|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
O โคลงนิราศชุมพร O
. . ========================== พระพิพิธสาลี ==========================
โคลงนิราศชุมพร ๏ ศรีอยุธยนิเวศไท้ ทรงทศ ธรรมแฮ ปราบอรินทร์ยาวยศ ยิ่งหล้า กฤษดาญสุดโสฬศ เลืองโลกย์ พระเกียรติขจรจบฟ้า ฟากฟุ้งแดนดิน ฯ ๏ วิษณุบรเมศไท้ ธราธาร ท่านฤๅ พรหเมศรังสฤษดิดาล แหล่งหล้า แมนสรวงสุรพิมาน เมรุมาศ ไตรยเทพหากชลอฟ้า เลื่อนให้ลงดิน ฯ ๏ ปราการปรากฏเพี้ยง อำพน ดุจศิขรมณฑล เขื่อนขั้น คูขอบพิศาลกล อรรณเวศ ดูพิลึกเกือบกั้น อยู่เพี้ยงจักรพาฬ ฯ ๏ จรรเทินรายรอบป้อม ปืนตรา ตระหง่านเรือนรบดา สระหล้าง นางจรัลจรอกรัถยา ยศยิ่ง โดรณรดาหอห้าง เศิกเสี้ยนสยบสยอง ฯ ๏ ปราสาทโสภาคยผ้าง พรหมินทร์ เมิลพิมานเมืองอินทร์ อบแก้ว ดุจปีกกวักกวายบิน ลมเลื่อน อยู่นา แสงส่องจำรัสแผ้ว พุ่งพ้นทินกร ฯ ๏ เสาโสมสวมมาศไล้ เลอแสง บันเขบ็จชรแชรง ช่อฟ้า ครงครีครีบครุฑแครง ทวยทาบ บานประทุมกระหลับหน้า สี่เกล้าเงยงาม ฯ ๏ โพรงพรายจัตุรมุขหว้าย เวหน เวหาศบัญชรยล เยี่ยมฟ้า เจียระไนจระนำกล เก็จมาศ บานเบิกรจเรขหน้า หล่อเหลื้อมทองทอ ฯ ๏ มุขเด็จดูดิเรกห้อง ระหงฉาย พิศพิมานอินทร์อาย อาสน์ฟ้า บุษบกพิพิธพราย ไพโรจน์ ดุจอาสน์กัมพลถ้า ออกท้าวแขกขาม ฯ ๏ จัตุรงค์พิริยราชร้า สงคราม เอาอรินทรเข็ญขาม ทั่วท้าว พลพฤนท์พ่างพลราม รอยราพณ์ ตนละตนอาจห้าว ไล่ล้างดัสกร ฯ ๏ กระเกริกไกรเกียรติท้าว ทุกเมือง หยอนพระยศรณเรือง รุ่งเร้า บรรณนิตย์นองเนือง มานอบ ขออยู่เคียมคุมเค้า คู่ด้วยโดยใจ ฯ ๏ เรืองศาสน์พระศากยะสร้อย สุทธศรี เรืองสถูปรัตนเจดีย์ โด่งฟ้า เรืองรองพระธาตุตรี ไตรโลกย์ เรืองรสธรรมแจกหล้า เลื่อมให้เห็นสวรรค์ ฯ ๏ เกษมสุขทุกราษฎร์แม้น เมืองอินทร์ สาวบ่าวเมากามยิน แช่มช้อย สายัณห์ร่ายเพลงพิณ ปากผิ่ว โนนาดกรีดกรายก้อย ม่ายคิ้วเคียงคม ฯ ๏ ครื้นเครงมหรสพซ้อง ทุกภาย ชัวชื่นทุกหญิงชาย ทั่วหน้า พรรษาน่านนองถวาย กทงทีป เทียนนา เป็นที่ดำเลิงหล้า อยู่เที้ยรนิจกาล ฯ ๏ ร่ำปางพิโยคเนื้อ นงลักษณ์ พี่เอย บเริ่มเรียมแรมรัก ห่างห้อง กำโบลแนบแนมพักตร์ พูนเทวษ กำสรดแสนสวาดิน้อง แนบไว้กับทรวง ฯ ๏ สงสารสาโรชสร้อย ศรีสมร ขวัญแม่เคยแนบนอน แนบเนื้อ จักพรากอุรารอน เรียมสวาดิ โอ้จักเย็นอกเรื้อ อยู่ร้างแรมปี ฯ ๏ อาวรณ์โฉมแม่ร้อย รำพึง อกพี่เพียงปืนตรึง ตราดต้อง อาลัยตกจรลึง ขวัญฝ่อ ราแม่ ใจบ่เป็นใจหว้อง หว่าดิ้นแดโดย ฯ ๏ จักบำราศแม่แม้ ตัวตาย เยียอยู่ใยเป็นกาย ก่อสร้าง ดวงเดียวสุดเสียดาย ดวงสวาดิ พี่เอย บุญก่อกรรมใดมล้าง จากเจ้าจำไกล ฯ ๏ จักขืนจักขัดไว้ ฤๅทาน ดินท่านหนาหนักปาน แผ่นฟ้า จักไกลนุชเลวลาญ ลับเนตร จำจากจำเนียรหน้า แม่หน้าเอ็นดู ฯ ๏ ซบพักตร์กระซิกไห้ ฟูมฟาย ชลเนตรคือชาดลาย เลือดย้อม ทุกข์ทับสุดทรงกาย อกพี่ ราแม่ ดุจหนึ่งเขาแสนอ้อม โอบซ้อนทรวงเรียม ฯ ๏ จุมพิตพิศวาสน้อง ลาโลม ปลอบนุชพลางถนอมโฉม ซ่อนชู้ ตระกองปิยุทร์ตระโบม บัวมาศ สอนแม่สอนใจสู้ สั่งสิ้นทุกอัน ฯ ๏ ลาลงนาเวศหว้อง เวียนตา หวิวหว่างวิงวิญญา ด่าวดิ้น เหลียวหลังสั่งนุชอา ดูรเทวษ ใจจักขาดพันชิ้น เด็ดด้วยอาลัย ฯ ๏ เรือถอยจากท่าน้ำ ตาพราย ท่าแม่เคยสนานกาย ห่อนเว้น ขอฝากช่วยปรามสาย สมรมิ่ง เรียมนา เยียอย่าลงหลงเหล้น เงือกร้ายเรียมกลัว ฯ ๏ โอ้ดวงปิยุทร์ยั่วแย้ม ย่ำยาม กูเอย จำวิโยคสุขสนาม สุดไส้ คำนึงนุชโฉมกาม กมเลศ อกพี่ทนเทวษไหม้ รุ่มร้อนฤๅวาย ฯ ๏ มาถึงตำหนักน้ำ ฉนวนสินธุ์ เสมออาสน์กัมพลอินทร์ ฝ่ายฟ้า แซ่เสียงสุรางค์ยิน รมเยศ ท่านนา หน้าพี่ดูทุกหน้า ใช่หน้านวลสมร ฯ ๏ หลัดหลัดมาลุด้าว อาราม วัดแจ้งแจ้งเจ็บกาม โศกสร้อย อกเรียมยิ่งไฟลาม ลำลาบ พระเอย วัดแจ้งวัจนาหน้อย แก่น้องนางเฉลย ฯ ๏ ปากคลองไป่ปากรู้ พาที หูบ่มีอินทรีย์ สอดรู้ กำสรดช่วยปรานี เรียมร่ำ ลาแม่ แหวกละเวิกวนหวู้ หว่าด้วยเรียมมา ฯ ๏ บางกอกกอกเลือดซ้ำ หนองใน แลฤๅ กอกย่อมรักษาใคร ทั่วเท้า อกเรียมชอกตับไต บวมบ่ง วานกอกกอกหนองเหน้า ช่วยให้เรียมคลาย ฯ ๏ มาลุวัดเลียบแล้ว วันทา แลเลียบทุกหนหา ร่วมรู้ ตาแลสุดสายตา จักขาด แลแม่ เรียมบ่พานโฉมชู้ เลียบเต้ามาตาม ฯ ๏ ตีนเลนรอยแม่เต้า ตีนตาม หวังว่าตีนสาวกาม พี่ไห้ ตีนเลนใช่เชิงทราม สวัสดิ์สวาดิ กูเอย มือลูบอกละไล้ อยู่แล้ลาญทรวง ฯ ๏ ตีนเล่นไป่ย่างได้ ยังตาม ตีนแม่พะงางาม ห่อนเต้า ตีนเลนแล่นอกหวาม ใจหว่า แลแม่ ตามส่งเรียมพลอยเศร้า อยู่เหยี้ยมสายชล ฯ ๏ ถึงสาวปลื้มพี่ปล้ำ ปลอบใจ ปลอบประโลมอาลัย คะค้อย สาวปลื้มห่อนเห็นไฉน ราแม่ ปลื้มแต่นามละห้อย ห่อนปลื้มใจเรียม ฯ ๏ สาวปลื้มฤๅเปล่าปลื้ม อาลัย ปลื้มจิตฤๅปลอบใจ พี่เศร้า จากมาเจ็บเจียรไกล ใครกล่อม จักประโลมใจเจ้า พี่ปลื้มอารมณ์ ฯ ๏ สามเพ็งเพ็งพักตร์เพี้ยง ดวงเดือน แม่ฤๅ แขแข่งคิงคมเหมือน แว่นฟ้า รำลึกเกลื่อนใจเตือน ดาลตื่น เพ็งว่าเพ็งพักตร์หน้า แม่หน้านวลจันทร์ ฯ ๏ ฉางพริกชุมพริกร้อน ระลุงลวง แผดเผ็ดกำเดาดวง ผ่าวพ้น ไฟกามกลัดกลางทรวง เจียวจี่ ร้อนยิ่งพิษพริกต้น ลวกไส้เรียมแรง ฯ ๏ ฉางเกลือเกลือนิ่งแกล้ง ดูดาย ใดเน่ารำหัดหาย ช่วยได้ ขอเกลือช่วยระมัดสาย สวาดิพี่ หนึ่งนา วานสมานสมรรักษ์ไว้ รักเจ้าฤๅจาง ฯ ๏ คลังฝางฝางสดไซ้ ฤๅแสง สายเนตรเรียมเดือดแดง เลือดช้ำ น้ำตาตกรินแรง โรยร่วง ลงนา ยิ่งกว่าสีฝางขร้ำ เนตรขร้ำตาเรียม ฯ ๏ เยียมามาลุแล้ว คลังฝาง ฝางบ่สุกเลยจาง จากเจ้า บำราศนุชมาทาง ทุกข์ทอด ใจนา เรียมโศกฝางพลอยเศร้า เสื่อมเศร้าศรีหมอง ฯ ๏ เรือมาหลัดลุน้ำ วงชล น้ำบ่เวียนเรียมวน สวาดิน้อง ปรานีนุชเนาหน หลังพี่ ราแม่ ดูจักปิดหับห้อง อยู่ให้หาเรียม ฯ ๏ ถึงคามเขตคอกคุ้ม ขังควาย เห็นกระบือแปลงราย คอกล้อม เขาขังจักตัวตาย นอนตาก ตนนา ดุจพี่กรรมตามห้อม ห่างเจ้าจำแปลง ฯ ๏ ลิ่วลิ่วลำล่องคว้าง ควักแด กูเอย ควิวควิวลับคอกแคว ละห้อย ลุบางลำพูแล ลาญสวาดิ แลลับเลือดตาย้อย หยาดน้ำตานอง ฯ ๏ ลำภูลำภาคย์เพี้ยง นงพาล พี่เอย ใครช่างแหนมากาน ขวากล้อม อนาถแน่งนพมาลย์ สมรมิ่ง เรียมนา ใครจักหวงนุชห้อม จากแล้วจะระวัง ฯ ๏ ลำภูพิโดรดาษด้วย ดอกดวง กลกลิ่นมาลีพวง พู่ห้อย มือมาลย์แม่มาควง เคียงคู่ แขวนฤๅ แลละลุงลาญสร้อย พี่สร้อยโศกสมร ฯ ๏ กำสรดเสนาะน่านน้ำ ตาตก จรหลิ่งจรลึงอก ช่วยไห้ พฤกษาทาบทามทก โยนยอด เจ็บเพื่อจรเทินไหม้ แม่ร้างแรมเรียม ฯ ๏ เรียมรอคลอเคร่าน้อง ฤๅไคล เรือก็รอเอาใจ จอดเจ้า สาครบ่ไหลไหล ลาเลื่อน ทุกทั่วทิศาเศร้า โศกด้วยเรียมครวญ ฯ ๏ คลาคลานาเวศหว้าย ชลธี ตามกระแสสินธุ์ลี ลาศเต้า ดลดาวคะนองดี ดูหลาก ใจแม่ ตาวกับหมองศรีเศร้า พี่เศร้าใจถึง ฯ ๏ เยียมาบางโคล่แคล้ว คลาคลอง คลาคลาดสมรเรียมปอง คลาดแคล้ว ตาแลมุ่งเมิลมอง หนแห่ง โคล่แม่มาแจ้วแจ้ว จากเจ้าขอเห็น ฯ ๏ ลงลุอาวาสไหว้ วังพระ นามราชบุรณะ ท่านสร้าง พระเอยช่วยเผด็จสระ สรงโศก หนึ่งนา ขอส่วนบูรณะก้าง ก่อให้พูนเกษม ฯ ๏ อาสูรเสาวภาคย์เพี้ยง พิมพ์จันทร์ แม่เอย เคยพี่รับขวัญขวัญ อยู่เหย้า จากมาคิดคืนวัน ทุกทุ่ม ใครจักรับขวัญเจ้า