>>Are You Red Enough: เลือดลิเวอร์พูลในตัวคุณเข้มพอหรือยัง<<
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
22 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
"โรแบร์โต้ บักโจ้"




แฟ้มประวัติโรแบร์โต้ บักโจ้

ชื่อเต็ม: โรแบร์โต้ บักโจ้
เกิดเมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 1967 (ปัจจุบันอายุ 40 ปี)
สถานที่เกิด: วิเซนซ่า, อิตาลี
ส่วนสูง: 5 ฟุต 9 นิ้ว (174 เซนติเมตร)
ตำแหน่ง: กองหน้าตัวต่ำ


ประวัติในการเล่นฟุตบอล
ฤดูกาล 1982-1985.....สังกัดทีมวิเซนซ่า
ฤดูกาล 1985-1990.....สังกัดทีมฟิออเรนติน่า
ฤดูกาล 1990-1995.....สังกัดทีมยูเวนตุส
ฤดูกาล 1995-1997.....สังกัดทีมเอซี มิลาน
ฤดูกาล 1997-1998.....สังกัดทีมโบโลญญ่า
ฤดูกาล 1998-2000.....สังกัดทีมอินเตอร์ มิลาน
ฤดูกาล 2000-2004.....สังกัดทีมเบรสชา

กับทีมชาติอิตาลี
ติดทีมชาติทั้งหมดในช่วงปี 1988-2004 ลงเล่นทั้งหมด 56 เกม (ทำได้ 27 ประตู)






เส้นทางการค้าแข้งในช่วงที่เป็นนักฟุตบอล
บักโจ้เริ่มต้นชีวิตนักฟุตบอลครั้งแรกกับสโมสรวิเซนซ่าเมื่อปี 1981 ซึ่งตอนนั้นวิเซนซ่าเป็นทีมในระดับเซเรีย ซี, ก่อนที่ในปี 1985 จะเป็นฟิออเรนติน่าที่เห็นแววและจัดการคว้าตัวบักโจ้มาร่วมทีม โดยที่ฟลอเรนซ์บักโจ้สร้างผลงานได้โดดเด่นเป็นอย่างมากและเป็นที่รักของแฟนบอลที่นี่ ถึงขนาดที่คนในฟลอเรนซ์เทิดทูนเค้าราวกับพระเจ้า

ก่อนที่ในปี 1990 จะเป็นยูเวนตุสที่ทุ่มเงินกว่า 19 ล้านเหรียญ ($) คว้าตัวบักโจ้ไปร่วมทีมหลังจากเห็นผลงานในศึกฟุตบอลโลก ในปี 1990 ซึ่งอิตาลีเป็นเจ้าภาพ การย้ายทีมครั้งนี้ของบักโจ้ทำให้แฟนบอลของฟิออเรนติน่าพากันเดินออกมาประท้วงสโมสรด้วยความโกรธแค้นที่ขายนักเตะในดวงใจของพวกเค้า โดยบักโจ้ต้องออกมาบอกแฟนบอลเหล่านั้นว่า "การย้ายทีมไปสู่ยูเวนตุสนั้นได้เกิดขึ้นโดยสมบูรณ์แล้ว" แม้ว่าบักโจ้จะย้ายออกจากฟิออเรนติน่าท่ามกลางความไม่พอใจของแฟนบอล แต่ก็ไม่มีแฟนบอลคนไหนที่โกรธในการกระทำของบักโจ้เลย

ในปี 1993 บักโจ้พายูเวนตุสคว้าแชมป์ฟุตบอลรายการยูฟ่า คัพมาครองได้หลังจากที่เอาชนะโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ 6-1 (เยือน 3-1, เหย้า 3-0) และยังเป็นปีทองที่เค้าคว้าได้รับรางวัลต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีของฟีฟ่า, รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีของนิตยสารเวิล์ด ซอคเกอร์, ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีของนิตยสารอ๊งซ์ มงดิอัล, ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีของนิตยสารฟร๊องซ์ ฟุตบอล (บัลลงดอร์) และอีกมากมาย

บักโจ้คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้กับยูเวนตุสครั้งแรกเมื่อปี 1995 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกนับจากย้ายมาเมื่อปี 1990, ก่อนที่เค้าจะช๊อกความรู้สึกของแฟนบอลยูเวนตุสเมื่อปฏิเสธที่จะต่อสัญญาใหม่กับทีมโดยย้ายไปร่วมทีมคู่ปรับอย่างเอซี มิลานในยุคที่มีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่เป็นประธานสโมสร และเค้าก็มีส่วนช่วยให้เอซี มิลานคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้มาครองได้ในปี 1996 โดยเค้าเป็นนักฟุตบอลอิตาลีคนแรกที่ได้แชมป์สคูเด็ตโต้ 2 ปีติดกับ 2 สโมสร

