sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
8 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ ๑๑ ภารกิจ



พอลับร่างของสองสาวแปลกหน้าเสียงสูดลมหายใจเข้าปอดราวกับแต่ละคนเพิ่งเลิกกลั้นหายใจของหลายๆ คนก็ดังขึ้นพร้อมๆ กัน

เสียงที่เงียบกริบเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเสียงฮือฮาจนฟังไม่ได้ศัพท์ นายตำรวจหลายนายต่างวิ่งเข้าไปหาผู้กำคำตอบซึ่งยืนทำหน้างุนงงอยู่อีกด้านอย่างเร่งด่วน

“หมวดครับผู้หญิงคนเมื่อกี้เธอเป็นใครเหรอครับ?”

นายตำรวจคนที่วิ่งนำเข้าไปคนแรกละล่ำละลักถามขึ้น

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน...”

ร้อยเวรหนุ่มตอบไปตามความเป็นจริง

“อ้าว! ไม่รู้จักแน่เหรอ...แต่เมื่อกี้ผมเห็นนะว่าหมวดทักทายเธอยังกับเป็นคนรู้จักแน่ะ”

นายตำรวจอีกคนถามขึ้นบ้าง

“ไม่รู้จักจริงๆ ผมแค่เคยพบเธอก็เท่านั้นเอง”

“แน่เหรอหมวดไม่ใช่เห็นสาวๆ สวยๆ แล้วงุบงิบล่ะ”

นายตำรวจคนที่สามหรี่ตามองอย่างรู้ทัน

“ผมจะไปงุบงิบทำไมล่ะจ่า...”

ร้อยตำรวจตรีธิติพลขมวดคิ้วอย่างงุนงง

“จะอุบไว้รู้จักคนเดียวล่ะสิหมวด...เออแล้วเธอมาหาใครเหรอครับ”

จ่าคนเดิมเปรยพร้อมกับตั้งคำถามใหม่ที่กำลังอยู่ในความสนใจของทุกคน

“มาหาผู้กำกับสงสัยจะเป็นญาติล่ะมั้ง...”

“ว้า...เป็นญาติผู้กำกับหรอกเหรอ เฮ้อ! แบบนี้ก็แห้วกันล่ะซี...อย่าไปฝันเลยพวกเรา...ไกลเกินเอื้อม”

นายตำรวจที่วิ่งฉิวเป็นคนแรกยกธงขาวอย่างจำนน ขณะที่ทุกคนกำลังสัมภาษณ์สดร้อยเวรหนุ่มหน้าแฉล้มหัวใจของนายตำรวจอีกคนที่ยังยืนอยู่ที่เดิมกลับกระหน่ำเต้นไม่หยุด ร้อยตำรวจเอกราชเงี่ยหูฟังคำถามและคำตอบของนายตำรวจแต่ละคนด้วยใจจดจ่อเมื่อคำตอบไม่ได้ชัดเจนนายตำรวจหน้าเข้มจึงพยายามหักห้ามความตื่นเต้นและตื่นตะลึงแล้วพาตัวเองเดินไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกที่ยังไม่อาจละวางภาพสาวงามที่เพิ่งพบเจอ

ร่างสูงใหญ่เดินผ่านผู้ใต้บังคับบัญชาไปด้วยใบหน้าที่ภายนอกดูเรียบเฉยแต่ภายในกลับกระวนกระวายจนร้อนรุ่มไปทั้งใจ เพราะอยากรู้ว่าหญิงสาวที่ร่ายมนต์ให้เขาตกหลุมรักเป็นใครมาจากไหนและมาทำอะไร...เท่าที่มองจากบุคลิกหน้าตาเห็นชัดว่าเธอไม่น่าใช่คนในละแวกนี้ แม้อยากจะถามหมวดธิติพลใจแทบขาดแต่ด้วยสถานการณ์ยังไม่เอื้ออำนวยชายหนุ่มจึงจำใจปล่อยให้หัวใจเต้นระทึกไปก่อน


เกือบสามสิบนาทีที่ผู้กองราชนั่งวนเวียนอยู่กับความคิดของตัวเอง ใบหน้าคมเข้มเคร่งขรึมจนคิ้วขมวดมุ่นอย่างไร้ทางออกเมื่อหญิงสาวหน้าหวานที่เพิ่งพานพบกำลังเข้ามามีอิทธิพลกับความรู้สึก ชายหนุ่มนั่งจ้องปากกาที่กำลังหมุนไปมาอยู่ในมืออย่างเลื่อนลอย เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรดีเขาจึงพ่นลมหายใจอันอัดอั้นออกมา

