|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่.๙.๓ .. O
เพลง .. ShriKrisshnaGovind
กลางสมรภูมิรบเช้าวันที่ ๑๒.
= บทที่๙ .. สงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร ๑๘ วัน = วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ 00101110 - - - 110102 00101112 - - - 110103 1 = ลหุ 0,2,3 = ครุ
O ไหนเลยจะเผยจักระกระบวน เฉพาะส่วนนะรู้ทัน ทางออก-จะออก .. พยุหะนั้น อภิมัณยุ .. ไป่รู้
O เริ่มการณ์ทะยานจระผจัญ อภิมัณยุเหลียวดู ยิ้มเยื้อนพระเบือนพักตระจะบู- ชิตะผู้พระทรงธรรม์
O วงจักรก็ผลักพละกระบวน ตละส่วนก็สัมพันธ์ ท่ามกลางธุมางคะ .. อภิมัณ- ยุถลันและโถมแทง
O ลิ่วร่างมล้างชิวะอริน- ทระดิ้นกะเลือดแดง ฟันฟาดพิฆาต .. ริปุแสยง- และระย่อจะต่อกร
O ทัพธรรมะบุตระกระนั้น นิระบรรลุตามตอน ไป่รู้จะสู่..มรรคะสมร ทะลุจักระติดตาม
O สุดหักกะจักรพยุหะพล นิระผล .. พยายาม หากเยาวราชนิระจะคร้าม ทะลุข้ามประหัตเขา
O โดดเดี่ยว ณ กลางอริริปู เฉพาะรู้จะล่มเกา- รพ .. ฝ่ากะอาวุธะระเร้า จิตะเยาวะเยือกเย็น
O ด้วยทัพคชา .. ชยัทรถ สหะบทะบำเพ็ญ ช่องว่างระหว่างพยุหะ-เห็น- ระยะเว้นก็เลือนหาย
O จักรเคลื่อนเขยื้อนสหะพลัง นิระหวังจะทำลาย ศัตรูก็กรูแสยะสยาย ตละหมายก็ชีวา
O กรรณ, กฤตะว-รมันะ, โท- รณะ, อัศวถามา ร่วมการณ์ผสานพละ ,กฤปา- พฤหัสะพล .. พลัน-
O หกผู้เพราะรู้ .. พละผชุม ก็ระรุมและฟาดฟัน เปลี่ยนหน้าและอาวุธะกระทั้น พะกระทบกระแทกถึง
O หอกเยาวะพุ่งพละสะบัด พฤหัสะล้มตึง อกแยกเกราะแตก .. ศระก็-ตรึง- อุระหนึ่ง .. นะเมื่อนั้น
O คล้อยหลังและบัง .. กรรณะก็เล็ง ศระเพ่งและปล่อยพลัน- พุ่งแทรกกระแทกธนุกระทั้น อภิมัณยุ .. สิ้นศร
O ศรโทรณา .. ทะลุและฆ่า- อัศวา ลุ ม้วยมรณ์ ทั้งสารถี .. รถะสมร ชิวะรอนปลาตลบ
O ดาบโล่ .. จะโผปะทะทะลวง ก็ละร่วงเพราะบรรจบ- ด้วยศระโทรณะกระทบ พะสยบและทำลาย
O โล่บัง, เกราะ-พังนิระจะป้อง ภยะผองระรอบกาย ล้อรถะยกเฉพาะจะหมาย มุ มลายอรินทร์ตน-
