Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 
2 กันยายน 2555
 
All Blogs
 

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. อาการที่ทรงบัญญัติวินัย

.




สารีบุตร !
ศาสดาย่อมไม่บัญญัติสิกขาบท แสดงขึ้นซึ่งปาติโมกข์แก่สาวกทั้งหลาย ตลอดเวลาที่ยังไม่มีอาสวฐานิยะะธรรม เกิดขึ้นในหมู่สงฆ์.


(อาสวฐานิยะธรรม คือความเสื่อมเสีย, หรือการกระทำอันเป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อมเสีย. - จขบ)


สารีบุตร !
เมื่อใด อาสวฐานิยะธรรมบางเหล่าปรากฏขึ้นในหมู่สงฆ์ เมื่อนั้นศาสดาย่อมบัญญัติสิกขาบทแสดงปาติโมกข์แก่สาวกทั้งหลาย เพื่อกำจัดเสียซึ่งอาสวฐานิยะธรรมเหล่านั้น.

สารีบุตร !
อาสวฐานิยะธรรม จะยังไม่ปรากฏขึ้นในหมู่สงฆ์ตลอดเวลาที่หมู่สงฆ์ยังไม่ใหญ่โตเพราะตั้งมานาน.

สารีบุตร ! เมื่อใด สงฆ์เป็นหมู่ใหญ่โตเพราะตั้งมานาน เมื่อนั้นอาสวฐานิยะธรรมบางเหล่าย่อมปรากฏขึ้นในหมู่สงฆ์, เมื่อนั้น ศาสดาย่อมบัญญัติสิกขาบทแสดงปาติโมกข์แก่สาวกทั้งหลาย เพื่อกำจัดเสียซึ่งอาสวฐานิยะธรรมเหล่านั้น.

สารีบุตร !
อาสวฐานิยะธรรม จะยังไม่ปรากฏขึ้นในหมู่สงฆ์ตลอดเวลาที่หมู่สงฆ์ยังไม่ใหญ่โตเพราะแผ่ไปเต็มที่.

สารีบุตร !
เมื่อใด สงฆ์เป็นหมู่ใหญ่โตเพราะแผ่ไปเต็มที่ เมื่อนั้นอาสวฐนิยะธรรมบางเหล่าย่อมปรากฏขึ้นในหมู่สงฆ์, เมื่อนั้น ศาสดาย่อมบัญญัติสิกขาบทแสดงปาติโมกข์แก่สาวกทั้งหลาย เพื่อกำจัดเสียซึ่งอาสวฐานิยะธรรมเหล่านั้น.

สารีบุตร !
อาสวฐานิยะธรรม จะยังไม่ปรากฏขึ้นในหมู่สงฆ์ตลอดเวลาที่หมู่สงฆ์ยังไม่ใหญ่โตเพราะเจริญด้วยลาภ.

สารีบุตร !
เมื่อใด สงฆ์เป็นหมู่ใหญ่โตเพราะเจริญด้วยลาภเมื่อนั้นอาสวฐานิยะธรรมบางเหล่าย่อมปรากฏขึ้นในหมู่สงฆ์, เมื่อนั้น ศาสดาย่อมบัญญัติสิกขาบทแสดงปาติโมกข์แก่สาวกทั้งหลาย เพื่อกำจัดเสียซึ่งอาสวฐานิยะธรรมเหล่านั้น.

สารีบุตร !
ก็สงฆ์หมู่นี้ ยังประกอบด้วยคุณอันสูง ไม่มีความต่ำทรามไม่มีจุดดำ ยังบริสุทธิ์ ขาวผ่อง ตั้งมั่นอยู่ในสาระ.

สารีบุตร เอย !
ในบรรดาภิกษุห้าร้อยรูปเหล่านี้ รูปที่ล้าหลังเขาที่สุด ก็ยังเป็นโสดาบัน เที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้ มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา, ดังนี้
.
.
.
บาลี มหาวิ. วิ. ๑/๑๕/๘.
ตรัสแก่พระสารีบุตร ที่เมืองเวรัญชา




 

Create Date : 02 กันยายน 2555
0 comments
Last Update : 2 กันยายน 2555 22:00:38 น.
Counter : 1332 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.