โอ่วนี้ แปะก้วย ฉบับทดลองทำ..
ทำขนมที่ไม่เคยทำ
ขนมบางอย่างเราชอบกิน แต่ไม่ค่อยคิดจะทำ เพราะถ้าทำทีนึงมันจะเป็นมหกรรม ทำหลายอย่างแล้วพอเวลากิน ก็กินได้นิดหน่อยเอง แถมหาคนช่วยรับผิดชอบยากเพราะเป็นขนมโบราณ ๆ หน่อย เด็ก ๆ สมัยนี้อาจกินไม่เป็นกันด้วยซ้ำไป
เช่น โอว่นี้ แปะก้วย หรือขนมหวานสไตล์จีนที่จะได้กินกันจากภัตตาคารจีนบางแห่ง ที่ยังคงรักษาแนวอนุรักษ์การจัดสำรับอาหารจีน หรือบางร้านที่จัดโต๊ะจีนแนวดั้งเดิม แต่เราคิดว่า หาที่ทำแล้วกินได้อร่อยไม่เยอะ ส่วนมากจะหวานแสบทรวง ทำให้เรา ผู้ซึ่งชอบส่วนผสมทุกอย่างของขนมจานนี้ แต่ไม่ชอบกินหวานจัด แอบรู้สึกเคืองเวลาถูกเสิร์ฟด้วยขนมนี้ เพราะอยากกินเยอะกว่านั้น แต่กินไม่ลง
พอดี มีคุณพี่สาวคนสวย หลุดปากถามถึงขนมนี้กับเรา ด้วยความอยากทำเป็นหนึ่งในขนมสำหรับไหว้บรรพบุรุษฝ่ายฝาละมีเธอ เข้าทางคนคันมือพอดี เรารับอาสาทำให้ โอกาสงาม ๆ แบบนี้นาน ๆ จะมาสักที มีฝูงหนูทดลองกลุ่มใหญ่กับเมนูแบบนี้ ..พลาดไม่ได้เด็ดขาด
(เธอช่างกล้า..ทำครั้งแรกก็กะจะออกเลี้ยงแขกเลยนะ )
เราทำตามแบบดั้งเดิม เท่าที่เคยผ่าน ๆ ตา เกี่ยวกับการทำเผือกกวนสำหรับเมนูนี้ ว่าเขาจะใช้น้ำมันหมูเจียว เพราะมันจะหอมเข้มข้น ส่วนผสมใช้แบบกะ ๆ ทำไปชิมไปนะคะ อีกอย่างเราอยากลองทำข้าวเหนียวมูนดูด้วย น่าสนุกออก
โอ่วนี้แปะก้วย ประกอบด้วยส่วนผสมหลัก ๆ 3 ส่วน คือ เผือกกวน ข้าวเหนียวมูน และท้อบปิ้งแปะก้วย แห้ว พุทราจีนเชื่อม
ส่วนผสมเผือกกวนแบบคร่าว ๆ โดยประมาณ
เผือกหอมนึ่งสุกบดละเอียด 1 กิโลกรัม น้ำตาลทราย 200-300 กรัม แล้วแต่ความชอบหวานมากน้อย น้ำมันหมูเจียวใหม่ ๆ 1 ถ้วยตวง เกลือทะเล หยิบมือ
วิธีทำ (ไม่มีภาพค่ะ กลัวเผือกกวนไหม้)
ตั้งกะทะบนไฟอ่อน น้ำมันหมูและน้ำตาลรวมกัน คนพอให้เข้ากัน ระวังน้ำตาลไหม้ ใส่เผือกบดละเอียดลงไป คนให้เข้ากัน กวนด้วยไฟอ่อนจนได้ส่วนผสมที่ไม่ติดกะทะ เราใช้เวลาประมาณสิบนาที สำหรับเผือกกวนปริมาณเท่านี้ค่ะ ตักขึ้นพักไว้ก่อน
เห็นกากหมูเจียวใหม่ ๆ อยู่ข้าง ๆ ไม่ได้กินมานานแล้ว กรอบ ๆ หอม ๆ เด็ก ๆ หลังบ้านเจี๊ยวจ๊าวดีใจกันมาก เพราะคุณแม่บ้านแจกให้ชิมตัวละชิ้น ฮ่าๆ เห็นแล้วคิดถึงข้าวคลุกกากหมูใส่น้ำปลาพริกขี้หนู บีบมะนาว เอื๊อก..
