Group Blog All Blog
|
พัก จะเก็บภาพแห่งการผจญภัยด้วยใจวาดหวัง บันทึกเรื่องเล่าตามรอยเท้าให้จดจำ เอนกายอิงแอบขุนเขา ใต้แสงดาวพร่างพราวฟ้า ติดปีกในจินตนาการแล้วโบยบินไปด้วยแรงปรารถนา พักยกที่ 1 คนชงกาแฟ(โ)สด ขอ(แต่) ตัวไป "สะบายดีหลวงพระบาง" กับแก๊งพเนจรค่ะ ขออภัยในความไม่สะดวก สำหรับมิตรรักฯ ที่แวะมาทักทาย หากไม่เป็นการรบกวน ฝากเม้นท์ "ความคิดถึง" ได้ทุกเวลา สาวฯ เดินทางกลับบ้านนอก(ครบ 31 ประการ) เมื่อไร จะนำภาพการผจญภัยในดินแดนเมืองลาว ให้มิตรรักฯ ชมกันถ้วนหน้าค่ะ ----------------@--------------- พักยกที่ 2 คนชงกาแฟ(โ)สด ขอ(แต่) ตัวไป "จังหวัดเพชรบุรี" ครั้งนี้เดินทางไปเป็นกลุ่มใหญ่ (ไม่ได้ไปเป็นแก๊ง) เพื่อทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์เธอครูบ้านนอก (พี่สาวคนโต) และรับผิดชอบเป็นพี่เลี้ยง นาง/นายแบบ อะกึ๊ย! ดูแลเด็กนักเรียนชั้น ป.6 การเดินทางท่องเที่ยวในทริปนี้ เพื่อให้ "เด็กนักเรียนบ้านนอก" ได้เรียนรู้ และค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ชีวิตสำหรับพวกเขา "เด็กบ้านนอก & สาวบ้านนอก" "ทรัพยากรของบ้านเรามีมากมาย บรรยายกันเป็นปีก็ไม่จบ ทั้งวัดวาอาราม โบราณสถานศิลปวัฒนธรรมที่มีประวัติศาสตร์รากเหง้าเก่าแก่เป็นพันๆ ปี ทั้งทางธรรมชาติ ทะเล ป่าเขาอีกมากมาย ต่อให้เริ่มเที่ยวตั้งแต่เพิ่งคลานไปจนแก่ตายก็ไม่หมด" คำขวัญจังหวัดเพชรบุรี :: เขาวังคู่บ้าน ขนมหวาน เมืองพระ เลิศล้ำศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม "ถ้ำเขาย้อย" >>//www.khaoyoitravel.org/index.php?option=com_content&view=article&id=48:khaoyoi&catid=36:travel&Itemid=54 ในจังหวัดเพชรบุรีนับได้ว่า เขาย้อย เป็นภูเขาที่น่าสนใจมากที่สุดลูกหนึ่ง เขาย้อยประกอบด้วย ถ้ำต่างๆ ที่ดูสะดุดตาไม่เหมือนใคร และในบรรดาถ้ำต่างๆ เหล่านั้น ถ้ำเขาย้อยถือว่ามีความงามยอดเยี่ยมที่สุด ซึ่งเป็นถ้ำที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์อย่างงดงาม มีหินงอกหินย้อย และนอกจากถ้ำเขาย้อยแล้ว ยังมีถ้ำที่น่าสนใจและสวยงามที่น่าท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง ดังนี้ ถ้ำเขาย้อย เป็นถ้ำที่มีความงามยอดเยี่ยมที่สุด เป็นที่รู้จักกันดีมานานในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ ถ้ำนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ซึ่งอยู่ด้านหลังสถานีรถไฟเขาย้อยนั้นเอง ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปขนาดต่าง ๆ ประดิษฐานอยู่เป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับถ้ำเขาหลวงหรือถ้ำเขาบันไดอิฐ ตามประวัติศาสตร์พระพุทธรูปเหล่านี้ได้ถูกนำมาประดิษฐานไว้เป็นเวลานานกว่า 70 ปีแล้ว ก่อนที่พระครูอ่อนแห่งวัดท้ายตลาดจะมาปฏิสังขรณ์บริเวณถ้ำแห่งนี้ และมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่าพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อครั้งทรงผนวช ได้เคยเสด็จธุดงค์จาริกแสวงบุญมาประทับแรมที่บริเวณหน้าถ้ำ เพื่อเจริญภาวนาบำเพ็ญสมณธรรม