Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 เมษายน 2555
 
All Blogs
 

O เสียงฝน .. และสาบควาย ! .. O











O เริ่มที่หูยินเสียงฟ้าเปรี้ยงปลาบ
เส้นไฟวาบ-วกว่ายกลางสายฝน
อุโฆษคลื่นครวญครางทั้งล่างบน
ก่อนน้ำหล่นลิ่วเลื่อนลงเปื้อนดิน

O แว่วเสียงผ่านสองหูเพื่อรู้ว่า-
อีกนานช้า..ทุรยศจึงหมดสิ้น
เมื่อ-หน้าก้มกราบหมอบ..มือกอบกิน
กระดกลิ้นแก้ตัว..เห็นทั่วไป

O ต้องบรรยายชั่วดีสักกี่ครั้ง
จึงอาจยั้งหยุดประดาถ้อยสาไถย
ต้องพรรณนาโวหารสักปานใด
จนจัญไรคอยรอ..ตรองข้อธรรม

O หรือต้องใช้คารมเข้าถ่มถุย
คอยขุดคุ้ยปรุงเปรียบ..ความ-เหยียบย่ำ
จึงอาจสั่งสอนให้หัวใจจำ
จึงอาจนำจิตใจช่วยให้คิด

O แม้ประเด็นเดียวกัน..ยังปั้นเรื่อง
เอาเหตุผลหนุนเนื่อง..ปลดเปลื้อง-ผิด
มากมายเพียงดินกรวด..เที่ยวอวดฤทธิ์
จะเปล่งแสงนิรมิตให้ติดตา

O มากเม็ดกรวดทรายน้อยอันด้อยแสง
ต้องลอบทำแอบแฝงปรับแต่งค่า
เพื่อจะโชนแสงให้วาบไหวมา-
รอพรรณนาชื่นชม...กลางหล่มดิน

O จึงเห็นถ่อยแฝงตัวอยู่ทั่วเมือง
คารมเขื่องขรมอยู่ไม่รู้สิ้น
เสพรสน้ำค้างหวานกลางลานดิน
แล้วเอื้อนเสียงกล่อมถิ่นให้ยินดี

O คำก็เพื่อส่วนรวม..จงร่วมมือ
จงยึดถือศรัทธาทำหน้าที่
คำก็เพียงเพื่อชาติ..เป็นราชพลี
เพื่อจะมีจะเป็นอยู่เช่นนั้น

O เขาย่อมว่ารสลิ้นนี้กินหวาน
เถิด-คอยหว่านหวังไว้..ด้วยใจมั่น-
ว่าคงไม่นานนัก..คงสักวัน
คงสำคัญให้คนเขาสนใจ

O เพียงเท่านั้นเท่านี้...ในที่สุด
ยึดสมมุติสำหรับ..เข้าขับไล่-
ความต่างแห่งเจตจินต์ให้สิ้นไป
เพื่อจักให้ตัวกู..มุ่งสู่ปลาย

O ลำดับแห่งขั้นตอนทุกตอนนั้น
เคลื่อนสู่ความสำคัญที่มั่นหมาย
มีเงื่อนงำแฝงเร้นไม่เว้นวาย
ในทุกคำบรรยาย..ให้ควายฟัง

O ฟังดูหรือ-ราวเรื่องแต่เบื้องหน้า
ล้วนคำด่าหยาบสุม..ราวคลุ้มคลั่ง
ความจริง-พูดไม่หมด..เอาบดบัง
จากสองฝั่งฟากฝ่าย..เพื่อ-ควายไทย





 

Create Date : 13 เมษายน 2555
0 comments
Last Update : 26 มิถุนายน 2561 19:35:55 น.
Counter : 2026 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.