|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
วิธีออมเงิน สำหรับสาวออฟฟิศ
มีสาวๆหลายท่านมาถาม ว่าผู้เขียนมีวิธีการออมเงินอย่างไร ถึงได้มีเงินเก็บเยอะ พอที่จะนำมาลงทุน ทั้งๆที่ผู้เขียนทำงานมาแค่ 2 ปี ไม่ซื้อของ ไปเที่ยว บ้างหรอ ... ซื้อค่ะ เยอะซะด้วยแต่ไม่บ่อย ผู้เขียนโชคดีที่ ครอบครัว ที่บ้านมีนิสัยประหยัดอดออม ถึงได้มีเงินเก็บ เก็บเงินเก่ง แต่ผู้เขียนต่างจากที่บ้านตรงที่ชอบลงทุนด้วย ทีนี้เรามาดูวิธีการของทายาทนักออมดีกว่า 1. เก็บก่อน ใช้ทีหลัง ทุกครั้งที่มีเงินเดือน ผู้เขียนจะกันเงินมา 50% เพื่อออม คนอื่นจะออมน้อยกว่านี้ก็ได้ แต่ต้องสม่ำเสมอ มีวินัย โดยแยกบัญชีรายรับ(บัญชีที่เงินเดือนเข้า) และบัญชีรายจ่าย(บัญชีกดเงินมาใช้ หรือบัตรเดบิต/เครดิต) อย่างชัดเจน และไม่แตะต้องเงินในบัญชีรายรับเลย ทำให้การจ่ายเงินจากบัญชีออมทำได้ยาก ไม่ผูกบัตรเครดิตกับบัญชีออมเด็ดขาด อนุญาติให้ทำได้เฉพาะธุรกรรมออนไลน์ เช่น โอนเงิน เข้าบัญชี กองทุน หุ้น ได้สะดวก 2. ลดความอยาก ตั้งเป้าท้าทายตัวเอง เมื่อเงินในบัญชีรายจ่ายเหลือน้อย พึงตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก ลดการใช้จ่าย ไม่สปอยตัวเองด้วยการเพิ่มเงินจากบัญชีรายรับเขามา (ให้คิดซะว่าเดือนนี้ เราลิมิตการใช้จ่ายไว้เท่านี้) งดการเดินห้าง ซื้อของเซลล์ ดูเว็บขายของออนไลน์เพิ่มกิเลสความอยากให้ตัวเอง ลดการทานอาหารนอกบ้านซึ่งเดี๋ยวนี้ราคาสูงมาก(เงินเฟ้อ) จากที่เคยกิน starbuck ก็เหลือกาแฟอาตี๋ และหันมาวางแผนการลงทุนเพื่อให้เงินออมเพิ่มมูลค่าไปตามเงินเฟ้อดีกว่า ก่อนอื่นเราต้องตั้งเป้าหมายเพื่อ challenge ตัวเอง เช่นถ้าเดือนนี้ตั้งเป้ารายจ่ายไว้ที่ 12,000 บาท และเราใช้เงินเหลือ สมมติ 2000 บาท ใช้จ่ายไปจริงๆแค่ 10,000บาทเพราะประหยัด มีวินัยมา ให้คุณให้รางวัลตัวเองด้วยการเอาเงินที่เหลือไปเป็นค่าใช้จ่าย shopping กินของอร่อยในอีกเดือนได้ การทำแบบนี้ก็จะทำให้ชีวิตคุณไม่อึดอัด เก็บเงินได้และมีความสุข
3.บริหารจัดการเงินโบนัส ใกล้จะปลายปีแล้ว หลายๆคนคงตั้งตารอเงินโบนัสปลายปี ผู้เขียนจะบอกว่าเงินโบนัสนี่แหละคือเงินที่เป็นเงินออมได้ดีที่สุด เพราะไม่ใช่เงินที่เราต้องประหยัด ต้องฝืน ต้องลดความอยากเพื่อที่จะได้มา เราสามารถบริหารจัดการเงินตรงนี้ได้ง่ายที่สุด ส่วนใหญ่เรามักจะเอาเงินส่วนนี้ไปเที่ยงต่างประเทศ หาประสบการณ์ชีวิตซึ่งมันก็มักจะหมดไปอย่างง่ายดาย นี่คือสาเหตุที่เราไม่มีเงินเก็บซะที เรื่องเที่ยวก็สำคัญแต่เรื่องเงินสำคัญกว่า เพราะยิ่งเราออมก่อน ลงทุนก่อน เงินส่วนนี้จะทบต้นแบบเหลือเชื่อ (เพราะตลาดหุ้นให้ผลตอบแทน 10กว่า % ทุกปีจากสถิติ) ดังนั้นช่วงเวลา 3 ปีแรกที่เริ่มทำงานจึงเป็นช่วงเวลาที่เงินต้นคุณจะงอกเงยได้อย่างง่ายดาย เพราะคุณมีภาระค่าใช้จ่ายน้อยกว่า พอคุณมีเงินเก็บที่ทำงานให้คุณในจำนวนหนึ่งแล้ว (เงินที่สร้างpassive incomeมากกว่าเงินฝาก)คุณค่อยหาเงินไปเที่ยวทีหลังก็ได้ ยิ่งอายุมากเท่าไร ภาระค่าใช้จ่ายยิ่งมาก คุณยิ่งเก็บเงินได้ยากขึ้นเท่านั้น
4.การทำบัตรเครดิต ไม่ได้เสียหาย มีคนบอกว่าการมีบัตรเครดิตเป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้ ทำให้เสี่ยงที่จะเป็นหน้ ใช้จ่ายเกินตัว แต่ผู้เขียนไม่เห็นด้วย เพราะการทำบัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์ก็มี ถ้ารู้จักใช้ ยกตัวอย่างเช่น วันหนึ่งคุณเจ็บป่วย/ประสบอุบัติเหตุกระทันหันขึ้นมาต้องไปโรงพยาบาล สมัยนี้ใครจะรักษาให้คุณถ้าคุณไม่มีประกันที่วงเกินดีๆ หรือ มีบัตรเครดิต เพราะฉะนั้นมันช่วยชีวิตคุณได้เลย อีกกรณีหนึ่งคือการมีบัตรเครดิตเพื่อรับส่วนลดร้านค้าร่วมบริการ ก็นับว่ามีประโยชน์มากเพราะได้ซื้อของถูกลง แต่ทั้งที่ทั้งนั้นบริหารรายจ่ายกันด้วยนะจ๊ะ
5.เมือมีเงินเก็บ อย่ารีรอที่จะนำมาลงทุน เริ่มจากกองทุน ดัชนีก่อน หาจังหวะซื้อช่วงหุ้นต่ำ หรือจะลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี ปันผลดีก็ได้ แต่ต้องไม่ตกใจหายตอนหุ้นตกนะจ๊ะ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นมุมมองง่ายๆ ที่อยากแชร์ค่ะ มีอะไรพูดคุยกันได้ค่ะ ผู้เขียนกำลังจะเขียนบล็อคการลงทุนค่ะ
Create Date : 28 มิถุนายน 2557 |
|
1 comments |
Last Update : 28 มิถุนายน 2557 22:34:03 น. |
Counter : 1282 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|