sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
19 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ ๑ ทางผ่านกามเทพ




ดวงหน้าคมเข้มเงยขึ้นมองไปยังท้องนภากว้าง...บนนั้นยังคงมีดวงดาวนับหมื่นนับพันให้แสงสว่างวิบวับจนอร่ามเรืองไปทั้งผืนฟ้า...

“สารวัตรกำลังมองหาพระจันทร์เต็มดวงอยู่หรือเปล่าครับ”

เสียงของใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ เมื่อเห็นผู้เป็นนายเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ามาพักใหญ่

“ถ้าใช่แล้วเอ็งมีปัญหาอะไรไหม”

“แหมๆ ถามมาได้ถ้าใช่ผมก็จะได้เผ่นน่ะสิครับ...”

“ทำไมต้องเผ่นเอ็งนี่มันยังไงใจคอจะกวนบาทากันตั้งแต่พระจันทร์เริ่มขึ้นเลยเรอะ”

“อ้าว...เกิดพระจันทร์โผล่ปุ๊บสารวัตรแปลงร่างปั๊บผมก็จะเผ่นเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยยังไงล่ะครับ...”

ลูกน้องคนสนิทยังกระเซ้าเจ้านายไม่หยุด

“ถึงไม่แปลงร่างเอ็งก็อย่าคิดว่ามันจะปลอดภัย”

สิ้นเสียงบอกสารวัตรหนุ่มหน้าเข้มก็ยันโครมลงไปบนร่างสูงโปร่งของลูกน้องคนสนิท เป็นผลให้พ่อหนุ่มจอมกวนถลาหล่นตุ้บลงไปนอนอยู่ข้างบันได

“โอย...สารวัตรทำไมมาถีบผมแบบนี้ล่ะ...บันไดสูงตั้งสามขั้นเกิดผมตกลงมาคอหักตายจะทำยังไง”

คนถูกประทุษร้ายลุกขึ้นทำเสียงโอดเสียงโอย

“ไม่เห็นจะต้องคิดให้ปวดหัว...ตายก็เอาไปเผาสิไม่เห็นจะยุ่งยากอะไร...บันไดแค่สามขั้นถ้ามันจะคอหักตายก็เป็นผีเฝ้าราวบันไดไปซะ...มัวแต่โอดโอยอยู่นั่นงานที่สั่งให้ทำเสร็จหรือยัง”

“โธ่...สารวัตรพูดเป็นหนังการ์ตูนไปได้...งานมันจะสำเร็จได้ยังไงล่ะคร้าบ...จนป่านนี้ผู้หมวดยังมาไม่ถึงเลย...”

“อะไรกันนัดไว้สี่ทุ่มไม่ใช่เหรอ...นี่มันจะสี่ทุ่มครึ่งแล้วนะปกติหมวดไม่เคยสายนี่...โทรติดต่อไปหรือยัง”

สารวัตรหน้าเข้มก้มลงมองนาฬิกาบนข้อมือแล้วขมวดคิ้วน้อยๆ

“โทรแล้วครับ...ผู้หมวดบอกว่ากำลังเดินทางมาอย่างเร่งด่วนแต่มีเหตุฉุกเฉินเลยต้องแวะส่งส่วย...เอ๊ย!...แวะเติมน้ำมันอีกสักพักคงถึงครับผ้ม...”

นายตำรวจหนุ่มหน้าทะเล้นรายงานน้ำเสียงยียวน จนคนเป็นเจ้านายได้แต่ยืนส่งเสียงฮึ่มๆ เพราะอยากถีบซ้ำอีกสักรอบ

“นั่นๆ ผู้หมวดมาแล้ว...”

นายตำรวจหน้าทะเล้นรีบรายงานเมื่อเห็นรถของคนที่เฝ้ารอตีวงเลี้ยวเข้ามา

“เตรียมของพร้อมแล้วใช่ไหม”

“ครับสารวัตร”

สารวัตรหนุ่มหน้าเข้มพยักหน้าน้อยๆ แล้วเดินลงจากบ้านตรงไปยังรถเก๋งคนหรูที่จอดรออยู่ไม่ห่าง

“สวัสดีครับสารวัตร...โอ้โฮทำไมคราวนี้กระเป๋าใบใหญ่จัง”

นายตำรวจหนุ่มหน้าแฉล้มทักทายผู้บังคับบัญชาแววตาเป็นประกายเมื่อเห็นสัมภาระของเจ้านายดูมีปริมาณมากกว่าทุกครั้ง

“คราวนี้คงไปนานเป็นเดือน...ผมฝากทางนี้ด้วยนะหมวด”

คนเป็นเจ้านายบอกน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย เมื่อทุกคนขึ้นประจำที่สารถีหน้าแฉล้มจึงออกรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว


ไอรดา เหลือบมองกระเป๋าหนังสีดำทะมึนข้างตัวด้วยประกายตาเย็นชาจนคนที่ลอบมองรู้สึกชาวาบไปถึงไขสันหลัง

ดวงหน้าคมสวยกระจ่างตาแม้จะงดงามราวดอกไม้แรกแย้ม แต่กลับแฝงไปด้วยความเย็นยะเยือกจนคนที่อยู่ใกล้ๆ รับรู้ได้ มือเรียวดึงกระเป๋าขึ้นมาวางไว้บนตัก...เปิดออกช้าๆ แล้วจ้องสิ่งของที่อยู่ในนั้นตาเขม็ง...

...เธอเหลือบมองคนขับรถที่มองมาเป็นระยะๆ แล้วยิ้มเย็นก่อนจะเปิดกระเป๋าหยิบไรเฟิลคู่ใจออกมาบรรจุกระสุนและที่เก็บเสียง...

“เดโช...อีกนานไหมกว่าจะถึงที่หมาย”

เธอถามขณะยังจดจ่ออยู่กับอาวุธในมือ

“อีกไม่ถึงกิโลครับคุณหนู”

หญิงสาวพยักหน้ารับรู้และนั่งทอดสายตามองไปข้างหน้า รถที่ขับมาเรื่อยๆ เริ่มเพิ่มระดับความเร็วขึ้นเพราะถนนว่าง ไอรดาเหลือบมองคนขับรถแววตาพอใจ...เพราะยิ่งถึงที่หมายเร็วเท่าไรภารกิจของเธอก็จบสิ้นเร็วเท่านั้น

รถสปอร์ตคันหรูแล่นฉิวในระดับความเร็วที่มากกว่าเก้าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังคงขับไปเรื่อยๆ โดยไม่ชะลอแม้ถนนจะคดไปเลี้ยวมาตลอดสาย จนมีป้ายเตือนว่าเส้นทางสายนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

“เฮ้ย!!...”

ขณะตีรถเข้าโค้งคนขับรถที่มั่นอกมั่นใจในฝีมือของตัวเองถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อเห็นรถบรรทุกวิ่งสวนมาในระดับความเร็วที่ถือว่าไม่น้อยไปกว่ากัน...ไอรดา กระชับอาวุธในมือไว้แน่นจ้องรถที่กำลังพุ่งเข้ามาแววตานิ่งเฉยราวกับไม่รู้สึกตื่นกลัวหรือหวีดร้องจนผิดวิสัยของผู้หญิง

“เดโช! หลบ”

เธอแผดเสียงเตือนคนขับรถในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงเตือนที่ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังอยู่ในภาวะช็อกสะดุ้งจนได้สติ...และตัดสินใจหักหลบลงข้างทางในเสี้ยววินาที

เสียงเบรกยาวที่ดังท่ามกลางหุบเขาอันเงียบสงัดถูกแทนที่ด้วยเสียงโครมสนั่น...เป็นผลให้รถสปร์อตพุ่งลงข้างทาง...ส่วนรถบรรทุกแฉลบไปอีกทางแต่ยังทรงตัวอยู่บนถนนและเบรกยาวไปเกือบสามร้อยเมตร...

ร่างของไอรดาหลุดออกมาจากตัวรถด้วยแรงเหวี่ยงเพราะไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ก่อนรถจะพุ่งเข้าประสานงากับต้นไม้จนยุบไปทั้งคัน...จากแรงเหวี่ยงทำให้ศีรษะของหญิงสาวกระแทกเข้ากับกองดินนิ่มๆ ส่วนปืนในมือกระเด็นตกลงไปในหนองน้ำขนาดเล็กซึ่งมีหญ้าขึ้นหนาทึบ

เธอได้ยินเสียงรถเบรกสนั่นอีกสองสามคันและฝีเท้าหลายคู่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว...พร้อมกับเสียงโหวกเหวกอย่างตื่นตระหนกของคนที่กำลังใกล้เข้ามา...แวบหนึ่งเธอได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือผ่านวิทยุ...และมีชื่อๆ หนึ่งที่เธอได้ยินชัดจนฝังอยู่หัวในสมอง... ‘สารวัตรราช’ ก่อนจะหมดสติลง...

ร่างหมดสติของหญิงสาวถูกนำส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา...โดยอยู่ในความดูแลของสารวัตรหนุ่มหน้าเข้ม...

