรือนแรม


        เป็นนิยายที่มีฉากเป็นเมืองสมมุติ (ธิโมส์) ลำดับที่ 12
สำหรับใครที่ไม่เคยอ่านงาน ชุดธิโมส์ ก็ขอให้ผ่านไปเลยค่ะ....ส่วนใครที่เคยอ่านมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ถึงเล่มนี้ ก็แนะนำว่า กรุณาอ่านตามลำดับ  เพราะมันไม่จบเล่มใครเล่มมันแล้ว  เนื้อเรื่องเริ่มโยงผูกกันเป็นพัลวันระหว่างเรื่อง แล้วค่ะ แถมเรื่องนี้ยังอัศจรรย์พันลึก เพราะคนเขียนเล่นเอาอดีตเมื่อสามพันปี มาชนในปัจจุบัน...( คิดได้ไงเนี่ย )


Spoil  Spoil  Spoil 
หลังอ่าน...


เล่ม 1    เป็นการตั้งต้นปริศนา คำสาป  ความลึกลับและที่มาของเรเวียร์ ซึ่งได้ถูกเฉลยไว้ในท้ายเล่ม 1 พร้อม ๆ กับที่ตั้งโจทย์ขึ้นมาใหม่ ให้พระเอกความจำเสื่อม...( โดยที่ยังไม่รู้ว่าคำสาปคลายลงหรือยัง )

อ่านเล่มนี้จบก็ อืม ลุ้นดีเน้อ  พระนางอีกคู่ (อิท แมมี ) น่ารักดีจัง

เล่ม 2    เหตุการณ์ระหว่างพระเอกกับนางเอก เหมือนการย้อนรอย ( ล้อ )ทับกับเรื่อง รัตติกาลยาตรา ...โดยที่นางเอกหนีงานแต่งงานไปที่มาร์คีส พร้อมกับพบพระเอกที่ความจำเสื่อมบนเรือ

พอจบเล่มนี้ก็....ไอ๊ย่า ตายแล้ว ดวงตะวันเกาะกระแสโดยการ เขียนฉากเลิฟซีน...บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า ชอบหรือไม่ชอบ  และก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าฉากนี้มีความจำเป็นต่อเรื่องมากแค่ไหน  หรือเพียงเอาใจคนอ่าน   ( ถ้าจะแก้ตัวให้นักเขียน ก็คงต้องจากที่ว่าไว้ก่อนหน้าว่า หากทำใจให้สบาย ๆ ความทรงจำจะกลับมา มากกว่าที่ใจที่เคร่งเครียด...หลังจากมีอะไรกัน พระเอกเลยฟื้นความจำทั้งหมดในเช้าวันรุ่งขึ้น )


        โดยรวมแล้ว เล่ม 2 มีจุดที่ขัดใจอยู่หลายจุดเหมือนกัน   อย่างแรกคือ การย้อนความ ( Flash black )หรือคำในเรื่อง จากเล่ม 1 ด้วยวิธี Copy & Paste  ซึ่งมีค่อนข้างมาก และบางจุดยาวกว่า 1 หน้า... สำหรับคนที่อ่านเล่ม 2 ต่อเนื่องจากเล่ม 1 อย่างเรารู้สึกว่ามันมากไปจนเฝือ ( คนอ่านยังไม่เป็นอัลไซเมอร์ค่ะ ) ถ้าจะย้อนความ ด้วยการ รีไรท์ จากคำพูดเป็นบทบรรยายความรู้สึกแทน  หรือ Copy & Paste  เฉพาะคำพูดที่สำคัญเท่านั้น  เราคงรู้สึกอ่านได้รื่นกว่านี้...

