''Man sees man as man is indeed man. Man sees man not-man is no man. All men born are invariably men. Rich or poor, high or low. All are equally men.'' --Pranboon

 
สิงหาคม 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
21 สิงหาคม 2555
 

เมื่อฉันต้องกลายเป็นผู้มีบุตรยาก

หัวอกคนมีบุตรยาก กับจุดเริ่มต้น IVF ลูกน้อยหอยสังข์

วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๔.๕๖ เมืองเลียร์ ประเทศนอร์เวย์

ถึงลูกน้อยหอยสังข์ของแม่และพ่อ

หากนับย้อนหลังจากวันนี้ถึงวันแรกที่แม่เริ่มตั้งใจที่นับวันเวลา เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกน้อยของแม่ได้มาเกิดในครอบครัวของเรารวม ๆ แล้ว ก็สองปีแล้วนะลูก ที่แม่กับพ่อรอคอยวันแล้ววันเล่า แต่แล้วพ่อกับแม่ก็ไม่สมหวัง แม่กังวลมากพร่ำโทษพ่อของลูกมาตลอดว่าเป็นเพราะพ่อที่สูบบุหรี่ (ค่อนข้างจัด) แล้วพ่อกับแม่ก็เป็นคู่ชีวิตที่อายุห่างกันค่อนข้างมาก แม่คิดเสมอว่าเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากพ่อ และแล้ววันหนึ่งแม่กับพ่อคุยกันว่า ปีที่ผ่านมาที่เราวางแฟนจะมีลูกกันนั้น แม่ได้ทำทุกอย่าง ทำการนับวันไข่ตก เพื่อตระเตรียมเวลาที่แม่กับพ่อจะได้ปล่อยให้โอกาสนั้นเกิดขึ้นเหมือนคู่อื่น ๆ บ้าง แต่ครั้งแล้วครั้งเล่า การนับวันไข่ตก ทดสอบไข่ตกก็ไม่ช่วยอะไรเราสองคน พ่อกับแม่ตัดสินใจปรึกษาหมอประจำตัวที่เมืองดรัมเมน ซึ่งเป็นเมืองแห่งใหม่ที่แม่พับพ่อตัดสินใจย้ายลงมาปักหลัดสร้างครอบครัวด้วยกันหลังจากที่เราแต่งงานกันได้ครึ่งปี พ่อของลูกเป็นชาวเหนือ (ของนอร์เวย์) ส่วนแม่เป็นลูกอีสาน อุบลราชธานี ประเทศไทย การตัดสินใจของพ่อกับแม่ในการย้ายจากเหนือลงมาตอนใต้นี้ก็เป็นเพราะพ่อมองว่าอนาคตของลูก ๆ และแม่ควรจะดำเนินไปอย่างราบรื่นกว่า เมื่อเทียบกัยการอยู่ทางตอนเหนือ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่เหนือสุดของยุโรป เหนือ หนาวยาวนาน หิมะปกคลุม และบรรยากาศอาจจะทำให้แม่เกิดความกดดันได้ง่าย โอกาสทางการศึกษาก็ไม่เทียบเท่ากับทางตอนใต้ แม่กับพ่อสองคนจึงตัดสินใจ ขายทุกอย่าง ขายบ้านทางเหนือ เพื่อจะย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ที่ดรัมเมนกัน วันนี้ก็นับระยะเวลาได้ ๒ ปี เต็ม ๆ แล้ว ที่ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่กัน พ่อกับแม่ ช่วยกันสร้างครอบครับเล็ก ๆ ของเรา ตอนนี้อะไร ๆ หก็เริ่มลงตัวมากขึ้นแล้ว แต่ครอบครัวไม่อาจจะสมบูรณ์ได้โดยปราศจากลูก ดังนั้นจึงเป็นที่มาในการจดบันทึกเรื่องราวนี้ขึ้นมา

