กฏแห่งกรรมและวิชชาไสยศาสคร์ไทย ครั้งที่1

--สวัสดีครับ บรรรดานักศึกษา วันนี้เราจะเล่าเรื่องกฏแห่งกรรมสักนิดนึงและวิชชาไสยศาสคร์ของไทย
-----คนใกล้ๆ นี้(ญาติภรรยาผม)เขามีสามีสองคน คนแรกเป็นคนลาวแถวปราจีน ผิวขาว แต่ใจดำ แฟนเล่าว่า เขาตีหมาจนตาย เลือดออกจมูกออกปาก อีก3 วัน เขาก็ไปประสบอุบัติเหตุปางตาย เลือดออกจมูกออกปากเช่นกัน แม้ไม่ตายก็รักษาตัวกว่าา 3 เดือน วิญญาณหมานั้น จะมีอาฆาตรุนแรงไม่ว่าหมาตัวไหน ขอให้จงระวังอย่างสร้างเวรกรรมกับมัน บางครั้งคนเราก็วิ่งแสวงหาไปทั่วโลก เพื่อที่จะพบเจ้ากรรม หรือหาสาเหตุแห่งกรรม เพื่อจะได้แก้ไข หรือเราอาจมืดบอดเกินกว่าจะเข้าใจกกแห่งกรรม อย่างเช่นเพื่อนแหม่มชาวเยอรมันของพี่สาว ถูกข่มขืนโดยพ่อตัวเอง---ตกเป็นภรรยาน้อยของคนผิวดำอัฟริกา(หาคคนจริงใจแต่ถูกหลอก) มีวิญญาณตามทำอนาจารมาตั้งแต่5 ขวบ แถมยังมีคนคลั่งไคล้ ตามเฝ้าอยู่หน้าบ้านตลอดเวลา ทั้งที่ไม่ใช่คนสวย พอรู้เรื่องกรรมและพบกับวิญยาณทีมาตามรังควาญ(เพื่อนร่วมสาบามในชาติก่อน- ทหารเรือ) เธอถึงกับหลั่งน้ำตาหลายครั้ง แต่พระเจ้าหรือกฏแห่งกรรมก็ได้ให้ญาณพิเศษที่จะมองเห็นสัมผัสผีสางเทวดามาให้เธอแทน

---------ต่ออีกนยิดนึง พี่เขยภรรยาคนนั้นเจ้าชู้ แต่ชอบทำบุญ ไปผ้าป่าที่ไหนก็จะมีเมียน้อยเกิดขึ้นทุกครั้ง ญาติเอาหลานมาฝาก ก็เอาทำเมียเสียอีก จนเขาถูกเมียน้อยฆ่าตายและฝังซ่อนไว้ ตายก็ไม่ได้พบพระ--บาปเหลือเกิน แม่ยายก็แช่งเรื่อยมาตั้งแต่เรื่องตีหมา ความใจดำตกทดถึงลูก น้องสาวทำประกันให้พี่สาว แล้วก็ปล่อยให้อด หวังจะให้ตายแล้วได้เงินแสน ไม่พูดถึงดีกว่า ตระกูลนี้ พูดแล้วอยากลาโลก

------มาเข้าเรื่องวิชชานี้ บางคนว่าเป็นอวิชชา แต่อวิชชา คือความไม่รู้ วิชชาคือความรู้ สมัยก่อนโน้นใครอยากเก่งก็แสวงหาอาจารย์พวกครูบาอาจารย์โยคี ชีปะขาว ผู้สละครอบครัีวเพื่อแสวงหาวิชชาความรู้เช่นกัน คนโบราณจะนิยมอยู่สองอย่างจริงๆ คือ วิชชาอยู่ยงคงกระพัน สัก เสข เลข ยันย์ อาบว่านยา อีก
อย่าง ก็คือวิชาหุมสาว(รัก-ชอบผู้หญิง) เอ๊ย วิชาสาวหุม(มีหญิงมารักมาชอบ )คือมหาสเน่ห์นั่นเอง เช่นำดินในรอยเท้าคนที่เรารักมาปั้นเป็นตุ๊กตาคนกอดกัน เขียนชื่อทั้งสองคนใส่ตุ๊กตานั้นแล้วนำไปปลุกเสก (โบราณว่ามีพรหมลิขิต คือตุ๊กตาปั้น คู่ผูกมัดด้วยด้ายแดง อันนี้ในนิทานจีนก็มี--มีจริงครับ มีอยู่ในตู้ ภรรยาผมเธอไปรื้อ แล้วเอาสลับคู่กัน คนขี้เหร่ได้เมียสวยราวนางฟ้า อะไรๆงี้ จนถูกถีบส่งลงมา แถมยัวงบอกว่า "อย่ามาอีกนะ" บอกแล้ว วีรกรรมเยอะครับ)