ข้าวเหนียวมูน ข้าวเหนียวเขี้ยวงูแบบข้าวเก่า 500 กรัม แช่น้ำไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง ใส่สารส้มลงไปแช่ด้วยสัก 3 ช้อนโต๊ะ เพื่อข้าวจะได้สวย ๆ กะทิ 300 กรัม น้ำตาลทราย 120 กรัม หรือใช้ชิมเอานะคะ เกลือ ใบเตยหอม 2-3 ใบ หมายเหตุ แก้ไขจากข้าวเหนียวเขี้ยวงา..ที่พิมพ์ผิดค่ะ ขอขอบคุณน้องแจง ..ไม่ต้องหวานซึ้งฯ มา ณ ที่นี้อย่างสูง..แฮ่ะๆ
วิธีทำ - สงข้าวเหนียวที่แช่ไว้ ซาวด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด เรานึ่งด้วยหวดไม้ไผ่บนหม้อน้ำ ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที นึ่งไปได้ประมาณ 80 % พรมน้ำบนข้าว แล้วกลับข้าวเหนียวในหวด นึ่งต่อจนสุก - ตอนข้าวเหนียวใกล้สุก นำกะทิตั้งไฟ ผสมน้ำตาลทราย เกลือ และใบเตย คนให้น้ำตาลละลาย และกะทิร้อน แต่อย่าให้เดือดจนแตกมัน - เมื่อข้าวเหนียวสุกดี เทลงในภาชนะที่จะมูนข้าว ตามด้วยกะทิร้อนๆ คนให้ทั่วกัน แล้วปิดฝาพักเอาไว้ ให้ข้าวเหนียวดูดซึมกะทิ - สัก 10-15 นาที เปิดฝา คนข้าวเหนียวให้ทั่ว
ภาพที่เห็นนี้ ข้าวเหนียวยังไม่แห้งดีนะคะ ต้องพักอีกนิด ให้ได้ข้าวเหนียวเงาเป็นมัน และไม่แฉะค่ะ
ระหว่างนั้น เรามาเตรียมส่วนท้อปปิ้งกัน ส่วนผสมปรับสัดส่วนได้ตามชอบค่ะ
แปะก้วย 500 กรัม แห้วสด 200-300 กรัม พุทราจีนเชื่อม 200 กรัม น้ำตาลทราย แป้งมันฮ่องกง หรือ Potato Starch ใบเตยหอม 2-3 ใบ
วิธีทำ
เราชอบเคาะแปะก้วยเองนะคะ ไม่เคยซื้อแบบที่เขาแกะแล้วมาใช้เลยค่ะ คิดว่าไม่ยากอะไรที่จะทำเอง รายละเอียดการทำแปะก้วยไปอ่านได้ที่บล็อกเต้าทึงนะคะ
เราซื้อแห้วสดปอกสำเร็จเรียบร้อยมาจากร้านขายผักปลอดสารเจ้าประจำ ที่มักจะมีขายเสมอ
พุทราจีนเชื่อม อันนี้เป็นแบบสำเร็จค่ะ หั่นครึ่ง หรือหั่นสี่แล้วแต่ขนาดของลูก
ทำท้อปปิ้งกันนะคะ
- ต้มแปะก้วยพร้อมกับแห้วให้สุก ตักขึ้นล้างและเก็บเยื่อด้านในของแปะก้วยออกให้หมด แห้วหั่นสี่ชิ้นต่อลูก - เราหั่นแห้วบาง ๆ ตามขวางเอาไว้ประมาณ 5-6 ลูก แยกไว้ พร้อมกับแปะก้วยที่ต้มสุกค่ะ จะเอาไว้ผสมในข้าวเหนียวตอนอัดใส่พิมพ์ - เติมน้ำประมาณ 4 ถ้วยตวงลงในหม้อ ตั้งไฟพอเดือด ใส่น้ำตาลทรายลงไปพร้อมกับใบเตย พอน้ำตาลละลายหมด ใส่แปะก้วยและแห้วลงไปต้ม ตรงนี้ใช้ชิมเอานะคะ ว่าชอบหวานมากน้อยแค่ไหน - ต้มด้วยไฟปานกลาง พอให้น้ำตาลรัดตัวแปะก้วยนิด ๆ อย่านานเกินจะทำให้แปะก้วยแข็งไม่อร่อย - ผสมแป้งมันฮ่องกง กับน้ำเปล่า เราใช้แป้งมันสองช้อนชา กับน้ำเปล่า 1/4 ถ้วย คนให้ละลายก่อนเทลงในหม้อที่ต้มแปะก้วย คนเร็ว ๆ ให้เข้ากัน - พอแป้งสุก เดือดอีกครั้งก็ยกลงค่ะ พักเอาไว้จนกว่าจะใช้งาน