อย่างที่สอง  ขัดใจกับบุคลิกตัวละคร ที่ให้ความรู้สึกเหมือนสับสวิตท์ เปลี่ยนบุคลิกไปเลย แม้จะพออธิบายเหตุผลแก้ต่างให้ได้ก็เถอะ  โดยเฉพาะนางเอก เวลาตกหลุมรักนี่ยังกะคนละคนกับคุณหมอคนเก่ง คนฉลาดในเล่มแรก...ดูอ่อนแอ สนิมสร้อยยังไม่รู้  ส่วนพระเอกก็  ความจำกลับมาปุ๊บ เข้าโหมดเย็นชาปั๊บเลย  พอนางเอกโดนยิง ก็เปลี่ยนโหมดเป็นพระเอกแสนดี ต่ออีก ...อ่านแล้วมันกระตุก ๆ น่ะค่ะ ( คนอ่านปรับอารมณ์ตามไม่ทัน )

ส่วนการเฉลยเหตุของปัญหาของการฆาตกรรม ที่เป็นเพราะศวีสา(แม่นางเอก) ต้องการเพชรวาโญ นี่ ....เราคิดเล่น ๆ นะคะ ว่าไม่เห็นต้องวางแผนอะไรขนาดนั้นเลย...เพชรวาโญเป็นของพระเอก  นางเอกกำลังชอบพอพัวพันกับพระเอก  ก็จับคู่ทั้งสองคนซะ แล้วขอเพชรวาโญเป็นของหมั้น เรื่องมันก็จบแล้ว  ไม่เห็นต้องดึงธัตตะให้มาเกี่ยวข้องเลย...แถมถ้าลูกสาวแต่งงานกับเรเวียร์  การที่จะใกล้คิด คาน ก็จะดูหาเหตุได้อีกตั้งมาก...ไม่เป็นการทำร้ายจิตใจนางเอกด้วย...แต่ที่ต้องให้เป็นแบบในเรื่องเพราะต้องการให้คำสาปคลายมนต์ได้นี่...ส่วนตัวแล้วรู้สึกไม่ค่อยเนียน


สรุปได้แต่ว่า...ไม่ว่าจะชอบมากน้อยแค่ไหน  ถ้าคุณหลงทางเข้ามาในธิโมส์เหมือนเราแล้ว  ตราบใดที่คนเขียนยังไม่หยุดเขียน  คุณก็คงไม่สามารถหยุดอ่านนิยายชุดนี้ได้เหมือนเรา....




Create Date : 21 มิถุนายน 2555
Last Update : 21 มิถุนายน 2555 8:38:29 น.
Counter : 4598 Pageviews.

11 comments
  
555+ อ่านแล้ว...มาฮาตรงประโยคสรุปนี่แหล่ะ...เราก็เป็นเหมือนกัน
คือรู้สึกว่าพล็อตเริ่มซ้ำ ตัวละครเอกคล้ายๆ กัน แต่มันก็หยุดอ่านไม่ได้ เพราะหลวมตัวแล้ว 555+


ส่วนตัว เพิ่งอ่านมาถึง "รัตติกาลยาตรา" ค่ะ ...ชอบน้อยกว่าที่คาดคิด อาจจะเพราะคาดหวังมาก


ปล. งานเขียนของดวงตะวัน เราจะสะดุดอยู่ 1 คำ ถ้าจำไม่ผิด(นักเขียน)นะคะ
คือคำว่า "โชนฉาน" คือมันเป็นคำที่ไม่ค่อยได้ใช้บ่อย ไม่ใช่คำสามัญที่ใช้ประจำธรรมดา
ดังนั้น เวลาที่อ่านเจอบ่อยๆ ในนิยาย เล่มนึง มันสะดุดใจทุ๊กที...จนกลายเป็นจับผิดคำนี้ตลอด 55+


ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ ค่ะ อ่านไว้เป็นข้อมูล...หลวมตัวซะแล้ว ก็คงตามสอยต่อไปเรื่อยๆ ...เพราะมันก็ยังถือว่าสนุกอยู่
โดย: nikanda วันที่: 21 มิถุนายน 2555 เวลา:3:12:58 น.
  
เห็นด้วยกะ จขบ กะ คุณ nikanda
หลวมตัวแล้วอ่ะ ยังไงก็คงต้องอ่านต่อไป 555
แต่เรื่องนี้เราก็ยังไม่ได้เลยนะคะ ซื้อมาดองไว้ จนเริ่มส่งกลิ่นแระ อิอิ
โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 21 มิถุนายน 2555 เวลา:11:22:17 น.
  