มาเข้าเรื่องกัน เพราะวิชชาคงกระพันนี้สำคัญ มียันต์บนแผ่นโลหะ ม้วนทำเป้นตะกรุด ยันต์ ก็มาจาก ยันตรา หมายถึงสิ่งที่ทำงานได้ด้วยตนเอง อย่างเช่นเครื่องยนต์ ผสมกับมตร์ ตือมนตรา แปลว่าการร้องเพลง--เทคโนโลยี่ทางจิตนนี้มาจากอินเดีย เปอร์เซียโบราณมาดั้งเดิมแล้ว ทั้งพุทธทั้งพราห์ม และประยุกต์มาเป็นไทยเรา ยันต์มีในทางอักขระตั๋วเมือง(ทางเหนือ) ก็มี อีสานก็มี(ตัวธรรม)
ซึ่งสมัยก่อนการรบกันมีบ่อยมาก การอยู่รอดอย่างหนึ่งก็คือการอยู่คงกระพัน
----มีคนหาเหล็กอ่อนตัวได้ นำมาทำดาบ ดดยมีตะขอหัวท้ายคล้องกันไว้ ๖ื่อดาบนี้ขดได้เหมือนงู มีคนซ่อนไว้ในกระคิบข้าว ต่อมาพวกพม่ามาพบจึงเอาไปเสียเลย แสดงให้เห็นว่า คนสมัยโบราณนั้นมีความรู้ ความเก่งกาจมากมาย แม้แต่แม่ทัพ สามรถเสกปูนแดงคาดคอทหาร แล้วอยู่คงกระพันในระยะเวลาชั่วเคี้ยวหมากแหลกเท่านั้น แต่ก็พอเพียง และพอจนกระทั่งรักษาชาติไทยอยู่ได้จนทุกวันนี้
----สงครามอินโดจีน ทหารฝรั่งเศสพร้อมอาวุธปื่นปะทะทหารไทยอยู่แถบเวียดนาม พระตะบอง เสียมราฐซึ่งเมื่อก่อนก้เป็นของไทย ถึงกับมีบันทึก และการเล่าขานว่าทหารไทยคือทหารผี เพราะถูกยิงล้มเป็นใบไม้ร่วง ก็ลุกขึ้นมาสู้ต่อได้เหมือนไม่เคยโดนอะไร เรื่องนี้ดังยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง
----สมัยสงครามโลก ญี่ปุ่นได้พบกับพระเกจิท่านหนึ่ง คือหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ท่านมีเสื้อยันต์ของดี ฟันด้วยซามูไรไม่มีบาดแผลเลย พวกทหารญี่ปุ่นทึ่งกันมาก ลองกันจนหมดแรง เพราะคนญึ่ปุ่นไม่เชื่ออะไรง่ายๆ
--อาจารย์หนู หลังจากสักให้แองเจลิน่า โจลี่ ดาราดัง ก็มีการบอกต่อ จนชีวิตอจ.หนูว่างมาอยู่เมืองไทยปีละ 15 วันเท่านั้น แม้แต่ประวัติ และผลงานของท่านก็นำมาสร้างเป็นภาพยนต์
--มีทหารญี่ปุ่นที่เป็นกองร้อยคอยดูแลม้าในสงคราม เมื่อพ่ายแพ้ ก็ได้รับคำสั่งให้ทำลายชีวิตม้าทั้งหมด ดีกว่าให้เป็นกำลังของศัตรู นายทหารก็ต้องทำตามคำสั่ง แต่เมื่อกลับไปถึงญี่ปุ่น ก็ฝันเห็นแต่วิญญาณม้าพวกนั้นตามหลอกหลอน ให็พระญี่ปุ่นอุทิศส่วนกุศล ก็ไม่เป็นผลใดๆ จนวิญญาณม้าบอกว่า ให้เดินทางมาประเทศไทย และหาพระที่ท่านเคร่งในธรรมทำพิธีให้ กลุ่มนายทหารจึงได้มาทำพิธีที่เมืองไทย ตั้งแต่นั้นมาวิญยาณม้าเหล่านั้นก็ไม่ได้มารบกวนอีกเลย จนมีอนุสาวรีย์ม้าอยู่ที่วัดหนึ่งแถวภาคกลาง จำไม่ได้ว่าที่ไหน

