เค้กมาม่อนอีกแล้วนานนานทีก็คิดอยากจะทำเจ้าเค้กมาม่อน ทั้ง ๆ ที่เป็นขนมทำไม่ยาก ใช้เวลาน้อย แต่กินง่าย ..นี่คือปัญหา ทำแล้วกินเยอะเกินไปทำน้อย ๆ ก็ไม่หนุก ไม่รู้เป็นยังไงดังนั้น เวลาที่จะลุกขึ้นทำ ก็มักจะเป็นเทศกาล เช่นตรุษจีน ทำเยอะจะได้แจกเพื่อนบ้าน บ้านแม่ บ้านพี่ สนุกดีออก มาม่อนมีอยู่หลายสูตรเหมือนกัน เท่าที่เห็น มีทั้งใช้น้ำมัน ใช้เนย วิธีทำต่าง ๆ กันไปนิดหน่อยที่จริง เราชอบสูตรที่ใช้เนยละลาย เพราะรู้สึกว่ามันหอม และชุ่มอร่อยกว่าแบบใช้น้ำมัน เคยทำแล้วทั้งสองแบบ แล้วก็มาจบลงกับสูตรเนยทุกทีปัญหาของเรา คือ เค้กนี้ เมื่อเตรียมแบทเทอร์ได้เรียบร้อยแล้ว ควรจะส่งเข้าอบทันที ถ้าทิ้งไว้เค้กล็อตที่อบรอบหลังจะเกิดอาการ"นอนก้น" คือส่วนของไขมันจะตกไปอยู่ก้นเค้ก กลายเป็นแผ่นยางไปซะสูตรที่ใช้น้ำมันท่าทางจะไม่มีปัญหา แต่เราไม่ชอบเนื้อสัมผัสของเค้กมาม่อนใช้น้ำมัน จะใช้เนยก็มีปัญหาเนยนอนก้น(เค้ก)อีก เพราะตามสโลแกนเราที่คุณโอตั้งให้ "น้อยน้อย ..ไม่ ใหญ่ใหญ่ ..ทำ" ค้นไปค้นมา แก้ปัญหาได้เรื่องนึงคือการใช้สูตรน้ำมันที่ได้เนื้อเค้กฉ่ำจากบ้านคุณหน่อง wee_nong ค่ะ เลยได้ไอเดีย เอาสุตรดั้งเดิมของห้องก้นครัวมาปรับไปปรับมา ..ขอขอบคุณคุณหน่อง แม่สลิ่ม และบรรดามือเซียนทำขนมใจดีทั้งหลายที่บอกกลเม็ดเคล็ดลับ รวมทั้งสูตรทำขนมกันแบบให้ใจกันสุด ๆ มา ณ ที่นี้มาลองดูสูตรมาม่อนแบบเราดูนะคะ ส่วนผสมค่าสูตรนี้เป็นสูตรใหญ่ ใครทำน้อย ๆ ก็ลดลงตามส่วนแล้วตัด SP ออกไป เพราะเราใส่ลงไปแก้อาการเนยนอนก้นค่ะ แป้งเค้ก 250 กรัมผงฟู 2 ช้อนชาไข่ 12 ฟอง แยกไข่แดงไข่ขาวน้ำตาลทราย 360 กรัม ใตรชอบหวานเพิ่มได้เป็น 400 กรัมค่ะดอกเกลือหยิบมือน้ำมันคาโนล่า 1/2 ถ้วยเนยละลาย 1/2 ถ้วยนมสด 2 ช้อนโต๊ะSP 3-5 กรัม (ถ้าทำสัดส่วนน้อยๆ ไม่ต้องใช้ค่ะ)วานิลลา 2-3 ช้อนชา อันนี้กะ ๆ เอาค่ะ ไม่ได้ตวงครีมออฟทาทาร์ 2 ช้อนชาวิธีทำวอร์มเตาอบที่ 160 องศาซีเรียงถ้วยฟอยล์ในพิมพ์เตรียมไว้ เราใช้ถ้วยเบอร์ 3219 วางในพิมพ์จอมโหดที่เคยใช้ทำขนมปังบันร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกันสักสามรอบ พักไว้ก่อนนะคะผสมเนยละลายกับน้ำมันคาโนล่าเข้าด้วยกัน