เรื่องเล่าร้านหนังสือ

โดย สุพัตรา



โปรยปก

นี่คือหนังสือที่เจ้าของร้านหนังสือและทุกคนที่หลงรักหนังสือไม่อาจมองข้าม

ความฝันอยากเป็นเจ้าของร้านหนังสือของผู้คนไม่เคยหมดสิ้น
ร้านหนังสือในโลกจึงเกิดขึ้นมากมาย
แต่การเปิดร้านหนังสือให้ดำรงอยู่ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย
ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่า ความสำเร็จจะเป็นเรื่องยาก
หนังสือเล่มนี้มีคำตอบเกี่ยวกับแง่มุมของการทำงานร้านหนังสือ
สอดแทรกอยู่ในเนื้อหาทุกบททุกตอน
จากประสบการณ์ในร้านหนังสือของผู้เขียน
เรื่องราวเกิดขึ้น ดำเนินไป
และคลี่คลายให้จบลงอย่างน่าสนใจ
ไม่ว่าร้านหนังสือของแต่ละคน
จะเป็นแบบใด อยู่ในสถานะแบบไหน
ก็ไม่อาจหนีพ้นความจริงในชุดเดียวกันได้
เรื่องเล่าร้านหนังสือ
จึงมีประโยชน์ต่อการทำงานในร้านหนังสือ
หรือเป็นเจ้าของร้านหนังสือ
และอ่านเพลินสำหรับทุกคน
โดยเฉพาะคนหลงรักร้านหนังสือ


หลังอ่าน
    อ่านโปรยปกหลัง แล้วน่าสนใจอย่างยิ่งใช่ไหมคะ  แต่ต้องขอบอกว่า แต่ละหน้าที่อ่านความรู้สึกที่เพิ่มขึ้นคือความอึดอัด อัดอั้น  และอ่านจบเล่มนี้ลงด้วยความผิดหวัง....อย่างแรง !!!

    ในเล่ม สิ่งที่ได้เอ่านคือ เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่บอกตัวเองว่ารักหนังสือและมีความฝันในการเปิดร้านหนังสือ  วันหนึ่งเธอก็ก้าวเข้ามาเป็นผู้จัดการร้านหนังสือแบบเครือข่ายแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชนเก่าริมท่าน้ำ..

    เรื่องราวที่เธอเล่าเป็นเรื่องราวในหน้าที่การงานประจำวันของเธอ  และการทำงานของร้านหนังสือแห่งนั้น  ที่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด เพราะเธอมิใช่เจ้าของ  เป็นเพียงผู้จัดการร้าน  ....ความรักในหนังสือ  ความฝันที่จะมีร้านหนังสือ ทำให้เธออดทนทำงานที่นี่ เป็นเวลาเกือบปี

และประสบการณ์ไม่ถึงหนึ่งปี นี้ ที่เธอนำมาเล่า และเขียนเป็นหนังสือเล่มนี้ !!!

        สิ่งที่พบระหว่างในบรรทัดของเรื่องเล่า คือ  ดิฉันมองเห็นเด็กรุ่นใหม่ ( อ่อนกว่าดิฉันเป็น สิบปีแน่นอน ) ที่ไม่มีความอดทนในการทำงาน  ไม่มีภูมิต้านทานแรงกดดัน  Egoสูง หรืออาจจะไร้ซึ่งวุฒิภาวะ  ( ซึ่งเห็นได้ดาษดื่นในทุก ๆสายงานในปัจจุบันนี้ )  มุมมองความคิดของเธอ ยังไม่เปิดกว้าง  ไม่เข้ม คม ด้วยประสบการณ์ทำงานอันน้อยนิดเมื่อนำมาร้อยเรียง   สิ่งที่ส่งผ่านมาจากหนังสือเล่มนี้คือความหดหู่  ของคนที่ก้าวถึงฝันแล้ว แต่ไร้ความสามารถที่จะยึดมันไว้กับตัว ...

คนที่คิดจะเปิดร้านหนังสือ ไม่ได้เกร็ด คือเคล็ดธุรกิจอันใดจากหนังสือเล่มนี้   ทั้ง ๆ ที่เธอสามารถยกตัวอย่าง Case study กรณีศึกษาจากเหตุการณ์จริงมาเล่าได้  ...แต่ไม่มีสักเรื่อง 

         ร้านหนังสือที่เธอกล่าวถึงอย่างมากมายหลายบทหลายตอนในเล่ม คือ ร้าน Shakespeare & company  เธอเล่าประวัติความเป็นมา ความคงอยู่  แต่หากเธอเดินผ่าน มหาลัยเก่าแก่แห่งนั้นไป เดินเรื่อยๆ เรียบริมน้ำ  มันมีร้านหนังสือ อีกแห่งของคนไทย(แท้) ที่เจ้าของทำด้วยใจรักและฟันฝ่าอุปสรรคมมากมาย ให้ร้านหนังสือเดินทาง แห่งนี้คงอยู่ ....เธอไม่กล่าวถึงร้านหนังสือแห่งนี้แม้สักครึ่งคำ !! ทั้ง ๆที่มันจับต้องได้  กระตุ้น และให้อะไรกับผู้อ่าน และวงการหนังสือบ้านเรามากกว่า  ( ผู้อ่านอย่างเราอยากรู้จัก รู้ใจ รู้แง่มุมความคิดของเจ้าของร้านหนังสือเดินทาง  หรือเจ้าของร้านหนังสือก็องดิธ  มากกว่าประวัติการก่อตั้งร้านหนังสือของ ซิลเวีย บีช )


       ผู้เขียนได้พูดถึงหนังสือในท้องตลาดว่า มีหนังสือดี (ที่อาจจะขายไม่ดี )  และหนังสือขายดี ( ที่ไม่ใช่หนังสือดี ) แล้วหนังสือเล่มนี้เล่า สามารถพูดได้เต็มปากหรือว่าเป็นหนังสือดี   และยอดขายของมัน เป็นหนังสือขายดี.... หรือเปล่า...

      บทบรรยายในการเล่าเรื่อง สำหรับเราต้องขอตอบตามตรงอย่างใจร้ายว่า น่าเบื่อ ยิ่งเทียบกับเนื้อหา ที่ขัดใจ ด้วยแล้ว

บอกได้คำเดียวว่า....เอาตังค์(ค่าหนังสือ) ของฉันคืนมา...

Create Date : 11 พฤษภาคม 2555 Last Update : 21 มิถุนายน 2555 8:40:15 น. Counter : 1505 Pageviews.		8 comments
Share Tweet