O ต้องศระว่อนปะทะปะทัง ยุติหวังจะดิ้นรน ฟันฝ่าคฑา .. ปะทะผจญ พละตนก็ร่อยหรอ
O ต่อสู้กะหมู่สถุละชาติ ก็อนาถะเพียบพอ- ใจนี้บ่มีระยะจะรอ กุธะโหมจะโทรมหาย
O แล้วบุตระผู้ฉละเพราะชาติ ทุศศาสนะรำบาย- พลองฟาดพิฆาตศิระสลาย ชิวะชายก็มอดมรณ์
O สัญญาณสะท้านสุตะระงม ฤจะข่มกะอาวรณ์ ใจพ่อนะรอสุริยะย้อน จะสมระด้วยทราม
O คร่ำครวญะล้วน .. บทะเทวษ ดละเจตนาตาม แรงแค้นจะแม้นอัคนิลาม- อุระร้อนบ่ผ่อนหาย
O อาดูระพูน .. พระอรชุน มติหนุนจะทำลาย- โฉดฉละป่นชิวะมลาย พระกระหายกระเหิมรณ
O สิบสามอรุณ .. พละทะแกล้ว ระดะแถวพลังพล พร้อมเพรียงจะเคียงรณะผจญ อรชุน .. พระฮึกหาญ
O คำขาดจะฆาต .. ชยัทรถ สหะบทะร่วมลาญ- ลูกชายมลาย, เถอะจะประหาร เฉพาะกาละวันนี้
O ใจชาย .. กระหายทะลุทะลวง นิระห่วงจะปราณี เร่งรุดจะกุดศิระก-ลี อัปรีย์บ่อาจคง
O ผ่านโผลุโทรณะทะยาน รณะการณะจำนง เห็นว่าจะพาผละละประสงค์ อรชุนะหมุนหนี
O ค้อมกายถวายอัญชลิต สุจริตะใจมี ขอผ่านจะลาญชนะก-ลี เฉพาะที่จะบรรลัย
O ผ่านพ้นเสาะค้น .. ชยัทรถ ฉละคด .. ก็หวั่นใจ สายัณหะพลันรพิพิไล บทะใกล้จะพรากสรวง
O หลังกาละลาญ .. ชยัทรถ รพิบทจะดับดวง คมศระชอนทะลุทะลวง ชิวะล่วงปลาตร้าง
O เหลือบเห็นก็เป็นชยัทรถ ฉละคด ณ ท่ามกลาง- หมู่พลพหลระกะและขวาง พิศะพลางทะยานหา
O ครั้งนั้นพระกรรณะก็ประสง- คะณรงคะบ่งมา หวังหน่วงและถ่วงสุริยะกา- ละระยับจะดับแสง
O จึงฤทธิ์พระกฤษณะประจักษ์ ดละจักระบัง .. แปลง- เปลี่ยนวันลุคืน .. ศระจะแผลง ทะลุแทงกลีชน
O ดับดวงก็ดวงสุริยะแสง รุจิแดงก็ดับดล ดับเพื่อจะเอื้อประหัตะฉล- ขณะล้นกะยินดี
O เผยร่างบ่พรางก็เพราะผยอง รพิล่อง .. จะยังชี- วาตม์อยู่เพราะรู้สัตยะ .. มี อรชุนบ่คืนคำ
อรชุนยิงศรตัดหัวท้าวชยัทรถจนขาดกระเด็น...ตามสัตย์ปฏิญาณหลัง ชยัทรถ เป็นตัวการสำคัญขวางไม่ให้พวกปาณฑพฝ่าเข้าไปช่วย อภิมัณยุ ในกระบวนจักรพยุหะได้...จนเป็นเหตุให้อภิมัณยุถูกรุมสังหารอย่างทารุณ...โดยพระกฤษณะใช้จักรสุทัศน์บังดวงตะวันไว้ชั่วขณะจนชยัทรถคิดว่าตะวันตกดินไปแล้ว...จึงลำพองเผยตัวออกมาจากมวลทหารที่รายล้อมอยู่.