ลูกจะรู้ไหมนะว่า พ่อกับแม่อยากให้วันนั้นมาถึงเร็ว ๆ ตา กับยาย และทุกคนที่ครอบครัวเราที่เมืองไทยต่างก็รอคอยวันนั้นเช่นกัน หลังจากที่แม่ได้ปรึกษาคุณหมอ คุณหมอส่งแม่ไปตรวจที่ รพ. ประจำเมืองดรัมเมน กับหมอสูตินารึเวช คุณหมอตรวจเลือดเพ่ือวัดระดับฮอร์โมนของแม่และพ่อ ตรวจอัลตร้าซาวน์ ก็ไม่พบความผิดปรกติใด ๆ คุณหมอเลยแนะนำว่าอยากจะขอตรวจแบบละเอียดภายในช่องท้องของแม่ ด้วยการผ่าตัดส่องกล้องหน้าท้อง หากปัญหา อาจจะท่อนำไข่ของแม่อุดตัน หรือมีซีสต์เกิดขึ้นที่มดลูก แม่และพ่อตกลงกันตามที่หมอแนะนำ วันที่แม่ฟื้นจากการผ่าตัด คุณหมอมาแจ้งผลการตรวจส่องกล้องพร้อมฉีดสีดูท่อนำไข่ ปรากฏว่า คำตอบที่ได้นั้นทำให้แม่เสียใจแทบจะร้องไห้ รู้สึกหมดความหวัง เพราะหมอบอกว่าท่อนำไข่นั้นตีบตันทั้งสองข้าง มีผังผืดและเป็นโรคที่เค้าสรุปว่ามีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ Endomitriosis แม่ไม่สามารถมีลูกโดยวิธีกระบวนการธรรมชาติ ต้องพิึ่งการผสมไข่และน้ำเชื้อภายนอกร่างกายเท่านั้น แม่นอนร้องไห้สามวันเต็ม ๆ ไม่ยอมพูดยอมจากับพ่อ แม่เครียดมาก ความเหงามันเพิ่มทวีคูณ ทุก ๆ วัน ทำไมแม่ต้องเป็นโรคนี้ แม่ไม่เคยมีอาการบ่งบอกอะไรล่วงหน้า ไม่เจ๊บปวดท้องทรมานเมื่อมีรอบเดือน ร่างกายแข็งแรงปรกติทุกอย่าง แต่แล้วก็เหมือนกับฟ้าได้ผ่าลงมาตรงกลางใจ แม่อยากกลับบ้านที่เมืองไทย ที่นี่แม่ไม่มีใครเลย มีแต่พ่อเราเท่านั้น แต่ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงได้มาเกิดกับแม่นะ ชาติที่แล้วแม่ไปทำร้ายเด็ก ๆ พรากลูกพรากครอบครัวคนอื่นมากมายเลยหรือ จึงส่งผลให้ชาตินี้ แม่ต้องมาเผชิญปัญหานี้ไกลบ้าน ตัวคนเดียว ไม่มีญาติเคียงข้าง,,,,,,,,,,,,,,แม่ทำใจอยู่หลายวัน พ่อให้กำลังใจแม่มาตลอด แม่ต้องของขอบคุณพ่อของเรามาก ที่อยู่เคียงข้างแม่เสมอ และนี่ก็เป็นที่มาของการเริ่มจดบันทึกเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมทั้งการบำบัดรักษาภาวะการมีบุตรยากอย่างจริงจัง

แม่ได้เวลานัด และรับยาจากคุณหมอ ตามโปรแกรมการทำเด็กหลอดแก้ว คุณหมอให้แม่เช็คอัลตราซาวน์ช่องคลอด อีกครั้ง ส่วนพ่อคุณหมอก็นัดตรวจน้ำเชือ อกีรอบ ก่อนเริ่มเข้าโปรแกรม จากนั้นหมอได้ให้เราเข้าไปคุยกับพยาบาล ที่เตรียมอธิบายวิธีการรักษา พยาบาลให้หนังสือคู่มือเล็ก ๆ มาอ่านทำความเข้าใจ แล้วก้ให้แม่แจ้งผลการมาของรอบเดือนทุก ๆ เดือน ก่อนที่เค้าจะส่งโปรแกรม ตารางการพ่นยา suprecur 0.15 mg การตรวจเลือดเพื่อเช็คฮอร์โมน หลังรอบเดือนถัดไปมา ก่อนจะเริ่มฉีดยา Puregon และเข้าโปรแกรมต่าง ๆ ต่อไป หลังจากพบหมอและพูดคุยกับพยาบาลในวั้นั้น ผ่านมาได้ราว ๆ อาทิตย์แม่ก็ได้ใบสั่งยา ยาตัวแรกที่จะพ่นจมูกสามารถซื้อได้จากร้านขายยาใกล้เมือง พยาบาลให้ชุดเข็มฉีดยา Puregon มา พร้อมทั้งกำชับว่า ก่อนกลับไทยให้เอายา Suprecur กลับเมืองไทยไปด้วย เพราะคาดว่าการเริ่มตั้นรักษาน่าจะอยู่ในช่วงที่แม่เดินทางกลับไปเยี่ยมตาและยาย แม่ได้ยามาสองหลอด เพื่อพ่นจมูก พ่นวันละสี่เวลา โดยเริ่มทำการพ่นในวันที่สิบเจ็ดสิงหาคม วันแรกที่แม่เริ่มพ่นยา แม่กังวลหลาย ๆ อย่าง ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพของยาที่หอบห้วมาจากนอร์เวย์ถึงเมืองไทย การเก็บรักษาในช่วงความต่างอุณหภูมิของทั้งสองประเทศ แล้วก็ยังมีปัจจัยความแตกต่างด้านเวลาเข้ามาเพิ่ม ดังนั้นครั้งแรกนี้ แม่คิดว่า แม่คงไม่หวังให้ประสบความสำเร็จภายในครั้งแรกที่ทดสอบ ที่นอร์เวย์หมอทดลองการผสมภายนอกและถ่ายโอนตัวอ่อนนี้ให้ ๓ ครั้ง สองครั้งแรกหมอจะใส่ตัวอ่อนให้แค่ครั้งละ ๑ ฟอง เท่านั้น หากไม่ประสบความสำเร็จ ในครั้งสุดท้ายหมอจึงจะใส่ตัวอ่อนให้เป็นสองตัว แม่ฟังแล้วก็คิดว่าโอกาสของแม่ก็คงห้าสิบห้าสิบเท่านั้น แต่ไม่เป้นไรแม่คิดว่า เราจะพยายามทำให้ถึงที่สุด ดีที่สุด แต่ผลนั้นราคาดหวังตามผลบุญผลกรรมที่แม่และพ่อได้ทำร่วมกันมา หากเราสองคนมีบุญวาสนาร่วมกัน วั้นนั้นคงมาถึง วันที่ลูกจะได้มาเกิดในครอบครัวของเรา

