|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
|
|
|
|
|
"พรหมลิขิต"
"คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม? " เสียงชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในมุมระเบียงทักถามจนดารินตกใจระคนแปลกใจว่าเสียงที่ถามนั้นถามเธอหรือเปล่า เธอทำหน้าแบบงง และมองใบหน้าคมสันที่รับกับแสงสลัวๆ ของไฟที่สาดมาจากห้องจัดเลี้ยง และสบตาเป็นสัญญาณว่าถามเธอหรือเปล่า? "ก็คุณนั่นแหละ ผมไม่ได้บ้าพูดคนเดียวหรอก" เสียงเขาส่งมาพร้อมแววตาค้นหา "ฉันเหรอ? " แต่ในใจก็คิดว่าไม่บ้าเหรอ? นายนั่นแหละบ้าชัด ๆ ฉันไม่รู้จักนายซะหน่อย "อืม...ใช่ ผมถามคุณนั่นแร่ะ ผมเห็นคุณตั้งแต่เดินออกมาแล้ว แต่คุณไม่ยักกะเห็นผม" เขาสาธยาย
อะไรกันผู้ชายคนนี้ ทำให้ภายในใจดารินคิดกลัวขึ้นมา ตานี่โรคจิตหรือเปล่านะ ทำให้ต้องโมโหตัวเอง บ่นในใจว่านี้ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยนะที่หนีออกมาจากงาน เพียงเพราะเซ็งกับเหตุการณ์ภายในงาน มันไม่คุ้มกันเลย กับเหตุการณ์ที่ต้องเจอในตอนนี้ ไม่รู้จะต้องมาถูกตาบ้านี่ลวนลาม หรือจับเป็นตัวประกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ (โหคิดไปได้ไงเนาะ) สิ่งที่ทำใด้เพียงเงียบและจ้องหน้าบุรุษที่อยู่เบื้องหน้า ที่ห่างกันราวสามเมตร พยายามสังเกต ว่ากิริยาอาการท่วงท่าประมาณไหน เมา หรือ กำลังหื่น บ้ากาม หรืออะไรก็แล้วแต่
"คุณไม่ต้องกลัวผมหรอก ผมรู้คุณกำลังกลัว และอยากบอกว่าผมไม่ได้เมาแค่มึน" เขาสาธยาย(พล่ามมากกว่า) เขาหันมามองหน้าที่ตื่นกับเหตุการณ์ ทั้งรู้ว่าผู้หญิงตรงหน้านี้สวย เมื่อได้สบแวววาที่มาดมั่นนั้น ทำให้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ ไม่เพียงแต่สวยยังน่าค้นหาในความสวยเรียบแต่เก๋ ยิ่งพิศดวงหน้ายิ่งละมุนตา ระหว่างที่จ้องดวงหน้าที่คล้ายต้องมนต์สะกด ทำให้เขาสำนึกได้ว่าเขาเสียมารยาทกับผู้หญิงคนนี้ซะแล้ว ทำให้เขาตื่นจากภวังค์ที่ครุ่นคิดก่อนหน้าหญิงสาวผู้นี้จะเดินออกมาทำลายความคิดเขา จนกลายเป็นเรื่องให้เขา คิดหาเรื่องสนุก ๆ ทำและเธอกลายเป็นเหยื่อให้เขาเล่นตลก...
แต่อีกฝ่ายไม่ได้สนุกด้วยเลยสักนิด ความหวาดหวั่นหวาดกลัวผุดขึ้นมาพร้อมตั้งรับอยู่ตลอดเวลาแววตาที่จ้องมองผู้อยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาระแวงระวัง และมาดมั่นพร้อมรับกับสถานการณ์
"ผมขอโทษคุณครับ ผมมองไม่ถนัดเมื่อสักครู่" เป็นคำแก้ตัวน่ารังเกลียดยิ่งในความรู้สึกของดาริน "คุณเมาหรือเปล่า" หล่อนถามพร้อมจ้องหน้า "ป่าวครับ ผมแค่มึนกับไวน์นิดหน่อยเท่านั้นเอง" เสียงเขาพูดเหมือนล้อ ๆ "ดิฉันขอตัวก่อนค่ะ" ยังจะรักษามารยาทอีกนะ คุณผู้หญิง อะไรจะในเย็นปานนั้น
ในความใจเย็นและให้อภัยนี้เองที่ทำให้ชายหนุ่ม ที่เสียมารยาทกับเธอแอบชื่นชมอยู่ลึกลึกเขายอมรับว่าผู้หญิงคนนี้นิ่ง และเหยียบบางแว๊ปที่แววตาท่อประกายทำให้น่ากลัวดุจเสือร้ายใจรู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้ที่สวย แต่ไม่โดดเด่น แต่ยามมองก็สง่าละมุนในความเรียบหวานซ่อนอยู่เขาจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้กลับไปเจอชายหนุ่มอีกสิบภายในงานเลี้ยงได้อย่างไร...
"อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนไม่ได้หรือครับคุณผู้หญิง" เสียงทุ่มแต่ฟังนุ่มกว่าที่ผ่านมา "ฉันต้องขอตัวค่ะ ผู้ใหญ่ท่านรอนานมากแล้ว" นางเอกได้อีก ดาริน
ชายหนุ่มกำลังจะเอ่ยปากเพื่อเซ้าซี้หญิงสาวเพื่อให้อยู่คุยเป็นเพื่อน ก็ผละเสียก่อนเมื่อสตรีวัยกลางคนกำลังเดินออกมาพ้นประตูแล้วกำลังเดินตรงมาหาเขา ที่ยืนเผชิญหน้ากับหญิงสาวในชุดราตรีพลิ้วด้วย ผ้าซีฟรองซ์สีฟ้าคุมเข่าดูเรียบแต่หรู กับท่วงท่าที่นิ่ง บางเสี้ยวนาทีก็ดูน่าสพึงแทบใจหาย
"อ้าว หนูรินมาอยู่นี่เอง รู้จักกันแล้วเหรอ? จ๊ะ " สตรีผู้นี้ก็คือป้าศรีพรรณที่เป็นเพื่อนป้าสร้อยทอง เป็นญาติทางเจ้าบ่าวนั้นเอง ซึ่งหล่อนก็เพิ่งรู้จักก่อนเข้ามาในงานด้วยการแนะนำของป้าสร้อยทอง
"คุณป้า มีอะไรกับรินหรือเปล่าค่ะ" หญิงสาวยิ้มต้อนรับผู้มาเยือนด้วยใบหน้าอ่อนหวานและไม่พ้นสายตาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกลไปได้ ทุกกิริยาเขาเก็บไว้เป็นข้อมูลเสียแล้ว
"จ๊ะ ก็คุณสร้อยเขาถามหาหนูริน ป้าก็อาสาเดินมาตามจะมาตามหาลูกชายตัวแสบของป้าด้วยจ๊ะ"ป้าศรีพรรณ ที่อ่อนโยน และใจดี สาธยายการมาขัดจังหวะของสองหนุ่มสาว ซึ่งดารินคิดว่านั้น ถือว่าเป็นโชคดีที่ป้าศรีพรรณมาทันเวลาก่อนที่อะไรร้าย ๆ จะเกิดขึ้น
ดารินรู้ทันที่ว่าบุคคลที่สามในการสนทนาเป็นบุคคลเดียวกันที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากหล่อนทำให้ต้องหันไปมองหน้า ที่กำลังจ้องมองมาอย่างไม่วางตาแบบไม่กระพริบ...
"รู้จักกันหรือยังจ๊ะ ถ้ายังเดียวป้าจะแนะนำให้รู้จักจ๊ะ " ป้าศรีพรรณจัดแจงแนะนำสองหนุ่มสาวให้รู้จักันไว้
"นี่จ๊ะ รณช ลูกชายป้าจ๊ะ " ป้าแนะนำบุรุษอัตพาลที่เสียมารยาทกับดารินด้วยไม่รู้ว่าก่อนนี้พ่อตัวดีทำอะไรไว้ดารินไหว้บุรุษที่อยู่ตรงหน้า แต่แววตาหมายคาดโทษเสียแล้ว
"รณช ดาริน โรจน์กาญกิจ ลูกสาวเพื่อนแม่ เป็นหลายสาวของป้าสร้อยทองจ๊ะ" ป้าศรีพรรณ พรรณนาซะยาว
รณช มองหญิงสาวที่มีแววตาคาดโทษ ด้วยแววตาขี้เล่น และยี้ยวน ทำให้หญิงสาวไม่สบอารมณ์แต่ก็ต้องข่มไว้ ต่อหน้าผู้ใหญ่ต้องเรียบร้อยไว้
"สองคนรู้จักกันเป็นทางการแล้ว เข้าไปข้างในกันไหม? จ๊ะ หรือจะคุยกันต่อข้างนอก" ป้าศรีพรรณมาเพื่อสิ่งนี้หรือช่างได้จังหวะเสียจริงนะ ซึ่งแท้จริงแล้วป้าศรีพรรณ และป้าสร้อยทอง หมายหมั่นจะให้สองคนนี้รู้จักกันในการนี้ เป็นเรื่องที่คิดไว้ก่อนแล้ว ซึ่ง รณช ก็รู้ดีว่ามาออกงานกับมารดาครานี้ต้องมีการดูตัวเป็นแน่ แต่ไม่รู้ว่าหญิงสาวที่กระหายผู้ชายคนนั้นจะเป็นใคร การมาที่นี่ของ รณช ถือเป็นเรื่องร้ายร้ายสำหรับเขาทีเดียว แต่เขาก็ต้องยอมมาเป็นเพื่อนมารดาแต่โดยดี เพราะไม่มีเหตุผลใดจะขัดขืนเขาเองก็เพิ่งเลิกกับ ริต้า หรือ "ริศฤา" ที่เธอพบรักใหม่ ทำให้เขาเซ็งกลับชีวิตจนต้องออกมานั่งที่ระเบียง จนเกิดเรื่องเข้าใจผิดกับหญิงสาวที่สวย...
