Ballarat Wildlife Park
ครั้งล่าสุดที่ไปสวนสัตว์ ก็ประมาณเกือบห้าปีที่ผ่านมา....แต่วันพฤหัสฯที่แล้วมีเพื่อนและครอบครัวมาเยี่ยมจาก โจเบิร์ก โน่นด้วยความที่เห็นว่า เค้ามาจาก South Africa ก็เลยคิดว่า เค้าคงอยากดูความเจริญในเมืองมากกว่า เพราะตามความเข้าใจของอิชั้น ขึ้นชื่อว่าอาฟริกา ยังนึกถึงสภาพเด็กตัวดำๆ ผู้อดอยากอยู่เลยค่ะหลังจากที่นัดแนะจุดนัดพบกันที่บริเวณลานน้ำพุใน Crown Casino แล้วอิชั้นก็ได้พิสูจน์ให้พวกเค้าเห็นถึงกิตติศัพท์การหลงทางของอิชั้นให้ประจักษ์แก่สายตาของพวกเค้าว่า แค่จาก staff entrance มายังลานน้ำพุนั้น อิชั้นสามารถหลงทางกับสามีและพวกเค้าได้ ด้วยความสามารถยิ่ง (อันนี้เป็นความสามารถเฉพาะตัวค่ะ ยากที่ผู้ใดจะเลียนแบบได้)พวกเค้าเลยบอกว่า พรุ่งนี้เค้าขอนั่งรถรางชมเมืองกันเองก่อน แล้วค่อยให้อิชั้นพาเค้าไปเที่ยวสวนสัตว์เปิดซึ่งอยู่เลยบ้านอิชั้นไปจะดีกว่า เพราะพวกเค้าอยากจะเห็น จิงโจ้ตัวเป็นๆ ในใจอิชั้นก็นึกว่าแปลกเนอะ เค้ามาจากดินแดนซาฟารีแท้ๆ แล้วทำไมยังอยากมาดูสัตว์อีก แต่มาถึงบางอ้อทีหลังค่ะ ว่าที่โจเบิร์กนั้นเจริญพอๆกับเมลเบิร์น ในเมืองหาสัตว์ดูยาก แถมเทคโนโลยี่บางอย่างยังเจริญกว่าซะอีก เช่น รถของพวกเค้าสองคนมีติดสัญญาญGPSให้เช็คดูกันได้ ตลอดว่าเวลา นี้รถสามีชั้นหรือ รถเมียชั้นอยู่ที่ไหน..อันนี้ไฮเทคกว่าที่เมลฯมากหลังจากนั้น อิชั้นก็ซักซ้อมกับเพื่อนและสามีของเธออย่างดีแล้วว่า "ยูทั้งสอง อ่านแผนที่เป็นแน่นะ" (คืออิชั้นตึ้บอ่ะค่ะ..อ่านไม่เป็น.. เวลาอ่านไม่รู้จะเริ่มจุดไหนดี)วันรุ่งขึ้น หลังจากไปรับพวกเค้าที่ Holiday Inn แล้ว ก็ขับรถพาพวกเค้าออกเดินทาง ด้วยความใจตุ๊มๆต่อมๆของสามีอิชั้นซึ่งอยู่ที่ทำงาน ว่า"เอ..เมียตรูจะพาเค้าไปถูกไม๊เนี่ยะ"...อากาศวันนั้นก็ไม่เป็นใจค่ะ ฝนตกพรำๆตลอดทาง... ในที่สุดเราก็มาถึงจนได้ค่ะ ด้วยความที่กลัวฝนเลยลืมถ่ายรูปตั้งแต่ตอนเข้าค่าบัตรผ่านประตู ครอบครัวละ 55 เหรียญ (ผู้ใหญ่2 เด็ก2)บัตรผู้ใหญ่ คนละ 21 เหรียญ ค่าอาหารจิงโจ้ ถุึงละ 1.50 เหรียญสวนสัตว์เค้าไม่ใหญ่นะคะ แต่จัดได้เป็นธรรมชาติดีจัง พอเดินผ่านประตูเข้าไปชั้นนึง เราก็เห็นพวกเค้าเลยค่ะ Grey Kangaroo ยืนออกันสลอน เหมือนจะบอกว่าขออาหารกินหน่อยซิิดูโจอี้ตัวที่อยู่ในกระเป๋าคุณแม่Wallabyซิคะ ท่าทางเธอคงนอนดิ้นน่าดู