พอจิตใจหมกมุ่นอยู่กับเรื่องไม่เป็นเรื่องรอยยิ้มบางๆ จึงผุดออกจากมุมปากสีเข้มเมื่อนึกขบขันตัวเองที่อยู่ๆ ก็เกิดบ้าไปสะดุดรักกับผู้หญิงที่เห็นเพียงแค่แวบเดียว ร้อยตำรวจหนุ่มหน้าเข้มหมุนปากกาในมือแล้วส่ายหน้าไปมา

“เธอเป็นใครนะ”

ราชพึมพำกับตัวเองขณะจ้องบานประตูเหมือนกำลังชั่งใจว่าจะฝ่าออกไปค้นหาคำตอบเพื่อให้คลายความคับข้องใจหรือจะปล่อยๆ ไปแล้วค่อยว่ากันอีกที
เสียงพ่นลมหายใจที่ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มหาทางออกให้กับตัวเองได้เลย

ราชที่เกิดอาการร้อนรุ่มราวถูกไฟสุมมาสักระยะไม่อาจปฏิเสธตัวเองได้ว่าหญิงสาวแปลกหน้าที่เพิ่งกระชากความรู้สึกของเขาไปมีความหมายต่อความรู้สึกมากเพียงใด หัวใจกล้าแกร่งที่แห้งแล้งจากความรักมานานนับสิบปีเริ่มชุ่มฉ่ำราวกับทะเลทรายได้สายฝน ดวงหน้าหวานละมุมของหญิงสาวคนนั้นช่างให้ความรู้สึกที่งดงามราวหยาดน้ำค้างจากสรวงสวรรค์

แม้ว่าเขาจะเคยเห็นผู้หญิงมามากแต่...ผู้หญิงที่เห็นเพียงชั่วแวบคนนั้นกลับให้ความรู้สึกอยากรู้จักและอยากใช้ความรักที่มีปกป้องคุ้มภัย แม้จะนึกแปลกใจว่าทั้งๆ ที่หัวใจเขายังกระหน่ำเต้นแต่ความรู้สึกกลับเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งจนเหมือนห้วงเวลาหยุดหมุนไปดื้อๆ

ขณะที่กำลังนั่งปล่อยใจให้ล่องลอยไปอยู่ในห้วงฝันพลันเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมๆ กับตำรวจนายหนึ่งก็โผล่เข้ามา

“ขออนุญาตครับผู้กอง...ท่านผู้กำกับเชิญที่ห้องประชุมครับผม”

นายตำรวจร่างโปร่งก้าวเข้ามาทำความเคารพพร้อมกับรายงาน

“คนของท่านมาถึงแล้วเหรอ...เดี๋ยวผมไป”

นายตำรวจหนุ่มพยักหน้ารับรู้ เมื่อรายงานเสร็จนายตำรวจร่างโปร่งจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องไป พอลับร่างผู้ใต้บังคับบัญชาชายหนุ่มค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมาแล้วปรับความรู้สึกให้จดจ่ออยู่กับภารกิจที่ผู้บังคับบัญชากำลังจะมอบหมายให้

ร่างสูงใหญ่ผุดลุกจากเก้าอี้แล้วสลัดความคิดที่กำลังวกวนให้หลุดออกไปจากสมองชั่วครู่เพื่อรับมือกับงานใหญ่ที่กำลังรออยู่เบื้องหน้า

ร้อยตำรวจเอกราชนึกแปลกใจไม่น้อยเมื่อผู้บังคับบัญชาสูงสุดสั่งให้เขาเตรียมเข้าร่วมภารกิจลับ ถึงจะมองไม่เห็นชัยชนะและไม่ทราบว่าแผนแหย่เสือดุจะออกมาในรูปแบบไหน เพราะการกระตุกหนวดเสือแก่อย่างพ่อเลี้ยงเดชฤทธิ์ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ แต่เขาก็เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาคิดการมันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง...