O จนจักระเคลื่อนระยะผละล่วง- รุจิสรวงก็สาดลำ- แสงเรื่อจะเพื่อศระจะนำ- ศิระฉละปลิวหวือ
O ก่อนอัสดงคตะวิถี ศพะมีก็ด้วยมือ- มุ่งมั่นจะบั่นฉละ..และคือ- จะระบือกำแหงรณ
O คลั่งแค้นละแล่นกุธะตะโบม พิษะโหมอุราคน แจ้งสิ้นอรินทระอนุสน- ธิทิพาประหัตผลาญ
O โมโหเพราะโทรณะเสมือน นิระเคลื่อนจะขวางการ- ที่อ-รชุนจระทะยาน มุประหารชยัทรถ
O ก้องสัญญาณสุตะประดัง นิระฟังกะเกณฑ์..กฎ ฉลโฉดพิโรธ .. ก็ทุรยศ จระรถะตามตี
O สองทัพขยับปะทะประหาร คณะพาละบัตรพลี- แกล้วลาญ .. เพราะปาณฑพะนะบี- ฑะขยี้สิยับเยิน
O พาโลกะโทรณะเยาะหยาม ฉละทรามะก้ำเกิน กล่าวหาเพราะวาระพะเผชิญ สิเผอิญจะเป็นใจ
O ให้อ-รชุนทะลุทะลวง จระล่วงจะเพื่อไป ตามฆาตชยัทรถะประลัย ระบุนัยะกล่าวหา
O ควรหรือจะคือมุขะพหล มุผจญะบีฑา เข้าผลาญกะปาณฑพะและพา- คณะเราประสบชัย
O เพียงกรรณกระนั้นสินะจะควร รณะล้วนก็แกร่งไกร อาจพาพลาสมรรถะไพ- บุลยามุพร่าผลาญ
O พราหมณ์เฒ่าก็เศร้านยะประดา ศิษยานะบันดาล จึงครูเพราะรู้นิสัยะพาล พจนารถะตอบทูล
O ตราบชีวะนี้นิระประลัย นิระใดจะอาดูร ปาณฑพจะลบศพะจะพูน ธรณินทระหนักหนา
O จอมทัพสำหรับรณะประยุทธ ชิวะสุดสิจึงมา- เอาคืนบ่ฝืนสมรรถะภา- ระประการะสิ้นไป
O สิบสี่อรุณสุริยะส่อง รุจิรองระเรื่อไพ- จิตรภาพกระหนาบศพะประลัย ทุขะ-ไห้ ฤ อาจเห็น
O ช้างม้าพลา .. ขณะณรง- คะจะคงกะลำเค็ญ แดงโร่ก็โลหิตะกระเซ็น ระดะเส้นบ่เร้นสาย
O มุ่งมาดเพาะอาชวะประภาพ พิษะบาปก็รำบาย โลมอกและยกทุขะสยาย จะมลายนะง่ายหรือ
O จับยึดประพฤติบทะจริต นิรมิตะด้วยมือ ชั่วดีจะมีชนะประลือ ระบุชื่อประทับนาม
O รากษสะผู้บุตระพระภี- มะขยี้ประหัตทราม ใหญ่โตฆโฏตกจะ .. บ่ขาม- จะณรงคะต่อตี
O แหลกยับก็ทัพะทุรโยธน์ เพราะฆโฏตกราวี ห้ำหั่นและบั่นชิวะก-ลี นิระที่จะต่อกร
O จวบกรรณะพลันจระประจบ ปะทะรบและราญรอน หอกโมกขศักดิ์ .. เฉพาะสมร ก็สะท้อนผกายแสง
O อวยอิทธิฤทธิ์ปะทะทะลวง ทะลุทรวงเพราะทิ่มแทง แทรกคมก็ข่มจิตะแสยง และสยองกะบรรลัย