รอไว้แยกไข่แดงรวมกันไว้ในชามผสมที่จะต้องใช้ Hand Mixer ได้ ดูจำนวนไข่แดงสิบสองฟองดิไข่ขาวรวมกันไว้ในชามผสมใบใหญ่ยักษ์หน่อย ส่วนนี้จะใช้ Stand Mixer ค่ะ น้ำตาลทราย เราใช้น้ำตาลทรายป่น (Castor Sugar) แบ่งเป็นสองส่วนคร่าว ๆเก็บไว้น้ำตาลป่นมีความชื้น เกาะเป็นก้อน ๆ ก็ใช้กระดาษห่อ แล้วบด ๆ นิดหน่อยให้กระจายตัว เราว่าไม่ซีเรียสมาก ไม่ต้องร่อนก้ได้ ขี้เกียจอ่า..นมสด รวมกับวานิลลาเอาไว้เราทำวานิลลาเอ็กซ์แทรคใช้เอง โดยการเอาฝักวานิลลากรีดตรงกลางให้ตลอด แช่ในว้อดก้า สัดส่วนฝักวานิลลา 12 ฝัก ต่อว้อดก้าขนาด 700 ml เขย่าให้เข้ากัน ห่อขวดให้สนิทหรือเก็บในที่มืด ทิ้งไว้ 3 เดือน ถ้านึกได้ระหว่างนั้น ก็นำออกมาเขย่า ๆ เป็นระยะค่ะครบสามเดือน จะได้ Vanilla Extract ของแท้แน่นอน หอมสุด ๆ หน้าตาแบบนี้ ถ่ายรูปยากมากเลย ขี้เกียจใช้แฟลช เลยได้ภาพคุณภาพแบบนี้เองค่ะเริ่มตีไข่ขาว โดยใส่ครีมออฟทาทาร์ลงในโถไข่ขาว ใช้หัวตะกร้อตีด้วยสปีดต่ำ ๆ ก่อน พอไข่ขาวเริ่มเป็นฟองหยาบ ทะยอยใส่น้ำตาลป่นส่วนที่แบ่งครึ่งไว้ลงไปทีละน้อย เราใช้วิธีพับกระดาษเป็นกรวยใส่น้ำตาล เทลงในโถไข่ขาวที่เดินเครื่องอยู่ ไม่ได้ใส่ทีละช้อนคะ แฮ่ะ พอใส่น้ำตาลหมด เพิ่มความเร็วเป็นสูงสุด จนได้ไข่ขาวตั้งยอดแบบ Firm Peak ..เราว่าที่เราตีเนี่ยมันแข็งไปหน่อยนะ หยุดไม่ทัน..ตีสปีดต่ำสุดเพื่อตัดฟองอากาศสัก 1 นาทีนะคะ พักไว้ก่อนใส่ส่วนผสมของน้ำมันและเนยละลาย. น้ำตาลป่นส่วนที่สอง ดอกเกลือ นมที่ผสมวานิลลาลงไปรวมในโถไข่แดง เอาSP ป้ายที่หัวตะกร้อของHand Mixer ตีด้วยสปีดสูงสุด ให้ส่วนผสมขึ้นฟูและข้นขึ้นเล็กน้อย ส่วนผสมขนาดที่เราทำใช้เวลาประมาณ 2 นาทีค่ะจากนั้น นำส่วนของไข่แดงนี้ ลงไปโฟลกับส่วนไข่ขาวที่ตีไว้แล้ว ผสมเข้าด้วยกันอย่างเบามือด้วยตะกร้อมือตามด้วยแป้งที่ร่อนไว้ ผสมให้เข้ากัน ท้ายสุด ควรใช้พายยางกวาดให้ถึงก้นโถ เพื่อเช็คดูว่ามีส่วนของไขมันยังนอนอยู่หรือเปล่า ปาดจากก้นอ่างขึ้นมาให้รอบนะคะเราใช้สคู้ปตักไอติมขนาดใหญ่ ตักส่วนแบทเทอร์ใส่ลงในถ้วยจนถึงขอบฟอยล์ค่ะ เพราะอยากได้เค้กสูงกว่าขอบพิมพ์ ไม่ต้องตกกะใจ ปริมาณทั้งหมดที่ทำนี้ ได้คัพเค้กไซส์นี้แค่ประมาณห้าสิบกว่า