ไม่ถึงสิบนาทีร่างสูงใหญ่ก็เดินเข้าห้องประชุมไปด้วยท่าทีที่องอาจ นายตำรวจหน้าเข้มนึกแปลกใจเมื่อเห็นว่าเสียงจอแจภายในห้องประชุมไม่ได้ดังอื้ออึงเหมือนเช่นเคย พอเห็นบรรยากาศของห้องประชุมที่มีคนนั่งอยู่เกือบสิบคนดูเงียบเชียบจนผิดปกติร้อยตำรวจเอกราชจึงกวาดตามองหาที่นั่งและต้นตอของความผิดปกติ ใบหน้าคมเข้มชะงักงันเมื่อเห็นว่าเก้าอี้ด้านซ้ายมือของผู้เป็นนายมีใครนั่งอยู่

“มาแล้วเหรอผู้กอง...นั่งสิ”

พันตำรวจเอกกษินทักอย่างเป็นกันเอง

“คะ...ครับ...ท่าน”

เกิดมาเพิ่งรู้จักคำว่าประหม่าว่าเป็นยังไงก็วันนี้...ราชบอกตัวเองอย่างสมเพช เมื่อจู่ๆ ก็รู้สึกเก้ๆ กังๆ จนไม่รู้จะทำอะไรก่อน

“มาครบกันแล้วใช่ไหมหมวดธิต”

หัวหน้าทีมหันไปถามผู้หมวดหนุ่มหน้าแฉล้มที่เป็นเหมือนเลขาฯ ของภารกิจลับในครั้งนี้

“ครบแล้วครับท่าน”

“อืม...งั้นเราก็มาเริ่มกันเลย”

“เอ่อ...คนที่ท่านขอยืมตัวจากกรมทหารมาถึงแล้วเหรอครับ”

ร้อยตำรวจเอกราชถามขึ้นเมื่อกราดตามองไปรอบๆ แล้วไม่พบใครแปลกหน้านอกจากสาวสวยที่นั่งอยู่ข้างๆ ผู้บังคับบัญชาเท่านั้น และจากดวงหน้าของหญิงสาวนางหนึ่งที่มองยังไงก็ดูหวานละมุนจนน่าทะนุถนอมส่วนหญิงสาวอีกคนก็ดูเซ็กซี่เย้ายวนจนชวนให้หลงใหลจึงทำให้เขาไม่กล้าคาดเดาว่าผู้หญิงตรงหน้าจะเป็นคนที่ทางกรมทหารส่งมา

“มาถึงแล้ว...”

ผู้กำกับการที่เป็นหัวหน้าชุดบอกยิ้มๆ เมื่อเห็นสายตาของผู้ใต้บังคับบัญชาแต่ละคนกำลังงุนงงระคนสงสัย

“หลังจากผมอ่านประวัติของพ่อเลี้ยงเดชฤทธิ์ทำให้พบว่าขบวนการลักลอบตัดไม้เถื่อนเป็นขบวนการที่ใหญ่เอาการ หลังจากสืบหาข้อมูลพบว่าโรงเลื่อยที่ใหญ่ที่สุดไม่ได้เป็นของนายเดชฤทธิ์อย่างที่เราเข้าใจ เพราะหุ้นส่วนใหญ่คือนายกฤตยชญ์ พิจิตรกฤติกาญจน์ หลานชายซึ่งรับช่วงต่อจากบิดาที่เพิ่งถูกลอบฆ่าไปเมื่อปีที่แล้วนั่งแท่นบริหารอยู่”

พันตำรวจเอกกษินอ่านข้อมูลคร่าวๆ แล้วเงยหน้าขึ้นจ้องผู้กองหนุ่มก่อนจะเอ่ยถาม

“ผู้กองผมแปลกใจว่าทำไมคดีลอบฆ่าถึงไม่คืบหน้าเลยทั้งๆ ที่เป็นคดีอุกฉกรรจ์ขนาดนั้น”

“อิทธิพลครับท่าน...”

