"อาตมาไม่ได้พูดให้โยมเชื่อ แต่พูดให้โยมไปคิด".....หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
ใบไม้ในกำมือ หมวด ๓(๑)


หมวดที่ ๓ เสาหลักของสังคมไทย


๓.๑ ครอบครัว

๓.๑.๑ พ่อ-แม่-ลูก

* วันเกิดของเราทุกคนอย่าลืมพ่อลืมแม่นะ อย่าให้พ่อแม่อดอยากปากแห้งแต่ประการใด ทั้งอามิสบูชา คือเตรียมอาหารการบริโภค ผ้าผ่อนท่อนสไบ ยารักษาโรค เตรียมให้เต็มไม้เต็มมือไปเลย ปฏิบัติบูชา คือ พ่อแม่ไม่มีทานก็พาท่านมาบำเพ็ญทานเสียบ้าง พ่อแม่เราไม่มีศีล ก็พาพ่อแม่มารักษาอุโบสถเจริญกรรมฐาน เจริญภาวนาบ้าง นี่แหละเป็นอภิชาตบุตร ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า .... ปฏิบัติบูชาอีกข้อหนึ่งที่คนคาดไม่ถึง คือ อย่าทำลายน้ำใจพ่อแม่

* เล่าให้ฟังกันมานานแต่ไม่มีใครสนใจ เด็กหญิงทัศนีย์ ตัวนิดเดียว มีศรัทธามาก แม่เป็นโรคมะเร็ง จะต้องตายภายในสามเดือน แต่เด็กกตัญญูกตเวทีมีศรัทธาอย่างแรงกล้า มานั่งเจริญกรรมฐานเอาจริงเอาจัง ขออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของคุณแม่ แม่หายได้อย่างน่าอนุโมทนา แต่บอกใครไม่มีทางเชื่อ เพราะไม่มีบุญ บอกคนบาปจะไปได้เรื่องอะไร แล้วแต่บุญวาสนาของท่านเอง พระพุทธเจ้าไม่เคยบังคับใครนะ

( ผมเคยเห็นเด็กคนนี้นั่งปฏิบัติเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เธอจะนั่งขัดสมาธิเพชร ตั้งตัวตรง แยกออกมาห่างจากคนอื่น ไม่ยุ่งกับใคร ปฏิบัติอย่างจริงจัง แต่หน้าตาแจ่มใส : ผู้รวบรวม )

* พ่อแม่ที่ดี สร้างความดีให้กับลูก ทำถูกให้กับหลาน พ่อแม่ที่ดี รักลูกให้ถูกวิธี ทำความดีให้ลูกดู อันนี้กรรมฐานทั้งหมด ไม่ใช่นอกกรรมฐานเลย เช่น ต้องการให้ลูกสวดมนต์ไหว้พระ ไม่ต้องบังคับลูกเลย พ่อก็สวดแม่ก็สวดทุกวัน เด็กยังเล็กกำลังจดกำลังจำนะท่านทั้งหลายเอ๋ย พ่อแม่เป็นแปลนสอนลูกอย่างนี้ได้ไหม พ่อแม่เป็นผู้นำลูก ต้องตามดูลูกด้วย ขอฝากท่านทั้งหลายไว้

* คนไร้บุญวาสนาไม่มีลูก ไม่ต้องไปบนบานขอใครเขา ต้องสร้างบุญบารมี สวดมนต์ทำกรรมฐาน เดี๋ยวมีเอง จะได้นักปราชญ์ราชกวีมาเกิด บ้านไหนสะอาดนักปราชญ์มาเกิด ไม่มีบุญวาสนา ไปขอที่โน่นที่นี่ อาจได้จิตวิญญาณไม่ดีมาเกิด เถียงพ่อเถียงแม่ไม่พัก

* สามีไม่ดี แก้ที่ภรรยา
ภรรยาไม่ดี แก้ที่สามี
ลูกไม่ดี แก้ที่พ่อแม่
พ่อแม่กินเหล้าเมายาสอนลูกให้เป็นโจร ต้องแก้ที่ลูก ให้ลูกสร้างความดี

* ลูกว่านอนสอนยาก ลูกติดยาเสพติด ถ้าทำถูกวิธีแล้ว (แผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศล) จะหันเหเร่มาทางดี พ่อแม่กินเหล้าเมายา เล่นการพนัน ลูกจะไปสอนพ่อแม่ไม่ได้ มีทางเดียวคือ เจริญพระกรรมฐาน สำรวมจิต แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล

* การแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลนั้น เจริญกรรมฐานดีที่สุด สามารถช่วยพ่อช่วยแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ ถึงพ่อแม่จะอยู่ไกลแสนไกล ลูกสามารถทำให้พ่อแม่ได้ด้วยการเจริญวิปัสสนา ไม่ต้องใช้สตางค์ เอาบุญมาใส่ใจให้อิ่มเอิบแล้ว แผ่ส่วนบุญนี้ไปให้พ่อแม่ของข้าพเจ้าหรือให้ลูกก็ได้ ถึงทันทีนะ

* พ่อแม่ที่ไม่มีกรรมฐาน ไม่มีศีล สมาธิ ปัญญา แล้ว จะสร้างแต่ความไม่ดีให้กับลูก ทำไม่ถูกให้กับหลาน แถมรักไม่ถูกวิธีทำความไม่ดีให้ลูกดู เช่น พ่อแม่ทะเลาะกันให้ลูกเห็น ให้ลูกฟัง พ่อก็ดื่มเหล้าให้ลูกเห็น แม่ก็เล่นการพนันให้ลูกดู ลูกก็กำหนดจดจำ เป็นกฎแห่งกรรมใช่หรือไม่

* ท่านทั้งหลายเป็นพ่อเป็นแม่ ต้องนำลูกให้ดี แล้วตามไปดูลูกด้วย แต่ก่อนจะนำลูกและตามดูลูก ต้องนำตัวเองก่อน การเจริญกรรมฐานเป็นการนำ สติเป็นตัวนำ สัมปชัญญะเป็นตัวตาม ตามดูว่าถูกต้องไหม นำกับตาม ผนวกบวกกัน เรียกว่า ตัวปัญญา ตัวไม่ประมาทดูแล้วดูอีก

* นี่แหละอันตรายที่เกิดจากการจ้วงจาบผู้มีบุญคุณ อาตมาถึงสอนเด็กที่มาอบรม หนูอย่าเถียงพ่อเถียงแม่นะ เพียงแต่คิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ ก็บาปนะ เพียงแต่คิดนะ ไม่ใช่กฎหมาย ... บางทีพ่อเจ้าชู้ไปมีเมียใหม่ บอกหนูนะเป็นลูกอย่าไปเข้าข้างแม่เธอนะ อย่าไปคิดว่าพ่อไม่ดี หนูจะเรียนหนังสือไม่เก่ง นี่เป็นความจริง ไปว่าพ่อไม่ดี มันเป็นเรื่องของพ่อเขา ไม่ใช่เรื่องของเธอ ๆ ยังเด็กเล็กนะ เธอยังเด็กมาก อย่าไปว่าพ่อตามแม่ไม่ได้นะ บางคนนี่ไล่พ่อออกจากบ้าน เจ๊งไปเลยนะ ..... แต่ เรื่องธัมมะ เรื่องกรรมนี่ ตัวเองมีเจตนาเป็นอกุศลกรรมเกิดขึ้น แค่คิดไม่ดี ก็เป็นกรรมแก่ตัวเองแล้ว

* เรื่องลมหายใจนี่ สอนลูกสอนหลานได้เลย ไม่ว่า พุทโธ สัมมาอรหัง พองหนอยุบหนอ แต่ประการใด เพราะเป็นอานาปานสติเหมือนกันหมด แต่เราใส่อารมณ์กรรมฐานอย่างไร โดยสมถะหรือวิปัสสนา ขันธ์ ๕ รูปนามเป็นประการใด

* พยายามให้ลูกหลานเรียนหนังสือ เพราะลูกหลานเป็นทรัพยากรของชาติในอนาคต หากเราตายไปแล้ว พวกเขาจะได้ดูแลบ้านเมืองแทนเราต่อไป

* อาตมาดีใจเหลือเกิน ต่างประเทศเขาทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้า หนุ่มสาวไม่เที่ยว ต้องเรียนหนังสือ หาวิชาเป็นหลักฐาน นี่เป็นตัวอย่างที่ดีมาก

* พ่อมีเวรกรรม แม่มีเวรกรรม ลูกจะเอาดีไม่ได้ วิธีแก้ พ่อแม่สวดมนต์ทำกรรมฐาน แล้วแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร จึงจะช่วยได้

* ถ้าท่านเจริญกรรมฐานลึกซึ้งไปถึงธัมมะ ท่านจะไม่ทิ้งพ่อทิ้งแม่ จะเลี้ยงดูพ่อแม่อย่างดี ตลอดกระทั่งบุตรภรรยาสามี จนกระทั่งบ่าวไพร่ ให้เป็นสุขในบ้านของเรา

* พ่อแม่สวดมนต์ภาวนา เจริญพระกรรมฐาน แผ่เมตตาให้กับลูก ให้เจ้ากรรมนายเวร ลูกจะกลับร้ายกลายดี เลิกยาบ้าได้อย่างแน่นอน

* พยายามพาลูกเข้าวัดตั้งแต่เล็ก ๆ ให้เขาได้เห็นและจดจำแต่สิ่งดี ๆ เช่น กราบพระ รับศีล ถวายทาน อะไรทำนองนี้ ถึงเขาจะไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร โตขึ้นเขาจะเข้าใจเอง

ขอฝากเป็นการบ้านไปด้วยว่า มีลูกมีหลานหัดสวดมนต์ ลูกจะได้ว่านอนสอนง่าย เจอพระธุจ้ะ นมัสการ เจอคนแก่เลี่ยงทาง จะอ่อนน้อมถ่อมตน โดยไม่ต้องตามไปสอนลูกอีกต่อไป

* เรามีลูกต้องเสี้ยมสอนนะ ถ้าไม่เสี้ยมสอน มันเป็นไปไม่ได้ ต้องฝึกลูกตั้งแต่ยังเล็ก ๆ นกอยู่ในกรงให้รีบสอน มีปีก มีหาง หนีออกจากกรงแล้ว ไม่ต้องตามไปสอนนะ จะเสียใจอย่างน่าเสียดาย

* พ่อแม่ลูก ทานข้าวพร้อมกันจะรักใคร่กันดีและลูกจะไม่ค่อยจะเสียหาย สมัยนี้ต่างคนต่างทานต่างคนต่างอยู่ ด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป จึงมักมีปัญหาครอบครัวและสังคม ... ยิ่งฝากลูกให้คนรับใช้เลี้ยง เด็กก็ซึมซับพฤติกรรมของคนเลี้ยงแทนที่จะเป็นพ่อแม่ เป็นเรื่องน่าคิด

* คนไร้บุญวาสนา บอกให้สวดมนต์ พาหุงมหากา ก็ไม่รู้และไม่สนใจจะรู้ แล้วจะแก้ปัญหาครอบครัว ลูกไม่เรียนหนังสือ ลูกติดยาได้อย่างไร

* ถ้ามีลูกหลายคน ขอให้เรียนสัก ๒ วิชา คือ วิชาแพทย์หมอ กับ วิชาครู เพราะเป็นอาชีพการกุศล แม้เงินเดือนจะน้อย แต่ได้บุญมาก

* ญาติโยมทั้งหลายเอ๋ย พี่น้องท้องเดียวกันก็ไม่เหมือนกัน ไม้ไผ่ต่างปล้อง พี่น้องต่างใจ โยมเป็นพ่อแม่เขาเลี้ยงลูกได้แต่ตัวนะ จิตใจเลี้ยงไม่ได้แน่ นี่แหละตรงนี้ของใครของมัน ต่างคนต่างทำเอาเถอะ ถึงจะดีได้

* ลูกพิการหรือเป็นอะไรก็ตาม พ่อแม่ช่วยกันสวดมนต์ภาวนา เจริญกรรมฐาน บางทีก็หายได้นะ

* ลูก ทำให้ พ่อแม่ สุขใจตลอดไป หายาก

* อย่าสอนลูกด้วยการดุด่า ต้องสอนลูกด้วยแบบอย่าง ให้เห็นเป็นรูปธรรม

* บางบ้านดีเหลือเกิน นุ่งขาวห่มขาว สวดมนต์ทุกวัน อย่างนี้หายาก แล้วได้ดีหมดทุกคน มีเถ้าแก่คนหนึ่ง มีลูกเขย ลูกสะใภ้ อยู่ในกงสี ตอน ๕ โมงเย็น ตีระฆังสวดมนต์ เถ้าแก่เป็นคนนำสวดมนต์ ไหว้พระ ตักบาตรทุกวัน บำเพ็ญบุญ บำเพ็ญกุศล มีลูกหลานเป็นดอกเตอร์หมด

* เรือน ๓ น้ำ ๔ ของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ได้แก่

เรือน ๓ คือ
เรือนครรภ์ ที่เราอาศัยท้องแม่เป็นโรงแรม
เรือนตัก ที่เรานอนบนตักแม่อันอบอุ่น
เรือนที่อาศัย ที่พ่อแม่หาไว้ให้เราได้กินอยู่หลับนอน

น้ำ ๔ คือ
น้ำนม ที่เราอาศัยดื่มกินจนมีชีวิตมาทุกวันนี้
น้ำคำ คำพูดที่เปี่ยมด้วยความรักและเมตตาต่อลูกทุกคน
น้ำพักน้ำแรง ท่านสู้อุตส่าห์ทำมาหากินเลี้ยงดูและส่งเสียเราจนเติบใหญ่
น้ำใจ ห่วงหาอาทร


๓.๑.๒ สามี-ภรรยา

* ลูกผู้หญิงจะแต่งงาน ต้องรู้จัก เรือน ๓ น้ำ ๔ หรือ เรือน ๓ น้ำ ๔ ของผู้เป็นภรรยา

เรือน ๓ ต้อง สะอาด เรียบร้อย คือ
เรือนผม ดูสวยงาม
เรือนนอน อย่าเอาเสื้อผ้าไปซุก ไปกอง
เรือนครัว จานใช้แล้วต้องรีบล้าง อย่าแช่ อย่ากอง

น้ำ ๔ คือ
น้ำใช้
น้ำดื่ม
น้ำล้างหน้า (อย่าหน้างอ)
น้ำใจ

* แม่บ้านแม่เรือนที่ดี จะไม่ด่าเสียดสีสามีเลย สามีก็เห็นใจภรรยา จะไม่ว่าเสียดสีภรรยาเช่นเดียวกัน ยกย่องภรรยา อุตส่าห์เลี้ยงลูกตั้งหลายคนและยังเอาใจใส่สามีอย่างดีด้วย ภรรยาก็เห็นใจสามีหาเงินหาทองมากมายไว้ในครอบครัว ผู้ที่จะรู้จริงอย่างนี้ต้องเจริญกรรมฐาน

* ผัวจะไปไหนมาไหน ก็ยกมือไหว้เมีย บอกเมียด้วย เมียก็ควรจะไปยืนส่งผัวให้พรผัว ถึงจะถูกต้อง ครอบครัวก็จะมีความสุข ....สามีต้องให้เกียรติภรรยา ไปไหนมาไหนก็บอกภรรยาจะโชคดี

* เมียดี ช่วยผัวได้แน่
(เป็นประสบการณ์เมื่อครั้งหลวงพ่ออยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อสด หรือพระมงคลเทพมุนี หรือหลวงพ่อวัดปากน้ำ กล่าวคือ เวลากลางคืนหลวงพ่อจะเป็นผู้อ่านปัญหาของญาติโยมที่เขียนใส่บาตรไว้ให้หลวงพ่อสดช่วย เช่น นาย ก. เป็นอย่างนี้อย่างนี้ ท่านบอกช่วยไม่ได้ ก็ผ่านไป นาย ข. เป็นอย่างนี้อย่างนี้ หลวงพ่อสดถามว่า เมียชื่ออะไร หลวงพ่อบอกว่าชื่อ นาง ค. หลวงพ่อสดก็จะบอกว่า รายนี้ช่วยได้ อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งหลวงพ่อก็จะนำมาใช้ที่วัด อย่างท่านที่มีปัญหามาขอให้ช่วย แล้วหลวงพ่อให้ท่านเขียนรายละเอียดใส่บาตรไว้ กลางคืนลูกศิษย์ก็จะอ่านให้หลวงพ่อฟัง : ผู้รวบรวม)

* เราไม่จากกันตอนเป็น ก็ต้องจากกันตอนตาย แต่อย่าเพิ่งจากกันตอนเป็นเลย มีอะไรหนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน แล้วเราจะได้อยู่กันยืด

* เรามีแม่ได้คนเดียว เรามีพ่อได้คนเดียว แต่จะมีเมียกี่คนมีผัวกี่คนก็ได้ อย่าไปหึงไปหวงกัน เดี๋ยวเราก็ตายจากกัน เพราะเราเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย

* พวกเราจะถวายอะไรก็จบกันเสียบ้างนะ บางทีภรรยาให้สามีจบ สามีรำคาญไม่ยอมจบ ระวังนะท่านจะไม่ได้บุญ

* สามีภรรยา เหมือนแขนซ้ายขวา ต้องช่วยกันทั้งสองมือ จึงจะมั่งมีศรีสุข ถ้าขัดกันจะไม่เป็นมงคล

* หม้อยี่ห้อเดียวกัน ฝาหม้อก็ต้องยี่ห้อเดียวกัน สามีภรรยาก็ต้องแบบเดียวกัน ถ้าคนละแบบก็ยุ่ง

* ด่าผัวก็เป็นบาป ด่าเมียก็เป็นบาป ด่าลูกก็เป็นบาป ทั้งนั้น ถ้าจิตใจสะอาดบริสุทธิ์ จะไม่มีด่าใคร จะไม่มีว่าใคร ให้เจ็บช้ำน้ำใจ

* สามีภรรยาอย่าเป็นเพียงคู่นอน ต้องเป็นเพื่อนคู่คิด คู่ทุกข์คู่ยาก

* โยมผู้ชาย หาเมียสวย ๆ หาง่าย มีเยอะแยะ แต่ หาแม่ที่ดีของลูก หายาก

* ภรรยา ทำให้ สามี สุขใจตลอดไป หาได้ยาก

* เมียเปลี่ยนหน้าผัว ด่าผัว นั่งกรรมฐานไม่ได้เลย หรือ ผัวตบเมียเตะเมียก็เช่นเดียวกัน

* เรื่องครอบครัวของใคร อย่าเข้าไปยุ่ง

* ขาดน้ำ สิ้นชีวิต ขาดคู่คิด ชีวิตยังอยู่


๓.๑.๓ เตือนตนเอง

* อาตมาขอแทรกคำกลอนไว้ตรงนี้ ให้เป็นคาถาแก้จน คาถาทำให้มีกินมีใช้ คาถาว่าอย่างนี้
ไม่ยอมเรียน หรือ จะรู้
ไม่ยอมดู หรือ จะเห็น
ไม่ยอมทำ หรือ จะเป็น
จะลำเค็ญ ย่ำแย่ จนแก่ตาย

* วันนี้ เป็นวันของเรา วันหน้า ไม่ใช่
เดือนนี้ เป็นเดือนของเรา เดือนหน้า ไม่ใช่
ปีนี้ เป็นปีของเรา ปีหน้า ไม่ใช่

และเราก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ถึงหรือเปล่า จะตายเมื่อไรก็ไม่รู้ เวลานี้เป็นของเรา จึงควรหมั่นสร้างความดี สร้างบุญทาน เพราะเวลาฆ่าเราไปทุกนาที

* ขอเจริญพรตอนนี้ว่า วัวควายของใคร ก็เข้าคอกของเขาไป มันไม่มาเข้าคอกของเราหรอก ? เพราะเราไม่ได้เลี้ยงมัน เราไม่มีวัว เราไม่มีควาย ใครเลี้ยงก็เข้าคอกของเขาไป ? ..... คนที่จิตดี มีกรรมฐาน มีสติสัมปชัญญะ หูโยมจะมีทรัพย์ หูโยมจะมีศีล สติก็ตั้งอยู่ที่หู เขาพูดว่าร้ายนินทา ใส่ร้ายป้ายสีก็ช่างปะไร เดี๋ยวมันก็กลับไปหาเขาเอง ..... ถ้าจิตดี หูโยมก็ดีด้วย มีสติอยู่ที่หู มีทรัพย์อยู่ที่หู ฟังแต่ของดี ไม่ไปฟังของชั่วของใครให้เสียสมอง

* เตรียมตัวก่อนตาย เจริญพระกรรมฐานให้มาก ท่านเป็นข้าราชการ ระวังนะ ปลดเกษียณจะว้าเหว่ หาที่พึ่งไม่ได้ อาตมาพูดซ้ำมาเสมอ ถ้าแก่ไปแล้ว ลูกไม่มาหา หลานไม่มาสู่ มันก็ว้าเหว่ เตรียมตัวก่อนตายนะ อย่าประมาทนะ สังขารกำลังเสื่อม กำลังแก่ ร่างกายทรุดโทรม เวลาหนุ่มสาวก็กระโดดโลดเต้นได้ อายุ ๔๕ ไปแล้วต้องยกบั้นท้ายขึ้นก่อน เพราะมันหนัก อายุ ๕๐ - ๕๕ ปี เลือดจะไปลมจะมา ความหงุดหงิดจะเกิดแก่ท่าน อายุ ๖๐ ปีแล้วหูก็จะตึง ฟังอะไรไม่ชัดเจน

* เขาด่า เขาว่า สติมีไหม มีธัมมะที่หูไหม หูมีทรัพย์ไหม ถ้าหูท่านมีทรัพย์จริง มันจะสปาร์คออกไปนะ เสียงมันก็กลับไปหาเจ้าของเดิม หูจะไม่ยอมรับ จิตจะไม่ออกมารับเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ ..... อาตมาพูดอยู่เสมอ มึงด่าใคร กูด่ามึง อ๋อ ด่ามึง ไม่ได้ด่ากู เท่านี้ยังคิดกันไม่ได้ ตะลึงตะลานกระเสือกกระสนโกรธ

* ความเย็น ทำให้น้ำ แข็ง
ดินแข็ง ใช้น้ำ ดินก็อ่อนได้
ภูเขาหิน ถูกน้ำเซาะ ก็เป็นร่องได้

* ใครมาหาเรื่องกับเรา ไม่ว่าเราจะผิดหรือถูก อย่าออกไปทะเลาะกับเขา ต้องอดทน ! .......ใครด่าว่าเรา เราจะไม่ด่าตอบ ...... การแช่งการด่าใครเขา จะกลับมาเข้าตัวเอง

* โกหกคนอื่นนะ บาปน้อยกว่า โกหกตัวเอง พูดแล้วไม่ทำ โกหกเรื่อย ผลัดวันประกันพรุ่ง แสดงว่าโกหกตัวเองแล้ว

* ปลามันว่ายสวนน้ำขึ้นไป ยิ่งไหลมากยิ่งสวนขึ้นมาก เหมือนอารมณ์ของเรา ถ้าแรงมาก ต้องฝืนให้มาก มันจะได้สงบลง

* คนนี้ไม่รักเรา น่าจะคิดว่า คนที่รักเรายังมีอีกหลายคน ไปรักคนที่เขารักเราดีกว่า จะไปฆ่าตัวตายทำไม เขาไม่รักเรา เรารักตัวเองดีกว่า

* ทำไม่ดี (บาป) มาหลายปี แต่มาสร้างบุญแค่ชั่วโมงเดียวยังทำไม่ได้ ชีวิตจึงมีแต่ขาดทุน แล้วท่านจะได้อะไร

* อย่าไปโกรธกัน เป็นบาป รักสามัคคีกันดีกว่า รำวงต้องมีกองเชียร์

* ถ้าดูคนด้วยปัญญา จะไม่เกลียดใคร ถ้าดูคนด้วยกิเลส จะมองคนนั้นดี คนนี้เลว

* คนดี ชอบมีผลงาน คนพาล ชอบหาเรื่อง คนชอบรุ่งเรือง ต้องพัฒนา



Create Date : 14 พฤษภาคม 2549
Last Update : 14 พฤษภาคม 2549 16:35:05 น. 0 comments
Counter : 796 Pageviews.

ถมทอง
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 56 คน [?]








.: เรื่องล่าสุด ๒๕๕๖ :. คลิกเลยค่ะ

๒ พ.ย. [คลิปเสียง]ธรรมเทศนา ๑๔

๑๔ ต.ค. [คลิป]พิธีถวายผ้าป่า๒๐๐กอง





pub-6092438163871112
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
14 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ถมทอง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.