Group Blog |
วางใจเถอะ ข้าไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น บทที่ 1. ตื่น
บทที่ 1. ตื่น
ดวงตาที่ปิดสนิทลืมขึ้นทันทีคนผวาตื่นทำท่าเหมือนหายใจไม่ออก จ้องมองม่านมุ้งจนแน่ใจว่าตนเองนอนอยู่ที่ใดแล้วจึงระบายลมหายใจยาว เมื่อปรับลมหายใจของตนเองได้เป็นปกติแล้วร่างผอมบางก็ยันตัวเองลุกขึ้นจากที่นอน เพราะฝันซ้ำเรื่องเดิมทำให้ผวาตื่น เจ้าของร่างยกหลังมือปาดเหงื่อที่ชื้นเต็มใบหน้าก่อนผลักม่านมุ้งออก เสียงนกร้อง เสียงไก่ขันและท้องฟ้าที่เริ่มระเรื่อด้วยแสงแห่งรุ่งอรุณ หญิงสาวเริ่มชินกับสถานที่แห่งใหม่นี่แล้ว ครบเดือนพอดีที่ พันดาว ตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในร่างของหญิงสาวผอมบางวัยสิบหกปีนามเหมยซิง หญิงสาวยังจำได้ดีว่าตอนที่ได้สตินั้น ยังคิดไปว่าเป็นการหยอกเล่นกันสนุกๆของทีมงานในกองถ่ายภาพยนตร์ แต่เมื่อกวาดตามองไปรอบๆหากล้องที่อาจหลบซ่อนอยู่แล้วพบเพียงความว่างเปล่า อาการมึนงงเหมือนศีรษะถูกกระทบกระเทือนเป็นเรื่องจริง และยังมีรอยช้ำตามเนื้อตัวเอีกนางก้มมองสภาพตัวเอง จัดฉากหรือสถานที่ได้ เสื้อผ้าย่อมเปลี่ยนได้ แต่รูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไม่ได้ นางก้มมองสภาพตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อถามหากระจกเหมือนคนโง่ แต่ใครจะรู้ว่าบ้านนี้ยากจนกระทั้งกระจกยังไม่มี ฉับพลันนึกถึงน้ำจึงวิ่งไปส่องเงาตัวเองในอ่างน้ำลูบคลำใบหน้าตนเองอย่างแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรแปะทับใบหน้าตนเอง ใบหน้านี้ละม้ายคล้ายกับใบหน้าของ พันดาวในวัยสิบหกปีจริงๆ เพียงแต่เมื่อครั้งที่นางอายุสิบหกนั้นเป็นนักเรียนมัธยมไว้ผมยาวประบ่า แต่เจ้าของร่างนี้ผมยาวถึงกลางหลังซ้ำยังผอมแห้งจนแทบจะปลิวลมอีกต่างหาก เหมยซิง พันดาวได้ยินเสียงชายวัยสี่สิบเรียกอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นใบหน้าคนเรียกที่ท่าทางเหมือนคนป่วยและยังเดินลากขาซ้ายอีกหัวใจที่ตื่นตระหนกก็ยิ่งหดเกร็ง นี่มันอะไรกัน! กว่าจะตั้งสติยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้นั้นก็ข้ามไปอีกวัน ความฝันที่ฝันซ้ำๆตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาคือเรื่องจริงในอีกภพหนึ่งของพันดาว ความทรงจำสุดท้ายที่ก่อนจะลืมตามาที่โลกที่ไม่รู้จักแห่งนี้ หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงนอนพับที่นอนเรียบร้อยแล้วก็ใช้มือสางผมยาวยุ่งของตัวเองก่อนขมวดเป็นมวยง่ายๆเสียบด้วยปิ่นไม้ที่เหลาเอง