O รากษสะผู้บุตระพระภี- มะก็ชีวะล่วงไป ล้มร่าง ณ กลางรณะสมัย- ะกระทบและทับพล-
O แกล้วหนึ่งอักเษาหิณีประดัง- มรณังนะรุมลน ด้านพราหมณะโทรณะผจญ ทรุบทะเพื่อนแค้น
O สองเฒ่าทะยานปะทะกะอา- วุธะกล้าบ่เกรงแกลน ห้ำหั่นผจัญสมรรถะแสน- ยะจะแม้นจะยอมวาย
O จอมรัฐวิราฏะทรนง กุธะบ่งพระรำบาย เผ่นโผพะโตมระ .. ณ ปลาย- ทะลุกายะวายชนม์
O สิ้นวันและบรรลัยะอดูร ดุจะพูนจะเพิ่มพล หยุดรบสงบระยะผจญ ฤจะพ้นกะแผดเผา
O เสียพ่อ .. จะรอ-ธฤษ์ฏทยุม- นะ-ก็ทุมนัสเนา ลำดับสำหรับประอระ .. เทรา- ปทีเจ้าจะเศร้า-ศัลย์
O ดาวลับสำหรับอรุณะภาส ยุรยาตระสัมพันธ์ นกกาถลาจระจะบรร- ลุพิถี ณ ที่จร
O สองทัพกระหยับพละทะแกล้ว ตละแนวและแถวตอน เพียงเพื่อจะเอื้อรณะสมร ชิวะรอนและลาญลบ
O ฤๅแค้นจะแม้นธฤษ์ฏยุมน์ กุธะรุมบ่รู้จบ ร่วมภีมะปรี่จระจะรบ จะประกบและร่วมแรง-
O ล่มชีพะโทรณะทะลวง ฤดิดวงพระสำแดง โถมเชือดดุเดือดนิระแสยง ฤทธิ์แผลงก็พอผลาญ
O แยบคายอุบายรหัสะเลศ ระบุเหตุจะรำบาญ- บ่อนศึก .. ผนึกมุสะผสาน รณะการณะเพื่อชัย
O จึงธรรมบุตรพระก็ประกาศ พจนารถะก้องไป อัศวัต-(ะ)ถามั-น- ะประลัย ระบุนัยะเลศกล
O พลัน-พราหมณะโทรณะก็หยุด- รณะยุทธะบัดดล ดาบปล่อยละห้อยจิตะผจญ- ทุขะทนและหม่นหมอง
O ฤๅแค้นจะแม้นธฤษ์ฏยุมน์ กุธะขุมนะครอบครอง- ใจผู้เพราะรู้บทะสนอง ก็ผยองสะบั้นเศียร
O ชีพพราหมณะยามศิระละร่าง บทะต่างก็ตัดเตียน แกล้วกลั่นเพราะบรรลัยะ .. ก็เวียน- พละทิ้งและชิงถอย
O สมในฤทัยะทุรโยธน์ ฉละโฉดนะเฝ้าคอย จอมทัพสำหรับรณะ .. ก็พลอย- เหมาะจะมอบประทานกรรณ
O กุมหัตถ์และตรัสะพจนารถ อริราชจะควรบรร- ลัยล่องคระลองมรรคะสวรรค์ เพราะผจัญผจญเรา
O หวังท่านจะผลาญอริริปู ชยะสู่สกุลเกา- รพ..เติมกระเหิมรณะกะเอา- รสะปาณฑุทั้งมวล
O ท่านปู่พระภีษมะณรง- คะประสงคะเรรวน เต็มเมตตะเหตุรณะกระบวน- ตละล้วนบ่มุ่งผลาญ
O อาทระผ่อนพละจะรณ บ่ผจญผจัญ .. ปาณ- ฑพเพื่อจะเอื้อชิพิตะหลาน ชิวะลาญก็ยินดี
