กาชาดสากลระบุ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 เดือน ควบคุมไวรัสอีโบลา ด้านสหรัฐกำหนดเที่ยวบินจาก 3 ชาติแอฟริกาตะวันตก ลงจอดที่สนามบิน 5 แห่งเท่านั้น พร้อมเตรียมอุปกรณ์คัดกรองเต็มที่
นายเอลฮัดจ์ อัสไซ ผู้อำนวยการสมาพันธ์กาชาดสากลและสมาคมเสี้ยวเดือนแดง กล่าวว่า มาตรการต่างๆ ที่จะช่วยควบคุมอีโบลา รวมถึงการกักบริเวณที่ดี การรักษาผู้ติดเชื้อที่ดี และการฝังศพผู้เสียชีวิตอย่างปลอดภัย แต่หากไม่ลงมือทำอะไร ผลกระทบจะสูงมาก
ด้านกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ เข้มงวดการคัดกรองผู้โดยสารจากกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน โดยให้ผู้โดยสารเหล่านี้ไปลงที่สนามบิน 5 แห่ง ที่มีการตรวจสุขภาพเข้มงวดเป็นพิเศษ ได้แก่สนามบินเจเอฟเค หรือนวร์กในนิวยอร์ก สนามบินดัลเลส ในวอชิงตัน สนามบินแอตแลนตา และสนามบินชิคาโก ปัจจุบันไม่มีเที่ยวบินตรงระหว่างสหรัฐกับ 3 ประเทศในแอฟริกาตะวันตก แต่นักเดินทางสามารถไปต่อเครื่องบินที่แอฟริกาและยุโรปได้
ขณะที่ สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐ รายงานว่าอาการของน.ส.นินา ฟาม พยาบาล ที่ติดเชื้อจากการดูแลชาวไลบีเรียที่ติดเชื้อแล้วมาแสดงอาการในสหรัฐจนเสียชีวิตนั้น ล่าสุดดีขึ้นแล้ว สำหรับน.ส.แอมเบอร์ วินสัน พยาบาลอีกคนที่ติดเชื้อและถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเอมมอรีในเมืองแอตแลนตานั้น มารดาของเธอเผยว่าน.ส.วินสันยังอ่อนแรงอยู่ ด้านนายอโชกา มักโป ช่างภาพอิสระชาวอเมริกันที่ติดเชื้อจากไลบีเรียและกลับมารักษาตัวในโรงพยาบาลเนบราสกา สามารถกลับบ้านได้แล้ว
สำหรับสถานการณ์ในไลบีเรียนั้น กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนกล่าวว่าผู้ติดเชื้อวัย 18 ปีคนหนึ่ง สามารถออกจากสถานดูแลคนป่วยได้แล้ว นับเป็นผู้รอดชีวิตคนที่ 1,000 โดยบิดาของผู้ติดเชื้อรายนี้ สูญเสียภรรยา ลูกสาว 2 คนและน้องชายไปกับไวรัสอีโบลา
สำหรับข้อมูลองค์การอนามัยโลกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลาเพิ่มขึ้นเป็น 4,877 คนจากผู้ป่วยทั้งหมด 9,936 คน ในกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน