เจ้าปุ้ง กับ คอลัมภ์ ในนิตยสาร รักลูก ฉบับ เดือน ตุลาคม 2550
หลังจากอยู่บนเครื่องบินมา 16 ชั่วโมง เราและเจ้าปุ้งก็มีสภาพไม่ต่างจากซอมบี้เวอร์ชั่นที่แสนน่ารัก หลุดออกมาจากท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ โดยมีคุณยายมารับ โบกไม้โบกมือรออยู่ เราก็มองหาคุณยายว่าจะอยู่ตรงไหน แต่เนื่องจาก ส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีเหลืองกันหมด เลยเดายาก เลยต้องเข็นกระเป๋าเดินออกมา ให้คุณยายวิ่งตามเราสองคนแม่ลูกเอาเอง และกลับถึงบ้าน ก็สลบไปประมาณ 2 วัน .. ไม่น่าเชื่อจริงๆ
แต่ตอนที่นั่งรถกลับบ้านนั้น คุณยายก็ส่งนิตยสารรักลูก ฉบับเดือนตุลาคม นี้ให้อ่าน แล้วเปิดหน้าที่มีบทความของเรา ทะด๊า......
อย่าไปเพ่งอ่านให้ปวดตาเลย พอดีมีก๊อบปี้ต้นฉบับอยู่ค่ะ ....
ปลูกฝังความเป็นไทยให้ลูกในต่างแดน
ฉันถือว่าเป็นคนไทยที่อยู่ต่างแดนมานานพอสมควร จนกระทั่งมีครอบครัวและมีลูกที่มีสายเลือดคนไทยอย่างเต็มตัว เพราะสามีฉันเป็นคนไทยเหมือนกัน การที่เราจะทำกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวกับครอบครัว ฉันจะหาความเป็นไทยใส่ให้ลูกแทรกไปด้วย เพราะหากเด็กที่อาศัยและโตในต่างประเทศ ความเป็นไปได้ในการรับความเป็นไทยจะยากขึ้น ฉันเริ่มจากการที่เราพูดภาษาไทยกับลูกที่บ้านก่อน สอนให้ลูกรู้จักการยกมือไหว้ และสอนให้รู้จักกาละเทศะ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนะคะ เพราะการที่อยู่ในสังคมที่รายล้อมด้วยฝรั่งมังค่า บางทีฉันก็กลัวว่าลูกจะได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมบางอย่างที่ไม่ถูกไม่ควรมาเหมือนกัน
ถ้าหากวันอาทิตย์ไหนที่ฉันไม่ติดธุระอะไร ฉันจะพาลูกไปวัดไทยชื่อ วัดพุทธานุสรณ์ ในเมือง Fremont รัฐ California เป็นประจำ เพราะบ้านใกล้วัดนี้ที่สุด เป็นที่รู้กันว่า วัดไทยจะเป็นศูนย์รวมคนไทยส่วนใหญ่ ส่วนคนลาวและชาติอื่นๆ จะเห็นมีอยู่บ้าง ฉันเริ่มจากพาเจ้าปุ้งไปวัดครั้งแรกเมื่ออายุ 3 เดือน เพื่อให้พระท่านให้พร และพรมน้ำมนต์ เห็นบางคนที่มีลูกอายุน้อยกว่าเจ้าปุ้ง ยังพาไปวัดกันเลย ไม่แปลกอะไรหรอกที่พาลูกเล็กเด็กแดงออกนอกบ้านแบบนี้ เพราะการพาลูกเล็กๆ ออกไปไหนต่อไหน คือชีวิตประจำวันของคนที่นี่ บริเวณวัดไทยเลยกลายเป็นสถานที่วิ่งเล่นของเด็กๆ ทุกวัย โดยเฉพาะช่วงบ่ายจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะเป็นเวลาที่เด็กๆ เลิกเรียนภาษาไทยในวัดแล้ว
