O แววในดวงตา .. O
สร้อยสนตัด - นิก กอไผ่O ดูเลือดฝาดปาดแต้ม .. ทั้งแก้มหน้า เหมือนรอให้สายตาลองฝ่า .. หักดูเถิด .. แววตาพร้อมละม่อมพักตร์เหมือนล้อมกักให้ละห้อย .. แต่คอยรอO ปั่นป่วนด้วยลมตื่น .. โลมพื้นผิว-น้ำ, เมื่อริ้วเลือดซ่านด้วยหวาน .. ก่อ-ขึ้นจากแววตาเฝ้า พะเน้าพะนอยั่ว .. หยอกล้อรมยาในตาคนO เจ้าพระยา .. ยังเชี่ยวเป็นเกลียวคลื่นเมื่อคำคืนอบอุ่นไร้ฝุ่นฝนแรงรมย์รื่นแผ่วพลิ้วเป็นริ้ววนกลางอกอลวนอยู่ .. ไม่รู้ยามO โอ แววตารูปละม่อม .. ไย-น้อมรับเหตุใดเล่าจึงระยับ .. จนพรับ-ข้าม-มาพิมพ์รูป .. พิมพ์รสแสนงดงาม-แล้วเหนี่ยวใจผูกล่าม .. เอาตามใจ ?O แต่บัดนั้น..รุ้งเรื้องที่เบื้องหน้า-ก็เหมือนว่าทอดโค้งยึดโยงให้-ความขัดเขินอ่อนหวานที่ด้านใน-อกทรวงใคร..กับผกายแห่งสายตาO ยิ้มรับความสดใสแห่งวัยเยาว์เช่นยามเช้าสุมาลย์ช้อย..ช่อ-คอยท่า-ภุมรินผึ้งภู่..จะรู้มา-ตฤปรสผาณิตหอม..อย่างยอมตนO ยิ้มรับความอ่อนไหว..ของใครนั้นกับแวววามไหวสั่นนับพันหนเอ็นดูความขัดเขินหยอกเอินคนหวามที่ล้นเอ่อแล้ว..ผ่านแววตา !O ย่อมหวังเพียงหวานซึ้ง .. ใจหนึ่งนั้น-ต้องรำพันความถ้อย .. แล้วคอยท่า-รอโอบกล่อมดวงขวัญด้วยพรรณนาต่อคุณค่าหวานหอมรายล้อมใจO เพื่อบอกว่าอาวรณ์ที่ซ่อนเร้น-นั้น-บีบเค้น .. ออดอ้อนเกินผ่อนไหวเพื่อเผยความบอกว่า .. เดียงสาใคร-นั้น-เติบใหญ่รับรู้ .. เชิงชู้แล้วO เมื่อสิ้นแรงกดข่ม .. อารมณ์ชู้หัวใจผู้แฝงเร้น .. ย่อมเต้นแผ่วเหลือเพียงเผยเลศนัย .. คอยให้แวว-ตาผ่องแผ้วคู่นั้น .. รำพันความO ลำดับภาพเปื้อนป่ายในสายตาย่อมเลือนค่าสร้อยโศกแห่งโลกสามเหลือเพียงการโลมลูบด้วยรูปนาม-แสนงดงามขับไขอยู่ในแววO ถ้วนเลศนัยเว้าวอนแสนอ่อนโยน-ย่อมถ่ายโอนความล่วงจากทรวงแก้วสองดาวช่วงดวงซึ้ง .. ย่อมตรึงแนว-ความผ่องแผ้วผาดผาย .. สู่สายตาO หรือที่บางห้วงอกสะทกสะท้อน-จากพากย์ตอนย้ำเตือนจนเหมือนว่า-ความในอกทั้งนั้น .. ดั่งพรรณนารู้ทีท่าเร้นแฝง .. ว่าแสร้งทำO ดูเอาเถิด .. แววระยับให้นับเนื่อง-ดั่งดาวเรื้องแสงฉายรำบายค่ำเต้นผกายตอบตื่น .. ล้อคลื่นคำ-หยอกเย้าสัมผัสค่า .. แรงอาลัยO ปลายปีกนกโบกผ่านไปนานเนิ่นแววขัดเขินในตา .. คล้ายว่า-ไหวปริศนาเร้นแฝง .. ราวแกว่งไกว-ล้อสายลมล่องไหล .. อยู่ในยามO ปลายปีกนกโบกลับไปกับฟ้าสุดสายตา .. เพียงภาพแวววาบหวาม-ของอาวรณ์อ่อนไหวที่ไหลลาม-ของรูปนามปริศนา .. ผู้อ่าองค์ !
...
ปลายปีกช้อย ดวงทรงกลด บินจรดฟ้า
ลับสายตาทองทาบเพียงภาพฝัน
มโนหนึ่งแฝงไว้ใต้ดวงวัน
งามผูกพันอุ่นเหลือเพื่อผู้ใด
เหลือเพียงทิ้งปริศนาว่าภาพหนึ่ง
สุดลึกซึ้งตรึงมานนับนานไขย
แม้รูปนามห่างสุดหาหยุดใจ-
นางรอใครนั่งชมดาวเคล้าแสงเดือน
ร่วมวงด้วยสองบทค่ะ
สบายดีนะคะคุณสดายุ