พี่ให้คลายใจ ฯ ๏ ถึงวัดดอกไม้พี่ หอมหา หอมกลิ่นกลอยมาลา รื่นเร้า รวยรวยรำเพยพา พูนสวาท กลกลิ่นรสคนธ์เจ้า พี่ต้องติดใจ ฯ ๏ มาลุปากลัดเลี้ยว จักจร ทางกลับกลายเป็นดอน ติดเต้า โอ้อกพี่อาทร ทุกข์ทุ่ม ทรวงนา เกลือกจักกลายใจเจ้า จากแล้วจักลืม ฯ ๏ ถึงลัดเรียกด่านให้ ขุนดู ด่านช่วยเล็งอกกู จากน้อง ไฟกามเฉกไฟฟู ไฟด่าน เดียวพ่อ ฆ้องเรียกดุจราคร้อง เรียกเจ้าในทรวง ฯ ๏ โอ้ศรีกุสุเมศสร้อย ศรีสมร โฉมแม่คืออัปสร แบ่งบั้น อินทร์หากพรากเรารอน ราญสวาดิ แม่ฤๅ ฤๅบาปสองมาซั้น เร่งร้างเราแรม ฯ ๏ คำนึงมาโนชน้อง ฤๅวาย โฉมนุชฤๅเห็นหาย แห่งห้อง ตากตนประดาษตาย ดีกว่า เป็นอย่าเป็นพรากน้อง ทุเรศร้อยเรียมตรอม ฯ ๏ จรลิ่วลาญลับแก้ว ตนกู โฉมชื่นกามมฤธู ซ่อนช้า บางยอยออกตู อกแตก แลแม่ เจ็บแผ่นดินเจ็บฟ้า เท่าด้วยฤๅทัน ฯ ๏ บางยอพิโยคเนื้อ นงแถง พี่เอย รักเร่งลรรลุงแล ลั่นไส้ รันทดระทวยแด ดวงสวาดิ ไฟราครุมทรวงไหม้ อยู่เพี้ยงไฟกัลป์ ฯ ๏ ดวงเดียวโฉมแม่แม้น ดวงเดือน เดือนค่ำเพ็งพิมพ์เหมือน หนุ่มเหน้า รำไพแกว่นกามเตือน ใจตื่น หลับแม่ เจียรจากจำเราเคล้า พี่เคล้าใครโลม ฯ ๏ เรียมมาบางรักเจ้า รำพึง รักบ่จางใจถึง แม่ไห้ บำนาศนุชมารึง สุดกู่ กูเอย เจ็บยิ่งหนามยอกไส้ เสียดร้อยรึงทรวง ฯ ๏ ถั่นถั่นเรือร่อนท้อง ชลธี ถึงช่องเรียกนนทรี หว่านไหว้ พระเอยรักษาศรี สงวนทรัพย์ ไฉนนา ขอฝากขุมรักไว้ รักเจ้าจงคง ฯ ๏ เยียมามาลุแล้ว บางเตย เตยบ่หอมระเหย อื่นอ้าง บารนีรักเรียมเอย เกรงกริ่ง ราแม่ เกลือกจักกลายรักร้าง แตกต้นเตยแกม ฯ ๏ ถึงศาลเทเวศไหว้ พระแผดง ขอเผด็จทุกข์แทง เท่าฟ้า พระเอยสิทธิคุณแรง เร็วช่วย คืนควบพลันเห็นหน้า นิ่มน้องยาใจ ฯ ๏ พระแผดงผดุงประดิษฐ์ตั้ง สารบาญ เชิญช่วยจำจดจาร เทวษไว้ รายเรียมจากยุพมาลย์ มาโนช บวกบอกบาญชีได้ ทุกข์ร้อยรายทาง ฯ ๏ เยียมาลิวโลดเบื้อง บางสาน ถนัดหนึ่งสารพิศม์ลาญ ลวกไส้ เจียรจากวิมลมาลย์ มาโนช เสียวสมรเรียมไหม้ ยิ่งด้วยสารแสลง ฯ ๏ คูแหลมใครเซี่ยมสร้าง สรรค์คม เป็นประสิทธินิยม ตราบเท้า อกเรียมกลัดหนองกรม รักเร่ง รนนา วานช่วยสอยหนองเหน้า บ่งให้คลายใจ ฯ ๏ เดียวเด็ดประภาษโอ้ อาลัย ตัวพี่ไกลจากใจ อยู่เฝ้า น้ำตาถั่งแถวไหล พรึมเพรื่อ เทียรอกดินฟ้าเศร้า โศกด้วยเรียมมา ฯ ๏ เรือมาพิโยคน้ำ ชเลลง เรียมลุบางพระขนง เนตรน้อง สมบูรณ์บุษป์บัวบง กชมาศ กูเอย ขนงแม่ฤๅมาคล้อง เคลือบไว้เป็นนาม ฯ ๏ พระขนงขนงเนตรน้อง ไฉนนา ขนงแม่สุดหางตา เค่งค้อม โอ้ใครฉลาดฉลองมา เฉลิมเนตร เรียมฤๅ ขนงดุจขนงนางน้อม แนบหน้าเรียมชม ฯ ๏ บางผึ้งเห็นแผ่นผึ้ง ชุมรัง ผึ้งตื่นตัวตอมระวัง ต่างเต้น เสมออกพี่ระไวหวัง สายสวาดิ ราแม่ ใจบ่คงเซ้นเซ้น เท่าด้วยตัวตอม ฯ ๏ แลลานอเนกสร้อย สวนสรรพ์ หมากสุกสรงสีฉัน ชาดบ้าย พร้าวตาลตกเครือครัน ลำลาด แลชะลายยาบย้าย ยอดแย้มโบกใบ ฯ ๏ เห็นปรางเรียมระลึกแก้ม เปรมปราณ สวายสวาดิรสสวรรค์หวาน สุดไส้ รำลึกม่วงเจียรจาน นางแจก มือแม่ อร่อยรสฟ้าไล้ ซาบลิ้นฤๅลืม ฯ ๏ มลักสองฟากฝั่งสร้อย สนผกา โดรดอกดวงระดะตา ช่อช้อย ตระการรสรำพา ผายกลิ่น กลกลิ่นสมรเรียมหม้อย พี่กลั้วกลืนใจ ฯ ๏ รวยรวยรสมาศไม้ มาลา ลมเลวงหอมหา กลิ่นใกล้ โฉมกามแม่มาทา ธารเทียบ ไว้ฤๅ เสียวสมรแซบไส้ สั่นไส้ยรรยวน ฯ ๏ เรียมมาเยียย่อนไส้ ตับไต กามกระเวนหัวใจ แยบแย้า ระลึกแม่อาลัย ลิวโลด เข้าบ่เป็นคำเข้า แต่น้ำตากิน ฯ ๏ ดวงเดียวโฉมแม่ร้อย เรียมหา หาทั่วทิศพันตา ห่อนได้ มวยมาศมิ่งมาลา เฉลิมกลิ่น กูเอย