ถ้ำพระนอนหรือถ้ำพระพุทธไสยาสน์ ตัวถ้ำมีขนาด 22 X 16 เมตร ตั้งอยู่ใต้หน้าผาทางด้านตะวันออกเกือบสุดบริเวณลานวัดทางทิศใต้ ถ้ำอยู่ไม่สูงมากนัก มีบันไดหัวนาค ขั้นบันไดปูหินแกรนิต 21 ชั้น หน้าถ้ำเป็นพื้นลานกว้างยกระดับ ปูด้วยหินอ่อน ปากถ้ำมีบันได 14 ขั้น สูงจากพื้นลานหน้าถ้ำเป็นทางเข้าถ้ำ ซุ้มประตูประดับลายปูนปั้น 2 ซุ้ม ภายในถ้ำมีพระนอนยาว 16 เมตร และพระระเบียงตามผนังถ้ำหลายองค์ประดิษฐานอยู่กับยังมีพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ในถ้ำนี้เช่นกัน ตามเพดานและผนังถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามตามธรรมชาติ โดยปกติมีผู้มานมัสการพระพุทธไสยาสน์และรอยพุทธบาทเป็นจำนวนมากเสมอ ถ้ำอู่ทอง ตัวถ้ำมีขนาด 6.2 X 28 เมตร เป็นถ้ำแฝดอยู่ติดกับถ้ำพระนอนทางทิศตะวันตก เพิ่งเปิดใช้โดยการเจาะช่องบันไดไปถึงกันเมื่อไม่ถึง 10 ปีมานี้ ลักษณะถ้ำยาวรี มีความเงียบสงบบรรยากาศเหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนาของผู้รักความสงบ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปหลายองค์ รวมทั้งพระปูนปั้น พระเจ้าอู่ทอง ซึ่งเป็นนามของถ้ำนี้ ถ้ำอุโมงค์ หรือถ้ำใต้ดิน อยู่ในเขตบริเวณลานวัดใกล้ถนนทางเดินที่ทำขึ้นไปยังถ้ำสวรรค์และถ้ำพระศรีอารย์ ปากถ้ำเป็นโพลงแคบ กว้างราว 1 เมตร ภายในมืดแคบต้องเปิดไฟฟ้าให้สว่าง ความยาวของถ้ำยาว 48 เมตร ก็จะสุดทางเดิน พบทางออกจากถ้ำอีกด้านหนึ่ง คนชอบลงถ้ำนี้เพื่อความตื่นเต้น และแสดงความสามารถแม้เพียงเล็กน้อยว่าได้พิชิตถ้ำนี้ได้สำเร็จ ถ้ำสวรรค์ อยู่ใกล้หน้าผาทางทิศตะวันออก สูงราว 50 เมตร มีถนนเป็นบันไดและทางเดินเลียบหน้าผา ไปถึงโดยสะดวกปลอดภัย โดยเริ่มจากพื้นทางวัดขึ้นไป เดินไปชมธรรมชาติ ป่าเขา และทิวทัศน์โดยรอบ พอจะรู้สึกเหนื่อยก็ถึงปากถ้ำซึ่งมีลักษณะแคบ ต้องไต่บันไดไม้และบันไดปูนลงไป จะพบลานที่สวยงามแปลกตาแปลกใจต่อสิ่งที่ธรรมชาติได้บรรจงและสร้างสรรค์ขึ้นไว้ ถ้ำข่อยหรือถ้ำยาว ถ้ำข่อยหรือถ้ำยาว ภายในถ้ำแคบ มืด เป็นโพลงยาวอยู่ติดกันกับถ้ำอุโมงค์ บางตอนของถ้ำจะมีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี ฝูงค้างคาวหลายหมื่นตัวอาศัยอยู่ในถ้ำยาวนี้ ถ้ำพระศรีอารย์ ตั้งอยู่สุดถนนทางเดินเลียบเขาที่ตรงไปยังถ้ำสวรรค์นั่นเองเดินทางไปอีกเพียง 124 เมตร ก็จะถึงปากถ้ำ ทางลงตัวถ้ำอยู่ต่ำลงไปคล้ายถ้ำเขาหลวงมีบันไดสำรองราว 40 ชั้น ก็จะพบลานกว้าง 19 X 36 เมตร มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่หน้าตักกว้าง 2.7 เมตร ขนานนามว่าพระศรีอารย์ประดิษฐานอยู่ถ้ำนี้มี 2 คูหาใหญ่ มีธรรมชาติที่เงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม ถ้ำโคตะโม เป็นอีกถ้ำหนึ่งซึ่งมีทางขึ้นไปถึง 2 ทางด้วยกัน ทางหนึ่งจากถ้ำพระศรีอารย์ ไปออกปากถ้ำทางทิศตะวันตก แล้วเดินลัดเลาะเลียบไหล่เขาไปอีก 113 เมตร ก็จะถึงถ้ำโคตะโม ซึ่งมีขนาดกว้างยาว 6.5 X 23 เมตร มีพระพุทธรูปขนาดหน้าตักกว้าง 1 วา นามว่าโคตะโมประดิษฐานอยู่อีกทางหนึ่ง ต้องปีนไหล่เขาขึ้นไปตามทางลำลองจากบริเวณตลาดนัดเขาย้อย ความสูงราว 40 เมตร ถ้ำนี้เริ่มต้นจากบันไดทางขึ้นที่ลานวัดหน้าเขาย้อย ก็จะมีระยะทางทั้งสิ้นราว 465 เมตร พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเพชรบุรี เป็นพระราชวังสร้างในสมัย ร.6 ที่ ต.