ช่วงดึกที่หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเล็กๆ ในชนบทอันเงียบสงัดพลันโกลาหลเมื่อคนเจ็บถูกอุ้มลงจากรถแล้วตรงดิ่งเข้าไปด้านในโดยไม่รอให้ใครออกมารับ

พันตำรวจตรีราชตะโกนบอกเจ้าหน้าที่ให้รีบไปตามหมอ...พยาบาลสองคนวิ่งนำเขาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน...เมื่อร่างของคนเจ็บถูกวางลงบนเตียงพยาบาลทั้งสองจึงดึงผ้าม่านปิดและเชิญผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกไปรอด้านนอก

“เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์...แล้วกระเด็นออกมาจากรถศีรษะอาจจะฟาดกับดิน...ส่วนร่างกายคงบอบช้ำน่าดู...แต่โชคดีที่ไม่มีกระดูกชิ้นไหนหักจนสาหัส”

นายตำรวจหน้าเข้มบอกขณะเดินเคียงออกมากับนางพยาบาล

“ค่ะ...เชิญสารวัตรรอด้านนอกสักครู่นะคะประเดี๋ยวคุณหมอคงมาถึง”

ไม่กี่อึดใจต่อมาร่างสูงโปร่งในชุดอยู่บ้านก็วิ่งลงมาจากห้องพักหลังเล็กซึ่งอยู่ถัดออกไปไม่ไกลมาก ทันทีที่วิ่งเข้าใกล้ห้องฉุกเฉินฝีเท้าเร่งรีบของคุณหมอคนเดียวของโรงพยาบาลก็ลดลง เมื่อเห็นคนที่ยืนหน้าเครียดอยู่ตรงหน้า
“อ้าวสารวัตรใครเป็นอะไรเหรอครับ”

หมอหนุ่มเอ่ยถามราวกับรู้ว่าสถานการณ์ที่กำลังรออยู่ด้านในคืออะไรเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่

“ไม่ใช่คนของผมหรอกหมอ...พอดีไปพบคนประสบอุบัติเหตุมารีบเข้าไปเถอะ”

“อ้าว!...งั้นเหรอครับเดี๋ยวผมรีบเข้าไปดูคนไข้ก่อนแล้วค่อยคุยกัน”

หมอหนุ่มบอกพร้อมกับผลักประตูเข้าไปทันที โดยมีสายตาคมเข้มมองตามไปจนบานประตูปิดงับลง

“สารวัตรเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ”

ธิติพลถามขึ้นเมื่อเดินถึงตัว

“เธอถึงมือหมอแล้วคิดว่าทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย”

“ดูเหมือนเธอจะปลอดภัย...แต่ผมว่าตอนนี้สารวัตรคงสาหัสเพราะตกรถแล้วล่ะครับ”

หมวดหนุ่มหน้าแฉล้มยิ้มกว้างออกมาเมื่อมองนาฬิกาบนข้อมือแล้วพบว่าเขาพาเจ้านายไปส่งไม่ทันรถเที่ยวสุดท้าย

“เห็นทีคงต้องขับรถไปเองอีกแล้วสิ...เป็นเพราะหมวดคนเดียวเลยที่มาช้า”

สารวัตรหน้าเข้มโยนความผิดให้กับสารถีหน้าตาเฉย

“โธ่...สารวัตรเล่นบอกผมกะทันหันนี่ครับ...กว่าจะหาน้ำมันได้ผมแทบเอาปืนไปปล้นเจ้าของปั้มเพราะมันท่ามากเหลือเกิน”

“ขนาดนั้นเชียว...แล้วทางโน้นเป็นไงบ้าง...เอาร่างคนตายออกมาได้หรือยัง”

ราชเลิกคิ้วพร้อมกับถามถึงคนที่ติดอยู่ในซากรถ

“เมื่อครู่ผมโทรไปเจ้าดุลย์บอกว่าหน่วยกู้ภัยกำลังพยายามนำร่างคนตายออกมาแต่สภาพรถที่ยุบจนบู้บี้คงต้องใช้เครื่องตัดเหล็ก...คงอีกพักใหญ่กว่าจะเอาตัวออกมาได้...พูดก็พูดเถอะสารวัตรเห็นรถแล้วผมเสียดายชะมัดราคาคงแพงลิบเลยนะนั่น...”

“ห่วงแต่รถว่างั้น...ไร้มนุษยธรรมเสียจริง”

“ไม่ใช่อย่างนั้น...ว่าแต่เธอเป็นยังไงบ้างครับ...”

“จากแรงกระแทกคงบอบช้ำภายในเอาการ...เผลอๆ ศีรษะอาจกระแทกพื้นจนทำให้มีเลือดคลั่งในสมอง...จะว่าไปเธอก็ดวงแข็งไม่น้อย...เพราะถ้าไม่กระเด็นออกมาก่อนสภาพคงไม่ต่างกับคนขับสักเท่าไร...แล้วเรื่องเอกสารส่วนตัวของเธอล่ะมีใครเจอหรือยังอย่างน้อยจะได้แจ้งญาติให้ทราบ”

“เอกสารคงต้องรออีกสักพักครับ...”