อ่านของคุณดวงตะวันหลายเรื่อง ไม่ติดสักเรื่อง ส่วนธิโมส์ เราว่ามันวกวน เหมือนต่อยอดเอง ไม่ใช่นักเขียนวางโครงภาพรวมไว้แต่แรก คือมองภาพมหากาพย์ไว้ก่อน ..แต่นี่แบบว่า พอมีคนตามก็ จะงอกออกมา ทำเอาสะดุดหลายจุด ..ไม่อ่านชุดนี้แล้วค่ะ สองเล่มนี้เพื่อนอ่านบ่นกันพึมเลยว่า จะขายแต่ ธิโมส์หรือไง หรืออยากให้คนอ่านไปเป็นประชากรประเทศนี้ ? ชื่อคล้ายธิเบต แต่ บรรยายเหมือน สาวสองพันปี ที่เป็นต้นแบบของเพชรพระอุมา

คุณดวงตะวันมีคำแปลกที่ทำสะดุดแบบไม่สลวย เรารู้สึกแบบนั้นค่ะ คงประมาณโชนฉาน แทนที่จะฉาย เอาฉาน มาแทนที่
โชนคือการลุกโพล่ง ไฟลุกโชน
ฉาน ..ปกติมักใช้แสงฉานมากกว่าค่ะ หมายถึงแสงกระจายออกไป
ฉาย ก็แสงกระจายออกไป
คุณดวงตะวันคงเบื่อฉาย เลยใส่โชนฉาน กลับทำสะดุด

เหมือนงานแรกๆ เซีียนหงอซือ นี่จำได้ว่า ป้าปทมใช้บ่อย คุณดวงตะวันมาใช้ในกลางทะเลใจหรืออะไรเรื่องแรกๆ

นักเขียนคิดคำใหม่นี่เข้าท่ามากค่ะ สมควรด้วย แต่ต้องประดิษฐ์

ให้ถูกจริตของคำ

อย่าทำให้มันเป็นศัพท์ยาก จนคนอ่านหัวทิ่มคะมำ
และเนื้อใจ..อีกเจอบ่อยมาก จนซ้ำหลายเรื่อง ไม่มีคำใหม่ๆที่แปลกและถูกใจเลยค่ะ

มีเลิฟซีนด้วย???? พระเจ้า คุณดวงตะวัน เคยบ่นนี่นาว่าจะไม่เขียน แล้วใส่มาทำไมอ่ะ

แบบเดิมดีกว่า แนวเรื่อยๆ นุ่มๆ ก็พอ มาโรมานซ์จะสู้กะพวกนั้นได้เหรอคะ เอ้า คนอ่านธิโมส์ตามกันต่อไป
โดย: พัทธชญา IP: 110.49.232.94 วันที่: 21 มิถุนายน 2555 เวลา:19:05:30 น.
  
ชอบการตั้งชื่อนิยายของดวงตะวันมาก เธอมีกาใช้สำนวนภาษาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนค่อนข้างสูง

อ่านชุดธิโมส์มาถึงประมาณลำดับ7 หรือ 8 เองค่ะ ไม่ได้ตามต่อเพราะเริ่มรู้สึกงง ๆ แล้ว

เอาไว้กองดองข้างเตียงหมดเมื่อไหร่
ถ้าไม่ล้าไปเสียก่อนจะไปรื้อมาอ่านต่อค่ะ
โดย: แม่ไก่ วันที่: 22 มิถุนายน 2555 เวลา:10:28:03 น.
  
คุณ nikanda...สำหรับเราสะดุดกับคำว่า...หรือไร คนเขียนจะใช้คำนี้บ่อยมากในการปิดปลายประโยคก่อน แล้วแก้ต่างในประโยคถัดมา...(เรื่องนี้ก็มีหลายครั้ง ขี้เกียจนับ )

คุณพัทธชญา ...สำหรับความคิดของเราแล้ว เราคิดว่าผลงานของ ดวงตะวันในช่วงนี้ เหมือนหลงวนอยู่กับตัวเอง ...( เข้าใจว่า ก้มหน้าก้มตาเขียน ๆ ๆ อย่างเดียว...ไม่มีหมวกในสายงานอื่นที่แตกต่าง ) งานที่ออกมามันเลยดูเหมือน ๆ กันไปหมด ทั้งพล็อต การเฉลยปม การดำเนินเรื่อง ...คนอ่านอย่างเราก็เลยชักเนือย ๆ ไปบ้าง แต่ว่านะคะ ผลงานของดวงตะวันก็ยังนับว่าอ่านได้ดีอยู่เชียวล่ะ เมื่อเทียบกับนิยายค่ายใหม่ นักเขียนใหม่ ๆ ที่วางกันเกลื่อนในร้านหนังสือ..