ควรพี่กลืนสวาดิไว้ แห่งห้องในทรวง ฯ ๏ รักเรียมเรียมร่ำไห้ โหยหา น้ำเนตรเป็นเลือดตา ตกย้อย สรวงสรรพ์ทั่วเทพา เชิญช่วย คืนสู่สมสวาดิร้อย ชั่งเช้าเย็นชม ฯ ๏ จากมาอกพี่พ้น พรรณนา เจ็บยิ่งเจ็บแสนสา หัสไห้ บ่ลุแล่งอุระพา เทวภาคย์ เลยแม่ ภาคพี่รักเตรียกไว้ อยู่เคล้าฤๅคลาย ฯ ๏ บางนาทุเรศด้าว ดำบล เห็นระหัดหันชล อกช้ำ น้ำเนตรน่านนองทน เทวษดั่ง นี้นา วานรหัดวิดน้ำ เนตรหน้อยเอ็นดู ฯ ๏ บางวัววัวอาสน์ไท้ เถลิงองค์ ท่านฤๅ องค์อิศรยานยง ยาตรฟ้า ขอเดชพระดำรง ไตรโลกย์ เชิญช่วยพลันเห็นหน้า นิ่มเนื้อเรียมคะนึง ฯ ๏ ถึงสำโรงเรียกไม้ นามคาม ดุจหนึ่งสำโรงงาม แม่อ้าง รำลึกแม่โฉมกาม ฤๅห่อน เห็นเลย โอ้ว่าสำโรงถ้าง อยู่ถ้าใครลง ฯ ๏ สำโรงสำหรับบ้าน จำบาง ถนัดแนะลำเนาทาง จักเต้า สำโรงแม่รางชาง สักชั่ว ใดนา ไฉงว่าสำโรงเจ้า พี่เหล้นลงโรง ฯ ๏ มาจากสมรแม่ม้วย ไมตรี เรียมฤๅ เจ็บจากสุดแสนทวี เทวษไห้ ลุถึงจากแดงตี ทรวงท่าว ถึงนา จากก็แดงใบไหม้ จากเจ้าพลอยตรอม ฯ ๏ เรือมาบางชื่อบ้าน หัวเสือ ตระหนักตระหนกใจเผือ กระด้าง เรือรี่พี่รอเรือ ราเปล่า เอาแต่หัวเสืออ้าง ไขว่ให้เรียมกลัว ฯ ๏ หัวเสือสมมติให้ นามคาม ดุจหนึ่งเสือปากปาม ปีบได้ เสือเอยช่วยคำราม กำราบ รักนา เยียอย่าผีคนใกล้ นิ่มน้องมากลาย ฯ ๏ พิไรเรียมร่ำร้อย สงสาร ถึงสมุทรเมืองปราการ ท่านตั้ง มาโนชแน่งนงพาล พิมพ์โพธิ กูเอย ละพี่หัวใจขลั้ง กลัดกลุ้มกลางใจ ฯ ๏ เมืองสมุทรสมรรถสร้าง สิมา ท่านแฮ กรุงเทพทวารา เลิศแล้ว เกษมราษฎร์สุขสถา- พรภาพ อาวาสวังพระแพร้ว เพริศด้วยทองพราย ฯ ๏ เรียมยลทุกย่านน้ำ นองชล จบจลาดแถวถนน ย่านกว้าง สาวกามบ่ยวนยล ใจชื่น พี่แม่ รำลึกโฉมรักร้าง รักเจ้ารุมใจ ฯ ๏ เห็นเขาคือคู่เชื้อ ฝอยไฟ กามเลวงตับไต แล่นล้าว เจียรจากนุชมาไกล กลอยสวาดิ รันทดรันทวยอ้าว อกร้อนรุมรึง ฯ ๏ ลิ่วลิ่วลมว่าวหวู้ วายุพัด ชาวเพื่อนแพใบดัด ดาษฟ้า เลียวลอดรอกรึงรัด ระยางแย่ง โย่งนา พลันจากจำเนียรหน้า แม่หน้าบัวจันทร์ ฯ ๏ ลมลิ่วตรูตราดต้อง ตราใบ เรือเฉื่อยชมชเลชัย ชื่นช้า บงเนตรดัดดวงไถง สระคุ่ม บัดลุแหลมล่งฟ้า ฟากไม้ทิวทาง ฯ ๏ ถึงแหลมแหลมเรียกฟ้า ฟาดสาย แหลมล่มแหลกชำลาย ล่าวล้าง สาวสมุทรเลือดตากระจาย แสนเจ็บ ฤๅแม่ ฤๅเท่าขวานรักขว้าง ผ่าไส้ทรวงเรียม ฯ ๏ เยียมาลุปากน้ำ ชเลวน ปากบ่พูดจาจน จักพร้อง หวังวานช่วยทำงล เรียมบอก น้องนา น้ำท่วมปิดปากร้อง สั่งไว้ฤๅยิน ฯ ๏ ถับถึงหลังเต่าตั้ง เรียมฉงน ฉงายว่ากระดองกล เต่าแล้ว เต่าทองแม่ลงชล ชมช่อง ชเลฤๅ อ้าใช่ตัวเต่าแก้ว พี่เพี้ยนพึงอาย ฯ ๏ ดลตำบลเกาะแก้ว สีชัง เกาะย่อมรับเคราะห์ทัง ธเรศไว้ เกาะเอยอย่าเคียดรัง เกียจหน่อย หนึ่งนา รับเคราะห์เรียมฝากได้ ช่วยด้วยมีคุณ ฯ ๏ เห็นเขาสมมุขแม้น พิศวง ไฉงว่ามุขอนงค์วง แว่นแก้ว ธาดาสฤษฎิ์แปลงปลง มาเปลี่ยน ไว้ฤๅ สมมุขสมมติแล้ว ล่อให้เรียมชม ฯ ๏ เยียมามาลุแล้ว เกาะคราม ดุจหนึ่งสีอกกาม พี่ช้ำ เจ็บจากพะงางาม ลิวโลด อกพี่คือพรายย้ำ ยิ่งด้วยครามทา ฯ ๏ มุ่งเห็นเกาะไผ่พู้น เด็ดเดียว ไผ่บ่เขียวเรียมเขียว อกคล้ำ จากมารากแรงเจียว ทรวงจี่ เจ็บอุระเรียมช้ำ ชอกเนื้อในทรวง ฯ ๏ เกาะส้มนึกซ่มน้อง โอชา สอยใส่สอบฝากมา เมื่อไร้ ยามอยากหยิบจักยา ใจพี่ ราแม่ ส้มแม่หวานรสไล้ ระลึกลิ้นหวานเอง ฯ ๏ เรือเร็วมาล่วงแล้ว แหลมหลวง ดุจหนึ่งแหลมแทงทรวง เลือดย้อย โอ้ศรีสุดาดวง กมเลศ กูเอย เจ็บพี่ปานหอกร้อย ห่อนเจ้าเห็นใจ ฯ ๏ เจ้าลายลายมุ่งแหม้น ใจดล ดะฤๅ ลายผุดบอกตำบล