ผู้กองหนุ่มตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความ

“ผม...แปลกใจจริงๆ ว่าพวกคุณอยู่ในพื้นที่นี้กันยังไง...แต่เอาเถอะตอนนี้ผมอยู่ที่นี่อิทธิพลใครจะใหญ่ขนาดไหนผมไม่สนตอนนี้เท่าที่ดูจากรายงานพบว่านายกฤตยชญ์ค่อนข้างมีอิทธิพลต่อนายเดชฤทธิ์เพราะฐานอำนาจทางด้านการเงินและการบริหารขึ้นตรงอยู่กับนายกฤตยชญ์ทั้งหมดเพราะฉะนั้นการแทรกแซงเราจึงต้องเชื่อมผ่านทางนายกฤตยชญ์โดยตรง”

“ท่านครับเท่าที่ทราบถึงคุณกฤตยชญ์เป็นคนค่อนข้างเด็ดขาดและร้ายกาจแต่ก็ไม่เคยสร้างปัญหาให้กับเรา หลังจากคุณกฤตถูกลอบยิงตอนขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเมื่อครั้งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศบาลนครคุณกฤตยชญ์ก็ไม่ออกมามีบทบาทสักเท่าไหร่ผมคิดว่าบางทีเราอาจจะเดินหมากผิด”

ร้อยตำรวจเอกราชแย้งขึ้นเมื่อเห็นว่าบางทีผู้บังคับบัญชาอาจจะมองพลาดไป
“อย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสินงาน”

พันตำรวจเอกผู้มากประสบการณ์ปรายตามองลูกน้องที่ตงฉินและมีความเป็นตัวของตัวเองสูงคนหนึ่งอย่างพินิจ ใบหน้ากร้านแดดลมจ้องคนที่ค้านด้วยประกายตาที่บ่งบอกชัดว่าพอรู้อะไรมาบ้าง

“งานนี้ผมต้องการยิงปืนนัดเดียวแล้วได้นกให้มากที่สุด...จากรายงานผมเห็นบางอย่างมีพิรุธระหว่างอาหลานคู่นี้ นายกฤตยชญ์มีโรงเลื่อยที่ใหญ่และทันสมัยซึ่งปัจจุบันนับว่าเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่กระจายก็ไปตามห้างและร้านเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆ ทั่วประเทศและยังเป็นบริษัทรายใหญ่ที่ส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย...”

“แต่โรงเลื่อยและกิจการทุกอย่างของคุณกฤตยชญ์เราตรวจสอบได้นะครับท่านทุกอย่างไม่ได้มีการหมกเม็ดแต่อย่างใด”

ร้อยตำรวจเอกราชยังมิวายโต้แย้งไปตามฐานความเป็นจริง

“คุณอาจจะมองพลาดไปก็ได้ผู้กอง ตอนนี้นายกฤตยชญ์เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเอ็นเอฟเฟอร์นิเจอร์ซึ่งถือว่าเป็นโรงงานเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพม่า”

“ข้อมูลนี้ผมพอทราบมาเหมือนกันแต่ไม่ชัดเจนเท่าไหร่เพราะคุณกฤตยชญ์เพิ่งเข้าร่วมหุ้นกับนักธุรกิจชาวพม่าไปเมื่อไม่กี่เดือนนี่เอง”

“เพราะแบบนี้ไงผมถึงไม่วางใจผู้กองก็เห็นว่าการบุกทลายโรงเลื่อยไม้เถื่อนครั้งก่อนพวกนั้นกำลังส่งสินค้าไปที่ไหน สองคนนั่นเป็นอาหลานกันบางครั้งเลือดมันก็ข้นกว่าน้ำเสมอไม่ใช่เหรอ”

คำพูดของผู้บังคับบัญชาที่โพล่งออกมาทำให้ร้อยตำรวจเอกหน้าเข้มถึงกับหมดคำโต้แย้ง

“ผมรู้ว่าผู้กองกับคุณกฤตยชญ์มีความใกล้ชิดกันในฐานะไหน แต่ผู้กองต้องจำให้ขึ้นใจว่าถ้ามิตรทำผิดหน้าที่ต้องมาก่อนเสมอตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าสิ่งที่เราคาดการณ์มันจะเป็นไปตามนั้นไหม และเราก็ไม่มีเวลาถามใครด้วยคุณคงไม่อยากให้ป่าไม้หมดไปเพราะคนขายชาติใช่ไหม”

“ครับท่าน”

ร้อยตำรวจเอกราชพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“เข้าใจก็ดีแล้วตอนนี้หากเราอยากได้ความจริงมันก็มีแค่วิธีเดียวคือต้องสืบเสาะเอาเอง”

พันตำรวจเอกกษินพยักหน้าแล้วปรายตาไปทางหญิงสาวอีกสองคนที่นั่งอยู่เงียบๆ

“ผมทราบว่าพวกคุณอาจจะเกรงกลัวอิทธิพลของคนพวกนี้ แต่ลองคิดดูว่าหากเราทำภารกิจสำเร็จก็เท่ากับเราได้ช่วยป่าไม้และช่วยให้ลูกหลานที่ยังต้องพึ่งพาธรรมชาติมีทรัพยากรใช้ในวันหน้า”

