|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
*ไข่ดาวฟองที่สาม*v* jag älskar svensk
เชื่อว่า ไม่มีสถานการณ์ใด ที่ทำให้เราได้เห็นน้ำใจของคนได้เท่ากับสถานการณ์ที่เลวร้าย หรือตกระกำรำบากอะไรซักอย่าง
6 มิยที่เพิ่งผ่านมา เป็นวันชาติสวีเดน ได้มีโอกาสเข้าไปเดินเล่นในสต๊อคโฮม ได้เข้าไปเดินในสวนและในโรแยลพาเลส ซีงเป็นที่ทำงานของกษัตริย์สวีเดน ปกติจะไม่เปิดให้เข้าชม ถือเป็นโชคดีที่ได้มาวันนี้ ได้มาเดินเล่นกับเพื่อนๆ รวมทั้งเพื่อนนักเรียนต่างชาติ (ถือเป็นการเที่ยวด้วยกัน ก่อนจะแยกย้ายกันไป โอ้ พูดแล้วก้อเศร้า)
ก้อเดินเล่นกันเพลินๆ จนทุ่มนึง ได้เวลาเดินไปขึ้นรถไฟกลับเมืองแวสเทอรอส ก้อหอบหิ้วเบอร์เกอร์คิงขึ้นไปกินบนรถไฟ (ชีวิตการเที่ยวของนักเรียนนอกไฮโซอย่างพวกเรานี่มันช่างเหน็ดเหนื่อย และอดอยากซะจิง) จากเมืองสต๊อคโฮม ก้อต้องไปเปลี่ยนรถไฟที่เมืองซาล่า ก่อนถึงซาล่า ต้องผ่านเมืองอุปซาล่า รถไฟจอดอยู่อุปซาล่าซักพัก ก่อนจะมีเสียงประกาศเป็นภาษาสวีเดนยาวเยียด จับได้ไม่กี่คำที่เป็นชื่อเมือง ว่า สต๊อคโฮม อุปซาล่า ซ่าล่า ฟอลั่ม(สถานีปลายทางของขบวนนี้) และแวสเทอโรส แต่มันก้อไม่ได้ช่วยอะไรเราได้เลย พอเห็นทุกคนลงจากรถไฟ พวกเราก้อเดาว่า คงมีปัญหาอะไรซักอย่างกับสถานีหน้า คือซาล่า และประมาณว่าจะมีบัสไปส่งแทน ก้อได้แต่เดินลงตามคนอื่นไป
ผู้โดยสารประมาณเกือบสีสิบคนนั่งรออยู่หน้าสถานีอุปซาล่า อย่างไร้จุดหมาย เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่มาบอก มาควบคุมดูแลเลยสักคน รอกันตั้งแต่สองทุ่มกว่าๆ จนเกือบห้าทุ่มกว่าจะมีรถบัสมาหนึ่งคัน รับผู้โดยสารทั้งหมด รวมทั้งพวกเราซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ถามคนขับก้อได้ความแค่ว่าผ่านเมืองซาล่า ซึ่งเป็นจุดที่เราต้องไปต่อรถไฟอีกขบวน ก้อเอาว่ะ ไปตายเอาสถานีหน้า
ตายจิงๆคับท่านผู้อ่าน ก้อไปถึงซาล่า ห้าทุ่มครึ่ง สถานีมืดตื๋อ มีคุณป้าคนเดียวลงสถานีนี้พร้อมพวกเรา ๆ พยามถามคนขับว่าจะมีรถมารับพวกเราไปเมืองของเราไม๊ ก้อไม่มี อ้าวๆๆๆ จ๋อยละสิ คุณป้าคนนั้นช่วยพวกเราคุยกับคนขับให้โทรถาม SJ (train) office ที่จ้างเค้ามาว่าแล้วพวกเราล่ะ จะไปไงต่อ เค้าเลยบอกว่าจะส่งแท๊กซี่มารับเราห้าคนที่นี่
แล้วรถบัสก้อจากพวกเราไปตอนเกือบเที่ยงคืน ทิ้งพวกเราห้าคนตากลมตากน้ำค้าง กับคุณป้า Alene และคุณลุง Guy แฟนคุณป้าที่ขับรถมารับที่สถานีนั้น ท่านสองคนก้อแสนดี นั่งรอเป็นเพื่อนพวกเรา เผื่อจะช่วยอะไรพวกเราได้บ้าง ประมาณนั้น รอไปชั่วโมงเศษ ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันไปจนจะถึงต้นระกูลอยู่แล้ว ก้อเริ่มสงสัยว่าเค้าจ้างรถแท๊กซี่มาจากไหนทำไมช้าขนาดนี้ คุณลุงบอกว่าถ้ามาจากแวสเทอโรส น่าจะครึ่งชม แต่ถ้าจากสต๊อคโฮมน่าจะชม ครึ่ง (แต่ก้อไม่น่า...ขนาดจ้างรถมาจากสต๊อคโฮม เปลืองค่าน้ำมันกว่าเยอะเลย) เลยให้คุณป้าช่วยโทรไป SJ อีกทีว่ายังไง ได้ความว่าอีกครึ่งชมถึง (แปลว่าเพิ่งเรียกรถให้เราสิ) พวกเราเลยขอให้ทั้งสองกลับบ้านไปก่อน และก้อขอเบอร์โทรติดต่อไว้ ว่าถ้าแทกซี่มาจะโทรไปบอก จะได้สบายใจ เค้าถึงยอมกลับบ้านไปแต่โดยดี
อีกครึ่งชม ต่อมา คุณลุงขับรถกลับมาหาพวกเราอีก ตามหลังรถคุณลุงมาติดๆ คือแท๊กซี่ที่จะมารับเรา โอ้ว พระเจ้าช่วย ความปลื้มปิติแผ่ซ่านเข้าไปถึงขั้วหัวใจแทนความหนาวเย็นของค่ำคืนนั้น คุณลุงเค้ายังเป็นห่วงและวกกลับมาดูให้แน่ใจว่าพวกเราได้ขึ้นแท๊กซี่อย่างปลอดภัย
ไม่รู้จะขอบคุณคุณลุงคุณป้าผู้แสนดียังไง ได้แต่โอบท่าน และขอบคุณ ก่อนจากมา
"jag älskar svensk" (ฉันรักคนสวีเดน)
Create Date : 24 มิถุนายน 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 25 มิถุนายน 2551 4:12:02 น. |
Counter : 2390 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: สแกวัลย์ 24 มิถุนายน 2551 9:14:28 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เราว่าคนแถบสแกนจิตใจดี โอบอ้อมอารีนะ(เท่าที่เคยสัมผัส)
ถ้าเป็นที่ๆ เราอยู่ตอนนี้ ไม่น่าอ่ะ
แต่สงสัยว่าทำไม SJ ดูไร้ความผิดชอบนิดๆ นะ ต้องให้จิกให้ตามเอง เราก็เคยต้องเปลี่ยนรถไฟกะทันหันเหมือนกันอ่ะค่ะ(ที่อังกฤษ) แต่เค้าดูจัดการแจ้งผู้โดยสารหรือทางแก้ไขดีกว่านี้นะ แอบงง... เพราะระบบการจัดการที่สวีเดนก็น่าจะดีนิ