ห้วยทรายเหนือ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยเป็นพระตำหนักประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพอพระราชหฤทัยที่สถานที่ที่ตำบลบางควายจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งให้กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการก่อสร้างพระราชนิเวศน์ใหญ่ใน พ.ศ. 2466 โดยที่ เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้อำนวยการก่อสร้างและพระองค์ได้ทรงร่างแผนผังการก่อสร้างพระราชนิเวศน์ด้วยพระองค์เอง โดยพระองค์ได้ทรงเพิ่มพระตำหนักฝ่ายใน ทรงเลือกแบบพระราชนิเวศน์เป็นอาคารแบบไม้ชั้นเดียว หลังคาทรงปั้นหยา มุงกระเบื้องสี่เหลี่ยม ใต้ถุนสูง เทพื้นคอนกรีตตลอด โดยที่พระตำหนักต่างๆ ได้แบ่งกระจายกันอยู่เป็นหลังๆ มีรูปทรงแบบเดียวกันหมด แต่ทุกหลังจะมีระเบียงและบันได ส่วนทางเดินจะมีลูกกรงและหลังคาเชื่อมติดต่อถึงกันตลอดเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเดินติดต่อกันระหว่างพระตำหนักต่างๆ ได้จัดวางห้องบรรทมอยู่กลางติดกับห้องแต่งพระองค์ มีห้องเสวยด้านหลัง มีสะพานทอดออกไปทางด้านขวามือเป็นส่วนของฝ่ายใน ด้านหน้ามีสะพานทอดยาวไปเป็นห้องทรงพระอักษรใกล้ชายหาด สถานที่แห่งความรัก และความหวังในองค์พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นเรือนไม้สักทองทั้งหลัง ตั้งอยู่ทางชายฝั่งริมทะเลด้านทิศใต้ของอำเภอชะอำ มีพันธุ์ไม้ร่มรื่นโดยรอบ เป็นที่ชื่นชมและประทับใจกับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก อยู่ห่างจากตัวอำเภอชะอำไปทางทิศใต้ประมาณ 8 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายจากถนนเพชรเกษมเข้าไปในค่ายพระรามหก เป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี หากมีโอกาสได้เดินทางโดยเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี บริเวณแยกเข้าเมืองเพชรบุรีท่านสามารถมองเห็นยอดเขาสามยอดตั้งอยู่มีเจดีย์และปราสาทอันสวยงามประดิษฐานทั้งสามยอดภูเขาชาวเพชรบุรีเรียกภูเขานี้ว่า เขาวัง เขาวังเป็นภาษาที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากเนื่องจากภูเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งพระราชวังซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุญนาค) เป็นแม่กองสร้างพระราชวังแห่งนี้เมื่อ พ.