O ท่านโทรณานิระประสงค์ จะณรงคะราวี- ล้างผลาญกะปาณฑพะ .. เพราะมี- จิตะธีระอาวรณ์
O เพื่อนเอย .. บ่เฉยจะลุทะลวง อริปวง ลุ มอดมรณ์ นำทัพกระหยับปะทะสมร- ะประหัตะสิ้นพลัน
O อย่าช้าเถอะพาพละทะแกล้ว ประลุแนวและโรมรัน ศรดาบวะวาบ .. ชิพิตะบรร- ลัยะร่วงและซบดิน
O สิบหกอรุณสุริยะดวง ก็ยะยวงจะเพื่อยิน- เสียงหัตประหารชิวะอริน- ทระสิ้นบ่อาจทรง
O รถกรรณะผันจระทะยาน ทะลุผ่านเพราะจำนง- ล้างผลาญะปาณฑพะประสง- คะจะปลงชิวาเสีย
O ต้านต่อกะอ-รชุนะผู้- นิระรู้จะผ่อนเพลีย เลือดคาว .. ระราว-รสะพเยีย ระอุกลิ่นระรินรม
O สองรถะบดพละกระแทก ศระแหวกผกายพรม- พร่างสู่ศัตรู .. ระยะระดม ก็ระงมบ่เงียบเสียง
O ตราบกาละผ่านลุอัสดง- คตะรงคะคล้อยเคียง- ฉาบฟ้าวลาหกะ .. และเพียง- สุตะเสียงวิหคเหิน
O สัญญาณสะท้าน .. พละพหล ยุติรณะดำเนิน กลับค่ายละลายกุธะ, ประเมิน- ผละยุทธะแห่งวัน
O ค่ำคืนทะมื่นทรรศนะภาพ ฉละบาปก็สัมพันธ์ ปรึกษาประการะจะผจัญ กละกรรณจะบัญชา
O อ้างสัญญะกรรณประหัตะปาณ- ฑพะลาญะชีวา กรรณรับสำหรับจะเสาะและหา- อรชุนะดวลศร
O ไม่เขาก็เราประลุประลัย ชิวะไหนจะอาวรณ์ เท่าเกียรติยศ .. ชยะสมร ผิวะมรณ์จะยังหมาย
O สิบเจ็ดทิวาจระประจบ ระกะศพะเรียงราย พันแสงจะแจ้งชยุติฉาย วตะสายก็ผ่านริ้ว
O เกริกก้องผยองพละสมรรถ- และธวัชะปัดปลิว เนื่องแนวก็แถว..คณะและทิว- พฤกษะพุ่ม ณ เบื้องหลัง
O จึงกรรณถวัลยะประมุข- ทัพะรุกจะเพื่อยัง- เกียรติ์, ศักดิ์ฉลักคุณะประนัง ตละครั้ง ฤ อาจขืน
O โยธีก็ปรี่ปะทะผจัญ เพราะมุหันธะหยัดยืน- โลมอก .. จะยกดุจะจะฝืน- อัตะตื่น ณ ในตน
O ธรรมบุตระรุดทะลุทะลวง กรรณะล่วงประลองรณ เหนี่ยวศระลิ่วปะทะสกนธ์ ทะลุหล่นลุหิตไหล
O เซซวนเพราะส่วนศระประทุษ ธรรมะบุตระปราชัย- ปวดร้าวระราวบทะประลัย จะลุฝ่าและบ่าลง
O จึงพลพหล .. ระดะและฉุด ธรรมบุตระป้ององค์ กลับค่ายและหมายผละละณรง- คะจะพักและรักษา
O จึงอ-รชุนกุธะละลาน พระผสานพระกฤษณ์พา- รถศึกเสาะค้นกรรณะจะท้า- รณะยุทธะด้วยศร