คุณแม่ไก่...เล่มหลัง ๆ ให้อ่านต่อเนื่องเลยค่ะ ไม่งั้นมีมึน..( คนเขียนผูกเรื่องเป็นพันวัลพันละเกแล้ว..ก่อนอ่านเรื่องนี้เรายังต้องไปทวงรัตติกาลยาตราที่เพื่อนยืมไปมาอ่านคร่าว ๆ อีกรอบนึงเลย )

โดย: Serverlus วันที่: 22 มิถุนายน 2555 เวลา:21:19:42 น.
  
ชุดนี้อ่านตามลำดับมา แต่จำไม่ได้แล้วว่าถึงไหน เลยผีเสื้อลายตะวัน แล้ว
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 23 มิถุนายน 2555 เวลา:17:54:13 น.
  
ชอบชื่อนวนิยาย และชื่อตัวละคร ของ ดวงตะวัน ที่เป็นแบบไทยๆ ชื่นชอบนวนิยายไทยมากกว่าเมืองสมมติธิโมส์ เพราะรู้สึกว่าเนิ่นนาน และหลังๆ เริ่มจะมึนๆ ไปบ้าง ทั้งธิโมส์ในอดีต ธิโมส์ในปัจจุบัน แต่ชอบธิโมส์ปัจจุบันมากกว่า ถ้อยคำสำนวนของ ดวงตะวัน ระยะหลัง บางเรื่อง มีคำซ้ำๆ ในหน้าติดๆ กัน เช่น คำว่าว่า ละม้าย จับจูง ซึ่งก็เป็นคำที่สวย แต่มาใช้บ่อยๆ เดี๋ยวก็ละม้าย ละม้าย ละม้าย.... แต่ก็ยังติดตาม อ่านผลงานของดวงตะวัน อยู่ค่ะ (ยกเว้นธิโมส์ 2 เรื่องหลัง เพราะเริ่มล้า..)
โดย: ระเบียงดาว IP: 183.88.100.245 วันที่: 24 มิถุนายน 2555 เวลา:11:43:37 น.
  
5555 ขอเป็นคนที่คิดต่างนะคะ เพราะรู้สึกว่าพล็อตของ แร2 นี้ก็โอเคนะคะ เข้าใจว่าที่มีการซ้ำฉากกับรัตติกาลฯ คงเป็นความตั้งใจของนักเขียนที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่คล้ายกันกับคนคนเดียวกัน เพื่อจะสะกิดความทรงจำหละ่มั้งคะ....

ที่ชอบในเรื่องนี้คือ การที่ให้เรเวียร์กลายเป็นคนที่มีอายุยืนยาวมาจนถึง 3 พันกว่าปี โดยที่ไม่ตาย ไม่เจ็บไม่ปวดเพราะโดนคำสาป นกจิ๊บว่าก็เป็นพล็อตที่แปลกดี และทำให้ต่อยอดไปได้อีกหลากหลายนะคะ

แต่ที่ชอบที่สุดนอกจากสำนวนของนักเขียนแล้วคือ แนวคิด ค่ะ นักเขียนมีแนวคิดที่ดีและเป็นสิ่งที่นำมาปรับใช้กับชีวิตได้ค่ะ แ้ต่ก็เห็นด้วยกับ จขกท ค่ะว่า บางครั้งก็เจอคำซ้ำๆกัน ทำให้เฝือ แต่จริงๆนกจิ๊บรู้สึกแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงแรกๆที่อ่านงานของ ดวงตะวัน แล้ว แต่ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสอะไรมาก และที่สำคัญไม่ได้กระทบกับแนวคิดสำคัญในเรื่อง ก็ปล่อยผ่านไปค่ะ........
โดย: rainoflove IP: 61.90.116.169 วันที่: 30 มิถุนายน 2555 เวลา:10:45:17 น.
  