ศ.2401 และตั้งชื่อพระราชวังแห่งนี้ว่า พระนครคีรี พระนครคีรีรวมเนื้อที่ยอดเขาสามยอดสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญคือ ภูเขายอดกลาง เป็นที่ตั้งของพระธาตุจอมเพชรซึ่งเป็นองค์พระธาตุรูปฐานกลมองค์พระธาตุสูง 1 เส้นภายในฐานกลวงเป็นห้องกลมมีทางเข้าออกสี่ทางและมีช่องทางที่สามารถเดินขึ้นบนฐานทักษิณอีกสี่ช่องทางหนึ่งผู้ที่เคยเข้าเยี่ยมชมจะประทับใจในความอุตสาหะ ของการสร้างพระธาตุและตื่นตากับทัศนียภาพโดยรอบ ยอดเขาด้านตะวันออก เป็นที่ตั้งของวัดพระแก้วซึ่งมีพระแก้วผลึกเป็นพระประธานทรงให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวังทำนองเดียวกับวัดพระแก้วที่กรุงเทพ ฯ ต่อมาเมื่อสิ้นแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทางการได้นำพระแก้วผลึกกลับคืนไปกรุงเทพ ฯ โดยเปลี่ยนพระพุทธรูปหินอ่อนประดิษฐานเป็นพระประธานแทน นอกจากนี้ ตรงหน้าอุโบสถ์วัดพระแก้ว ยังมีพระปรางค์แดงซึ่งเป็นพระปรางค์โปร่ง(ปกติพระปรางค์จะตันและทึบ) ภายในมีแท่นสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป ชาวบ้านเรียกพระปรางค์นี้ว่า เจดีย์แดง ยอดเขาด้านตะวันตก เป็นที่ตั้งของพระราชวังซึ่งมีพระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ มากมาย เช่น พระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ ซึ่งเป็นพระที่นั่งองค์ใหญ่ประกอบด้วย ห้องโถงออกขุนนาง ห้องบรรทม ห้องแต่งพระองค์ ห้องเสวย (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี) พระที่นั่งปราโมทย์มไหศวรรย์ ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้าเทพศิรินทราบรมราชินี พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท เป็นปราสาทสวยงามสูง 7 วา ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปปั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระที่นั่งราชธรรมสภา เป็นพระที่นั่งชั้นเดียว .ทรงใช้เป็นที่ประชุมสาธยายธรรม ตำหนักสันฐาคารสถาน ทรงใช้เป็นตำหนักสำหรับรับแขกเมือง ซึ่งสามารถพักแรมได้ หอพิมานเพชรมเหศวร ประกอบด้วยหอย่อยเล็ก 3 หอ ทรงใช้เป็นศาลาเทพารักษ์ (ศาลพระภูมิเจ้าที่) หอหนึ่ง เป็นหอประโคมสังคีตหอหนึ่ง และอีกหอหนึ่งเป็นหอประดิษฐฐานพระพุทธรูป หอจตุเวทปริตพัจน์ เป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ทรงสดับพระธรรมเทศนาในวันพระธรรมสวนะ หอชัชวาลเวียงชัย (ชาวบ้านเรียกว่า หอกระโจมแก้ว หรือ หอส่องกล้อง) ชั้นบนเป็นระเบียงมีลูกกรงโดยรอบ หลังคาเป็นรูปโดมมุงด้วยกระจกโค้ง โปรดให้สร้างไว้โดยมีพระราชประสงค์จะทรงส่องกล้องทอดพระเนตรดวงดาวในตำราดาราศาสตร์ นอกจากนี้ยังมี อาคารสถานต่าง ๆ อีกมากมาย ที่เป็นสถานที่ในราชการพระราชวังในขณะนั้น เช่น โรงม้า โรงรถราชวัลภาคาร ศาลาลูกชุน ศาลาด่านหน้า ฯลฯ พระนครคีรี จัดเป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างสูง และทางราชการได้ประกาศให้เป็นอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี รวมเนื้อที่ 8,500 ไร่ และเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี จังหวัดเพชรบุรีได้จัดงานพระนครคีรีเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพระราชวังที่มีค่าทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ปี 2529 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยจะจัดขึ้นในวันศุกร์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี รวม 10 วัน 10 