O กึ่งกลางระหว่างรณะสถาน ผิวะผ่านก็ม้วยมรณ์ พบกรรณก็พลันบทะสมร ระบุตอนระเบิดตาม
O เหนี่ยวสาย .. พระร่ายอัคนิศาสตร์ จะพิฆาตะดับทราม กรรณไหวและใช้พิรุณะลาม- พะขจายกะสายฝน
O สายศรพระอ-รชุนะขาด พระประกาศะหยุดรณ- หลังเปลี่ยนจะเวียนปะทะผจญ รณยุทธะต่อไป
O ตามกฏขนบ .. รณะจะยึด และประพฤตินานไกล- ผ่อนผัน, สิ-กรรณจิตะไฉน- บ่สดับและกลับเฉย
O ไป่นบขนบ .. รณะประการ บทะพาละรำเพย ศรศรีก็ปรี่จระจะเย้ย- เยาะและยั่ว ณ บัดดล
O เสียงสายธนูวิชัยะนั้น ก็กระทั้นกระแทกตน เมื่อกรรณะน้าวศระผจญ เสนาะล้นกระแสเสียง
O คานธีวะสายศระก็ตึง ขณะดึงก็ลู่ .. เพียง- ชั่วคาบก็วาบจระประเดียง- สุตะเพียงจะพร่าผลาญ
O คือศรพระอ-รชุนะนั้น ขณะสั่นก็กังวาน สรรค์เสียงผสมดุจะจะขาน- พิเราะจังหวะพาทย์เพลง
O จิตกรรณะพลันดุจะจะพิศ- ะพระกฤษณ์ บ่ แกลนเกรง- พุ่งศระจระอลเวง จะประทุษพระกฤษณ์นั้น
O บันดลพระอ-รชุนะโชติ- กุธะโฉดเพราะชั่วครัน เยี่ยงไรไฉนศระจะบรร- ลุประหัตะสารถี
O จึงศรพระอ-รชุนะวาบ ก็ประภาพอำนาจมี ครืนครั่นสนั่นกะปฐพี ลุขยี้จะสังหาร
O แกล้วกลั่น .. ผจัญกะสัปยุทธ ก็ประดุจะซมซาน ฮือหลบ .. ตระหนกอุระสะท้าน- ฤจะทานกะต่อตี
O จึงกรรณะเหนี่ยวศระทะยาน ปะทะต้านกะฤทธี คลุมร่างระหว่างศระพิถี จระบีฑะทิ่มแทง
O บัดนี้พิถีรณะประยุท- ธะประดุจะสำแดง ดวลศรสะท้อนศักยะแฝง- ดลแผลงจะผกผัน
O ศร-นาคะศาสตระ-ระราว- ระยะน้าวจะสัมพันธ์ ด้วยฤทธิจิตมุหะผจัญ ขณะกรรณะเหนี่ยวสาย
O ศรรุดประดุจอสนิบาต จะพิฆาตะทำลาย เปลวร้อน .. เพราะร้อน-อัคนิผาย- พละพลุ่งจะเผาผลาญ
O บัดดลพระกฤษณะ .. พระพา- อัศวานะหมอบคลาน รถทรง-ลุลงปถวิ .. ดาล- ระยะฐานกระแทกดิน
O จึง-นาคะศาสตระ-ทะยาน จระผ่านลุไพรินทร์ ครอบเกศพระอ-รชุนะภิน- ทนะสิ้นบ่เสียบเศียร
O บ่ายคล้อยทะยอยระยะตะวัน ดุจะผันเพราะพากเพียร พื้นดินก็สิ้นภวะเสถียร- บทะเปลี่ยนลุโคลนตม
กรรณะลงจากรถศึกเพื่อจะไปแก้ไขล้อรถจากการติดหล่มโคลน.