รอคิวอยู่เหมือนกัล
โดย: momamo (รักกันสักนิดส์ ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:23:10 น.
  
เห็นด้วยกับจขบ.กับเรื่องย้อนข้อความ เพราะเล่นยกข้อความเดิมมาทั้งบทเลย (ไม่ใช่แค่ประโยคสองประโยค) บางทีก็รำคาญนิดหน่อยที่ต้องมานั่งอ่านทวนบทสนทนาเก่ากันอีก บางทีเลยข้ามๆไปบ้าง 555 แต่เรื่องการใช้คำซ้ำกันบ่อยๆเราไม่สะดุดอะไรนะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าคำของคุณดวงตะวันมันเป็นสไตล์คำเค้าไปแล้ว
เลยอ่านได้ อย่าง โชนฉานเราก็เฉยๆนะ (ส่วนตัวว่าฟังดีกว่าโชนฉายอีก) ส่วนตัวเพิ่งมาเริ่มติดชุดนี้ค่ะ เริ่มอ่านมาตั้งแต่รักริมทะเลเมฆ จนเรื่องนี้ กลายเป็นว่าชอบชุดธิโมส์มากกว่าแนวปัจจุบันไปเลย (ไม่แปลกใจเลยที่ใครๆบอกว่าถ้าอ่านชุดนี้แล้วจะหาทางออกมาไม่ได้ 555 รู้ซึ้งกับตัวแล้ว ถ้ามีออกมาอีกเรื่อยๆนี่
แย่เลยเรา ไม่น่าหลงเข้าแผ่นดินแสงดาวเล้ย เฮ้อ)
โดย: แร IP: 171.7.188.36 วันที่: 6 สิงหาคม 2555 เวลา:13:50:51 น.
  
เพิ่งอ่านจบเมื่อคืนนี้เองค่ะ หลังจากตั้งทิ้งไว้นานเพราะไม่มีอารมณ์อ่าน
เรื่องคำ ส่วนตัวจะรู้สึกกับคำว่า "โมงยาม" ของคนเขียน เหมือนเป็นคำที่เป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว (เหมือนอ่านทมยันตีมักจะเจอ "เคยคุ้น" อะไรประมาณนั้น)
เรื่อง copy&paste รอบนี้ไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ อาจจะเพราะเว้นช่วงการอ่านมานานมาก จะรู้สึกมากกว่าในเล่มเอลันตรา เพราะต้องย้อนเฉลยการพบกันของพระนางในแต่ละช่วง

เลิฟซีนแอบรู้สึกว่ายาวไป ^^" .. เอาแบบผีเสื้อลายตะวัน (มัตเต-กาย) จะรู้สึกพอดีๆกว่าค่ะ

แต่ปัญหาสำคัญที่สุดสำหรับตัวเองในการอ่านธิโมส์โบราณหรือเกี่ยวกับอดีตคือ อ่านแล้วมักจะรู้สึกว่า มันแค่ 300 ปี ตลอด ไม่รู้สึกว่า 3000 ปีเลย .. อารมณ์ว่า เหตุการณ์ก่อนพุทธกาล แต่รู้สึกเหมือนอยู่แค่ปลายอยุธยามากกว่า .. อันนี้ทำให้เหตุผลบางอย่างอ่านแล้วไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่น่ะค่ะ

ธิโมส์เล่มหลังๆของดวงตะวันเริ่มรู้สึกเนือยๆ ไม่น่าลุ้นเท่าเล่มแรกๆ ในเซ็ทนี้เล่มที่กรี๊ดกร๊าดมากที่สุดคือรักที่ริมทะเลเมฆค่ะ เพ้อหาเคชไปนาน
แต่ก็อย่างที่สรุปไว้นั่นแหละค่ะ ... Landing ที่เกาะนี้แล้วก็ออกยากซะละ
โดย: kenmania วันที่: 25 กันยายน 2555 เวลา:17:13:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Serverlus
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]