|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
O เส้นทาง .. ที่วางทอด O
ลาวคำหอม - best version
๑๔ O เท้าย่ำกระหน่ำอุทกะผืน ขณะคลื่นสงัดรอย ซ่าเสียงก็เพียงชละจะพลอย บทะคอยละห้อยครวญ O หมายงาม .. จะข้ามทกะมหรร- ณพะคั่นประจบจวน หมายใครจะไหวอุระกระสรวล ระอุอวละแทรกซ้อน O พบงาม ณ ยามอรุณะสาง ขณะย่าง ณ ทางจร พบเจอก็เผลออุระสะท้อน เพราะนิวรณะว่าย-วน O เหยียบย่างระหว่างสุริยะแสง ประลุแต่งประโลม"ตน" คดเคี้ยวเลาะเลี้ยวสรรพะระคน อนุสนธิปรนเปรอ O พรรณาประดากุสุมะชา- ติพิลาสะเลิศเลอ กรองกลิ่นประทิ่นรสะเสนอ ก็ละเมอสุมาลย์มอม O ช้อยช่อ .. พะนอพิศะขบวร วตะอวล ฤ อดออม โลมลูบและจูบทะนุถนอม ขณะหอมระบัดหวน O เกรียวกรูเพราะรู้รสะประทิ่น ภุมรินะบินทวน แห่ห้อมพะยอมพละกระสรวล ก็กระอวละอิ่มเอม O ก้าวย่างระหว่างมรรคะคระลอง ตละปองก็ปรีดิ์เปรม เฉกภู่เพราะรู้บทะเขษม รสะเขมะรุมรม O โลมพลอดตลอดรัถยะหมาย จะละลายระหว่างลม คือใจเพราะไร้คตินิยม ทิฐิข่มและคอยขืน O หลังลมระดมพละกระโชก พรรณะโยกและหยัดยืน อ่อนเอนกระเวนบทะ บ่ ฝืน ก็จะคืนจะยังคง O พร่าพรางธุมางค์ขณะตรลบ ฤ จะสบกะรูปทรง พร่านัยกระไรจะพิศวง และประสงคะสืบสาว O แจ้ง, หม่นระคนบทะประดัง ตละครั้งและต่างคราว งดงาม ฤ ทราม ฤ จะอะคร้าว ระยะก้าวก็บงการ O ก้าวไปและใจก็ทรนง อุปสงคะดวงมาน กรกุมผชุมจิตะผสาน อุปทานก็ถ่ายถึง O ร้อน, ร่มและลมพละกระหน่ำ ยุตินำลุคำนึง แทนร้อนก็ซ้อนนยะระรึง บทะซึ้งก็บรรสาร O ผ่านผายผกายนัยนะหลอม อุระอ้อมก็พร้อมการณ์ อ้อมกอดจะพลอดกะทรมาน ทุขะผลาญก็ยินดี
แปล .. เป็นกลอนให้ด้วย .. เอาไงอีก .. เนอะ
O เจ้าเอยยกก้าวย่างอยู่กลางน้ำ แลเบื้องต่ำราวกระจกที่วกไหว ซ่าเสียงเพียงซบเร้ารอยเท้าใคร กระซิกไห้แว่วอยู่ไม่รู้วัน O หมายรูปงามรูปฝันข้ามอรรณพ มาบรรจบห้วงใจที่ไหวหวั่น หมายแววตาวาบวับขึ้นฉับพลัน เมื่อรูปหนึ่งใครนั้นเข้าพันธนา ..
.. O พบงามก็เมื่อยามอรุณรุ่ง เริ่มใจมุ่งหมายมั่น..พร้อมฟันฝ่า ร่วมเส้นทางสัญจรเร่ร่อนมา แต่งคุณค่าหลากหลายขึ้นว่าย-วน ..
O ระยะช่วงทิศทางก้าวย่างเหยียบ ร้อน, เย็นเยียบ .. โลมสลับพาสับสน ละครั้งผ่านสะท้านทั่วทั้งตัวตน ละครั้งหนสั่งสมสุดข่มคลาย O เบ่งบานแห่งบรรดาบุปผาชาติ เผยพิลาสสีสัน .. ท่ามวันฉาย หอมกุสุมรุมร่ำลมรำบาย ก็กำจายรอบภิรมย์ให้สมยอม O ดูเถิด .. ช่างช้อยช่อพะนอพิศ รูปวิจิตร, กรอมถิ่นด้วยกลิ่นหอม สุดจะหักใจข่ม .. ไม่ดมดอม จะหักห้อมหอมนั้นได้ฉันใด O ประหนึ่งภู่ภุมรินที่บินว่อน เมื่อลมย้อนหอมนั้น .. ย่อมหวั่นไหว ถวิลหวานเกสราบุปผาไพร จะแห่ห้อมตอมไต่ .. ทุกตัวตน O สืบทอดเท้าก้าวย่างในทางเปลี่ยว โค้ง, คดเคี้ยว, เรื่อรอง, มืดหมองหม่น จึงเผยตามสำทับ .. ให้อับจน และคอยปรนเปรอให้ .. หวั่นไหวตาม O มีเงาทอดยืดยาวทุกคราวย่าง มีรอยอ้างว้างเงียบให้เหยียบ-ข้าม มีวังเวงวิเวกบท .. มีงดงาม มีหยาบหยามขมขื่นให้ตื่นรับ O หลังลมล่องแรงไหล-โลมไพรพฤกษ์ กิ่งลั่นคึกอ่อนเอนกระเวนกระหยับ ดอกใบพลิกหงายคว่ำร่วงสำทับ ต้นรากกลับฝ่าฝืนขึ้นยืนคอย O พรางฝุ่นหนุนละอองขึ้นครองถิ่น บดบังสิ้นแสงเงาจม .. เศร้าสร้อย พรางนัยสุดชี้ช่องบอกร่องรอย ย่อมปรุงปล่อยตามฤทธิ์อันจิตมี O แจ้งหม่นเปลี่ยนปรุง .. อำรุงรอบ ค่อยค่อยครอบลงกัก .. ส่วนศักดิ์ศรี ขีดเส้นโลกถ้วนทั่ว .. แยกชั่วดี ตัดสินชี้ถูกผิดทุกทิศทาง O ก้าวไปด้วยหัวใจที่ทรนง เคียงโฉมยงร่วมยาก .. ฝ่าขวากขวาง ใจแนบใจ .. มือกุม, มือนุ่ม-นาง มีศรัทธาร่วมสร้างพราวพร่างนัยน์ O กี่ร้อนจึงยากร้อนกว่าก่อนนี้ ร่มจะมีกี่ร่ม .. เป็นร่มให้- ลมจะโหมแรงผ่าน .. ให้ผ่านไป เพียง .. หัวใจรูปรองที่ต้องการ O มือกุมเกี่ยวสบนัยน์ .. หัวใจหลอม เนื้ออุ่นหอม .. รุมเร้า .. ทรวงเผาผลาญ พรั่งพร้อมอยู่แอบออ .. ด้วยทรมาน ยอมวายปราณมรณา .. ทั้งอาลัย
Create Date : 04 พฤษภาคม 2562 |
|
0 comments |
Last Update : 21 มกราคม 2567 7:56:39 น. |
Counter : 2360 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|
|