ในปี 1997 บักโจ้ย้ายมาร่วมทีมโบโลญญา และในฤดูกาลนั้นบักโจ้ทำได้ถึง 22 ประตู ในการลงเล่น 30 เกม!, และเด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงของค้าทำให้ผู้จัดการทีมชาติอิตาลีอย่างเซเซเร่ มัลดินี่เรียกเค้าติดทีมชาติอิตาลีชุดไปลุยศึกฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศสอีกด้วย ซึ่งบักโจ้ก็ยังทำผลงานให้ทีมชาติอิตาลีได้อย่างดีก่อนที่อิตาลีจะพ่ายในการยิงจุดโทษต่อฝรั่งเศสในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยเซเซเร่ มัลดินี่เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับบักโจ้ว่า "ไม่มีนักฟุตบอลอิตาลีคนไหนอีกแล้วที่จะทำในสิ่งที่โรบี้ทำได้"

หลังจากจบศึกฟุตบอลโลก 1998, บักโจ้ย้ายจากโบโลญญ่ามาร่วมทีมอินเตอร์ มิลาน ในยุคที่มีมาร์เซโล ลิปปีเป็นโค้ช แต่กับการลงเล่นให้อินเตอร์ มิลาน บักโจ้ไม่ประสบความสำเร็จมากนักเมื่อเค้าลงเล่นไปทั้งหมด 12 เกม ทำได้เพียง 9 ประตู แต่ 2 ใน 9 ประตูนั้นมีส่วนที่ทำให้อินเตอร์ มิลานเอาชนะปาร์ม่าในการเพลย์ออฟเพื่อหาอีกหนึ่งทีมเพื่อไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก!

ในปี 2000 บักโจ้ย้ายทีมอีกครั้ง โดยย้ายจากอินเตอร์ มิลานมาร่วมทีมเบรสชา ซึ่งที่นี่บักโจ้กลับมาระเบิดฟอร์มการเล่นได้อีกครั้งเมื่อเค้าลงเล่นไปทั้งหมด 95 เกม ทำได้ถึง 45 ประตู!

ในช่วงปี 2002 บักโจ้ได้รับการสนับสนุนจากแฟนบอลอิตาลีเกือบทั้งประเทศให้กลับมาติดทีมชาติอิตาลีอีกครั้งเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้/ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วมกัน แต่โจวานนี ตราปัตโตนีซึ่งเป็นโค้ชทีมชาติตอนนั้นปฏิเสธที่จะดึงบักโจ้กลับมาติดทีมชาติ โดยในฟุตบอลโลกครั้งนั้นอิตาลีตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยพ่ายต่อเกาหลีใต้ในช่วงโกลเดนโกล์!!!

บักโจ้ลงสนามนัดสุดท้ายในชีวิตค้าแข้งของเค้าเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2004 ซึ่งเบรสชาต้องออกไปเยือนเอซี มิลาน ที่สนามซาน ชิโร โดยบักโจ้ได้ลงเล่น 88 นาทีก่อนที่จะโดนเปลี่ยนตัวออกไป โดยแฟนบอลในสนามกว่า 80,000 คนพากันลุกขึ้นและปรบมือให้บักโจ้ในขณะเดินออกจากสนาม โดยในช่วงที่เล่นในเซเรีย อาบักโจ้ทำได้ถึง 205 ประตู โดยติดอันดับ 5 ของผู้ที่ทำประตูในระดับเซเรีย อามากที่สุด




ประวัติในช่วงที่เล่นให้ทีมชาติ
บักโจ้ติดทีมชาติทั้งหมด 56 ครั้ง ทำได้ 27 ประตู โดยเค้ายิงประตูในฟุตบอลโลกได้มากที่สุดถึง 9 ประตู ซึ่งเทียบเท่ากับที่คริสเตียน วิเอรี และเปาโล รอซซีทำได้

