ว๊าย.. จะมา"สุด love ของมินตรานะ " ได้ยังไง มิบังอาจ !
ค่ะไม่ใช่ มารี อังตัวแน็ต เธอกล่าวประโยคสุดท้ายตอนเดินขึ้นไปกิโยติน แล้วพลาดไปเหยียบเท้าของ เพชฌฆาต ว่า,"Monsieur, je vous demande excuse, je ne l'ai pas fait exprès."- นักปฎิวัติฝรั่งเศส มองซิเออร์ Louis-Marie Prudhomme: บันทึกไว้ ใน Les crimes des reines de France, Au Bureau des Révolutions de Paris, 1793. หน้า 460 แปลว่า มองซิเออร์ ขอโทษค่ะ ฉันมิได้ตั้งใจ ! (จะเดินไปเหยียบเท้าคุณ)
ผู้ที่ ใส่ประโยคนี้"S'ils n'ont pas de pain, qu'ils mangent de la brioche." เพื่อปลุกประชาชนให้เพิ่มความเกลียดชัง คือ นักปรัชญาฝรั่งเศส รุสโซ (Jean-Jacques Rousseau 17121778) แล้วเหล่า "นักปฎิวัติ"ทั้งหลายแหล่ก็มาแปลผิดแปลถูกแล้วพูดต่อต่อตามตามกัน เสียมาดนักปรัชญาไปเลย..
มีอีกคำหนึ่งซึ่ง นักเศรษฐศาสตร์เยอรมัน Wilhelm Roscher (1817 1894) นำมาใช้คือ Enlightened absolutism หมายถึง "ประมุขผู้ทรงภูมิธรรม" และ บิดาของระบบนี้ คือ Frederick the Great,(1740 -1786)ราชวงศ์ ปรัชเซีย Prussia ของเยอรมันซึ่งตอนนั้นปกครองดินแดนทั้งยุโรป ได้เปลี่ยน "ระบบกษัตริย์คือพระเจ้า"(divine right )มาเป็น "ระบบกษัตริย์ภายใต้ข้อตกลงทางสังคม" (a social contract ) โดย... ให้ประชาชนมีสิทธิทางศาสนา(religious tolerance, ) เสรีภาพทางการพูด(freedom of speech) และ สิทธิในการครอบครองทรัพย์สินส่วนตัว( the right to hold private property.) แล้วระบบนี้ถูกนำมาใช้หลายประเทศในยุโรป
ระบบ"ประมุขผู้ทรงภูมิธรรม" (Enlightened absolutism)ซึ่ง ไคเซอร์ชาวเยอรมัน Frederick the Great,(1740 -1786) นำมาใช้ ให้ประชาชน - มี สิทธิเลือกศาสนา(religious tolerance, ) - มี เสรีภาพทางการพูด(freedom of speech) - มี สิทธิในการครอบครองทรัพย์สินส่วนตัว( the right to hold private property.) และสนับสนุนให้ประชาชนมีความรู้
คือ"การปฎิวัติจากบนลงล่าง" ( Revolution von oben)ซึ่งนำมาประกาศใช้ทั่วยุโรปในเขตปกครองของ อาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์( Holy Roman Empire)
จนถึงศตวรรษที่ 8 ที่ชาวสแกนดิเนเวียกลุ่มนอรเวย์เดนมาร์ค จึงเรียนรู้ นวัตกรรมในการต่อเรือสูงขึ้น เป็นการเริ่มต้นสมัยไวกิ้ง( Viking Age : ศตวรรษที่8 - 11)ในการโจมตีแย่งดินแดน หาทรัพยากร และ ค้าขาย - ในปี 911, กษัตริย์ฝรั่งเศส Charles the Simple ทำข้อตกลงกับหัวหน้าไวกิ้งนอรเวย์เดนมาร์ค ชื่อ Rollo ให้เช่าที่ ริมฝั่งทะเล ฝรั่งเศส โดยตั้งเป็นดยุก ของนอร์มานดี (Duke of Normandy) แลก กับข้อตกลงให้นับถือศาสนาคริสต์ มีคริสเตียนนามว่า โรเบิร์ต ดยุคแห่งนอร์มังดี คำว่า Normanni แปลว่า men of the North หมายถึง ไวกิ้งนอรเวย์เดนมาร์ค ซึ่งต่อมาปกครองทั้งอังกฤษที่ ชาวไวกิ้ง ตีได้ และ แคว้นนอร์มานดี ของฝรั่งเศส ..............................
หนึ่งร้อยปี ก่อนที่ นักปรัชญาฝรั่งเศส รุสโซ (Jean-Jacques Rousseau 17121778) จะนำความคิด"ระบบกษัตริย์ภายใต้ข้อตกลงทางสังคม" (a social contract ) ของนักปรัชญาอังกฤษThomas Hobbes ( 1588 -1679 )มาใช้นั้น
มีที่มาจาก สงครามสามสิบปีทางศาสนา ( Thirty Years' War:16181648) ในอาณาจักร Holy Roman Empire พวกนักรบอัศวิน ทั่วยุโรป ผู้เข้าร่วมทำสงครามมีข้อตกลง(a contract ) แบ่งอำนาจและทรัพย์สิน เมื่อชนะสงคราม เป็นค่าแรง เช่นเรื่อง อัศวิน ไอเวนโฮ (Ivanhoe ) หรือ โรบิน ฮูด(Robin Hood) นิยายของ Sir Walter Scott 1771 - 1832 ที่แต่งเรื่อง ตามความจริงที่กษัตริย์อังกฤษ และดยุกแห่งนอร์มานดี "Richard I the Lionheart "( 1157- 1199 ) ถูกขังที่ออสเตรียในสงครามสามสิบปี ( Thirty Years' War:16181648) มีน้องชาย คือ Johann Ohneland ( 1167 - 1216) รักษาราชการแทน
เมื่อสงครามสามสิบปีจบลงด้วยสนธิสัญญา "The Peace of Westphalia" ในปี 1648 เป็นที่มาของการยกเลิกระบบอาณาจักร (Empire) เป็นระบบ ประเทศ ( sovereign states) ศาสนจักรจึงไม่มีสิทธิที่จะมา"สั่งราชการ" ในดินแดนของ กษัตริย์และอัศวิน เหล่านี้ได้
เมื่อ Johann Ohneland ( 1167 - 1216) ทรงราชย์ ต่อจากพี่ชาย Richard I the Lionheart ต่อ จึงถูก บารอน ซึ่งมีกำลังพลสูงกว่า ให้ทำตามข้อตกลง ที่กษัตริย์ได้ให้ไว้ต่อกัน ด้วยการลงนาม กฎแห่งบารอน(Articles of the Barons) ในวันที่ 15 June 1215 ข้อตกลงนี้ เรียกกันว่า Magna Carta.
