พฤศจิกายน 2551

 
 
 
 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
 
 
13 พฤศจิกายน 2551
ตามรอยพระพุทธบาท ๑

หลังจากอิ่มเอิบกับแสงเช้า และวิวบนชั้นสูงสุดของบุโรพุทโธพอควรแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องเวียนไปชมจุดอื่นๆ บ้าง

ก่อนอื่นเลย ไม่รู้จะจำกันได้รึเปล่าว่า... ตอนที่แล้วอิชั้นได้เล่าให้ฟังว่า บุโรพุทโธแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ

ส่วนแรก กามธาตุ "โลกแห่งกิเลส" หรือ ส่วนฐานของบุโรพุทโธ
แต่มีความเหมือนกันตรงที่พยายามสะท้อนให้เห็นถึงกฎแห่งกรรม บาป บุญ คุณ โทษ เช่น ความสุขบนสรวงสวรรค์ ภาพความเจ็บปวดของผู้ลงนรก ภาพชีวิตประจำวันของผู้คน วัฏสังสารของการเวียนว่ายตายเกิด ฯลฯ ประกอบด้วยกำแพงหินแกะสลักเป็นภาพนูนต่ำ ประมาณ 160 รูป ภาพแต่ละภาพไม่ได้มีความต่อเนื่องกัน




ภาพชีวิตประจำวันของผู้คนที่ฐานของบุโรพุทโธ (ซ้าย) และภาพนางอัปรา (ขวา)






อันนี้เป็นท่อระบายน้ำค่ะ เป็นรูปคนแคระแบกตัวอะไรก็ม่ายรู้ค่ะ เป็นตัวม-กร หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ คือ เคยอ่านเจอ..แต่กลับมาแล้วหาไม่เจอว่าอ่านจากที่ไหนค่ะ คือถ้าใครเคยไปเสียมเรียบคงเคยเห็น "หน้ากาล" นะคะ นั่นแหละตัวคล้ายๆ กัน แต่ไม่มีริมฝีปากล่างค่ะ


ส่วนที่ 2 รูปธาตุ หรือชั้นที่ 1-4
ประกอบด้วยระเบียงที่มีฐานเป็นรูปหกเหลี่ยมซ้อนขึ้นไปเป็นชั้นๆ ลดหลั่นระดับกันไป แต่ละชั้นมีทางเดินล้อมรอบ
กำแพงของทางเดินทั้งสองฝั่งแกะสลักเป็นภาพพุทธประวัติตามคัมภีร์ลิลิตวิสูตรและนิทานชาดก ประมาณพระเจ้าสิบชาติในบ้านเราน่ะค่ะ

นอกจากนี้ ที่ระเบียงของแต่ละชั้นยังก่อเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปภายในทั้ง ๔ ทิศ คือ

ซุ้มทางทิศตะวันออก พระอักโษภยะ ปางมารวิชัย
ซุ้มทางทิศใต้ มีพระรัตนภวะสัมภ ปางประทานพร
ซุ้มทางทิศตะวันตก พระอมิตาภะ ปางสมาธิ
ซุ้มทางทิศเหนือ พระอโมสิทธะ ปางประทานอภัย



พระพุทธรูปปางมารวิชัยค่ะ เป็นปางที่เมื่อพระพุทธเจ้านั่งสมาธิ แล้วมีมารผจญ แต่สุดท้ายก็สามารถชนะมารได้ค่ะ




พระพุทธรูปปางประทานพรค่ะ "ขอให้ท่านประทานพรให้พวกเราทุกคนมีแต่ความสุขนะคะ"




พระพุทธรูปปางประทานอภัย ดูพระพักตร์แล้วสงบดีจังนะ



ถัดจากชั้นฐาน ต้องขึ้นบันไดมาระเบียงชั้นที่ 1
แนะนำให้ขึ้นบันไดทางทิศตะวันออกค่ะ และเดินเวียนตามเข็มนาฬิกาค่ะ อันนี้สำคัญนะคะ เพราะไม่งั้นภาพจะไม่เรียง และจะงงค่ะ เพราะงงมาแล้วค้า....



สิงห์เฝ้าทางขึ้นบุโรพุทโธ หน้าตาน่ารักทีเดียว


ระเบียงชั้นที่ 1 ผนังด้านในประกอบด้วยภาพสลักซ้อนกันเป็น 2 แนว ภาพแนวบนเป็นภาพเล่าเรื่องพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติจนถึงภาพปฐมเทศนา
ส่วนภาพแนวล่างเป็นเรื่องชาดกและนิยายอวตาร หรือ ภาพเล่าเรื่องชีวิตของพระพุทธเจ้าก่อนที่จะมาประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะนั่นเองค่ะ...

ตัดฉาก... มาเป็นเล่าด้วยภาพดีกว่าค่ะ...
เพราะอิชั้นว่า ชั้นนี้น่าสนใจที่สุดในบรรดา 4 ชั้น ด้วยเป็นชั้นที่พวกเราพุทธแบบเถรวาทดูแล้วเข้าใจมากที่สุดค่ะ



พระนางมายาพระมารดาของเจ้าชายสิทธัตถะขณะกำลังทรงพระครรภ์นั่งรถม้าเพื่อเสด็จไปยังสวนลุมพินี





ระหว่างทางเสด็จ ก็ยืนประสูติเจ้าชายสิทธัตถะใต้ต้นสาละ
ดูดีๆ นะคะ จะเห็นเจ้าชายสิทธัตถะเดินอยู่บนดอกบัว 7 ดอกด้วยค่ะ...