ฟุตบอลโลก 1990
บักโจ้ได้เล่นฟุตบอลโลกครั้งแรกเมื่อปี 1990 โดยฟุตบอลโลกครั้งนั้นเค้าทำได้ 2 ประตู ประตูแรกเกิดในเกมที่พบกับเชสโกสโลวาเกีย ซึ่งบักโจ้เป็นคนยิงประตูให้อิตาลีนำ 2-0 ในนาทีที่ 78 (อิตาลีชนะ 2-0), ส่วนประตูที่สองเกิดในเกมรอบชิงอันดับที่ 3 ในเกมที่พบกับอังกฤษ ซึ่งบักโจ้เป็นคนยิงประตูให้อิตาลีนำ 1-0 ในนาทีที่ 71 (อิตาลีชนะ 2-1) โดยในฟุตบอลโลกครั้งนั้นซัลวาตอเร สกิลลาชีได้รับรางวัลดาวยิงสูงสุดไปครอง


ฟุตบอลโลก 1994
ในปี 1990 บักโจ้เป็นความหวังของอิตาลีในการพาทีมกลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้ง แต่ดูเหมือนฟุตบอลโลกครั้งนี้จะไม่สวยหรูสำหรับเค้านักเมื่อเค้าได้ลงเล่นเพียง 65 นาทีเท่านั้นในเกมแรกที่พบกับนอร์เวย์ และอิตาลีก็โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนักเมื่อจบ 3 เกมในรอบแรกมี 4 คะแนนเท่ากันทั้ง 4 ทีม แต่อิตาลีมีลูกได้-เสียดีกว่านอร์เวย์ทำให้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปได้อย่างฉิวเฉียด และก็เหมือนซุปเปอร์สตาร์ทั่วๆไปเมื่อในรอบ 16 ทีมที่พบกับไนจีเรีย ในช่วง 88 นาทีไนจีเรียนำอิตาลี 1-0 ก่อนที่จะเป็นบักโจ้ที่ยิงตีเสมอในนาทีที่ 89 ให้อิตาลีเสมอ 1-1 และมายิงประตูชัยในนาทีที่ 102 ให้อิตาลีชนะไป 2-1, จากนั้นในรอบ 8 ทีมที่พบกับสเปน บักโจ้ก็เป็นคนยิงประตูชัยในนาทีที่ 88 ให้อิตาลีชนะไป 2-1, ในรอบรองชนะเลิศที่พบกับม้ามืดอย่างบัลแกเรีย บักโจ้ยิงได้ 2 ประตูในนาทีที่ 20 และ 25 ในเกมที่อิตาลีชนะ 2-1, แต่ด้วยสถาพร่างกายที่กรำศึกมาหนักทำให้ในรอบชิงชนะเลิศกับบราซิลบักโจ้ไม่ฟิตนักเนื่องจากมีอาการเจ็บที่กล้ามเนื้อน่อง และโชว์ผลงานได้น่าผิดหวัง กับในรอบชิงชนะเลิศปี 1994 ดูไม่ค่อยจะน่าประทับใจนักเมื่อ 120 นาทีทั้งคู่ยังเสมอกันที่ 0-0 จนต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ และก็เหมือนเป็นบักโจ้ที่ยื่นแชมป์ให้บราซิลเมื่อเค้าเป็นคนซัดลูกจุดโทษเหินข้ามคานไป ซึ่งจะโทษบักโจ้เพียงคนเดียวก็ไม่ได้ เพราะที่อิตาลีผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศได้ก็เพราะบักโจ้ (ซึ่งจริงๆแล้วฟรังโก บาเรซีและดาเนเล่ มาสซาโรก็เป็นอีก 2 คนที่ยิงลูกจุดโทษพลาด)


ฟุตบอลโลก 1998
ในฟุตบอลโลก 1998 ในนัดที่อิตาลีพบชิลี บักโจ้เป็นคนจ่ายบอลให้คริสเตียน วิเอรีทำประตูให้อิตาลีขึ้นนำ 1-0 และยังเป็นคนยิงจุดโทษให้อิตาลีตามตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 85 อีกด้วย, ในนัดที่พบกับแคเมรูนบักโจ้ก็มีส่วนช่วยให้ทีมชนะ เมื่อเข้าเป็นคนผ่านบอลให้ลุยจิ ดิ เบียยิงประตูให้อิตาลีขึ้นนำ 1-0 ในเกมที่ชนะ 3-0, บักโจ้ทำประตูได้อีกครั้งในเกมสุดท้ายของรอบแรกที่พบกับออสเตรีย โดยเค้าทำประตูได้ในนาที่ 89 ให้อิตาลีนำ 2-1 ในเกมที่ชนะ 2-1 ซึ่งเป็นประตูที่ 9 ที่เค้าทำได้ในศึกฟุตบอลโลก แม้บักโจ้จะทำผลงานได้ดีแต่เค้าก็พาอิตาลีไปได้ไกลเพียงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยอิตาลีพ่ายในการดวลลูกจุดโทษต่อฝรั่งเศส 3-4 (0-0)