แต่อีกฝ่ายไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย บิดาหล่อนบอกว่าไม่สามารถออกงานได้และไปกับหล่อนไม่ได้เพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายบิดาของหล่อนก็สมรู้กับเพื่อนสาวอย่างป้าสร้อยทองแล้วนั่นเอง เหตุผลคือหล่อนเบื่อกับการใช้ชีวิตแบบนี้ที่ไม่เคยมาก่อนและในงานหล่อนก็ไม่รู้จักใครเลยนอกจากป้าสร้อยทอง และน้องก้อย ที่เป็นเจ้าสาวในคืนนี้...
"ครับ เราจะคุยกันสักพักค่อยเข้าไปครับ" เสียง รณช ชิงบอกมารดาก่อนที่สาวเจ้าจะชิ่งหนีเข้าไปในงานเพราะเขารู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้ซะแล้ว เพราะในแววตานั้นช่างท้าทาย น่าค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่เหลือเกิน สัญชาติญาณความเจ้าชู้บอกเขาอย่างนั้น..
ดารินได้แต่ยิ้ม แต่แอบส่งตาเขียวไปหาคนต้นเหตุที่ทำให้ต้องมาทนกับผู้ชายห่วย ๆ ที่เสียมารยาทคนนี้ หลังจากที่ผู้มาเยือนได้กลับเขาไปร่วมงานภายในห้องเลี้ยงรับรอง ก็ทิ้งให้สองหนุ่มสาวอยู่ในความเงียบ แต่ก็เงียบได้ไม่นาน เพราะความนึกหมั่นไส้ของดารินที่มีต่อชายอัฒพาลที่ยืนเคียงข้างพิงขอบระเบียงอยู่ห่างราวเมตรได้ หล่อนฆ่าความเงียบให้ตายลง...
"คุณมีอะไรจะคุยก็ว่ามา " หญิงสาวไม่พูดพล่ามให้เสียเวลา
"ป่าวผมแค่อยากทำความรู้จักกับคุณ และทำความเข้าใจกับคุณให้มากขึ้นก็เท่านั้น" เขาบอกพร้อมมองหน้า
"แค่นี้ งั่นฉันไป" ใบหน้างอน มุ่ยเสียแล้วแต่ก็น่ารักในสายตาของคนที่พยายามเย้าให้เหง้างอด..สมใจเขาล่ะ
"เดี๋ยวสิ ผมรู้คุณอยู่ข้างใน ก็ไม่สนุกเท่าไหร่หรอก สู้อยู่คุยเป็นเพื่อนกันไม่ดีกว่าเหรอ?" ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอ
แต่เป็นข้อเสนอที่เขามีแต่ได้ และเขาคาดไว้แล้วว่าหล่อนต้องตกลง...เห็นฟ้องตามเขา ทั้งที่เขาเองก็รู้ว่าหญิงสาวโกรธเป็นไฟแล้ว...แต่ก็ยังตอแยได้อีก คริๆ
ดารินนิ่งสักครู่ก่อนผ่อนลมหายใจ แล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ชุดที่มีอยู่ในมุมของระเบียงก่อนที่หล่อนจะเดินออกมา รณช ก็นั่งอยู่ตรงนั้น ดารินจ้องมองชายหนุ่มที่เมื่อนั่งได้เหมาะแล้ว ซึ่งเขายืน ตรงข้างได้องศาพอที่จะสบตาคนที่นั่งได้ถนัดชัดเจน..