ประกอบร่าง เราใช้พิมพ์ซิลิโคนวงแหวน เพราะคิดว่าคงสะดวกในการเคาะขนมออกมา เริ่มด้วยส่วนของเผือกกวน ปาดให้ทั่ว ใครชอบเผือกหรือข้าวเหนียวมากกว่า ก็ปรับตรงนี้ได้ตามใจ (คนทำ) ค่ะ เราชอบเผือกแยะๆ ก็ใส่เผือกสูงหน่อย
ตามด้วยข้าวเหนียวมูน เราพักให้ข้าวเหนียวและเผือกกวนเย็นตัวลงทั้งสองอย่างนะคะ ใส่แห้วหั่นบาง ๆ และแปะก้วยต้มที่เก็บไว้ในเนื้อข้าวเหนียวตอนนี้ค่ะ เวลากินจะได้เจอแปะก้วย และแห้วในเนื้อข้าวเหนียวด้วย น่าจะอร่อยกว่าเป็นข้าวเหนียวเปล่า ๆ อันนี้คิดเอาเอง ปาดข้าวเหนียวให้เรียบเต็มพิมพ์ พยายามกด ๆ ให้แน่นหน่อย
แล้วคว่ำพิมพ์ลงในจานที่จะใช้เสิร์ฟ แต่น แตน แต๊น..
ก่อนเสิร์ฟ ใส่ท้อปปิ้งที่เตรียมไว้ เราเก็บในตู้เย็น ทั้งสองอย่าง พอจะใช้ถึงราดท้อปปิ้งแล้วอุ่นในไมโครเวฟก่อนเสิร็ฟร้อน ๆ ค่ะ
หอมเผือกกวนค่ะ รสชาดไม่หวานจัดมาก เพราะเราควบคุมความหวานของข้าวเหนียวได้ ส่วนของแห้วในซอส ช่วยเปลี่ยนรสชาดและสัมผัสได้ดี เราคิดว่า น่าจะทำเผือกกวนให้หวานน้อยกว่านี้ได้อีก
เป็นขนมที่เหมือนจะยุ่งยาก แต่ไม่ยากค่ะ เราคิดว่า เป็นความชาญฉลาดของคนจีน ในการคิดขนมจานนี้ เพราะใช้ส่วนผสมที่ส่วนมากจะอยู่ในสำรับอาหารเซ็ทอยู่แล้ว แถมยังเตรียมล่วงหน้าเอาไว้ได้ พอจะเสิร์ฟค่อยอุ่น หรือแค่อุ่นตัวซอสให้ร้อน ๆ ก็ยังได้ สะดวกในการเตรียมอาหารสำหรับงานเลี้ยงค่ะ
รู้สึกดี ที่ได้ทดลองทำอะไรใหม่ ๆ และเจอมุมมองที่ไม่ค่อยคิดในจานขนม ถึงวิธีและแนวคิดของคนที่สร้างสรรค์เมนูนั้น ๆ ขึ้นมา
ทำให้รู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาคิดกันมาก่อน ล้วนแล้วแต่มีเหตุผลประกอบ หรือรองรับเสมอ ๆ ถึงแม้ว่ามันอาจจะมองเหมือนไม่มีอะไร แต่ก็สุดแท้แต่คน ว่าใช้วิธี "เห็น" หรือ "ดู"
บางทีเราแค่เห็น แต่เราไม่ได้ดูนะคะ
ขอให้มีความสุข กับความเป็นไปรอบ ๆ ตัว ดูสิ่งต่าง ๆ ที่เราเห็น แล้วจะพบอะไร ๆ ใหม่ ๆ น่าสนุกเสมอค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุก ๆ ท่านที่แวะมาใช้เวลาด้วยกัน ณ ที่นี้ค่ะ
Create Date : 19 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 21 พฤษภาคม 2556 16:44:39 น. |
|
70 comments
|
Counter : 14639 Pageviews. |
|
|