ในกระท่อมหลังน้อยแบ่งห้องนอนได้สองห้อง ห้องใหญ่เป็นของ ติงเชา ที่นางและเด็กอีกสี่คนเรียก พ่อบุญธรรม เด็กๆในบ้านเป็นผู้ชายสามคนอายุไล่เลี่ยกันประมาณแปดขวบ คือ ติงหยี่ ติงเกา ติงปิง ส่วนเด็กหญิงตัวน้อยวัยหกขวบเหมยลี่ แท้จริงแล้ว พันดาว ไม่มีความทรงจำของเหมยซิง อยู่เลย อาศัยว่าตัวเองหมดสติไปสามวันสามคืนจำอะไรไม่ได้ทำให้ทุกคนค่อยๆ เล่าที่มาที่ไปของ ตัวเองและตัวนางด้วย ติงเชาเป็นชายพิการอายุสี่สิบแล้ว แม้ตัวเองจะพิการแต่จิตใจดีมีเมตตา หลายปีก่อนที่หมู่บ้านแห่งนี้ประสบภัยสงครามหลายครอบครัวพลัดพราก เด็กเป็นกำพร้า บางคนที่พอจะมีเงินมีฐานะก็อพยพย้ายถิ่นฐานหนีภัยสงคราม แต่ติงเชาผู้ไร้ญาติขาดมิตรไม่ใส่ใจความเป็นความตายของตนเอง เก็บเด็กๆ ที่ถูกทอดทิ้งเหล่านี้มา เด็กๆ เหล่านี้ยังเด็กเล็กมาก จำชื่อตัวเองไม่ได้ ติงเชาจึงตั้งชื่อให้ใหม่ รวมทั้งนางด้วยตอนนั้นนางอายุเพียงสิบขวบ เหมยลี่ยังเป็นเด็กน้อยที่ร้องไห้จ้าในอ้อมอกมารดาที่สิ้นใจไปแล้ว ติงเชาช่วยเด็กๆ เท่าที่พอทำได้ ทำให้ทั้งหมดรอดพ้นความตายในภัยสงครามเมื่อหกปีก่อนได้แม้จะรูปร่างผ่ายผอมเนื่องจากกินไม่อิ่ม แต่กระนั้นทุกคนก็รักใคร่กลมเกลียว ผ่านภัยสงครามมาหลายปีทุกอย่างเริ่มดีขึ้นติงเชาแม้เป็นชายพิการ ขาซ้ายมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่น่ากลัวเวลาเดินจะต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัวเองแต่เมื่อต้องขึ้นเขาหาของป่ามาค้าขายหรือป้อนใส่ปากเด็กๆก็ยังคล่องแคล่ว เหมยซิงซึ่งนับได้ว่าเป็นพี่ใหญ่พอจะทำงานได้แล้ว นางรับจ้างในโรงเตี้ยมไม่ไกลบ้าน หรือคือกระท่อมผุพังนี้ ใครใช้อะไรนางก็ทำทุกอย่างขอเพียงได้เงินมาจุนเจือครอบครัว จนกระทั้งเมื่อครึ่งปีก่อนนางไปสมัครเป็นสาวใช้บ้านตระกูลหวัง แรกๆเหมือนจะเป็นไปด้วยดี น้องๆของนางยังคิดว่าถ้าพวกเขาเติบโตอีกหน่อยจะไปทำงานที่เดียวกับเหมยซิง แต่ติงเชาคัดค้านแม้พ่อบุญธรรมไม่เห็นด้วยแต่เหมยซิงก็แอบไปเพราะต้องการเงินมาจุนเจือครอบครัว ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นความจริงเป็นเช่นไรไม่อาจรู้ได้ แต่คนในบ้านตระกูลหวังประกาศเพียงแค่ว่าเหมยซิงขโมยของสำคัญในจวน เมื่อถูกจับได้ก็ถูกพ่อบ้านลงโทษ โบยนางจนตาย นางกลายเป็นเพียงศพไร้ญาติ บ่าวรับใช้เอาร่างของนางมาทิ้งที่ป่าช้า ติงเชาได้ยินข่าวจึงรีบไปที่ป่าช้าร้องไห้ราวคนเสียสติ พบร่างที่ถูกโบยตีบอบช้ำเดิมทีคิดว่าถ้านางตายก็จะไม่ให้นางตายเช่นศพไร้ญาติเช่นนี้ แต่ร่างนางกลับกระตุกลืมตาขึ้นมา ติงเชาแบกลูกสาวบุญธรรมออกจากป่าช้า แม้ไม่มีเงินจะเชิญหมอมาดูอาการแต่ก็พยายามป้อนน้ำให้เหมยลี่ที่เป็นเด็กหญิงตัวน้อยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้พี่สาว เด็กชายทั้งสามแม้รู้ว่าเหมยซิงถูกพามาจากป่าช้าแต่ก็ไม่กลัวเขาช่วยดูแลอย่างดียิ่งจนนางลืมตาฟื้นจริงๆ พี่สาว พี่สาวจำพวกเราไม่ได้เหรอ เสียงเด็กทั้งสามถามพลางกลั้นน้ำตา พันดาวที่คราวแรกยืนยันว่าตัวเองไม่ใช่เหมยซิงจึงได้แต่ลอบถอนหายใจสงสารเด็กน้อยใจแทบขาด นางจึงยอมรับสภาพว่าตัวเองคือ เหมยซิง เพราะคลุกคลีอยู่ในแวดวงบันเทิงพล็อตละครแนวย้อนยุคทะลุมิติไม่มีอะไรแปลกใหม่ ใครจะคาดคิดว่าวันหนึ่งนางโชคดีกระโดดลงมาเล่นเป็นนางเอกเต็มตัว แต่ชีวิตในโลกนี้ก็คล้ายคลึงกับชีวิตของพันดาวไม่น้อย อายุสิบขวบมารดาก็หอบหิ้วมาให้ ลุงทองดี ช่วยเลี้ยง ครานั้นให้เหตุผลว่าบิดาของนางทอดทิ้ง มารดาต้องทำงานไม่สะดวกที่จะเลี้ยงลูกไปด้วยทำงานไปด้วยได้ ลุงทองดีเป็นพี่ชายแท้ๆของมารดา ภรรยาตายด้วยโรคมะเร็งไปเมื่อห้าปีก่อนและไม่มีลูกด้วยกัน เพราะเห็นเป็นหลานจึงรับฝากเลี้ยงครึ่งปีแรกมารดาส่งเงินมาให้สม่ำเสมอเดือนละสามถึงสี่พันบาทแต่พอเริ่มเข้าเดือนที่เจ็ดก็เงียบหาย ร่างกายลุงทองดีก็ไม่ค่อยแข็งแรงนัก อดีตเคยเป็นทหารเก่า อาศัยเอาดีด้านต่อยมวยเป็นตัวแทนของสมาคมอยู่หลายปีแต่เพราะสมัยก่อนการต่อยมวยไม่ได้รัดกุมเช่นทุกวันนี้ สมองได้รับการกระทบกระเทือนส่งผลให้ร่างกายเดินเหินไม่ปกติ สุดท้ายก็ลาออกจากทหาร ประจวบกับมีคนรู้จักมาเชิญลุงทองดีเป็นครูฝึกสอนการต่อสู้ที่โรงเรียนฝึกสอนสตั๊นท์.
**************************************** ผลงานเล่มใหม่ของ "เพลงมีนา" ออกแล้ว เช่นเดิมเป็น "นิยายจีนย้อนยุค" เล่มนี้ไม่ยาวและไม่สั้นมากนักกับเรื่อง "วางใจเถอะ ข้าไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น" สนใจอ่านคลิ๊กได้เลยครับ "ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์" นิยายจีนย้อนยุคผลงานเล่มล่าสุดที่ติดอันดับหนังสือขายดีอย่างรวดเร็วของ เพลงมีนา งานเขียนชุดนี้เป็นงานเบาๆ สบายๆ ให้อ่านกันเพลินๆ รับอากาศร้อนของบ้านเรา ในราคาพิเศษเพียง 89 บาทเท่านั้น สนใจอ่านคลิ๊กได้เลยครับ อีกหนึ่งนิยายแนวจีนย้อนยุคของ "เพลงมีนา" ที่อยากจะแนะนำคือเรื่อง "ท่อนแขนมังกร" ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ติดอันดับหนังสือขายดีอย่างรวดเร็วจนมีเสียงเรียกร้องให้ทำเป็นหนังสือเล่ม วันนี้เราลดราคาให้โหลดอ่านในราคา 