"ก็ได้วันนี้เราจะคุยเป็นเพื่อนกัน ฉันให้โอกาสคุณหาเรื่องมาคุยก่อน แต่ไม่เน้นเป็นคำถามเพราะฉันอาจไม่ตอบ" หญิงสาวแจ้งคู่สนทนาก่อนเปิดเวทีสนทนาที่เขาอาจถามจู่โจมโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม นั้นเป็นการกันไว้ก่อน
"ขอบคุณครับคุณผู้หญิง ที่มอบโอกาสแก่ผม" เขาเสียงทะเล้น ก่อนจะเดินไปยืนหลังพิงขอบระเบียง
"ฉันชอบอะไรตรงๆ คุณไม่ต้องอ้อมค้อม เราคุยกับได้สบาย ๆ ฉันจะลืมเรื่องที่ผ่านไม่กีนาทีนั้นซะ" หญิงบอกแกมประชด
"ผมก็ไม้บรรทัดละครับ คุณผู้หญิง" แล้ว เขาก็ยิ้มกริ่มบอกนัย ว่าจะเริ่มแล้วนะเตรียมมือให้ดี
สองหนุ่มสาวเหมือนจะคุยกันได้ถูกคอ รณช ประทับใจในท่วงท่าการว่างตัวของหญิงสาวที่คุมสถานการณ์ได้ไม่ตื่นกลัวเพียงแต่การพบกันกลับไม่ประทับใจอีกฝ่ายสักเท่าไหร่นัก แต่การสนทนา ในค่ำคืนนี้ก็ทำให้ดารินมองเขาดีขึ้นบ้าง...
การสนทนากิริยา ท่วงท่า ของสองหนุ่มสาวอยู่ในสายตาของสตรีสูงวัยทั้งสอง พลอยทำให้ทั้งสองยิ้มกริ่มกับภาพที่เห็นงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา งานแต่งงานเป็นความสุขชื่นของเจ้าสาวและเจ้าบ่าว ที่กำลังจะสร้างครอบครัวใหม่ อีกครอบครัวหนึ่ง
"ดึกแล้วฉันต้องกลับแล้วค่ะ คุณรณช" หญิงสาวเอ่ยเมื่อแขกในงานเริ่มถยอยกันกลับ "ผมไปส่งคุณไหม? "เขาถามเพื่อนคุยเพลินเขาไป "อย่าดีกว่าค่ะ ฉันเอารถมา" เธอชี้แจง "จดไว้นี้ก็ได้พรุ่งนี้ค่อยมาเอาก็ได้นี่ครับ" รณชแนะนำ "ไม่ดีกว่าค่ะ เพราะพรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงาน" เธออธิบายเหตุผลแก่เขา "คุณมีเพื่อนกลับไหม? นี่ก็ดึกแล้ว" เขาถามเพราะห่วงความปลอดภัยของหญิงสาวจริง ๆ "กลับคุณป้าไงค่ะ ขอบคุณสำหรับแนวคิดใหม่ ๆ นะค่ะ" หญิงสาวกล่าวขอบคุณสำหรับการสนทนาในวันนี้
ดารินเดินเข้าไปในห้องเลี้ยงรับรองยังไม่ทันพ้นประตูทางเข้า ก็ต้องหันกลับ "ผมเริ่มจะเชื่อเรื่องพรหมลิขิตแล้วล่ะ" เขาตะโกนให้ดังพอทันที่ดารินจะก้าวพ้นประตูไป หญิงสาวหันมามองด้วยแววตาไม่เห็นค้นหา และไม่ได้ขัดแย้ง..กับสิ่งที่เขาบอก...
"พรหมลิขิต กำลังจะโยงสองหัวใจมาผูกไว้เป็นใจเดียวหรือว่า พรหมลิขิตเพียงพิสูจน์ดารินเท่านั้น"
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2553 20:57:16 น. |
Counter : 874 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
| "จิตอธิฐาน"
พนมกรกราบลงหน้าองค์พระ ตั้งสัจจะ...น้อมจิตอธิษฐาน พร้อมธูปเทียนดอกไม้นำใส่พาน ขอนมัสการพระธรรมชี้นำดล
หมอบลงกราบจิตมั่นในวันนี้ กุศลกรรมที่กระทำจงนำผล พบหนทางสว่างใสในกมล ได้หลุดพ้นบ่วงกรรมเคยทำมา
นับจากนี้อาราธนารักษาศีล พาชีวินน้อมธรรมช่วยรักษา ตัดกิเลสเหตุแห่งกรรมที่นำพา เกิดชาติหน้าหลุดบ่วงเขาลวงใจ
ลูกขอน้อมพระธรรมเป็นที่พึ่ง ช่วยฉุดดึง...จากนรกที่หมกไหม้ มีปัญญามองเห็นความเป็นไป เพื่อเข้าใจสัจจธรรมธรรมดา
| |
อยากบอกว่า ที่ลิ้งค์หาถือว่าคุณ ViP โดยปริยาย
|
|
|
|
|
|
|