คืน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเทิดพระเกียรติบูรพมหากษัตราธิราชไทย รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 ตลอดจนเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดเพชรบุรีให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชม การเยี่ยมชมพระนครคีรี การขึ้นชมเขาวัง ทำได้สองวิธี คือ 1. เดินขึ้นเขาวัง เป็นวิธีที่ใช้กันมาแต่เดิม แม้จะต้องเหนื่อยสักหน่อยแต่ก็ได้ใกล้ชิดธรรมชาติซึ่งนอกจากจะอุดมไปด้วยแมกไม้นานาพันธ์ โดยเฉพาะลั่นทมไทยที่บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมในฤดูร้อนยังมีฝูงลิงใหญ่น้อยเจ้าของถิ่นออกมาทักทายและต้อนรับผู้มาเยือนอยู่ตามรายทางด้วย ข้อควรระวังก็ คือ ไม่ควรนำถุงอาหารและเครื่องดื่มขึ้นไป และไม่ควรแหย่ลิง เพราะอาจจะถูกลิงทำลายได้ 2. ขึ้นรถรางไฟฟ้า หรือเคเบิลคาร์ สำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว เวลาเปิดบริการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.15-17.00 น. เสาร์ อาทิตย์ เวลา 08.15 17.30 น. อัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่ ขึ้น ลง คนละ 50 บาท เด็ก ขึ้น ลง คนละ 30 บาท ( ราคานี้รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์) สอบถามรายละเอียดได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี โทร. 0 - 3240 - 1006 , 0 - 3242 - 5600 ขอบคุณข้อมูล "จังหวัดเพชรบุรี" >>//www.phetchaburi.go.th/ สวัสดีค่ะมิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ทุกท่าน +-----------------------------------------+ เนื่องจากสาวบ้านนอก มีภารกิจที่ต้องเดินทางไปหลายทิศ กลางเดือนมีนาคมนี้ (ติดตามพี่ ๆ เพื่อไปร่วมแสดงความยินดี ในความสำเร็จทางการศึกษาของหลานสาวคนโตค่ะ) จึงไม่มีเรื่องเล่า..สาวบ้านนอก ที่กลั่นกรองจากมันสมอง (ทั้งซีกซ้าย & ขวา) โดยงดถ่ายทอดความคิดออกมาในเวลานี้ จึงอนุญาตขอพัก Blog .. แต่มีเรื่องจากโลกไซเบอร์มาฝาก (แปะลิงค์) ให้ติดตามอ่านอย่างเพลิดเพลิน ดีกว่าอยู่เปล่า ๆ นะคะ อะคึ่ ๆ หากมิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ยังติดใจการท่องเที่ยวสไตล์พเนจร สาวบ้านนอก ขอแนะนำเทศกาลประจำปีที่ "จังหวัดศรีสะเกษ" ซึ่งได้จัดขึ้นในเดือนมีนาคมทุกปี คือ โปรดติดตามได้ที่นี่ >>...//samarn.multiply.com/calendar/item/10057/10057 ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจและน่าติดตาม (อ่าน) เพิ่มเติมที่นี่ >>...//www.oknation.net/blog/print.php?id=222457 ทั้งวัดวาอาราม โบราณสถานศิลปวัฒนธรรมที่มีประวัติศาสตร์รากเหง้าเก่าแก่เป็นพันๆ ปี ทั้งทางธรรมชาติ ทะเล ป่าเขาอีกมากมาย ต่อให้เริ่มเที่ยวตั้งแต่เพิ่งคลานไปจนแก่ตายก็ไม่หมด"... "นักเดินทางอิสระ" ได้กล่าวไว้ เมื่อครั้งที่เขาเขียน "เรื่องลี้ลับจากพงไพร ณ ดอยลังกา" ด้วยมิตรภาพจากใจ สาวบ้านนอก เที่ยวให้สนุกสุดเหวี่ยงเลยนะครับ แล้วจะรอชม รออ่านสิ่งดีๆที่ได้มาจากการเที่ยวครั้งนี้นะครับ
โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:20:56:36 น.