Honours (เกียรติยศที่ได้รับ)
Team
Serie A Champion (Scudetto): 1995, 1996
Italian Cup (Coppa Italia): 1995
UEFA Cup: 1993

Individual
European Footballer of the Year (Ballon d'Or/Golden Ball): 1993
FIFA World Player of the Year: 1993
World Footballer of the Year: 1993
Platinum Football award by TV Sorrisi and Canzoni: 1992
Onze D'Or by French Magazine 'Onze': 1993
Bravo award with Fiorentina: 1990
Golden Guerin with Vicenza: 1985
Golden Guerin with AC Milan: 1996
Golden Guerin with Brescia: 2001
Azzuri Team of The Century: 2000
FIFA Dream Team of All-Time: 2002
'Most Loved Player' Award via Internet Polls: 2001
'Most Loved Player' Award at the Italian Oscars: 2002
FIFA 100: 2004
Giuseppe Prisco award: 2004
The Champions Promenade - Golden Foot 2003
considered by 'UEFA' as one of the 50 Best European Players (held in celebration of UEFA's 50th anniversary)
considered by 'World Soccer' as one of the 100 Greatest Footballers
considered by 'France Football' as one of the Football Player of the Century
Guerin's Sportivo 150 Grandi del Secolo
Placar's 100 Craques do Seculo
Planète Foot's 50 Meilleurs Joueurs du Monde
Italy All-time XI by Football Italia
Juventus All-time XI by Football Italia

Goals
205 goals in Serie A
318 goals in career
76 goals from 91 penalties (best all time record in Italy)
32 goals in European competition
27 goals in National competition
9 goals in World Cup (Italia 90, USA 94, France 98)




เกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับบักโจ้
บักโจ้เป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งคัดเมื่อกระทำพุทธภาวนาถึงวันละ 3 วัน




ที่มา: //en.wikipedia.org + หนังสือ 100 นักเตะเอกของโลก




แค่ด้านหลังก็เท่ห์แล้วสำหรับ "เทพบุตรเปียทองคำ" อย่างโรแบร์โต้ บักโจ้



กับช๊อตพลาดในการยิงจุดโทษในรอบชิงฟุตบอลโลกปี 1994



ยืนกอดคอเศร้ากับฟรังโก บาเรซี (กัปตันทีม)



เริ่มโดดเด่นในสมัยค้าแข้งให้ฟิออเรนติน่า



โด่งดังสุดขีดในช่วงที่ย้ายมาร่วมทีมยูเวนตุสโดยได้รางวัลบัลลงดอร์ในปี 1993



เมื่อครั้งประทับรอยจูบลงบนถ้วยยูฟ่า คัพในปี 1993 เมื่อพายูเวนตุสถล่มโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ไป 6-1 (เหย้า/เยือน)



ย้ายมาเล่นให้คู่อริอย่างเอซี มิลานและพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ในฤดูกาลแรกเลย



แม้จะเล่นกับทีมเล็กๆอย่างโบโลญญ่า บักโจ้ก็ยังคงทำผลงานได้ดีเสมอ



สมัยย้ายมาเล่นให้อินเตอร์ มิลานก็เคยจับคู่กับโล้นทองคำมาแล้ว...สรุปเคยค้าแข้งให้ 3 ทีมใหญ่ในอิตาลีมาหมด



กับเบรสชาสโมสรสุดท้ายในชีวิตกับค้าแข้ง



แม้จะเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้วแต่โรบีก็ยังคงเป็นขวัญใจของแฟนบอลชาวอิตาลีอยู่ตลอดเวลา







Create Date : 22 พฤษภาคม 2550
Last Update : 2 มิถุนายน 2550 22:10:28 น. 20 comments
Counter : 1774 Pageviews.

 
กรี๊ด ต้องเซฟ อย่างนี้มีเซฟ


โดย: i am tabo วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:08:48 น.  

 
วีรบุรุษของผม


โดย: ชินคุง IP: 202.28.179.3 วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:38:27 น.  