ถึงได้กลับหัวกลับหางแบบนี้ความแตกต่างระหว่าง Wallaby กับ Kangaroo นี่ส่วนมากจะบอกได้คือขนาดค่ะ Wallabyจะตัวเล็กกว่า แต่ลักษณะโดยทั่วไปคล้ายกันมากค่ะมองออกไปที่สนามหญ้า ก็จะเป็นกลุ่มๆประมาณนี้ค่ะ พวกนี้คือ Kangarooนะคะ สังเกตุได้ตัวจะใหญ่กว่า และมีหางที่แข็งแรงมาก เวลาเค้าเคลื่อนตัวธรรมดา เค้าจะใช้หางค้ำตัว และก็เขยิบไปข้างหน้า ลองนึกภาพคนขาเจ็บใช้ไม้ค้ำแขนเดินซิคะ ประมาณนั้นเลยทีเดียววันนั้นมีกรุ๊ปนักเรียนมาจากญี่ปุ่นด้วยค่ะ พวกเค้ากำลังให้อาหารจิงโจ้กันใหญ่กลางสนามนี่ละค่ะ นู๋Kimmy ลูกสาวของเพื่อน ตอนแรกเธอก็กล้าๆ กลัวๆนะคะ แต่พอได้แตะตัวจิงโจ้ก็ดีขึ้นค่ะ กล้าป้อนอาหารจากมือเลยทีเดียวเดินๆไปก็จะสวนกะบรรดาคุณEmu ทั้งหลาย เวลาเดินผ่าน ชวนให้นึกถึงคนแก่ๆ ที่ชอบทำเสียงเหมือนมีเสมหะในลำคอ ครืดคราดๆวันนั้นไม่ได้ถ่ายรูปหมีKoalaค่ะ เพราะกรุ๊ปนักเรียน แย่งกันเข้าไปอุ้มถ่ายครั้งละ4คน พวกเราก็เลยขี้เกียจรอ กะว่าจะกลับมาถ่ายทีหลัง แล้วก็ลืมค่ะ เพราะฝนตก แถมยังลืมถ่ายWombat อีกด้วย ได้ถ่ายแต่ ตัว Wallaby อีกพันธุ์อย่างที่เห็นเนี่ยะละค่ะ ดูๆไป เธอก็เหมือนหนูสีขาวตัวโตๆ นะคะตามหนองน้ำก็จะเห็นนกพวกนี้เดินประปรายค่ะโอ๊ะ..โอวว...พวกคุณทำผิดอะไรกันรึคะ ถึงอายไม่กล้าสู้หน้าผู้คนแบบนี้เดินๆมา ก็เจอคุณนายห่าน Cape Baron Geeseสองตัว ยืนคุยกันกระหนุงกระหนิงอยู่ เดินไปถึงสัตว์ที่เลี้ยงไว้ในตู้ ก็มีเจ้านี่่ล่ะค่ะ ตัวน่าเกลียดมาก พยายามจะถ่ายทั้งตัว แต่เค้าก็ไม่ยอม เก็บบั้นท้ายซ่อนสายตากันทุกตัวเลยค่ะ ดูๆไป เหมือนตุ๊กแกหางด้วน ยังไงก็ไม่รู้ เค้าชื่อว่าBob Tailed Blue Toung Lizard ค่ะ.... ยืนเฝ้ารอถ่ายรูปเค้าเต็มตัวตั้งนาน เค้าก็ไม่ยอมขยับกันซะที....โอเคอยากโชว์แค่นี้ก็แค่นี้...แหม ทำไมต้องอายด้วยก็ไม่รู้...ตู้ติดๆกันก็มีสองหนุ่มหล่อ เจ้า Grey Eguana นี่ยืนชะเง้อมองโลก ด้วยความเซ็งในชีวิต...ทำไมต้องจับตรูมาไว้ในนี้ฟระแล้วตู้ต่อมา ก็มีเจ้า Snake-necked Turtle ค่ะ ต้องรอตอนเค้าว่ายน้ำ ถึงจะเห็นคองูของเค้า ภาพก็เลยเบลอไปหน่อยค่ะแฮ่ะๆและก็ยังมีท่านหางกระดิ่ง เหมือนรูปที่อยู่ในช่องคอมเม้นท์น่ะค่ะ อยู่ในตู้ถัดไปจบทริปสวนสัตว์แล้วค่ะ
ได้เยี่ยมชมสัตว์ประจำชาติของออสเตรเลียหลายชนิด
ไกด์กิติมศักดิ์ก็บรรยายสนุกสนานน่ารักดีจัง
ชอบมากๆ ค่ะ ...