“งั้นคืนนี้ผมจะอยู่ดูอาการและรอเอกสารของเธอไปก่อนก็แล้วกัน”

ราชตอบแบบไม่ต้องคิดอะไรให้ยุ่งยาก แม้จะแปลกใจตัวเองที่ห่วงใยเธอจนดูผิดปกติ และไม่ได้มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่รับรู้ถึงความผิดปกตินี้

“สารวัตรจะอยู่เฝ้าไข้เธอเหรอครับ”

ธิติพลเลิกคิ้วถามผู้เป็นนายประกายตาสงสัยเหลือกำลัง...เพราะรู้ดีว่าเจ้านายที่เขาขอติดสอยห้อยตามมานับสองปีหันหลังให้อิสตรีมานาน...นานจนเขาคิดว่าอาการอกหักสองนัดซ้อนเมื่อครั้งเกี่ยวดองกับผู้กองคนสวยแห่งกองทัพไทย คงจะทำให้อดีตผู้กองหน้าเข้มเลิกให้ความสนใจกับความรัก

“ทำไมมองหน้าผมแบบนั้นล่ะหมวด”

“ผมแค่แปลกใจเพราะไม่เคยเห็นสารวัตรสนใจผู้หญิงคนไหน”

“เธอไม่มีใคร...ผมทำไปเพราะมนุษยธรรม”

ราชยกมนุษยธรรมขึ้นมาอ้างไปอย่างนั้น แต่ความจริงสิ่งที่ทำให้เขาอยากอยู่และดูแลเธอเป็นเพราะดวงหน้าซีดขาวที่หลับพริ้มอยู่ในอกมานับสี่สิบนาทีนั่นต่างหาก...

นับตั้งแต่อกหักและซดน้ำใบบัวบกมานับปีจนเริ่มยอมรับว่าฟ้ายังไม่ส่งคู่แท้มาให้ เขาจึงตั้งมั่นกับตัวเองว่าจะไม่หวั่นไหวกับใครอีก แต่น่าแปลกที่ผู้หญิงแปลกหน้ากลับทำเอาหัวใจที่กล้าแกร่งสั่นไหวได้อย่างประหลาด

ราชนึกภาพอันน่าสยดสยองหากเธอถูกอัดก๊อบปี้อยู่ในรถคันนั้น...แค่คิดหัวใจก็ปวดแปลบจนรู้สึกใจหวิวขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ...ยิ่งนึกถึงเนื้อตัวนุ่มละมุน...เมื่อแนบอยู่ในอก...ความรู้สึกห่วงใยและอยากปกป้องคุ้มภัยก็วิ่งกันให้พล่าน...

ร้อยตำรวจโทธิติพลเหลือบมองใบหน้าคมเข้มที่ยังหล่อเหลาไม่เปลี่ยนแววตาเป็นประกาย...ดูเหมือนเจ้านายของเขาจะตกหลุมรักหลุมใหญ่เสียแล้วกระมัง...นายตำรวจหน้าแฉล้มแย้มยิ้มออกมาเมื่อเห็นอาการเคลิ้มอย่างไม่ตั้งใจของผู้เป็นนาย...

‘ดูเหมือนเส้นทางที่เพิ่งผ่านมาจะมีกามเทพยิงศรปักอกคนแถวนี้เสียแล้วกระมัง’ นายตำรวจหนุ่มยิ้มกริ่มเมื่อเห็นเมล็ดพันธุ์ของความรักกำลังถูกหว่านลงบนหัวใจที่ตายด้านมานานนับสองปี

หวังว่าแม่สาวที่นอนไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ในนั้นจะยังไม่มีเจ้าของ และไม่ทำให้เจ้านายผู้อาภัพรักของเขาต้องช้ำจนเข็ดขยาดกับความรักอีกครั้ง...ธิติพลแอบภาวนาเพราะเป็นห่วงเจ้านาย...






Create Date : 19 สิงหาคม 2553
Last Update : 19 สิงหาคม 2553 13:44:12 น. 2 comments
Counter : 821 Pageviews.

 
ว๊าว ฟ้าส่งเนื้อคู่ผู้กองราชมาแล้วหรอ
แต่ชักสงสัย สาวมีพกปืนด้วย ทำงานผิดกฏหมายรึป่าว
รอตอนต่อไปนะจ๊ะ


โดย: sakeena IP: 124.120.77.176 วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:15:47:18 น.  

 
ต่อไปเป็นภาคของบุคคลในเครื่องแบบแล้วใช่ไหมคะ


โดย: ต่างแดน IP: 81.220.238.118 วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:21:46:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.