-----พระภิกษุเจ้าคุณนรรัตน์ ท่านมีฝีที่ลำคอใหญ่โต และแตกปริน่ากลัว แพทย์หลายท่านบอกว่าสมควรผ่าออก เพราะคนปกติจะทนความปวดแบบนี้ไม่ได้ แต่ท่านบอกว่า เป็นฝีสบาย และมีนก็จะหายไปพร้อมกับอาตมา คือตอนที่ท่านเป็นเด้ก ผู้ใหย่เลี้ยงลิงไว้ตัวหนึ่ง มันซนมาก ท่านก็เอาโซ่ผูกคอมันไว้ที่ระเบียง ตือมาด้วยความซน เจ้าจ๋อก็โโลงไปจนโซ่รัดคอมันตาย ด้วยเหตุนี้เองท่านจึงต้องชดใช้กรรมนี้ การผ่าฝีนเป็นการหลบเลี่ยงกรรม ท่านก็ต้องมาเกิดมาใช้กรรมส่วนนี้อีก ท่าจึงยอมรับกรรมนี้เอง และด้วยสมาธิจิตอันแน่แน่ว แยกจิตออกจากความรู้สึกทางกาย ท่านจึงไม่รู้สึกเจ็บปวดอบ่างงใดกับฝีที่โตเท่ากำปั้นอันนั้น
(คนส่วนใหญ่เชื่อว่าท่านบรรลุอรหันต์แล้ว)

---บางคนว่าพระเก่งๆ ทำไมไม่รู้วันตาย พระอาจาร จวน กับพระเกจิอีก 6 องค์ ท่านได้รับนิมนต์ไปทางเครือ่งบิน ท่านพบกันแล้วยิ้มเบิกบาน เพราะทราบว่า
จะต้องตายพร้อมกันนะ ไม่ใช่ว่าไม่ทราบ แม้แต่อดีตชาติตนเองบางท่านก็รู้ถึงหลายชาติ--เมื่อคืนก่อน ทุกท่านก็ได้ทราบด้วยญาณแล้ว ว่าจะัต้องมาจบชีวิต
บนเครื่องนี้ เพราะเมื่อคืนยมบาลมาบอกท่านทุกองค์ว่า ดวงเมืองไทยจะต้องเสียหนัก ญวณนำรถถังบุกถึงใจกลางกรุงเทพ --แล้วจะแก้อย่างไรท่านถาม---ท่านและพระเกจิอีก 6 องค์ ต้องเอาชีวิตแลกกับบ้านเมืองไว้ เป็นลิขิตของดวงดาว ดวงบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ เทพเบื้องล่างก็ขอมา เพื่อจะเอาวิญาณเกจิ7 ท่านไปอบรมพวกสัตว์นรก---เรื่องก็เป็นมาอย่างนี้่แหละ ลองพิจารณาดู

----หลวงปู่องค์หนึ่งตอนหนุ่มไปจีบสาวสวย พอจีบๆไป สาวก็บอกว่า "ชาตินี้จะมารักเขาทำไม ชาติก่อนให้คนตีเขา จับเขามัดจนอดตาย แล้วจะมารักเขาทำไม"
พอเธอทักท้วงมาแบบนี้ ด้วยอำนาจกรรมท่านเห็นในทันทีว่า "โอ เราจะเอานางหมามาเป็นเมียหรือนี่----ชาติก่อนท่านเป็นสภาร นอนป่วยอยู่ นางสุนัขก็แอบมากินอาหารของท่าน พวกศิษย์ก็โบยตีสุนัข และไปมัดไว้ท้ายวัด แต่ปรากฏว่าสมภารได้ตายไปในคืนนั้น ด้วยความวุ่นวายทุกคนก็ลืมไป จนหมดงานศพท่านสมภาร พบว่าสุนัขตัวนั้นอดข้าวจนตาย ด้วยความอาฆาต นางสุนัขก็เกิดมาในร่างหญิงสาวแสนสวย แต่จองเวรท่านได้แค่คำพูดเท่านั้น คือการกระทำเหล่านั้นท่านไม่ได้ทำ---นี่ก็สอนไว้อย่าดูถู--อย่าได้ทำลายกสรรพชีวิต นกหนูแมลง ก็รักชีวิตทั้งนั้น เป็นทั้งครูและเจ้ากรรมนายเวรเราทั้งนั้นถ้าเกิดเราละเมิดเขาขึ้นมา