- ปี 1642 เกิดสงครามระหว่าง รัฐสภา ( Oliver Cromwell) กับ ราชวงศ์ ( English Civil War :16421651) นักปรัชญาอังกฤษThomas Hobbes ( 1588 -1679 )ได้เขียนหนังสือชื่อ Leviathan (1651) เสนอ "ทฤษฎีสัญญาประชาคม " (social contract theory) โดยอ้าง "สัญชาตญานโดยธรรมชาติ"( „Naturzustand) ว่า มนุษย์จะ ทำสงครามต่อต้านกันและกัน เพื่อแย่งชิง ทรัพย์สิน และอำนาจให้ตนเอง ( ein egoistischer „Krieg aller gegen alle = War of all against all) ฉะนั้นจึงเป็นการง่ายกว่าในการที่จะให้มีใครคนหนึ่งเป็น"คู่สัญญา"แต่เพียงคนเดียว(คือให้มีกษัตริย์) แทนที่ประชาชนจะ ทำสงครามฆ่าล้างกันและกันจนไม่มีที่สิ้นสุด
นี่คือที่มาของการใช้ "รัฐธรรมนูญฉบับ กฎแห่งบารอน Magna Carta. ..........................
หนึ่งในผู้ก่อตั้งสหรัฐอเมริกา John Adams (1735-1826 )ยืนยันว่า "รัฐบาล ต้องผูกไว้ไว้ด้วย กฎหมายที่ชัดเจนซึ่งประชาชนมีหนึ่งเสียงในการก่อตั้งและมีสิทธิในการปกป้องรัฐบาลนี้"... government be "bound by fixed laws, which the people have a voice in making, and a right to defend." และอีกหนึ่งในผู้ก่อตั้งสหรัฐอเมริกา Benjamin Franklin ( 1706 - 1790 ) ได้ตอบคำถามของสตรีผู้หนึ่ง หลังจากร่างรัฐธรรมนูญ เสร็จ ท่านคะ ตกลงเรามีอะไร สาธารณรัฐ หรือ ระบบกษัตริย์ ว่า สาธารณรัฐ ครับ หาก คุณสามารถรักษาไว้ได้ ! (และไม่ต่างคนต่างเก่งแย่งกันมีอำนาจ ฆ่ากันตายไปเสียก่อน ! Krieg aller gegen alle)
(As Benjamin Franklin was exiting after writing the U.S. constitution, a woman asked him "Well, Doctor, what have we gota republic or a monarchy?". He replied "A republicif you can keep it." ) ....................................... " สหประชาชาติทำอะไรได้ครับ ?" รัฐสภาโลก (IPU = Inter-Parliamentary Union) ผู้รับผิดชอบเรื่อง "การปกป้องสิทธิผู้ลี้ภัย" กำลังจัดระบบวางระเบียบ ผู้ลี้ภัยใน อาเซียน เพื่อคุ้มครอง ผู้ลี้ภัยโดยเฉพาะจากไทย
รัฐบาลเยอรมัน ให้หน่วยข่าวกรองเวียตนามและฑูตเวียตนาม ออกจากเยอรมันภายใน 48 ชั่วโมง ( ข่าววันที่ 2 August 2017จากสำนักปลัดกระทรวงต่างประเทศเยอรมัน ) เนื่องจากมีการลักพาตัวผู้ลี้ภัยเวียตนาม อดีต แกนนำ พรรคคอมมิวนิสต์ นาย Trinh Xuan Thanh ซึ่งโดนลักพาตัวกลางกรุงแบร์ลีน นำขึ้นรถพยาบาลออกไปเขตยุโรปตะวันออก ตั้งแต่วันที่23 July 2017 ซึ่งรัฐบาลเยอรมัน ขอให้คืนตัวทันที แต่ปรากฎว่า รัฐบาลเวียตนามเงียบ แล้วในวันที่ 1 August 2017 นาย Thanh ได้ปรากฎตนให้สัมภาษณ์ที่เวียตนามว่า ตนเองเต็มใจกลับเวียตนาม และไปมอบตนให้ดำเนินคดีกรณีโกงกินเงินหลวง ซึ่ง ปลัดกระทรวงเยอรมันแถลงว่า ไม่เชื่อเด็ดขาด!
แต่กับ "ใครบางคน" เรา จำเป็นต้องตั้งความหวังไว้ เพราะ"การปฎิวัติจากบนลงล่าง" ( Revolution von oben) ง่ายที่สุด ก่อนที่จะเกิดเหตุ ตาม"สัญชาตญานโดยธรรมชาติ"( „Naturzustand) ว่า War of all against all จนสูญชาติ