ตกต้อง ปรานีอย่าอำอล รังเกียจ บอกบ่อนขุมรักน้อง แนะให้เรียมปลง ฯ ๏ บัดใบลมแล่นเลี้ยว ถึงปราณ ปราณพี่พัดลมฆาน ขัดข้อง ปราณแปรพิบัติดาล ดูหลาก ลางแม่ อกพี่คือปืนต้อง เร่งร้อนรุมทรวง ฯ ๏ กำสรดเสนาะเทพท้าว ทุกภาย รักช่วยบำรุงสาย สวาดิไว้ บำเรอร่ำร้องถวาย ทุกแห่ง ขอสมสมรเรียมได้ แนบแนื้อคืนสม ฯ ๏ มาถึงเกาะโขลกเหล้ หัวผี ผีบ่หลอกเลยตี โขลกให้ กลายกลับช่วยปรานี เรียมร่ำ ถึงนา โหดแต่ผีเพื่อนไร้ ช่างรู้กินแรง ฯ ๏ เยียมามาเกาะแก้ว นมสาว ดุจเกาะดวงนงจาว แจ่มเจ้า รำลึกฤดูหนาว นอนแนบ เรียมประจงจรดเต้า ติดไว้กับทรวง ฯ ๏ นมสาวสาวสวัสดิสร้อย สาวสวรรค์ แม่ฤๅ ถนัดนึกยุคลถัน หนุ่มเหน้า ปริยุทรเทพบัน- ดาลเดช ไฉนนา ดุจประทุมทิพย์เต้า เต่งให้เรียมชม ฯ ๏ ถึงสามร้อยยอดหย้าน เขาหลวง ยอดแยกดุจแยกทรวง บาปน้าว เจ็บจากระลุงลวง ลาญเทวษ ราแม่ อกยิ่งเขายอดร้าว แยกร้อยอกเรียม ฯ ๏ โอ้ดวงกมเลศแก้ว โกมล กูเอย เคยภู่พานเสาวคนธ์ ค่อยเคี้ย ตระบอกบุษป์ผกากล บานแบ่ง เรียมภิรมย์รสเกลี้ย กลิ่นเกล้ากำจร ฯ ๏ เรือมาโท่งโท่งท้อง ชลธี ถึงอ่าวเกลียวเรียมตี อกไห้ คำนึงมิ่งไมตรี รักร่วม ราแม่ เกลียวกล่อมกลืนสวาดิไว้ หนึ่งน้อยฤๅคลาย ฯ ๏ เยียมามองไล่แล้ว แลหา ถนัดแม่หมายมองมา ม่ายชู้ ตาติงบ่เต็มตา เรียมต่อ ตาแม่ มองไล่แลมองสู้ สวาดิเจ้าเรียมมอง ฯ ๏ อุตราตึงตื่นตั้ง พลพัด ใบโบกคันโดงทัด ท่านท้าน สาครคลื่นฟองฟัด ฟูมฝั่ง อกเรือรันทดร้าน ร่าวร้าวอกเรียม ฯ ๏ มาดลแดนเกาะเงี้ยว งูดง งูย่อมรัดสัตว์วง ติดต้อง จากมาแม่เลวองค์ อกเปล่า วานช่วยรัดรักน้อง แน่นไว้ฤๅวาง ฯ ๏ เกาะแรดแม้วแรดร้าย ดำเกิง เยียวว่าแรดพระเพลิง ท่านไซ้ ไฟพระเสด็จมาเถลิง หลังอาสน์ นั้นฤๅ เผาอุระเรียมไหม้ คู่ด้วยไฟกาม ฯ ๏ มาแรมทุเรศด้าว นางรมย์ เจียรจากเจ็บอกกรม สวาดิไหม้ โฉมกามชื่นกามชม เชยเปล่า ราแม่ นางร่วมภิรมย์ไร้ สว่างร้อนฤๅมี ฯ ๏ นางรมย์นางราศร้าง แรมสมร เจ็บจากนุชมานอน สั่นไส้ อกเรียมทุเรรอน รุมเทวษ นางรมย์รมย์พึงไหม้ เร่าร้อนอารมณ์ ฯ ๏ นางรมย์รมย์รักร้อย รมยา เรียมเอย รมเยศภิรมย์มา ราศร้าง รำลึกรสรมยกา มาแม่ ราแม่ นางใช่นางเรียมอ้าง อ่อนให้เรียมฉงน ฯ ๏ เยียมามาลุแล้ว หัววาน ถนัดหนึ่งวาฬไกรมาน ใช่น้อย วาฬวนอยู่เจียนกาล จำปาก คลองนา วานช่วยจำคำข้อย ข่าวน้องนางเฉลย ฯ ๏ ถึงเมืองประเทศร้าง แรมคน ขวัญแม่ขวัญเมืองทน เทวษร้าง บุรีราชจุมพล พงเปลี่ยว ไฉนนา เมืองก็โรยราชร้าง คู่ด้วยเรียมแรม ฯ ๏ เกาะพิงพิโยคน้อง มาทาง เรือร่อนแหวกวนวาง ผาดผ้าย ลมลงปีกโขดงกาง บินโบก ใบแฮ แลระลอกคล้ายคล้าย เกลื่อนกลุ้มผกาแจรง ฯ ๏ เกาะจานมาจวบเพี้ยน พิศฉงน ดุจดอกจานจงกล จาดแก้ว จานทองแม่นฤมล นฤมิต มาฤๅ นึกประเหลแคล้วแคล้ว คลับคล้ายจานงาม ฯ ๏ มาดลลุด้าวแม่ รำพึง เรียมร่ำพรรณนาถึง สุดอ้าง ร้อยรักแม่คำนึง คิดค่ำ คืนฤๅ โอ้แม่รำพึงร้าง พี่ร้อยรำพัน ฯ ๏ บางสะพานมาลุแล้ว ใจปอง เห็นแต่เตาคุมทอง บ่อนเบ้า สมบูรณ์นิ่มนวลละออง กมุทมาศ กูเอย ควรแต่ทองน้ำเก้า หล่อไว้ชมแทน ฯ ๏ บางสะพานพานพาดพื้น ทองดี ขุมขุดนิธีรี ร่อนร้าง ขุมทองแม่มังศรี เสาวภาคย์ เรียมเอย มาจากจำเนียรหว้าง ร่อนเนื้อนพคุณ ฯ ๏ บางสะพานขัวขุดข้าม เป็นทาง แสระสะพักกลบาง บ่อเหน้า แระริมร่องเป็นราง รอยร่อน ไฉงว่าขุมคำเจ้า พี่เพี้ยนพิศวง ฯ ๏ เห็นเขาชลุช่องชั้น ชำลาย ดุจหนึ่งอกเรียมสลาย รักน้อง นับวันทอดตนตาย ประดาษ เจ็บยิ่งพิษศรต้อง ชลุร้อยทรวงเรียม ฯ ๏ ม่านวังกลม่านน้อง นางวง