-----เมืองไทย เป็นเมืองแห่งพุทธศาสนา คือดินแดนศักดิ์สิทะิธิ์ ผู้คนส่วนใหญ่นิยมทำบุญใส่บาตร พลังจิตที่สดใส มีเมตตา คือพลังบุญอันยิ่งใหญ่ ที่คำจุนไปทั้งโลกแม้แต่ทหารไทยสมัยก่อนก็ไม่ใช่คนโหดเหี้ยม ไม่มีการฆ่าโหดผู้หญิงเด็ก ฉุดไปข่มขืนแบบนั้นไม่มี บางท่านว่า พลังทิพย์ที่ผุดอยู่กลางประเทศไทยนั้นมีมาก

--ลองคิดสิ ทุกวันนี้พม่าที่เคยรบ เคยทำลายบ้านยเมืองไทย มีความสุขนักเหรอ มีชนกลุ่มน้อย 5 เผ่าคอยจ้องจะล้มอยู่ ในประเทศการปกครองอะไรการเมืองไม่มีสงบเลย

--ญี่ปุ่น เข้ายึดครองทำลายไทย เคยมีความสุขไหม แพ้สงคราม โดนปรมาณูสองลูก ถล่มราบสองเมือง ตายเป็นหลายแสน ทุกวันนี้ทุกข์ทรมาณด้วยแผ่นดินไหวสุนามิ

---เวียดนามเคยคิดจะเข้าครองไทย เปิดสมรภูมิช่องบก ลุยกันจะๆกับพวกทหารของ เสธ.แดง ซัดพวกเราด้วยอาร์พีจีที่มีอานุภาพร้ายแรงมาก แต่เหมือนมีอะไรดลใจให้บิ๊กจิ๋วขอร้องจีน จีนแดงเปิดสงคราม ซิโนเวียดนามมีส--สอนมวยให้เด็กรุ่นน้องทันที เวียดนามสูญเสียจนอ่วมอรทัย เลิกสนใจเมืองไทยไปเลย