 
เนื้อหาดีครับ..

โทษครับ ...อิตาลีตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในบอลโลก 2002 ครับ


โดย: Nut IP: 58.9.83.216 วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:38:32 น.  

 
จัดการแก้ไขให้แล้วครับ ขอบคุณที่เตือน


โดย: สายฟ้าสีเพลิง วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:11:30 น.  

 
ชอบอ่านประวัตินักฟุตบอลรุ่นเก่าๆอ่า
เพราะดูไม่ทัน

ถ้าว่างแปลมาอีกนะคะ จะรอ


โดย: โยฮัน~ครับ เอฟซี IP: 124.120.170.5 วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:52:46 น.  

 
แวะมาเม้น โทดนะคะ ไม่รุจัก - -*


โดย: wai_waaii_k IP: 203.113.38.8 วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:41:11 น.  

 
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก

Roberto Baggio!!!!!!!!!!!!!


โดย: Finnegan 'Finn' Bell IP: 203.154.83.229 วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:23:16 น.  

 
เข้ามาเพราะ บักโจ้ เลยขวัญใจ


โดย: โยฮัน~ครับ วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:54:29 น.  

 
โอเค ผ่าน สีตัวหนังสือไม่ทำให้ตาบอดสี

โอย โอย พี่บักกกกกกกกก

สุด สุด ยอดดดดดดนะคร้าบบบบบ!!!!!!!


โดย: Finnegan 'Finn' Bell วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:11:05:48 น.  

 


โดย: ohm IP: 58.8.83.20 วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:37:43 น.  

 
เทพบุตรเปียทองคำ
สุภาพบุรุษลูกหนัง
จะหาคำใดมาเปรียบเปรยดีนะ
ขวัญใจตลอดกาล................Roby Baggio
(อยากให้มัตเตีย ติดทีมชาติจัง อิอิ)


โดย: Roby Jr. IP: 124.121.22.220 วันที่: 22 เมษายน 2551 เวลา:2:43:48 น.  

 
สุดยอดHeroตลอดกาล ใครเป็นแฟนพันธ์แท้BAGGIO ขอแบบตัวจริงเลย
โทรมาคุยกันหน่อยครับ 0841667528 หรือ otto_baggio@hotmail.com


โดย: otto_baggio IP: 58.10.192.166 วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:8:28:20 น.  

 
สุดที่รักของเราเลยล่ะ


โดย: สุนทรี IP: 118.173.32.49 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:2:43:07 น.  

 
สิบสามปีแล้วครับที่เปนแฟนบอลอิตาลี่คือที่หนึ่งในดวงใจเเละตลอดไป ถ้ามีลูกชายจะตั้
งชื่อลูกว่าอัซซูรี่แน่นอน


โดย: ไหม IP: 58.10.143.233 วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:16:24:35 น.  

 
ฉายาเทพบุตรลูกหนัง "โรแบร์โต้ บักโจ้" ไม่ต้องบรรยายว่าเขาเคยเป็นสุดยอดนัดกเตะที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกที่เคยมีมา
" โรบี้ บักโจ้ "


โดย: lotto IP: 124.121.183.12 วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:23:26:15 น.  

 
โรบี้ เป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ผมชอบและหันมาดูฟุตบอลครับ และทุกๆวันนี้ โรบี้ก็เป็น 1 ในดวงใจ


โดย: Love IP: 124.120.68.101 วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:18:01:27 น.  

 
อยากได้wallpaper Baggio .ใครมีช่วยส่งหน่อยอยากได้จังอ่ะ auttodesu@live.com


โดย: auttodesu IP: 110.49.136.42 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:41:28 น.  

 
รักนะจุ๊บๆ ไอดอนของผม


โดย: wer IP: 119.31.34.76 วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:22:29:10 น.  

 
รักนะจุ๊บๆ ไอดอนของผม


โดย: wer IP: 119.31.34.76 วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:22:30:21 น.  

 
เชน ชอบมากๆ บักโจ้ ทีมชาติอิตาลีหนึ่งในดวงใจ


โดย: ราชันย์ IP: 124.120.179.43 วันที่: 1 สิงหาคม 2556 เวลา:12:42:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สายฟ้าสีเพลิง
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Emo น้องลิง
Emo หัวหอม
Emo เหลืองดุ๊กดิ๊ก
X
X
X
Friends' blogs
[Add สายฟ้าสีเพลิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.