“...ภารกิจนี้ถือว่าเป็นความลับสุดยอดเราจึงจำเป็นต้องใช้คนที่พวกนั้นไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จัก...และโชคดีที่ทางกระทรวงกลาโหมยินดีให้เรายืมตัวเจ้าหน้าที่มาช่วยงาน ผมขอแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่เลยก็แล้วกันนี่ร้อยเอกหญิงพริบพันดาวและร้อยเอกหญิงวิกานดาเธอจะมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของงานนี้”

พอสิ้นเสียงแนะนำบรรดาหนุ่มๆ ที่นั่งแอบมองสาวงามเป็นระยะๆ ถึงกับสะดุ้งไปตามๆ กันไม่เว้นแม้แต่ผู้หมวดหนุ่มหน้าแฉล้มและผู้กองหน้าเข้ม พริบพันดาวกับวิกานดาหันไปยิ้มพร้อมกับโค้งศีรษะน้อยๆ ให้กับผู้ร่วมงานใหม่ซึ่งต่างอยู่ในอาการตื่นตะลึงอย่างเป็นมิตร

“ภารกิจนี้ผมได้เตรียมการและแบ่งหน้าที่ของแต่ละคนไว้ในเอกสารตรงนั้นพวกคุณเอาไปศึกษาและทำความเข้าใจหน้าที่ของตัวเองแล้วเริ่มงานได้ทันทีหลังจากจบการประชุม”

ผู้กำกับการชี้มือไปยังซองสีน้ำตาลที่วางอยู่ตรงหน้าของแต่ละคนแล้วพูดต่อ

“ผมหวังว่าแผนการครั้งนี้จะไม่แพ่งพรายออกไปเพราะถ้าเป็นเช่นนั้นคนที่จะเดือดร้อนที่สุดคงไม่พ้นร้อยเอกหญิงพริบพันดาว...ที่ผมเลือกพวกคุณเข้าร่วมภารกิจนี้เพราะเห็นว่าพวกคุณเป็นคนที่วางใจได้ หากเราต้องการโค่นล้มผู้มีอิทธิพลเราต้องร่วมแรงร่วมใจกันแล้วทำให้สำเร็จ ผู้กองราชคุณเป็นคนที่เชี่ยวชาญด้านพื้นที่และสนิทสนมกับเป้าหมายผมจำเป็นต้องใช้ความคุ้นเคยของคุณช่วยเปิดเส้นทางเป็นอันดับแรก...ผมรู้ว่าคุณกับนายกฤตยชญ์เป็นเพื่อนรักกัน...ผมอยากให้คุณใช้ความสัมพันธ์อันนี้เข้าแทรกแซงเพื่องาน”
พอได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาร้อยตำรวจเอกราชถึงกับพูดไม่ออก ชายหนุ่มเหลือบตาจ้องดวงหน้าหวานละไมแล้วก้มอ่านข้อความของตนด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสับสน

เท่าที่อ่านภารกิจจากเอกสารเขาบอกตัวเองแทบจะทันทีว่าไม่เห็นด้วยในทุกกรณีที่จะใช้วิธีแบบนี้เข้าแทรกแซงเพื่อควานหาความจริงจากเป้าหมาย แม้จะรู้จักนิสัยใจคอของกฤตยชญ์ว่าเป็นคนแบบไหนแต่ด้วยความที่รู้จักกันมานานเขาจึงไม่คิดว่าเพื่อนจะมีเบื้องหลังเบื้องลึกที่แอบแฝงอยู่

แม้กฤตยชญ์จะมีชื่อเสียงในทางร้ายมากกว่าทางดีแต่เท่าที่คบหาเขาไม่เคยพบเห็นสิ่งผิดกฎหมายอยู่บนเส้นทางของความสำเร็จที่ชายหนุ่มยืนอยู่

