พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. หัวใจพระธรรมในคำ "บริภาส" ของพระองค์
.
"สุทินน์ ! จริงหรือ ได้ยินว่าเธอเสพเมถุนธรรมด้วยภรรยาเก่า ?"
"ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ! เป็นความจริงพระเจ้าข้า"
โมฆบุรุษ ! นั่นไม่สมควร ไม่เหมาะสม ไม่เข้ารูป ไม่ใช่เรื่องของสมณะ ไม่สำเร็จประโยชน์ ไม่น่าทำเลย.
โมฆบุรุษ ! อย่างไรกันเล่า ที่เธอบวชเข้ามาในธรรมวินัยอันเรากล่าวดีแล้วเช่นนี้ ไม่สามารถประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์จนตลอดชีวิต.
โมฆบุรุษ ! - เราแสดงธรรมแล้วโดยหลายแง่หลายมุม เพื่อความหน่าย หาใช่เพื่อความกำหนัดไม่เลย, - เราแสดงธรรมแล้ว โดยหลายแง่หลายมุมเพื่อความคลาย หาใช่เพื่อความรัดรึงไม่เลย, - เราแสดงธรรมแล้วโดยหลายแง่หลายมุม เพื่อความไม่ยึดถือ หาใช่เพื่อความยึดถือไม่เลย, มิใช่หรือ.
โมฆบุรุษ ! ในธรรมนี้เอง .. - เมื่อเราแสดงธรรมเพื่อหน่าย เธอก็กลับคิดไปในทางกำหนัด, - เมื่อเราแสดงธรรมเพื่อความคลาย เธอกลับคิดไปในทางที่รัดรึง, - เมื่อเราแสดงธรรมเพื่อไม่ยึดถือ เธอกลับคิดไปในทางยึดถือ.
โมฆบุรุษ ! เราได้แสดงธรรมแล้ว โดยหลายแง่หลายมุม .. - เพื่อความหน่ายแห่งราคะ - เพื่อความสร่างจากเมาของความเมา - เพื่อดับเสียซึ่งความกระหาย - เพื่อถอนเสียซึ่งความอาลัย - เพื่อตัดเสียซึ่งวงกลมคือวัฏฏะ - เพื่อความหมดตัณหา - เพื่อความจาง - เพื่อความดับ - เพื่อนิพพาน มิใช่หรือ.
โมฆบุรุษ ! - อุบายเครื่องละกาม โดยวิธีหลายแง่หลายมุม เราได้บอกแล้วมิใช่หรือ. - การกำหนดรู้กามสัญญา โดยวิธีหลายแง่หลายมุม เราได้บอกแล้วมิใช่หรือ. - อุบายเครื่องดับเสียซึ่งความกระหายในกาม โดยวิธีหลายแง่หลายมุม เราได้บอกแล้ว มิใช่หรือ. - อุบายเครื่องถอนเสียซึ่งกามวิตกโดยวิธีหลายแง่หลายมุม เราได้บอกแล้วมิใช่หรือ. - อุบายเครื่องสงบรำงับความแผดเผาของกาม โดยวิธีหลายแง่หลายมุม เราได้บอกแล้วมิใช่หรือ ?.
โมฆบุรุษ ! มันเป็นการดีสำหรับเธอ ที่จะใส่องคชาตของเธอเข้าในปากของงูที่มีพิษร้ายดีกว่าที่จะใส่เข้าในองคชาตแห่งมาตุคาม.
("องคชาติ" คำเดียวคือ อวัยวะเพศชาย ส่วน "องคชาตแห่งมาตุคาม" .. คือ อวัยวะเพศของสตรี .. ซึ่งหากพิจารณาคำว่า "องคชาต" ให้ดีจะเห็นได้ว่า พระองค์หมายถึง อวัยวะสืบพันธุ์ของทั้ง 2 เพศ เพียงแต่ใส่ความเป็นเพศแม่ประกอบเข้าไปสำหรับของผู้หญิง
เห็นได้ว่าคำว่า "มาตุ" นี้มีความหมายถึงความเป็นหญิง หรือความเป็นสิ่งอันเนื่องอยู่กับเพศหญิง ซึ่งมาถึงยุคปัจจุบัน เรามักใช้ไปในทางความหมายเกี่ยวกับแม่ เป็นหลัก แต่ต้นเค้าแรกสุดของความเป็นเพศแม่ คือ ความเป็นเพศหญิง
ส่วนคำว่า "โมฆะบุรุษ" จากพจนานุกรมราชบัณฑิต มีความหมายดังนี้ โมฆ-, โมฆะ [โมคะ-] ว. เปล่า, ว่าง; ไม่มีประโยชน์, ไม่มีผล, เช่น สัญญาเป็นโมฆะ; (กฎ) เสียเปล่า ไม่มีผลบังคับหรือผูกพันตามกฎหมาย.
