O บันทึกแห่งสายน้ำ .. O
เพลง .. Romance De Lamour-Guitar
O เจ้าพระยาเลื่อนผิว แล่นริ้ว-ตื่น เห็นเกลียวคลื่นฝัดละออง .. เป็นฟองขาว สายน้ำไหลต่อเนื่อง .. บอกเรื่องราว- อันยืดยาวหลั่งไหล .. ผ่านใจคน
O เริ่มแต่-นกบินว่อน .. ปีกร่อนคว้าง เมื่อพันแสงพราวพร่างอยู่กลางหน ลมต้นหนาวโหมเห่-พร้อมเล่ห์กล, ความตาย-เลือดคาวข้น .. ก็หล่นรอ O วาบล้ม .. วาบล้ม .. กลางลมร่ำ เมื่อความต่ำช้าแรก .. เริ่มแตกช่อ จิตวิญญาณ, ภพชาติ หรืออาจพอ- ถมลงก่อ-สังคมอุดมการณ์ ? O มโหระทึกครึกโครม .. เลือดโทรมร่าง อยู่ท่ามกลางแผ่นดินและถิ่นฐาน ขณะลมรวยริน, จิตวิญญาณ- ก็ทะยานโลดเต้น .. ไม่เว้นรอย O ล้มแล้ว .. ล้มเล่า .. ทุกเงารูป- หล่นร่างจูบจบเรื่องอย่างเงื่องหงอย บนเสียงโอดอื้นครวญ .. แต่ล้วนคอย- กำสรวลสร้อยเบิกบทลงรดริน O โพธิ์ยังคงระบัดใบอยู่ในที่ ท่ามกลางชีวิตหยุด-ลมสุดสิ้น ครึกโครมการวาบล้มลงถมดิน เป็นเสี้ยนศึกไพรินทร์กลางถิ่นตน O ที่ยังเหลือ-เนื้อเลือด .. ย่อมเดือดอยู่ และย่อมรู้ .. เลือดหลั่งว่ายังข้น กลางคาวเลือดหลั่งริน, การดิ้นรน- ก็ยังขวนขวายอยู่ .. ไม่รู้วัน O ความรับรู้สำหรับให้คับแค้น- ยังตรึงแน่นเกินจิต-อาจบิดผัน กลางไม้แผ่ร่มเงา, ยังเท่าทัน- เลศนัย, สันดานเดิม .. แต่เริ่มมี O รอเถิดปวงกำสรด .. เคยรดหลั่ง จักสุมสั่งจำหลัก .. รูป, ศักดิ์ศรี อันจะคอยกล่อมเห่ใจเสรี เอาต่อตีรูปนิมิต .. ให้บิดเบือน O รอเถิดรูปนามประดา .. ถูกพร่าผลาญ ถ้วนสิ้นจิตวิญญาณ, ย่อมผ่านเคลื่อน- เพื่อเอื้อมปิดแสงวาวของดาวเดือน ให้มืดเหมือนครั้งครา-เข่นฆ่ากัน O ภพชาติผู้ปลิดปลง .. ย่อมส่งผ่าน- นัย-สืบสานแทรกจิตเกินปิดกั้น เพื่อเปลี่ยนการ-รับรู้ .. เคยรู้กัน- รับรู้-บัญชาต่ำ .. เคยกล้ำกลืน O หน้าซบแนบแผ่นดินอย่างสิ้นท่า ท่ามกลางความปรีดา-แววตารื่น- ของเหยี่ยวกลางนาคร .. ที่ย้อนคืน- รอหยิบยื่นทุรกรรมอยู่คล่ำคลา O ภาพศพนอนกลาดเกลื่อน .. ค่อยเลือนลับ กาลโถมทับลบเลือนจนเหมือนว่า- เหลือเพียงภาพมิตรสหาย .. ลอบชายตา ยิ้มในหน้าสมเพช .. ต่อเหตุการณ์ O ภาพศพไร้คุณค่า .. หล่นคาพื้น เสียงโอดอื้น, ปวดร้าว, คำกล่าวขาน- แว่ว, รับรอง-โลกฝันจากวันวาน- ไว้ต่อต้าน .. เลศสร้าง .. ไว้อ้างอิง O เส้นทางยังมีปลายให้หมายสู่ หาก-รับรู้, ขวนขวาย-ซัดส่ายยิ่ง ใจ-อ่อนเยาว์, เบา, กลวง-ถูกช่วงชิง- ตราบหมุนกลิ้งเกลือกผล .. อยู่อลเวง O วงรอบจับยึดแห่งพฤติกรรม ก็ฝึกฝนเคี่ยวกรำ .. กัน-คร่ำเคร่ง เห็นคล้ายการปรุงปรน-ใจตนเอง- ก่อน-เร้า, เร่ง-ชาติภพ .. เข้าหลบ-รอ ! O วาบล้ม .. วาบล้ม .. กลางลมร่ำ เมื่อความต่ำช้าแรก .. เคยแตกช่อ- ปรับวิญญาณแอบเร้น-ให้เย็นพอ- ร่วมสร้างก่อ-สังคมด้วยคมคำ O เจ้าพระยาไหลผ่านอยู่นานเนิ่น ยั่วหยอกเอินสองฝั่ง .. อยู่ยังค่ำ หล่อเลี้ยงไทยสองฝั่ง .. พร้อมทั้งบำ- บัด-ชอกช้ำเร่าร้อนให้ผ่อนคลาย O กระเพื่อมสายเอื่อยอ่อย .. ค่อยค่อยไหล ล้างคราบไคลลิ่มเลือดจนเหือดหาย แต่เมื่อม่านเข่นขับ .. ชีพดับวาย ยังไม่กลายแรงซัด .. จนบัดนี้ ! O เคยซัดศพลอยฟ่อง - ผู้ป้องเมือง อย่างต่อเนื่อง, ชลาลัย .. ยังไหลรี่ และทุกศพ - เจ้าพระยาคงปราณี- รอลูบโลมหน้าผี .. อย่างที่เคย
O เห็นสายน้ำเลื่อนผิวแล่นริ้ว-ตื่น เป็นริ้วคลื่นเย็นเฉียบ, จากเรียบเฉย- ค่อยปั่นป่วนรอรับ-ชีพลับเลย- ล่องลอยเกยริมฝั่ง .. อีกครั้งแล้ว !
Create Date : 04 กรกฎาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 26 มิถุนายน 2561 19:27:23 น. |
Counter : 1577 Pageviews. |
|
|
|