สรุปค่าใช้จ่ายในการตรวจในวันนั้น 
ค่าหัตถการ พ่อและแม่ คนละ 307 kr. หรือราว ๆ คนละ 1600 บาท
ค่ายาพ่นจมูก ราว ๆ 4000-4500 บาทไทย 

สำหรับโปรแกรมการรักษาก่อนหน้าที่แม่ตัดสินใจร่วมโปรแกรมที่นี่ แม่ได้ศึกษาหาข้อมูลที่เมืองไทยเรา เขียนปรึกษา รพ. ทั้งรัฐ และเอกชนที่กรุงเทพ ฯ แม่ได้รับคำตอบที่ประทับใจมาก ๆ จาก รพ. กรุงเทพ คลินิค จินตบุตร และก็ ศุนย์ SFC ที่ศุนย์เซฟเฟอร์ติลิตี้เซ้นเตอร์นี้ คุณหมอและพยาบาลทำงานดีมาก ๆ ให้คำปรึกษาและวางโปรแกรมรักษามาให้เสร็จสรรพ ทั้ง ๆ ที่แม่ยังอยู่ที่นอร์เวยอยู่เลย แต่ตอนนั้นแม่คิดว่าจะกลับไปทำที่เมืองไทย เลยเขียนปรึกษา แผนการว่าสองเดือนที่แม่กลับไทยนั้นพอจะมีโอกาสทำได้หรือไม่ ต้องขอขอบคุณ รพ. และศุนย์ทุก ๆ ที่ที่กลาวมาข้างต้น อย่างมากมายด้วยค่ะ หากไม่ประสบความสำเร็จที่นี่ แม่ก็คิดว่าแม่จะกลับไปรักษาที่บ้านเราอีกที สำหรับที่นอร์เวย์ การรักษา หากย้อนไปตั้งแต่แม่เริ่มปรึกษาปัญหาการมีบุตรยาก หมอก็เริ่มส่งข้อมูลแม่และพ่อเข้าโปรแกรมเลย เราก็รอคิวกันต่อไป เรารอกันมาหนึ่งปีเต็ม ๆ จนกระทั่งแม่เข้ารับการผ่าตัดส่องกล้องหน้าท้อง รพ.ศูนย์ที่เมือง เค้าก็ส่งต่อเคสแม่ไปที่ออสโล เฉพาะทางด้านการทำเด็กหลอดแก้วเลย เคสเลยได้คิวเร็ว เพราะทางรพ.สรุปมาด้วยสาเหตุโรคเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และท่อนำไข่ตั้นทั้งสองด้าน แม่คิดว่าเราสองคนโชคดีที่ได้คิวเร็ว หมอที่ออสโลนัดเราไปพบและตรวจเชคอีกครั้ง จึงสรุปวิธีการรักษา และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ซึ่งทางนอร์เวย์ทางคู่สามีภรรยา นั้นจะต้องรับผิดชอบชำระค่าใช้จ่ายในการรักษาเองเป็นจำนวน 15,000 kr. หรือราว ๆ 75,000-80,000 บาท ต่อการรักษาสามครั้ง หากทำแล้วเกิน ส่วนเกินเราสามารถเบิกจากหน่วยงานสวัสดิการสังคมได้คืนทุกบาท แม่กับพ่อจึงตัดสินใจลองทำที่นี่ก่อน เพราะอย่างน้อยก็มีโอกาสทำ สามครั้ง แล้วอีกอย่างคือแม่ต้องอาศัยอยู่ที่นี่ หากได้ทำและได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิตก็น่าจะปลอดภัยกว่า หากเทียบกับต้องทำที่บ้านเราเราแล้วมีเวลาอยู่แค่สองเดือน อย่างน้อยแม่ก็ต้องรอจนกว่าคุณหมอจะบอกว่าปลอดภัยสามารถเดินทางกลับนอร์เวย์ได้ แม่ห่วงเรื่องเรียนและงานร่วมด้วย การรักษาที่นอร์เวย์ อาจจะไม่ค่อยละเอียดในด้านการได้รับการดูแลจากแพทย์เหมือนกับทำที่บ้านเรา แต่แม่คิดแค่ว่า หากวาสนาและพรหมลิขิตของครอบครัวมีต่อกัน วั้นนั้นที่แม่รอคอยคงจะมาถึง ไม่ว่าแม่จะทำที่ไหนก็ตาม วันของครอบครัวเราคงมาถึงสักวัน