--สิ่งเหล่านี้คือเราต้องคิดดูแล้วก้จะพบคำตอบ

----ม้าจะมีเขา เสาจะออกดอก เครือเถาหนามจะงอกกลางเมือง เมืองไทยจะมีความสขถ้าอีแร้งคอคำมันกลับบ้านเมืองของมัน เแป็นคำพูดของ "เจ้าผู้ข้า" พระภิกษุชาวลาว-ไทย (มีอีกท่านหนึ่งเรียก"สาธุคุณขี้หอม" เพราะอุจจาระท่านหอมมาก จนคนตามเป็ยเก็บมาไว้ดม) พูดไว้ 100กว่าปีแล้วกระมัง
--ม้ามีเขา--ได้แก่รถมอเตอร์ไซค์
--เสาจะออกดอก --ลำโพงเสียงตามสายในหมู่บ้านต่างๆ--อบต.
--เถาหนาจะงอกกลางเมือง เกิดจลาจล ชุมนุม กั้นด้วยรั้วลวดหนาม
--อีแร้งคอคำ คือฝูงบินแฟนธอม เอฟ-4
ที่บินจากฐานบินอุบลไปทิ้งระเบิดที่ประเทศเวียดนาม ตรงส่วนที่คล้ายลำคอ จะพ่นเป็นสีทอง
-------แม้แต่ของในธรรมชาติก็มีความสํกดิ์สิทธิ์ มีเรื่องเล่าว่า มีครอบครั้วหนึ่งมีลูกแก้วคู่หนึ่ง จะออกเที่ยวตอนกลางคืน ต่อมาเจ้าของคิดจะขายลูกแก้ว ก็หายไปไม่มาอีก พวกนี้เรียกลูกแก้วสเด็จ พ่อผมเล่าว่าที่ องเมืองพะเยา จะมีแสงสว่าง หรือลูกแล้วก็ไม่รู้ วิ่งระหว่างเจดีย์ทั้งสองวัดทุกวันพระ พ่อและเพื่อนวิ่งไล่ดู เพราะลูกแก้วลอยไม่สูงนัก
----มะพร้าวลูกเล็ก กลายเป็นหิน เม็ดขนุนหิน เม็ดมะขามหรือแก่นมันเป็นหิน พวกนี้เรียกว่าคด เช่นคดมะขาม หรือลูกมะพร้าวที่ไม่มีตา เรียกว่ามะพร้าวตาบอด ถือเป็นมหาอุตมืมหามงคล อยู่ยงคงกระพัน และเรียกทรัพย์ ค้าขายดี
--ที่วัดสมอลม สุพรรณบุรี มีโบสถ์ซ่อนอยู่ใต้ดิน(สองชั้น) เพราะวิญญาณมาบอกว่า เอาไว้ซ่อนตัวตอนมีสงคราม(ทำตามของเดิม)
-----มีนักบินต่างชาติ เห็นแสงอยู่บนเขาหลวง จ.พะเยา ต่อมาก็ได้ปีนเขาหาก็พบลูกแ้ก้วในถ้ำ และได้นำกลับไปที่อเมริกา
----มีข่าวร่ำลือว่า นาซ่าได้วิจัยเหล็กไหลจากประเทศไทย พบว่ามีรหัสข้อมูลและพลังลึกลับที่ทำให้ติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้
----มีเรื่องเล่าว่า สมัยรบเวียดนาม กองทัพอเมริกัน ได้ ตั้งงบ 20 ล้าน เพื่อซื้อเหล็กไหล หรือพระสมเด็จ เพื่อนำไปติดบนเครื่องบินบี52 ป้อมรบลอยฟ้า เพื่อคลาดแคล้วจากจรวดแซม ของเวียดนามเหนือ ถ้ายิงด้วยอาวุธสงครามแล้วไม่ออก จ่ายทันที 20 ล้านบาทต่อ 1ชัิ้น
---กล้องถ่ายรูปอินหราเรด สามรถบันทึกภาพความร้อนของทหารเวียดกง ที่ได้ไปจากที่ตรงนั้นหลายชั่วโมงแล้ว
--------------------------------------------------------------------------
--การถ่่ายภาพด้วยสนามไฟฟ้า จะบันทึกภาพใบไม้เต็มใบไว้ได้ แต่จะจางลง ทั้งๆที่ใบไม้นั้นถูกตัดไปครึ่งหนึ่งแล้ว ใบไม้-ต้นไม้่มีวิญญาณหรือนี่ ตั้งแต่นั้นมา เป็นกานสั่นคลอนวิทยาศาตร์ที่เน้นทางวัตถุ จนวิทยาศาตร์ได้เปลี่ยนโฉมหน้าไป สู่ฟิสิกส์ควันตัม อนุภาคบางอย่างวิ่งย้อนกลับสู่อดีตได้ โดยริชาร์ด ไฟน์แมน
(ทฟฤษฎีอิเลคโตรไดนามิกส์)
และจากการคำนวณตามทฤษฏีสตริง-ซูเปอร์สตริงเอกภพมีเกิน4 มิติ เป็น 11 หรือ 26 มิติเลยทีเดียว แต่มีติที่ 12-25 ไม่สอดคล้องทางการคำนวณ
----------------------บันทึกไว้ เป็นประวัติศาสตร์ของเรื่องลี้ลับ------------------------------------------------------------




 

Create Date : 23 เมษายน 2554
2 comments
Last Update : 23 เมษายน 2554 22:25:14 น.
Counter : 3074 Pageviews.

 

เข้ามาอ่านจ้า

 

โดย: konseo 23 เมษายน 2554 12:34:53 น.  

 

ยินดีครับ มีต่ออีกเยอะครับ กลับมาอีกนะครับ

 

โดย: jesdath 23 เมษายน 2554 20:45:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jesdath
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
23 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jesdath's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.