เจ้าปุ้งของฉันชอบที่จะเข้าไปไหว้พระมาก เพราะฉันสอนให้รู้จักการสวดมนต์และกราบพระก่อนนอนทุกคืน ตั้งแต่อายุไม่ถึงขวบ โดยการกราบที่หมอนนั่นแหละ เอาง่ายๆ หากคืนไหนอารมณ์ดี ก็จะกราบอย่างสวยงาม แต่ถ้าขี้เกียจ หรือว่า งอแงไม่อยากกราบล่ะก็ มีท่ากราบประหลาดๆ เกิดขึ้นทันที และยังนอนกราบอีกด้วยนะ นึกถึงตอนนั้นพออยู่เข้าไปในโบสถ์ เจ้าปุ้งก็จะวุ่นวาย อยากจุดเทียน อยากเล่นก้านธูป บางครั้งยังเอาเครื่องถวายสังฆทานที่ทางวัดจัดไว้เป็นชุดๆ มารื้อเล่นอีกด้วย แต่หลวงพ่อจะบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเด็กจะเป็นแบบนี้หมด แถมบอกฉันอีกด้วยว่า วันอาทิตย์ถ้าไม่รู้จะไปไหน เอาลูกมาคลานเล่นในโบสถ์นี่สิโยม เพราะกว้าง ล้มไม่เจ็บ และที่วัด เด็กเยอะ จะได้เป็นเพื่อนกัน หลวงพ่อบอกอย่างนี้ก็เข้าทางฉันเลยสิ ( ถ้าเป็นละครไทย จะเห็นว่า ฉันกำลังกระหยิ่มอย่างมีเลศนัย รู้ใช่ไหมว่าคิดอะไรอยู่ )
จนกระทั่งเจ้าปุ้งโตมา ฉันก็ยังพาไปวัดไทยอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นวันอาทิตย์ที่ไม่มีอะไรพิเศษ หรือว่า วันอาทิตย์บุญใหญ่ ก็พากันไปทำบุญใส่บาตรกัน การใส่บาตรก็เป็นกิจกรรมอีกอย่างที่เจ้าปุ้งชอบ โดยที่ไม่รู้ว่าคืออะไร และพอเสร็จก็จะไปที่โรงอาหาร เข้าแถวต่อคิวซื้อข้าวเหนียวไก่ทอดกับพ่อ ส่วนฉันจะต่อแถวก๋วยเตี๋ยว เป็นแบบนี้ประจำ
กิจกรรมในวัดไทยที่เด็กทั้งหลายจะชอบ รวมทั้งเจ้าปุ้งด้วย ก็คือ วันฮาโลวีน อย่าไปคิดอกุศลก่อนล่ะ ว่าวัดจัดงานฮาโลวีนซึ่งเป็นงานรื่นเริงของฝรั่งได้อย่างไร เพราะวัดไทยแห่งนี้นอกจากจะทำกิจกรรมทางพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นโรงเรียนสอนภาษาไทย สอนดนตรีไทย และวัฒนธรรมต่างๆ ของไทยอีกด้วย และเด็กที่ไปเรียน เริ่มจาก 5 ขวบ ก็คือวัยที่เข้าเรียน อนุบาลขึ้นไป สงสัยกันแล้วใช่ไหมว่า ว่าเจ้าปุ้งอายุไม่ถึง แล้วจะไปทำกิจกรรมอะไรกับเด็กโตอื่นๆ ได้
ในวันฮาโลวีนนี่แหละ คือวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี เด็กๆ จะแต่งเป็นผีสางนางไม้ และถือถุงหรือกล่องคนละใบ เพื่อเคาะตามบ้านขอขนมในกลางคืน แต่โรงเรียนวัดไทย ให้เด็กนักเรียนทุกคนแต่งตัวในตอนกลางวัน แล้วมีประกวดชุดแฟนซี แล้วจะให้เด็กๆ เข้าแถว โดยครูจะบอกว่า อนุบาล แถวตรงนี้ , ป.1 แถวตรงนี้ ไล่ไปเรื่อยๆ พอหมดแล้วจะบอกให้นักเรียนอื่นๆ หรือว่ายังไม่ได้เป็นนักเรียน ให้เข้าแถวพิเศษ เจ้าปุ้งของฉันก็ได้อยู่แถวพิเศษนี่แหละ ปีก่อนเข้าแถวนี้ ปีนี้ก็แถวนี้อีก ปีหน้าคงต้องเข้าแถวนี้อีก จนกว่าจะอายุเข้าเกณท์โรงเรียนวัดไทยโน่นล่ะ แต่ในแถว มีเพื่อนตัวเล็กๆ จิ๋วๆ วัยประมาณ 1-3 ขวบ ยืนอยู่ด้วยกัน และก็ไม่พ้นให้พ่อแม่คอยจูงมืออยู่ดี