ไว้ฤๅ บงบทจรอรองค์ แม่เต้า เกศกามแน่งนิศกลง กมเลศ วานแหวกวังม่านเจ้า พี่ให้ขอเห็น ฯ ๏ เยียมาดลฝั่งด้าว ดินแลง ดินบ่แดงอกแดง เลือดย้อย เจ็บจากทุราแรง แรมสวาดิ ราแม่ กำสรดสายตาห้อย สะอื้นอาดูร ฯ ๏ บางสนสนธเยศหย้ำ สนธยา สนส่งรำเพยมา คละคล้าย รำลึกรสมาลา เลวงกลิ่น เคยแม่รวยรสผ้าย ผาดให้เรียมเชย ฯ ๏ ถึงประทิวประเทศท้าว เวียงไชย เห็นแต่พฤกษ์ทิวไพร ลิ่วล้ำ ลันลุงย่อนตับไต จักแตก ราแม่ คลื่นก็ซัดลมซ้ำ อยู่สู้กลางชล ฯ ๏ ฉานฉานกระฉอกคลื่นขลั้ง ถลมดิน ฉ่าฉ่าสมุทรนองสินธุ์ เฟื่องฟื้น พลพยุพัดโพยมบิน เรือร่อน เสียงอ่าวโอดอกสะอื้น ช่วยไห้รักเรียม ฯ ๏ เปรี้ยงเปรี้ยงเสียงสนั่นฟ้า ตกเมรุ ผรัศสุรามสุเรนทร์ สาตรซ้อง สะเทือนธรณิศเอน อกโอฆ ราแม่ ฤๅเท่าอกเรียมร้อง เรียกเจ้าในใจ ฯ ๏ อ้าแม่แม้นแมกฟ้า เมขล กูเอย มาแม่มาตระเวนวน น่านน้ำ พระสมุทรพิมานมณ- ฑลเทพ ท่านนา เชิญช่วยชูอกปล้ำ ปลาศพ้นอาดูร ฯ ๏ เรียมเรียกทุกเทพไท้ ฤๅยิน พันเนตรทฤษฎีดิน โลกย์แล้ว พรหมอิศรโครวิน วรเวค ท่านนา พิษณุนอนนาคแผ้ว เพิกได้ฤๅฟัง ฯ ๏ ตนเดียวสันโดษท้อง ชลธี ไห้ร่ำศรีหาศรี สุดฟ้า พระใดบ่ปรานี เด็ดสวาดิ เรียมมา จำพี่ทุกข์เหลือหล้า แหลกหล้มลาญทรวง ฯ ๏ รำลึกโฉมแม่ไหน้ กับตา ตาพี่แลเห็นหา ห่อนเว้น กรรมใดแบ่งอกมา มาจาก ตัวจากใจเรียมเคล้น อยู่เคล้าฤๅคลาย ฯ ๏ ถึงเขาหมอนมาดแม้น หมอนทอง หมอนแม่เคยเขนยรอง รับชู้ ปานนี้นุชจักปอง เป็นเปล่า แลแม่ หมอนจักราแรมสู้ อยู่ถ้าเรียมนอน ฯ ๏ บรรจถรณ์นอนแนบเนื้อ เรียมเสบย เคยนุชแนบแนมเขนย อ่อนเอื้อ จากมานิราเชย ชมกลิ่น โอ้จักเย็นเยียบเนื้อ นิ่มน้องนอนเดียว ฯ ๏ กรรแจะขจรกลิ่นกลั้ว กลืนใจ จันทน์จรุงรำไพ รื่นเร้า โฉมฉมวิมลละไม ละมุนมาศ เรียมเอย จันทร์แม่วายว่างเศร้า อยู่แล้ใครทา ฯ ๏ เกศินีสีภู่แพร้ว ยุงพราย เคยกรีดกันไรราย เรียบเส้น เสนียดแหนบนุชฤๅวาย สักคาบ โอ้แต่จักว่างเว้น อยู่เศร้าศรีหมอง ฯ ๏ มลักเห็นนกชื่นชู้ ชายชเล ชายชลาลาดเท ท่าน้ำ นางนวลแนบโนเน แนมคู่ บ้างก็ปันรสกล้ำ ปากป้อนกันกิน ฯ ๏ ยลฝูงมยุรย่างเยื้อง เฉวียนฉวาง ชมคณานิกรนาง ฟ่ายฟ้อน โอ้ศรีสบูบาง แบบมาศ กูเอย เคยพี่ชมนุชอ้อน แม่แม้นมายูร ฯ ๏ กุโงกเงือกงั่วต้อย ติติรา ภูรโดกโคกม้ามา แมกไม้ จักโกระวาลา บุรบุ่น พิราบร่ำดุจเสียงไห้ พี่ไห้หาศรี ฯ ๏ กินปลีแปลกเปลี่ยนเปล้า แนมนวล ลมเล่นประโลมลวน คู่เคล้า เห็นนกภิรมย์ชวน ชายหาด แลแม่ เปล่าอุระเรียมเศร้า อยู่ดิ้นแดโดย ฯ ๏ ฝูงนกนกร่อนร้อง ริมชล นกว่ายเวหาหน แซ่ซ้อง นกเอยช่วยทำงล สารสั่ง น้องนา นกบ่ภาษาพร้อง พร่ำให้เรียมวอน ฯ ๏ จากมาตามืดหน้า มัวมนท์ เรียมร่ำทุกดำบล ย่านน้ำ น้ำตาตกเติมชล ชเลล่ม ลงนา อกพี่สุดอกค้ำ เทวษไว้ฤๅคง ฯ ๏ เรือมาเร็วร่อนท้อง สาชล วาฬว่ายเวียรวันวน คล่ำคล้าย ฝูงปลาตื่นตีตน ตามคลื่น โศกช่วยรักเรียมผ้าย อยู่เพี้ยงสงสาร ฯ ๏ ชเลชลาลึกร้อย รางวัด ปักป่วนเป็นฟองฟัด อ่าวอ้า สาครลั่นลมพัด เลือนลอก เสียงสมุทรตีอกบ้า เพื่อด้วยเรียมครวญ ฯ ๏ ถึงเกาะนิเวศท้าว องค์ใด ใดนิราศราไชย เปล่าว้าง เกาะเวียงวิเวกใจ ปลงเปลี่ยว เวียงก็แรมราชร้าง พี่ร้างแรมเรือน ฯ ๏ คลอนคลอนสุริเยศคล้อย รถทรง รีบอัศดรอัสดง เมฆไม้ มยุเรศกระโหยหงส์ หาคู่ เรียมก็โหยใจไห้ พร่ำไห้หาศรี ฯ ๏ เกาะโทนโทนถงาดเงื้อม ชลธี ดุจอกเรียมเลวลี ลาศเต้า โทนทางทุเรศศรี เสาวภาคย์ อกพี่ปานเขาเศร้า อยู่เว้กลางวน ฯ ๏ เกาะโทนโทนเทพถ้อง ดนตรี แม่ฤๅ โทนบ่ตีเรียมตี อกช้ำ เจ็บทรวงพี่พันทวี