คุณสาวฯจ๋า
ได้รับของฝากจากใจแล้ว อึ้งเลยค่ะ ตื้นตันๆๆ ขอบคุณมากๆค่ะ น้ำใจงามแต้ๆน้อ ซึ้งมากค่ะ ขอบคุณสำหรับมิตรภาพและน้ำใจของสาวฯที่มีต่อกันมากๆค่ะ เดินทางไปไหนนะนี่ ขอให้มีความสุขๆนะคะ โดย: ยิปซี IP: 124.122.219.60 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:17:04:50 น.
สวัสดีค่ะ ขอแจ้งข่าวปิดโครงการหนังสือทำมือในท่วงทำนองเดียวกัน ยอดจำหน่ายหนังสือ ๑๙๐ เล่ม รายได้หักค่าใช้จ่ายมอบให้มูลนิธิรักษ์เด็ก จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเงินจำนวน ๑๔,๗๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
อ่านรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดและภาพหลักฐานการโอนเงินที่ //www.pantip.com/cafe/library/topic/K8737036/K8737036.html หรือ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=breath&month=15-01-2010&group=11&gblog=15 ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกิจกรรมแห่งการแบ่งปันในครั้งนี้ค่ะ โดย: สายลมอิสระ วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:8:16:54 น.
พี่สาวม่ะรายจามาอัฟบล็อคอ่ะค่ะ อยากดูภาพสวยๆ จากสบายดีหลวงพระบางอ่ะค่ะ ม่ะวานไป ER ให้หมอปลั๊มหัวจายยยมาร่ะ เพราะรอม่ะไหว หุ หุ หุ หุ หุ
โดย: สาวดอย IP: 119.42.83.136 วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:15:06:19 น.
พรรคบล็อก
ส.สลงพื้นที่ใช้ตังค์ ผลกำไรจากกาแฟแก้วโปรด โดย: . (ตาพรานบุญ ) วันที่: 25 มกราคม 2553 เวลา:12:47:08 น.
ขอเชิญร่วมกิจกรรม : ร้อยน้ำใจทอความห่วงใย สู่๓จังหวัดชายแดนใต้ รายได้มอบให้ :โครงการสันติภาพชีวิต เพื่อสนับสนุนภารกิจมวลชนสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตะเวนชายแดนเพื่อมอบให้กับชาวบ้าน เด็กนักเรียน และวัด ลักษณะของกิจกรรม ร้อยน้ำใจ ทอความห่วงใย สู่ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ ๑.จำหน่ายโปสการ์ดทำมือ ๒.จำหน่ายสมุดบันทึกทำมือ ๓.ประมูลสินค้า (ของแฮนเมดจากห้องงานฝีมือ,หนังสือจากสำนักพิมพ์) ขณะนี้เราเปิดรับ"รูปภาพ"สำหรับทำโปสการ์ดทำมือ,"สิ่งของ" เพื่อนำมาประมูล" อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=breath หรือ เชิญชวนร่วมกิจกรรม "ร้อยน้ำใจทอความห่วงใย สู่๓จังหวัดชายแดนใต้" ขอรับบริจาค "รูปภาพ"เพื่อจัดทำโปสการ์ดทำมือจำหน่ายในกิจกรรม "ร้อยน้ำใจทอความห่วงใย สู่๓จังหวัดชายแดนใต้" //www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J8787232/J8787232.html#2 ขอรับบริจาค "สิ่งของ" เพื่อประมูลในกิจกรรม" ร้อยน้ำใจทอความห่วงใย สู่๓จังหวัดชายแดนใต้" //www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J8787217/J8787217.html#3 อ่านรายละเอียดได้ที่กระทู้หรือสอบถามเพิ่มเติมที่windy_poo@hotmail.com ต้องขออภัย หากข้อความนี้เป็นการรบกวนค่ะ โดย: สายลมอิสระ วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:19:54:24 น.
|
สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] เด็ก ๆ ชอบเอาตัวไปปลายนา เอาขาไปวิ่งเล่นที่ทุ่งหญ้า โตเป็นสาว..ชอบอยู่บ้านนอก อนาคต..ได้ไปที่ชอบ..ที่ชอบ อะคึ่ ๆ Friends Blog
|
วันอังคารแว้วว อีกแป๊ปเดียวก็จะได้หยุดแล้วเนอะ ^^