O คล้ายในค่ำคืนหนึ่ง..รำพึงปวง ค่อยผ่านล่วงเจตจินต์ให้ยินเสียง ด้วยกลกานท์ความถ้อย..กอปร-ร้อยเรียง วาดหวังเพียงเนตรชะม้ายจะชายมา O หอมหวานแห่งอาลัย..รินไหลเซาะ
O หวังถึงจะเชยสร้อยสุคนธา ปรารถนามณีสรวงที่ช่วงฉาย ใจเอยเมื่อหาญกล้าขึ้นท้าทาย จะยอมพ่ายแพ้ได้อย่างไรกัน O มณีเดียวช่วงอยู่ไม่รู้ลับ เพื่อรองรับอาลัยผู้ใฝ่ฝัน- และหนึ่งความแหนหวงใต้ดวงวัน ร่วมโอบขวัญรูปเยาว์..ฟังเว้าวอน O เรื่องราวจากเพรงกาลอันนานเนิ่น ผ่าน..เชื้อเชิญพร่ำพลอด..ความออดอ้อน รติรสละเมียดละมุนอันสุนทร ก็แทรกตอนดื่มด่ำลงรำบาย
O คำตัดพ้อต่อว่าแต่ครานั้น หมายผูกพันพิสวาทด้วยชาติหงส์ หากครานี้ลึกล้ำด้วยจำนง รอ-เสริมส่งคันธารสลงจดใจ O ด้วยแรงรักปรารมภ์บรรสมสร้าง จะกี่ขวากหลุมพรางฤๅขวางได้ เมื่อถวิลปรารถนา..แรงอาลัย รอพร้อมให้สืบสมร่วมกลมเกลียว O ใจเอย...ฤๅเคยคิด-สักนิดว่า- เมื่อคุณค่าแฝงฝาก..เริ่มกรากเชี่ยว เหลือแต่ต้องเตรียบใจด้วยนัยเดียว รับทุกเสี้ยวส่วนงามที่ลามมา O เห่เอย...เห่กล่อมละม่อมรูป ความจะลูบโลมให้..อาลัยหา กลางสนิทหลับฝัน..พี่สัญญา- จะโอบรูปปรารถนา..ข้ามราตรี O เห่เอย...เห่ช้าพญาหงส์ เจ้าสูงส่งด้วยสง่าและราศี คำถนอมกล่อมชาติ..จักวาดวี ให้ภิรมย์ดวงฤดีอย่ามีคลาย O รอคอยจะพบกัน..ในวันพรุ่ง เมื่อวันฟุ้งฟายดวงขึ้นช่วงฉาย ถนอมเถิดรูปพิไลทั้งใจกาย รอ-สองปลายสายสวาท..เข้า-พาดพัน
อ่านแล้วอยากปรบมือให้ดัง ๆ ไพเราะมาก ชอบค่ะ
งามนักงามหนา งามป๋านเทวา...เปิ้นลงมาปั้น
เอวองค์แค๊วดั่งเสี้ยวจั๋นทร์ อ่อนช้อยงามงัน
ยามย่างเยื่องย้ายอรชร...