แสนเทวษ ราแม่ อกหนึ่งหนังขึงซ้ำ ท่อนไม้ตระบองโบย ฯ ๏ หนาวลมลมพัดพื้อ พาใบ ใบโบกกะทงโขดงไหว กวัดฟ้า ถึงเกาะเรียกนามไทร สุรเทพ สิงนา ถนัดพระไทรจอมหล้า ลอบให้สองสม ฯ ๏ พระไทรไกรเกียรติห้วง มหาสมุทร นี้ฤๅ อาจเอาอนิรุทธ์รุด สู่น้อง ปรานีอกเรียมทรุด ทรวงสวาดิ เชิญช่วยพาคืนห้อง แนบเนื้อนางนอน ฯ ๏ เรียมบวงทุกบ่อนเบื้อง บำรุง นบเทพสิทธิศักดิ์คุง ค่ำเช้า ขอเดชอดุลย์ผดุง ดับโศก พลันควบคืนสมเจ้า พี่น้องนางเดียว ฯ ๏ มาถึงประเทศด้าว ชุมพร ชุมแต่ทุกข์อาทร เท่าฟ้า ชุมพรช่วยอวยพร อกพี่ หนึ่งรา พรท่านขอเห็นหน้า แม่หน้อยเรียมตรอม ฯ ๏ ชุมพรคิดเมื่อแม้ ชุมพงศ์ ชุมแรกเราโรงลง อยู่เหย้า พรใดท่านอวยมง- คลคู่ กันนา ขอประสิทธิ์จงเจ้า พี่ได้คืนสม ฯ ๏ ลุเขตเขานกน้อย แรมรัง รังจักฟักฟองขัง ไข่ค้าง จอแจจับประนัง แนมคู่ ดุจหนึ่งอกเรียมร้าง นิราศห้องเคยนอน ฯ ๏ ไชยาไชเยศเชื้อ ชุมไชย ไชยสิทธิเกียรติไกร อาจอ้าง ขอเทพยสถิตใน ชนบท นี้นา อวยเดชดำเลิงมล้าง เผ่าผู้อาธรรม์ ฯ ๏ เรียมแรมทุเรศด้าว ลางสวน แสนสวาดิคำนึงนวล แน่งน้อง กุณฑ์กามระกำกวน ทรวงซูบ ราแม่ โหยระลึกหาห้อง อยู่เล้าเคยโลม ฯ ๏ ลางสวนสวนสวาดิสร้อย สวนสวรรค์ มาฤๅ ศรีสุพรรณทุกพรรณ มิ่งไม้ ดาษดวงพิโดรชัน ชูช่อ ฉมกลิ่นธารทิพย์ไล้ เฟื่องฟุ้งเสาวคนธ์ ฯ ๏ กำจรกระแจะกลิ่นแก้ว กำโบล แม่ฤๅ ดวงตระบอกบุษพิโดร ธูปต้อง อ้าอรผอูนโอน องค์อ่อน แม่เอย แก้มแม่ฤๅมาข้อง ค่าไม้หอมหวน ฯ ๏ มาลีพิลาสล้ำ มาลา มาลุลีลมพา รวดเร้า รวยรวยสุคนธา ธารกลิ่น การะเกดหอมกลเกล้า เกศน้องนางสยาย ฯ ๏ ลำดวนดอกดาษโอ้ อบอวล กลายกลิ่นนุชแนมนวล แนบชู้ กรรณิการ์พิกุลกวน ชวนชื่น หอมขจรรสรู้ กลิ่นแก้มมาแกม ฯ ๏ จำปีปรีเยศแย้ม ยมโดย สาวหยุดหยุดหาโหย กลิ่นน้อง จันจาอุไรโรย รสร่วง นางคลี่คลี่คลาช้อง ชื่นช้องนางคะนึง ฯ ๏ กาลากาลอดแก้ว กาหลง พุดจีบจำปาดง ดอกค้อม พยอมพิโยคประยงค์ ยวนกลิ่น ดุจกลิ่นศรีสไบย้อม ร่ำไห้เรียมมา ฯ ๏ นมสวรรค์สวัสดิ์สวาดิเพี้ยง พิศวง คิดประทุมบัวบง เติบเต้า แลลาญสมรหลง ลืมสวาดิ ไฉงนึกนมนุชเหน้า พี่เคลิ้มเห็นหา ฯ ๏ เล็บนางเฉกเล็บน้อง งามงอน เมื่อแม่บรรจงกร จุดจี้ คำนึงนุชยามนอน นอนเปล่า วานพิโดรดอกชี้ ช่วยให้หายคัน ฯ ๏ สุกรมภิรมย์รสเร้า รำพาย ลมเลวงอวลอาย อบฟุ้ง โฉมกามแม่เกลากาย กลอยกลิ่น มาฤๅ หอมสุกรมกรมสะดุ้ง ยั่วให้กรมใจ ฯ ๏ ศรกามแสนสาตร์ต้อง ตราทรวง พิศม์ระลุงลาญลวง หมื่นไหม้ ใดอาจจักยาดวง แดเดือด พี่แม่ ยาจักเสียวสวาดิได้ แต่น้องนางถนอม ฯ ๏ กลิ่นใดเชยชื่นช้อย ชูทราม สวาดินา ดุจกลิ่นพธูกาม ชื่นชู้ รสใดดุจรสความ รักร่วม กันแม่ รังรสอำมฤตย์รู้ อร่อยนั้นฤๅปาน ฯ ๏ โอ้ศรีสมรแม่แม้น สาวสวรรค์ ละพี่เดียวแดยัน ว่ายฟ้า ทรวงเรียมเรียกหาขวัญ แขวนสวาดิ ทุกข์ท่านทุกข์ไตรหล้า โลกย์นี้ใครเทียม ฯ ๏ รำลึกสาโรชสร้อย เสาวคนธ์ กูเอย เยียอยู่หนหลังทน เทวษเศร้า กามาวจรจล ใจมิ่ง แม่ฤๅ ดาลดึกดำฤษณ์เคล้า คลื่นไส้เรียมคลอน ฯ ๏ คำนึงมาโนชด้าว เดือนดึก เดือนบ่นึกเรียมนึก นิ่มน้อง ภิรามรักรัวรึก รมเยศ ไยแม่มามาจ้อง จิ่มฟ้าเฟือนจันทร์ ฯ ๏ อาลัยฤๅลุแล้ว คืนวัน หลับบ่หลับเลยฝัน คละคล้าย โกศกามขจรจันทร์ จรุงกลิ่น แม่ฤๅ หอมกลิ่นรสใดผ้าย พี่เพี้ยงผกากาม ฯ ๏ จรลิ่วลับแม่ม้วย มาไกล นับแต่เดือนดวงไถง ว่างว้า ตากตนแตกตับไต ฤๅต่อ ติดแม่ อกพี่ดุจตกฟ้า อยู่คว้างขวัญหาย ฯ ๏ แม้มีปีกกวักได้ บินบน จักเห็จจรหาวหน สู่ห้อง โฉมกามกอดกับตน ฤๅตาก ตนแม่ เจ็บพิโยคแนบน้อง