ๆ ถ้วยเอง แจกสามสี่บ้านก็หมดแล้ว เคาะก้นพิมพ์เพื่อไล่ฟองอากาศด้วยนะคะถ้าทำแล้วต้องอบสองรอบ ให้ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ชุดแรกชุดเดียวพอค่ะ อย่าตักใส่ทั้งหมดแล้ววางรอเพื่ออบนะคะ ถาดแรกอบเสร็จหรือเกือบสุก ค่อยเริ่มตักชุดที่สอง จะได้ใช้พายยางกวาดเช็คส่วนผสมอีกรอบก่อนหยอดพิมพ์ค่ะส่งเข้าอบในเตาที่อุณหภูมิคงที่แล้ว ใช้เวลา 17 นาทีค่ะ หรือจนหน้าเค้กเหลืองสวย หรือห้านาทีสุดท้ายจะใช้แต่ไฟบน แล้วเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นอีกเป็น 180 ให้หน้าขนมแห้งหน่อยก็จะดีค่ะเมื่อเค้กสุก รีบคว่ำพิมพ์ลงบนตะแกรงทันที อย่าทิ้งไว้ เพราะเค้กจะหดอย่างมหาศาล จากนั้นค่อยกลับหน้าเค้กขึ้นมาค่ะหน้าตาน่ารักดีพักเค้กให้เย็นบนตะแกรงก่อนเก็บหลายคนว่า เค้กมาม่อนโรยชีสเชดดาร์ขูดฝอย เข้ากันที่สุด ลองดูซิ ก็อร่อยนะคะ จะได้เค้กเนื้อนุ่มและเบา ไม่หวานมาก เนื้อเค้กชุ่มฉ่ำพอประมาณ กินได้เพลินค่ะ หอมวานิลลา(ก็ทำเองนี่ยะ)กินกับกาแฟตอนเช้าๆ อร่อยดี หรือห่อไปกินเป็นขนมตอนบ่ายที่ที่ทำงานก็แจ่มค่ะเนื้อเค้กเป็นแบบนี้ เค้กนี้คงจะจัดอยู่ในตระกูลขนมไข่ ใช้แจกให้เพื่อนบ้านวันตรุษจีนได้ค่ะ หน้าตากลมกลืนกับของไหว้ทั้งหลายมาก ๆ เราแพ็คใส่กล่องให้เพื่อนบ้านก่อนวันไหว้หนึ่งวัน..แถวบ้านเราจะมีธรรมเนียมที่ไม่ได้บันทึกไว้ ว่าก่อนวันไหว้ตรุษจีนหนึ่งวัน อาเจ้ข้างบ้านจะเอาขนมเข่งทำเองมาฝากหนึ่งจาน ทำเสร็จร้อน ๆ เราเองก็จะดวลกลับไปด้วยขนมทำเอง เคยมีทำขนมไข่หนึ่งปี ปีที่แล้วทำปุยฝ้าย ปีนี้เลยกลายเป็นมาม่อนเค้กไปซะ สนุกดีค่ะ อีกบ้านหนึ่งจะทำหมูหยองสูตรพิเศษเอง เอามาแจกช่วงนี้เหมือนกันถ้าใครอยากลองมาม่อนสูตรนี้ ทำแล้วเป็นยังไง เอามาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ เราคิดว่าค่อนข้างชอบเนื้อเค้กประมาณนี้แหละค่ะขอให้มีความสุขกับการทำอาหารทำขนม(และเขียนบล็อก) ทุก ๆ ครั้งขอบคุณทุก ๆ ท่านที่แวะมาใช้เวลาด้วยกัน ณ ที่นี้นะคะ
เคาะก้นพิมพ์เพื่อไล่ฟองอากาศด้วยนะคะ
เราแพ็คใส่กล่องให้เพื่อนบ้านก่อนวันไหว้หนึ่งวัน..
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [