หลบหนีหรือยึดครอง
ปัญหาผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เป็นปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นอันดับต้นๆของกระบวนการปัญหาทั้งปวงของสังคมไทย แต่ก็ยังคงเป็นปัญหาอีกต่อไปในอนาคต และนับวันแต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น ภัยที่เกิดจากปัญหานี้ ก็จะชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากมีปัจจัยที่เกื้อกูลในการคงอยู่ของปัญหามากกว่า ปัจจัยที่เกื้อกูลให้ปัญหาหมดไป
ด้านชายแดนตะวันตก เริ่มปัญหานับเนื่องตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศพม่า ประมาณพ.ศ.๒๕๐๕ ราษฎรพม่าจำนวนมากหลบหนีเข้ามาอาศัยในเขตไทย
ทางการได้กำหนดมาตรการควบคุม โดยกำหนดสถานะเรียกว่าผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า กำหนดนโยบายคือผ่อนผันให้อยู่อาศัยในเขตแดนไทยเป็นการชั่วคราว และจะให้กลับถิ่นฐานเดิมเมื่อสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านสงบเรียบร้อย ปรากฏว่าเวลาผ่านไปประมาณ๒๐ ปี ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ไม่ได้มีการควบคุมดูแลอย่างจริงจัง ปล่อยให้ตั้งถิ่นฐานอยู่เหมือนราษฎรไทยโดยทั่วไป
มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามา เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีการขยายตัวของประชากร จากการเกิดใหม่อีกเป็นจำนวนมาก จนทำให้ต้องเปลี่ยนนโยบาย เปลี่ยนการปฏิบัติ เพื่ออำนวยให้กลุ่มคนดังกล่าวสามารถอยู่ในประเทศไทยได้ต่อไป และตลอดไป
อดีตทหารจีนคณะชาติ จีนฮ่ออพยพ และจีนฮ่ออิสระ เป็นทหารและราษฎรจีน ที่หนีภัยคอมมิวนิสต์ หลังจากรัฐบาลนายพลเจียงไคเช็ค พ่ายแพ้ต่อสงครามประชาชนของเหมาเจ๋อตุง ราษฎรส่วนหนึ่งหนีไปอยู่ไต้หวัน ส่วนหนึ่งก็หนีลงใต้ เข้าสู่พม่าและไทย
ซึ่งพม่าได้มีการกวาดล้างคนกลุ่มนี้อย่างรุนแรง จึงทำให้เกือบทั้งหมดได้เข้ามาอยู่ในเขตไทย ในพื้นที่จังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย นโยบายของไทยก็คือผ่อนผันให้อยู่อาศัย เป็นการชั่วคราวตามสูตรเดิม
ในส่วนที่เป็นอดีตทหารจีนคณะชาติและครอบครัว กำหนดให้ฝ่ายทหารเป็นผู้ดูแล ตั้งถิ่นฐานอยู่ ๑๓ หมู่บ้านตามแนวชายแดน
ส่วนที่เป็นราษฎรทั่วๆไปให้ฝ่ายปกครองในแต่ละพื้นที่เป็นผู้ดูแล ตั้งถิ่นฐานอยู่ ๕๖ หมู่บ้านในพื้นที่ส่วนใน เมื่อเวลาผ่านไปร่วม ๒๐ ปี ก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ก็ต้องเปลี่ยนนโยบายเพื่อให้คนเหล่านั้นสามารถอยู่ในประเทศไทยต่อไป
ราษฎรชาวเขา จำนวนมากตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือมาดั้งเดิม ทางการได้ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชิวิต สร้างจิตสำนึกของความเป็นคนไทย ให้มีสัญชาติไทย
แต่ด้วยการควบคุมที่ไม่ทั่วถึง และมีช่องว่างของการปฏิบัติ ทำให้มีราษฎรชาวเขาจากนอกประเทศหลั่งไหลเพิ่มเข้ามา อยู่ร่วมกับเครือญาติร่วมเผ่าพันธุ์ มากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งการได้สัญชาติไทยของราษฎรชาวเขาไม่ยุ่งยาก ดังนั้นราษฎรกลุ่มอื่นๆจึงอาศัยโอกาส สวมทะเบียนราษฎรชาวเขา เพื่อให้ได้สัญชาติไทย สะดวกขึ้น
ผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบจากประเทศพม่า ได้หลบภัยเข้ามาอยู่ในเขตชายแดนตั้งแต่ ประมาณ ปีพ.ศ.๒๕๓๑ นับแสนคน นโยบายของไทยตามสูตรเดิมคือผ่อนผันให้อยู่อาศัย เป็นการชั่วคราว จะอำนวยความสะดวกให้กลับถิ่นฐานเดิมเมื่อสถานการณ์สงบเรียบร้อย วัน เวลาผ่านไป มากกว่า๒๐ ปี ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ราษฎรส่วนหนึ่งหลบหนีออกมาแฝงตัว อยู่ร่วมกับราษฎรอื่นๆทั่วไป อย่างค่อนข้างเสรี
แรงงานต่างด้าว เป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง ที่ทางราชการเปิดโอกาสให้เข้ารายงานตัวเพื่อจัดระเบียบ แต่เงื่อนไข ข้อบังคับ ตลอดจนสภาวะทางสังคมไม่ได้ช่วยให้บรรลุผลเต็มที่นัก เริ่มจากประชาชนไทย ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ตระหนักถึงภัยเงียบนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอาจจะรู้สึกบ้าง แต่คนส่วนใหญ่ยังเฉยเมย ไม่เคยปรากฏ มีใครเลยเข้าแจ้งความ หรือร้องทุกข์ต่อผู้รักษากฎหมายว่าตรวจพบผู้หลบหนีเข้าเมือง ทั้งๆที่มีอยู่เต็มเมือง ผู้รักษากฎหมาย ก็มีกฎหมายให้ต้องรักษาอีกหลายฉบับ จึงไม่ให้ความสำคัญต่อปัญหานี้ มากไปกว่าปัญหาอื่นๆ
ดังนั้นผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ประเภทต่างๆก็สามารถ ดำเนินชีวิตร่วมไปกับประชาชนทั่วไปอย่างค่อนข้างเสรี และไม่มีกังวลต่อกฎหมายไทย เกิดชุมชนคนต่างด้าวจำนวนมาก ทั้งในเขตชนบทและเขตเมือง ไม่มีหน่วยงานใดที่จะเป็นเจ้าภาพดำเนินการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
ข้อกฎหมายที่ดูเหมือนจะรัดกุม แต่ก็ขาดการบังคับใช้
นายจ้างไม่ได้รับผิดชอบ ควบคุมดูแลลูกจ้างต่างด้าว
เจ้าของที่ดินว่างเปล่า รับรายได้งาม จากการให้เช่าตั้งเพิงพัก และเรียกเก็บค่าบริการสาธารณูปโภค
นายหน้าผู้มีอิทธิพล ได้ค่าหัวคิว จากการจัดสรรแรงงานไปบริการนายจ้างต่างๆ
นอกจากนั้นแล้ว กฎหมายยัง อนุญาตให้แรงงานต่างด้าวนำผู้ติดตามเข้ามาอยู่อาศัยด้วยได้
การขยายตัวด้วยการเกิด ถือเป็นเรื่องปกติ คนไร้สัญชาติเพิ่มขึ้น แทบจะทุกนาที
องค์กรเอกชนจำนวนมากก็กลับเคลื่อนไหวเพื่อทวงสิทธิให้คนเหล่านี้
ป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดินสาธารณะ ถูกบุกรุกยึดครอง
ภาระทางสังคมในการดูแลคนเหล่านี้ก็เพิ่มขึ้น
สลัม แหล่งเสื่อมโทรม การแพร่ระบาดของยาเสพติด โรคระบาดร้ายแรง อาชญากรรม คุกคามความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพิ่มขึ้นทุกวันจนยากแก่การควบคุม
ในห้วงเทศกาลสำคัญจะเห็นการรวมพลังของบุคคลเหล่านี้ในเมืองใหญ่อย่างน่าตื่นใจ
เขาเหล่านั้น เป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง หรือ เป็นผู้ยึดครองเมืองโดยผิดกฎหมาย ใครจะตระหนักภัย หรือจะต้องให้คนที่ตัวเองรัก ต้องประสบภัยเสียก่อนจึงตื่นตัว เป็นเชื้อมะเร็งร้าย ที่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างแทบไม่รู้ตัว เป็นภัยคุกคามที่คืบตัว เข้ามาอย่างเยือกเย็น ในขณะที่คนไทยส่วนหนึ่งกำลังรู้สึกคับแค้น ในการดำรงสถานะเช่นปัจจุบัน แต่คนต่างด้าว เขายังเห็นว่าประเทศไทยเป็นแดนสวรรค์ หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย
- - - - - -พ.อ.สาธิต ศรีสุวรรณ / ๑๒ มี.ค.๕๓- - - - -
Create Date : 16 เมษายน 2553 |
Last Update : 16 เมษายน 2553 9:50:37 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1856 Pageviews. |
|
|