อยู่โอ้อาดูร ฯ ๏ เรียมรักสุดที่อ้าง อุปมา แม่ฮา พันโอษฐ์อาจพรรณนา ห่อนแล้ว พันเนตรเลียบเล็งหา หายาก อรเอย แสนโศกเจียรจากแก้ว เท่าด้วยใครทัน ฯ ๏ อ้าแม่มาโนชน้อง นงกาม พี่เอย ดวงปิยุทรยำยาม ยาตรฟ้า เล็งโฉมแม่สบสาม ภพแผ่น ถึงฤๅ จากละคาบอกหล้า ล่มแล้ฤๅคง ฯ ๏ ดูเดือนเดือนบ่ได้ ดูดาว ดาวก็อับแสงสาว ส่องหล้า พิมลมุกด์แน่งนงจาว จอมสวาดิ พี่เอย ดูสิ่งใดดุจหน้า แม่หน้าดูตาง ฯ ๏ ดวงไถงแถงถงาดเงื้อม เมรู อรเอย ยูงย่อมชมเงาชู ชื่นหน้า เดือนดวงต่ายตามดู ลิวโลด ใจนา โฉมแม่สุดสายฟ้า ลับแล้วลาญสมร ฯ ๏ เมฆานฤโฆษผ้าง พิทยุต เทียรอกอากาศทรุด หลากหลั้น กามาภิราบุษป์ กาเมศ อรเอย ทรวงสวาดิเรียมครวญขรั้น ยิ่งฟ้าคะนองหาว ฯ ๏ โฉมฉมแลลับฟ้า สูริย์จันทร์ เรียมหว่าสวาดิแขวนขวัญ สุดอ้าง กระอืดอกกามศัลย์ ทรวงทรุด ราแม่ ดุจสุเมรุมาก้าง อยู่เพี้ยงตัวตาย ฯ ๏ ราตรีมือมุ่นผ้า ปานองค์ เอากระเหน็ดนอนหลง กอดเกื้อ ยามเดือนดึกอัสดง ดาลตื่น กรตระกองแนบเนื้อ นึกหน้าแนมนอน ฯ ๏ คำนึงนรลักษณ์แก้ว กับตน ดูดุจสรัทกาลกล แมกฟ้า วรภาคย์มิ่งมณฑล ทิพยรูป พี่แม่ จันทร์แจ่มขจรจบหล้า อยู่เพี้ยงเฉาโฉม ฯ ๏ เรียมรักแรงร่ำไห้ หาสมร แม่อา ขอเทพเห็จสังหร ข่าวน้อง เยียมาอกไฟฟอน แสนท่า โอ้แต่สารโศกร้อง ค่ำเช้าฤๅวาย ฯ ๏ โอ้โฉมเฉลิมลักษณ์เนื้อ นงพาล เรียมว่ายโศกสงสาร สุดฟ้า อับโอฆชลาลาญ ลับฝั่ง เล่าแม่ คิดบ่ลุเลยว้า อยู่ดิ้นแดโดย ฯ ๏ กำสรดแสนสวาดิสร้อย สงสาร อรเอย เยียอยู่อกเลวลาญ เปล่าเศร้า ตัวตายชีพสาธารณ์ ดีกว่า บำราศรสแรมเคล้า อยู่ขลั้งหัวใจ ฯ ๏ ยามดึกเสียงแสกซร้อง หาขวัญ สวาดิเอย เค้ากู่แผดผาดผัน ทูดทู้ กอดเขนยแนบทรวงบัน ทับแทบ อกนา ใหลประโลมขวัญชู้ อยู่เพี้ยงสงสาร ฯ ๏ ฤดูเดือนสรัทขั้ง ไขธาร สาวหนุ่มดุจบัวบาน เบิกสร้อย สระตนแข่งคมงาน คัดแง่ งามนา ดูบ่ปานโฉมช้อย ชื่นหน้าฤๅมี ฯ ๏ ดูใดไป่ดุจแก้ว ตาเรียม กูเอย เปรียบสิ่งใดฤๅเทียม เท่าด้วย เจียรจากแม่แดเกรียม จักกรอบ ทรวงนา เจ็บระอุอกม้วย มอดแล้วฤๅวาย ฯ ๏ กำโบลบัวบุษป์ช้อย ชูกาม กูเอย กลกลิ่นบัวทองทาม ท่งฟ้า ชูชิดรสปรางงาม แลคาบ หอมตระหลบล่มหล้า อยู่แล้ฤๅหาย ฯ ๏ โกสุมสาโรชแก้ม กามกลง เทียนธูปทิพย์ธารจรง กลิ่นกลั้ว ประพาสยุพยนต์ยง แยงยั่ว ใจแม่ กลอยกลิ่นดวงดอกดั้ว ย่ามได้ดวงดม ฯ ๏ ภิญโญรังรสฟ้า ไป่ปูน รสภิรมย์เรียมพูน หล่อหล้า ภุชงค์ชลามพูสูร สระมาศ บานตระบอกบงถ้า ยั่วแย้มยำยาม ฯ ๏ สุดแรงสุดร่ำไห้ หาศรี สุดเทวษแสนทวี สวาดิน้อง สุดคิดควบคืนลี ลาสู่ สมรนา สุดอกสุดโอษฐ์ร้อง เรียกแก้วกับตน ฯ ๏ โพยมพยับเมฆห้อง หาวแครง ครวญนา อากาศคำรนแรง ทั่วท้อง เสียงสมุทรบ่าบัวแจรง จบฝั่ง ฤๅเท่าอกเรียมร้อย ร่ำไห้หาศรี ฯ ๏ เสร็จสารกำสรดสร้อย ศรีสมร อาลักษณ์จรรโลงกลอน กล่าวอ้าง นิติพฤทธาหรณ์ วุติวากย์ นี้พ่อ วานกระวีกาพย์สร้าง สอดส้อมคำแปลง ฯ ๏ กุลบุตรวุติวากย์ผู้ ปรีชาญ ชาญฉลาดกาพย์การ รอบรู้ พึงเพียรพิจารณ์ญาณ จงถ่อง เยียอย่าคาบคำหลู้ ลากเหล้นหยามหยัน ฯ ๏ โลกีย์กอปรก่อเกื้อ เป็นมูล ปรีชาหาหนีสูญ โฉดช้า วิรุธเร่งเอาธูร ชุมช่วย เห็นแก่ผลภายหน้า เนื่องด้วยไมตรี ฯ ๏ อาวรณ์นอนนับนิ้ว มานาน เทียรทุกข์แสนทรมาน ค่ำเช้า จำใจลักษณ์ลองสาร เสาวภาคย์ นะพ่อ หวังจักดับใจเศร้า ส่างให้คลายถวิล ฯ
Create Date : 04 ตุลาคม 2561 |
|
0 comments |
Last Update : 19 มีนาคม 2562 17:25:20 น. |
Counter : 3284 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|
|