Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
7 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 

O ฟ้าหลังฝน .. O








Bernward Koch - The Silver Veil



-1-
O แต่เผยรูปพักตร์นั้นมาบรรจบ
รูป-ชาติภพ, แฝงฝากก็กรากเชี่ยว
ย่อมมิใช่คืนเพ็ญ .. ด้วยเห็นเรียว-
จันทร์หันเสี้ยวเงียบหงอย เลื่อนลอยดวง
O ก่อนพิศแสงงามปลั่งเหนือฝั่งฟ้า
ปรารถนาฝันใฝ่ .. ก็ใหญ่หลวง
หากครั้งนั้นหนหาว .. ไร้ดาวดวง
อกหนึ่งก็ .. เกินหน่วงความห่วงใย
O แผ่วผ่านสายลมหนาว .. ในคราวก่อน
พร้อมเสียงการออดอ้อน, ความอ่อนไหว
จนรับรู้คืนค่ำ .. ว่าอำไพ
เมื่อรับรู้ความใคร .. ว่าใยดี
O หากวานนี้ .. ฟ้าครึ้มคะนองฝน
ต่างฤๅ-ความหมองหม่นอันล้นปรี่ ?
วานนั้นสายฟ้าฟาด .. ลมวาดวี
ทรวงหนึ่งที่ทรมา .. เฉกฟ้านั้น
O ไม่มีหยาดน้ำร่วง .. จากสรวงพู้น
แต่อาดูรรวดร้าว .. พาหนาวสั่น
กลางลมตื่นแต่งพลบเข้ากลบวัน
ก็บีบคั้นขื่นขมทับถมทรวง
O เหมือนโถมถั่งวาโยไหลโผผ่าน
จนอกหนึ่งสั่นสะท้านเกินต้านหน่วง
ก่อนละลอกเย็นเยียบเข้าเทียบทวง
ตราบเต็มตวงทรมา .. ล่ามคาใจ
O หลังห่าฝนโหมสายกระหน่ำสาด
ที่บำราศรูปรอยจึงค่อยไข
เป็นรูปดวงช่วงแผ่เห็นแต่ไกล
เผยผ่านนัยน์วาววับลงทับทรวง
O วันนี้ฟ้า .. ไม่ครึ้มคะนองฝน
หากอำพนจบพิสัยด้วยไฟสรวง
จากแวววาวแจ่มชัดจำรัสดวง
เข้าเลือนล่วงหม่นหมอง .. ทั้งสองตา
O ทออุทัยใสขจ่าง .. จึงพร่างเพ็ญ
และดั่งเช่นพจนารถที่ปรารถนา
เริ่มส่งผ่านอาวรณ์ไหลย้อนมา
ปริศนาแฝงเร้น .. ก็เช่นปอง
O เสน่ห์จันทร์ .. กรุ่นกลิ่นรื่นถิ่นธาร
บอกพิสุทธิ์ทุกย่านละหานหนอง
เสน่ห์เจ้า .. รื่นล้ำผ่านคำกรอง
บอกไตร่ตรองให้สดับ .. ให้รับรู้
O จนเอื้อมมือกุมรับแนบกับอก
ถ้อยสาธก .. ออดอ้อนใครย้อนสู่
หลั่งมาเถิด .. หวานล้ำ, ความดำรู
หลั่งแก่ผู้ .. วางบท .. ในพจนา

-2-
O คีตกล่อมกาลรายรอบ, ใจตอบตื่น-
ต่อเสียงอื้นโอดคำ .. ครวญคร่ำหา
ภาพออดอ้อน, อาลัย-ผ่านนัยน์ตา
วกย้อนฝ่าลมเอื่อย .. ที่เฉื่อยโชย
O กระต่ายน้อยเพ่งพะวงเฝ้าหลงจันทร์
คือรำพันเพลงแว่ว .. เสียงแผ่วโหย
เผยอาวรณ์ท่วมอยู่ .. ไม่รู้โรย
เปรียบปานโดยหวงรูป .. เฝ้าจูบเงา
O ล้ำกุญชรหวงงา .. ที่ว่าหวง
มฤคาทั้งปวงที่ห่วงเขา
ยิ่งมัจฉาหวงน้ำ, หวงลำเพา
หวงรูปเยาว์ .. รุมร้อนเกินผ่อนลง
O นั่น- เพียงแค่ .. บทเพลงบรรเลงร้อง
นี่ – คำกรองเผยนัย .. อาลัย-หลง
ยิ่งกว่าเพลงเพ้อพร่ำ, จิตจำนง
ด้วยอาวรณ์สืบส่ง .. เข้าบงการ
O เขาย่อมว่าความรัก .. เขาหนักแน่น
เปรียบราวแผ่นภูผา..หยัดท้า-ต้าน
ท้าลมฝนแดดเผชิญ .. อยู่เนิ่นนาน
ไม่สึกกร่อนลบลาญ .. ทนทานนัก
O เถิด .. ทั้งสิ้นทั้งปวง .. คำห่วงหา
เทียบใจผู้ทรมา .. เกินฝ่า-หัก
ยังห่างหวง .. ห่วงถนอมละม่อมพักตร์
ผู้จำหลัก .. ลงวิตกในอกนี้
O บทเพลงเอื้อนความอ้อน .. วกย้อนใหม่
เมื่ออกใจหนึ่งคนนั้นล้นปรี่
ด้วยอาวรณ์ถวิลหาทุกนาที
หวัง-ไมตรีเอื้อนเอ่ย .. เจ้าเผยมา
O ฟังเถิดดวงดอกฟ้า .. มณฑาทิพย์
ที่สูงลิบ .. จำค้อมลงน้อมหา
คือแรงกรรมเบื้องบรรพ์ .. ชี้-บัญชา
จากเคยร่วมเจตนา .. แต่ครานั้น
O พินิจเถิด .. รูปพยางค์ที่วางไว้
ย่อมแต่งนัยโอบกล่อมประนอมขวัญ
หมายโน้มเหนี่ยวซาบซึ้ง .. จดถึงกัน
โดยรำพันพ้องศัพท์ .. ให้รับรู้
O เถิด .. หัวใจดวงประณีต-อย่ากีดกั้น
ให้ผูกพันอ่อนหวาน .. ได้ซ่านสู่
เพื่ออาวรณ์ร้อนรุม .. ได้อุ้มชู
พาใจจู่ติดบ่วง .. แหล่งทรวงนี้
O ให้รับรู้ปฏิพัทธ .. จนชัดแจ้ง
ปล่อยให้แรงอาลัยค่อยคลายคลี่
กรองรูปรอยเสน่หา .. เป็นวาที
มาช่วงชี้ .. อภิรมย์ .. ท่วม-ถมทรวง

O ปองเอื้อมเด็ดดอกฟ้า - - - มาประดับ ใจเฮย
เกรงภู่ภมรขยับ - - - แย่ง-ลิ้ม
มาลย์หอม, เนตรพริ้มพรับ - - - เพียรสบ
เรียวปากเมื่อแต้มยิ้ม - - - ยุดยั้งฤๅถวิล ?




 

Create Date : 07 ตุลาคม 2556
1 comments
Last Update : 15 เมษายน 2566 18:20:20 น.
Counter : 3759 Pageviews.

 

ไพเราะมากค่ะพี่กาย

 

โดย: ม่านแพร IP: 202.29.190.73 12 ตุลาคม 2556 16:27:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.