กฤตยชญ์ พิจิตรกฤติกาญจน์ นักบริหารหนุ่มไฟแรงที่มีอิทธิพลอยู่ในระดับที่ไม่ธรรมดาจนคนให้ความเกรงใจและยกย่องในความสำเร็จที่กำลังพุ่งแรงจนคู่แข่งไม่คิดเทียบชั้น และเท่าที่เห็นข้อเสียของชายหนุ่มนอกจากจะอารมณ์ร้ายเด็ดขาดจนใครๆ ต่างเข็ดขยาดแล้วก็มีเพียงความเจ้าสำราญเพียงเท่านั้นที่เขามักจะเห็นจนชาชิน

“ผู้กำกับครับผมคิดว่าหากเราใช้วิธีนี้ร้อยเอกหญิงพริบพันดาวอาจจะไม่ปลอดภัย”

ร้อยตำรวจเอกหน้าเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับจ้องไปยังดวงหน้าสวยหวานที่จ้องมองเขาไม่วางตาอย่างห่วงใย

“ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นล่ะผู้กอง”

“คุณกฤตยชญ์เป็นคนค่อนข้างเจ้าสำราญหากเราให้ร้อยเอกหญิงพริบพันดาวอยู่ใกล้ผมเกรงว่ามันอาจจะทำให้เธอไม่ปลอดภัยเท่าที่ควร”

“ข้อนั้นผมรู้ดีแต่เราก็หาทางป้องกันและรับมือกับเรื่องนี้ไว้แล้วและผมเชื่อฝีมือของเธอ... “

พันตำรวจเอกกษินบอกอย่างมาดมั่น

“แต่...”

คนที่ไม่รู้จักฤทธิ์เดชของหญิงสาวหน้าหวานเกิดอาการเป็นห่วงเธอขึ้นมาทันใดจนไม่อยากปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ

“ร้อยเอกหญิงพริบพันดาวเป็นหลานสาวของผมเอง...ที่ผมกล้าขอตัวเธอมาเพราะเชื่อว่าความสามารถและทักษะของเธอจะทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี”
เมื่อเห็นท่าทางของผู้ใต้บังคับบัญชาดูเหมือนจะไม่ยอมรับผู้เป็นนายจึงใช้ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดขึ้นเปิดทาง

“ถ้าพลาดทุกอย่างเราจะแก้ไขไม่ได้เลยนะครับท่าน”

ร้อยตำรวจเอกราชที่ห่วงสวัสดิภาพของหญิงสาวอดขัดขึ้นไม่ได้ ใบหน้าคมเข้มเหลือบแลไปทางหญิงสาวร่างอรชรแล้วบอกตัวเองว่าต่อให้ต้องขัดแย้งยังไงเขาก็ไม่มีวันปล่อยให้เธอไปพบกับอันตรายที่กำลังรออยู่เบื้องหน้าอย่างแน่นอน

“ดิฉันยินดีทำภารกิจนี้ให้ลุล่วงขอบคุณผู้กองมากนะคะที่เป็นห่วง”

พริบพันดาวจ้องใบหน้าคมเข้มแล้วยิ้มหวานออกมา พอเห็นรอยยิ้มอันแจ่มใสผุดออกมาจากริมฝีปากเรียวกระชับร้อยตำรวจเอกราชก็แทบระทวย...เออหนอพิษร้ายของความรักมันมีอานุภาพเช่นนี้นี่เอง นายตำรวจผู้ไม่เคยพ่ายกับสตรีนางใดถึงกับแทบหยุดหายใจเมื่อเห็นความงดงามและมาดมั่นฉายชัดออกมาจากดวงตาคู่สวย

เมื่อหญิงสาวยืนกรานจะปฏิบัติตามแผนการและแสดงความมาดมั่นออกมา ร้อยตำรวจเอกหน้าเข้มจึงไม่อาจขัดขวาง แม้ในส่วนลึกของจิตใจจะบอกตัวเองให้กระโดดออกไปขวางเพื่อป้องกันภยันตรายให้กับเธอแต่เขาก็ทำได้เพียงยอมรับแล้วแอบห่วงอยู่ห่างๆ...





Create Date : 08 มิถุนายน 2553
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 13:52:28 น. 2 comments
Counter : 408 Pageviews.

 
มาต่ิเร็วๆนะคะ ชอบเรื่องนี้มากเลย สนุกดีค่ะ
ขอบคุณที่เขียนนิยายดีไมาให้อ่านค่ะ


โดย: ดา IP: 80.57.122.92 วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:14:40:48 น.  

 
สนุกดีค่ะ


โดย: tammy IP: 68.38.210.217 วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:12:27:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.