ที่ภาพนี้มีเรื่องตลก คือ ระหว่างยืนดูรูปอยู่ ก็เห็นไกด์ชาวอินโดนีเซียพาฝรั่งมา 2 คน แล้วอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ (คือแอบฟังเค้านะค่ะ เผื่อจะรู้เยอะขึ้นมั่ง) แปลเป็นความได้ว่า....

ไกด์.... "พระนางมายาซึ่งเป็นพระมารดาของพระพุทธเจ้ายืนประสูติพระพุทธเจ้าที่ใต้ต้นสาละ"
ฝรั่ง..... "เอ๊ะ! ตกลงพระพุทธเจ้านี่มีตัวตน และเป็นคนจริงๆ เหรอ?"
ไกด์.... "ใช่.. นี่งาย พอประสูติออกมาก็เดินได้เลย" พลางชี้เด็กในรูปให้ฝรั่งดู แล้วพูดต่อว่า
ไกด์.... "เป็น ราหุลกุมาร"

อิชั้น.... ฟังเพลินๆ อยู่ ... อึมม์.. กำลังเคลิบเคลิ้ม... แต่ "เอ๊ะ! เอ๊ะ! อาบังอีมั่วนี่หว่า... "





เจ้าชายสิทธัตถะตอนที่ยังไม่ทรงผนวช และยังอยู่ในวังค่ะ

คือ ตอนประสูติโหรทำนายว่า... พระพุทธเจ้าถ้าเป็นกษัตริย์ก็จะเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ใหญ่กว่าพระบิดาซะอีก แต่ถ้าได้ออกไปใช้ชีวิตนอกวัง ก็จะเป็นนักบวชที่เกรียงไกรทำนองนี่ล่ะค่ะ
พระบิดาก็อยากให้เจ้าชายสิทธัตถะทรงเป็นกษัตริย์สืบต่อจากพระองค์ไงคะ... ก็เลยพยายามปรนเปรอชีวิตในวังให้มีความสุขแบบสุดๆ มีทั้งดนตรี ร่ายรำ ฯลฯ อย่างในรูปนี่ล่ะค่ะ



เจ้าชายสิทธัตถะขณะอยู่ในวัง





เจ้าชายสิทธัตถะขณะอยู่ในวัง



แต่มาวันหนึ่ง.. เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จไปยังสวนลุมพินี (คนละสวนลุมฯ กับแถวๆ สีลมนะค้า)



เจ้าชายสิทธัตถะระหว่างทางเสด็จไปสวนลุมพินี


ระหว่างทางก็พบเห็น คนแก่ คนเจ็บ คนแก่ และคนตาย ทำให้ทรงตระหนักถึง "ความทุกข์" ของประชาชน
และรู้สึกเบื่อชีวิตแสนสุขในวังอย่างสุดๆ คืนวันหนึ่งก็ตัดสินใจออกจากวังไปแสวงหาทางพ้นทุกข์ค่ะ



เจ้าชายสิทธัตถะปลดมงกฎออก และปลงผมเพื่อบำเพ็ญตนเป็นฤาษี


หลังจากนั้นพระองค์ก็บำเพ็ญทุกรกิริยาอย่างเคร่งครัด แต่สุดท้ายก็พบว่า นี่ไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์ จึงเปลี่ยนมาบำเพ็ญเพียรโดยการนั่งสมาธิแทน



นั่งสมาธิ...




นั่งสมาธิ...

จนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ก็ทรงตรัสรู้ และพบหนทางพ้นทุกข์



หลังจากตรัสรู้...พระพุทธเจ้าเสด็จมาอาบน้ำที่แม่น้ำเนรัญชราค้า....


แล้ว...พระพุทธเจ้าก็เสด็จมาพบปัจจวัคคีทั้ง 5 และทรงแสดงปฐมเทศนา



ตะแรกที่พบปัจจวัคคี ท่านทั้ง 5 ก็มิได้สนใจฟังคำเทศนาของพระพุทธเจ้าหรอกค้า...
ดูจากรูปซิคะ บ้างก็ทำสีหน้าเบื่อหน่าย บ้างก็หันมาคุยกันซะงั้น....

ที่ภาพนี้ก็มีเรื่องขำๆ อีกแล้วค่ะ เพราะน้องที่ไปในเวลาใกล้กันเล่าว่า... ไกด์บอกว่าปัจจวัคคีน่ะมี 7 คนค้า...




ภาพสุดท้ายค่ะ... เป็นภาพนางสุชาดาถวายข้าวมธุปายาสแด่พระพุทธเจ้าค่ะ


จบระเบียงชั้นที่ 1 ค่ะ ส่วนของอรูปธาตุยังไม่จบค่ะ

แต่หมดเวลาฝอยซะละ คราวหน้ามาต่อที่ระเบียงชั้นที่ 2 นะคะ....






Create Date : 13 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2551 11:39:15 น.
Counter : 563 Pageviews.

1 comments
  
ขอบคุณมาก ๆ ได้ความรู้ดีค่ะ เข้าใจถ่ายภาพแล้วบรรยายเป็นตอน ๆ นะคะ
โดย: รัชชึ่ (รัชชี่ ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:21:40 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sea Sand n Star
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]