ถึงนาทีระทึกใจ ผู้ปกครองจะยืนแถวแล้วให้เด็กๆ เดินขอขนม ทำให้นึกถึงตอนที่ใส่บาตรเลยค่ะ เด็กๆ ที่เปิด จะเปิดถุง แล้วเราก็เอาขนมหย่อนใส่ถุง เด็กจะพูดว่า trick or treat แล้วเราจะเอาขนมใส่ให้ เด็กบางคน จะพูดแบบไทยๆ ว่า trick or treat ค่ะ / ครับ พอให้ขนมไป ก็จะพูดว่า ขอบคุณค่ะ / ครับ และมียกมือไหว้ด้วย แต่บางคนมีลืมตัวบ้าง จะตอบเป็นภาษาอังกฤษว่า Thank you เด็กคนไหนที่มาหาฉัน ถ้าไม่พูดไทย ก็จะแกล้งดึงขนมกลับ ทีนี้ได้เรื่องเลย เพราะเด็กจะรีบเปลี่ยนจากภาษาอังกฤษ ไปไทย อย่างรวดเร็ว นึกแล้วขำจริงๆ
ช่วงที่ชุลมุนวุ่นวาย ขณะที่ฉันกำลังสนุกกับการแจกขนมเด็กๆ ก็คอยมองหน้าว่า เมื่อไหร่ลูกเราจะเดินมาซะที ฉันแอบเห็นเจ้าปุ้งหยุดกลางแถว แล้วหยิบขนมที่มีอยู่ คืนให้กับคนแจก แล้วพูดว่า อันนี้ไม่ชอบ ขอเปลี่ยนๆ ด้วยความที่เป็นเด็กตัวเล็กๆ และใส่ชุดแฟนซี เลยดูน่ารักน่าเอ็นดู คนพากันหัวเราะและให้ขนมเพิ่มไปอีก เสร็จจากการล่าขนมของเด็กๆ แล้ว ฉันไม่ลืมที่จูงมือเจ้าปุ้งในชุดแฟนซี ขึ้นไปไหว้พระในโบสถ์ก่อนกลับบ้าน ไหนๆ ก็มาถึงวัดแล้ว ไม่ขึ้นไปไหว้พระได้อย่างไร อย่างน้อยเด็กเชื้อสายคนไทยที่เกิดต่างแดนคนนี้จะได้รู้ว่า พุทธศาสนิกชนอย่างเราก็มีที่พึ่งทางใจที่เป็นหนทางแห่งความสุขสงบ เห็นด้วยไหมคะ
.................................................................................................
ส่งข่าวค่ะ เรื่องโปรเจ็คหนังสือของหม่าม๊า กำหนดการออกแล้วค่ะ
เอาไว้จะเอารายละเอียดมาบอกเพื่อนๆ อีกครั้งนะคะ ...
ตอนนี้คิวที่ได้คือ เวลา 12.00 - 13.00 ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ ^^
..............................................................................................
เรื่องย้อนหลังสัพเพเหระทั่วไป
ย้อนหลังอันเก่า ... เกี่ยวกับ Baby Sign Language
Create Date : 03 ตุลาคม 2550 |
|
35 comments |
Last Update : 3 ตุลาคม 2550 22:11:46 น. |
Counter : 1001 Pageviews. |
|
|
|
โธ่...นินั่งเพ่งอ่านอยู่จนเกือบจบ เหลือบสายตามาด้านล่าง ก๊อปไว้ให้แล้วก็ไม่บอกใบ้กันหน่อยนะคะพี่......ตอนนี้ตาลายไปหมดแล้วคะ
นิส่งกำลังใจให้พี่แอนแทนนะคะ.....อยากเจอตัวจริงพี่แอนมากๆ
แต่ช่วงกลางเดือนนี้ ต้องลงใต้ด้วยคะ คงไม่ได้เจอพี่แอน แต่จะติตตามผลงานของพี่แอนจากหนังสือนะคะ