รักและรอคอย

แม่และพ่อ



Create Date : 21 สิงหาคม 2555
Last Update : 21 ตุลาคม 2555 6:25:11 น. 6 comments
Counter : 2436 Pageviews.  
 
 
 
 
ของเรารอบละ 15000 เหรียญแหนะ เหอๆ อย่างแพง
 
 

โดย: pongampy วันที่: 25 สิงหาคม 2555 เวลา:2:26:27 น.  

 
 
 
ผ่านมาอ่านเรื่องราวจากบล็อค IVF Day 10 ค่ะ

อ่านแล้วก็รู้สึกกลัวว่าตัวเองจะมีน้องยาก เพราะเจ้าของบล็อคเองก็ไม่เคยมีอาการใดๆ เลย ซึ่งหากไม่ส่องกล้องก็คงไม่พบ

ขอให้โครงการน้องหอยสังข์ประสบความสำเร็จนะคะ
 
 

โดย: ChiBoo วันที่: 27 สิงหาคม 2555 เวลา:7:17:51 น.  

 
 
 
ชื่นชมในความอดทนขอให้สำเร็จนะคะ
เราเป็นอีกหนึ่งคนที่รอคอย..อายุก้อมากแล้วเช่นกัน
แต่ยังไม่ได้เริ่มรักษา..ติดภาระหลายอย่างค่ะ
สู้สุ้นะคะ
 
 

โดย: Than.J IP: 118.175.7.250 วันที่: 30 สิงหาคม 2555 เวลา:8:47:34 น.  

 
 
 
ขอบคุณค่ะคุณธัน เป็นกำลังใจให้นะคะ ไม่แน่คุณอาจจะสมหวังในเร็ววันนี้ก็เป็นได้ค่ะ สู้ ๆ เช่นกันค่ะ หัวอกเดียวกันเข้าใจคำว่ารอคอยใครสักคนนี่มันทรมานจริง ๆ ค่ะ
 
 

โดย: Santie's journey วันที่: 5 กันยายน 2555 เวลา:2:01:41 น.  

 
 
 
สู้ๆนะคะ
 
 

โดย: เเบนา IP: 94.227.158.176 วันที่: 6 กันยายน 2555 เวลา:5:35:44 น.  

 
 
 
ขอบคุณค่ะ คุณ แบนา
 
 

โดย: Santie's journey วันที่: 7 กันยายน 2555 เวลา:2:57:19 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

Santie's journey
 
Location :
Lier Norway

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Just another woman, born in Thailand,in 1981 and now lives in another side of the world " Home aways Home"

I have decided to create this blog as the self-novelize of my life. Just to share part of my life of being a stronger mature woman than ever.

แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่แต่งงานและได้ย้ายถิ่นฐานติดตามสามีมาอยู่แดนไกล (ไม่รู้บุญทำกรรมแต่งกันมาหรือบุปเพอาละวาดนำพา) สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา เพราะรักจะเขียน (เมื่อไหร่ที่ตัวเองจะนึกได้) อยากจะแชร์ ความสุข ความทุกข์ เฉกเช่นปุถุชนคนธรรมดา ผ่านทางสื่ออนไลน์แด่ครอบครัวที่ฉันรัก แด่พี่น้อง แด่เพื่อนสนิท มิตรสหาย แด่คนรู้จัก คน(เคย)รู้จัก ที่ผ่านมา และที่กำลังจะได้รู้จักเป้นมิตรใหม่ทุก ๆ คนค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ
[Add Santie's journey's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com