ดังนั้นคำว่า "โมฆะบุรุษ" ในที่นี้ย่อมหมายถึง บุรุษผู้เสียเวลาเปล่า .. แปลต่อได้ว่า .. คือผู้พ่ายแพ้ต่อโลกวิสัย .. คือเอาชนะสัญชาติญาณความเป็นสัตว์ที่มีอยู่ในตนไม่ได้นั่นเอง
เนื่องจากการเอาชนะสัญชาติญาณดิบเถื่อนที่ติดตัวมาของทุกคนได้ คือ การเอาชนะโลกวิสัยในกายตนได้ .. คือ การอยู่เหนือโลกวิสัยได้ .. คือ โลก+อุดร .. เมื่อ อุดร แปลว่า เหนือ จึงเป็นที่มาของคำว่า เหนือโลก หรือ โลกุตระ นั่นเอง - จขบ)
โมฆบุรุษ ! มันเป็นการดีสำหรับเธอ ที่จะใส่องคชาตของเธอเข้าในปากของงูเห่าดำ ดีกว่าที่จะใส่เข้าในองคชาตของมาตุคาม.
โมฆบุรุษ ! มันเป็นการดีสำหรับเธอในการที่จะหย่อนองคชาตของเธอลงในหลุมถ่านเพลิงที่กำลังลุกโชติช่วง ดีกว่าที่จะใส่เข้าในองคชาตแห่งมาตุคาม.
เพราะเหตุไรเล่า?
เพราะการตายเสียด้วยเหตุนั้น ก็ยังไม่เข้าถึงอบายทุคติวินิบาตนรก.
โมฆบุรุษ ! ข้อที่เธอพึงเข้าถึงอบายทุคติวินิบาตนรกภายหลังแต่การตายนั้น ย่อมมาจากการที่เธอเสพอสัทธรรมอันเป็นการกระทำสำหรับคนชาวบ้าน เป็นการกระทำชั้นต่ำทราม หยาบคาย ลึกลับ เพราะต้องปกปิดเป็นการกระทำของสัตว์ที่ยังต้องอยู่กันเป็นคู่ ๆ.
โมฆบุรุษ ! เธอเป็นผู้ริเริ่มการประกอบอกุศลมากหลาย.
โมฆบุรุษ ! การทำเช่นนี้ .. - ไม่ทำให้เกิดความเลื่อมใสแก่ผู้ที่ยังไม่เลื่อมใส - ไม่ทำผู้ที่เลื่อมใสแล้วให้เลื่อมใสยิ่งขึ้นไป; - มีแต่จะทำผู้ไม่เลื่อมใสไม่ให้เลื่อมใส - และทำผู้ที่เคยเลื่อมใสบางคน ให้เปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นเท่านั้น
(พระผู้มีพระภาคตรัสตำหนิภิกษุชื่อสุทินน์ โดยประการต่าง ๆ แล้ว ได้ตรัสชี้โทษของ .. - ความเป็นคนเลี้ยงยาก - ความเป็นคนเอาใจยาก - ความมักใหญ่ - ความไม่สันโดษ - ความคลุกคลีกันเป็นหมู่. - ความเกียจคร้าน
(โทษ ของความไม่สันโดษ .. ความคลุกคลีกันเป็นหมู่ .. ในสำนักที่มีการจัดตั้งเข้มแข็งใหญ่โต .. ผู้คนวุ่นวายกันแต่ "รูปแบบนั่งหลับตา และพิธีกรรมอันกำหนด แน่นอนตายตัว" อันเต็มไปด้วยศรัทธา ที่ไร้ปัญญา .. ย่อมเป็นโทษ ดังพุทธวจนะนี้แล .. จขบ)
แล้วตรัสชี้คุณของ .. - ความเป็นคนเลี้ยงง่าย - ความปรารถนาน้อย - ความสันโดษ - ความขัดเกลา เป็นต้นแล้ว ได้ตรัสธรรมิกถาโดยสมควรแก่เหตุการณ์ แล้วตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย:-)
ภิกษุ ท. ! เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจักบัญญัติสิกขาบท เพราะอาศัยอำนาจแห่งประโยชน์ ๑๐ประการคือ .. - เพื่อความตั้งอยู่ดีของหมู่สงฆ์ - เพื่อความอยู่เป็นผาสุกของหมู่สงฆ์ - เพื่อข่มคนดื้อด้าน - เพื่อความอยู่ผาสุกของภิกษุที่รักศีล - เพื่อปิดกั้นอาสวะในชาตินี้ - เพื่อกำจัดอาสวะในชาติต่อไป - เพื่อให้เป็นที่เลื่อมใสแก่ผู้ที่ยังไม่เลื่อมใส - เพื่อให้คนที่เลื่อมใสอยู่แล้ว เลื่อมใสยิ่ง ๆ ขึ้นไป - เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม - เพื่ออนุเคราะห์วินัยอันเป็นระเบียบสำหรับหมู่....ดังนี้. . . . บาลี มหาวิ. วิ. ๑/๓๕/๒๐, ตรัสแก่ภิกษุชื่อสุทินน์ ผู้ทำผิดเป็นคนแรกในปฐมปาราชิก สิกขาบท, ที่ป่ามหาวัน ใกล้เมืองเวสาลี
Create Date : 03 กันยายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 3 กันยายน 2555 11:42:10 น. |
Counter : 2004 Pageviews. |
|
|
|