O รถกรรณะพลันดุจะเขยื้อน ระยะเคลื่อนและล้อจม เกินขับขยับ .. พละระดม- อัศวาจะฝ่าพ้น
O บัดนั้นพระกรรณะก็ประภาษ พจนารถะหยุดรณ หวังจับขยับรถะผจญ- ระยะโคลนนะชั่วยาม
O สิ้นเสียงก็เสียงกฤษณะเย้ย นยะเอ่ยพระเหยียดทราม ครั้งอ-รชุนสิเยาะและหยาม ศระตามประหัตเขา
O เหยียดเย้ยจะเผยสริระผู้ คละระดู .. สิดูเบา ปราดปรี่และคลี่พัสตระเทรา- ปทีเยาวะหยาบหยาม
O รุมล้อมบ่ยอมปะทะผจัญ อภิมัณยุ .. ด้วยทราม- ห่อหุ้มก็รุมหัตะ .. จะขาม- คุณะธรรมบ่เห็นมี
กรรณะลงไปเข็นล้อรถศึกที่ติดหล่มโคลน..พร้อมกับขอพักการรบชั่วคราวโดยอ้างถึงคุณธรรมนักรบ...ในขณะที่เมื่อตอนอรชุนสายธนูคานธีวะขาดนั้นก็ได้ขอกรรณะพักรบแต่ กรรณะไม่สนใจระดมยิงสายธนูที่อรชุนกำลังขึงใหม่ขาดครั้งแล้วครั้งเล่าถึง 4-5 ครั้ง....พระกฤษณะจึงกล่าวเยาะเย้ยพฤติกรรมของกรรณะย้อนรวมไปถึงครั้งสนับสนุนการกระทำของทุรโยธน์ที่ให้ทุศศาสน์จับตัวพระนางเทราปทีมาเปลื้องผ้าต่อธารกำนัล...รวมทั้งการรุมสังหารอภิมัณยุโดยไม่ยอมออกไปสู้ตัวต่อตัวตามที่อภิมัณยุท้าทายแต่อย่างใด.
O แล้วอ-รชุน-ก-ระ-ก็ตรึง ศระขึงจะราวี เล็งปลายจะหมายชิวะก-ลี หัตะชีวะเลวทราม
O วิชชาประดา .. กรรณะระลึก ขณะนึกก็ลืมความ ใจวาบเพราะสาปลิขิตะพรหามณ์ ฤทธิ์ลาม ฤ ห้ามไหว
O ศรลิ่วปะปลิวระยะทะยาน ขณะผ่านก็เพียงไพ- รินทร์นั้นสะบั้นศิระประลัย ณ สมัยณรงค์นั้น
O อำพน ณ บนนภะโพยม ดุจะโทรมประภาสพลัน ด้วยโศกพิโยค .. พระสุริยัน ปิตุเรศเทวษล้น
O หรุบแสงแสดงบทะสลด พระอุรสะวายชนม์ ครึ้มฟ้าวลาหกะสถล- พิศะหม่นและมัวหมอง
Create Date : 05 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 11 มกราคม 2564 8:12:41 น. |
|
29 comments
|
Counter : 2131 Pageviews. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:22:34:39 น. |
|
|
|
โดย: sirivinit วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:0:51:15 น. |
|
|
|
โดย: sirivinit วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:9:15:35 น. |
|
|
|
โดย: medkhanun วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:9:27:04 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:10:06:45 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:14:39:32 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:17:02:14 น. |
|
|
|
โดย: ธรรมเทพ IP: 125.24.187.4 วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:5:16:37 น. |
|
|
|
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:22:10:13 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:9:35:33 น. |
|
|
|
โดย: sirivinit วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:11:58:10 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:19:24:29 น. |
|
|
|
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:21:32:35 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:11:48:52 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:21:08:53 น. |
|
|
|
โดย: ศารทูล IP: 118.172.144.83 วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:22:31:31 น. |
|
|
|
โดย: sirivinit วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:8:05:44 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:10:20:55 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:11:21:29 น. |
|
|
|
โดย: Jean IP: 88.105.166.30 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:14:40:22 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:17:42:00 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:19:26:38 น. |
|
|
|
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:22:32:12 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:7:12:59 น. |
|
|
|
โดย: sirivinit วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:17:41:58 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:23:01:27 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|
|
"GOD" is an ignorance