199 บาท (มีจำนวน 699 หน้า) สนใจอ่านคลิ๊กได้เลยครับ อีกหนึ่งผลงานที่อยากแนะนำของ "เพลงมีนา" คือ "บุปผาต้องมนตร์" เป็นนิยายภาคต่อของ "บุปผาร่ายรัก" ซึ่งเรื่องนี้ได้การันตีความแรง 5 วันกับยอด 110 โหลด จนติดอันดับหนังสือขายดีอีกหนึ่งเล่ม หากต้องการอ่านเล่มนี้ควรที่จะอ่านภาค 1 ก่อน (บุปผาร่ายรัก) ถึงจะรู้เนื้อเรื่องที่ผ่านมา สนใจอ่านคลิ๊กได้เลยครับ เชิญพบกับนิยายจีนย้อนยุค "บุปผาร่ายรัก" ภาคแรกของเรื่อง "บุปผาต้องมนต์" ซึ่งเล่มแรกนี้ก็การันตีความแรงติดอันดับหนังสือขายดีเพียงลงขายไม่กี่สัปดาห์ สนใจอ่านคลิ๊กได้เลยครับ เชิญติดตามนิยายของ "เพลงมีนา" และของ "ผิงดาวสำนักพิมพ์" ในรูปแบบ E-Books ได้ตามรายชื่อด้านล่างนี้ ประเภทนิยายจีนย้อนยุค วางใจเถอะ ข้าไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น บุปผาร่ายรัก (นิยายจีนย้อนยุค) 18+ บุปผาต้องมนตร์ (ภาคต่อบุปผาร่ายรัก) ท่อนแขนมังกร ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์ ประเภทนิยายซีรีย์ บ่วงรักเทพบุตรมาเฟีย (ชุดดวงใจมาเฟีย 18+) เล่ห์วิวาห์เจ้าชายมาเฟีย (ชุดดวงใจมาเฟีย18+) กับดักรักสุภาพบุรุษมาเฟีย (ชุดดวงใจมาเฟีย18+) ปรารถนาแห่งฟาโรห์ (ชุดบัลลังก์ไอยคุปต์18+) ไฟรักบัลลังก์ฟาโรห์ (ชุดบัลลังก์ไอยคุปต์18+) ทาสรักลำน้ำไนล์ (ชุดบัลลังก์ไอยคุปต์18+) ลิขิตรักในเพลิงทราย (ชุดเล่ห์รักในรอยทราย18+) เล่ห์รักจรัสทราย (ชุดเล่ห์รักในรอยทราย18+) เม็ดทรายใต้เรียวรุ้ง (ชุดเล่ห์รักในรอยทราย18+) มนต์ทรายเสน่หา (ชุดเล่ห์รักในรอยทราย18+) ประเภทนิยายทั่วไป 18+ เล่าเรื่องลับฉบับรักร้อน 18+ แผนลวงบ่วงเสน่หา 18+ ทรายพราวแสง 18+ หนี้รัก จอมพยศ 18+ เรือนกระดังงา 20+ สาปรักรัตติกาล 18+ กลลวงรักเจ้าชายเถื่อน 18+ ร้ายรักกลซาตาน 18+ ให้กำลังใจนักเขียนโปรดโหลดอ่านผลงานเล่มอื่นๆ ในรูปแบบ E-Books ได้นะครับ และขอเชิญติดตามผลงานของ เราได้ที่แฟนเพจสำนักพิมพ์ "ธารจันทร์สำนักพิมพ์" หรือ "ผิงดาวสำนักพิมพ์" หรือแฟนเพจของ "เพลงมีนา" ขอบคุณครับ. อย่าลืมให้กำลังใจเจ้าของบล๊อคด้วยการให้ "ทิป" ด้วยนะครับ เพื่อให้กำลังใจนักเขียนและเจ้าของบล๊อค
|
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] งานเขียนทุกชิ้นที่ปรากฏในเวบไซด์แห่งนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบทประพันธ์นั้นๆ (พรายมงคล,เพลงมีนา,แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า) แต่เพียงผู้เดียว ห้ามกระทำการดัดแปลง แก้ไขหรือแอบอ้างไปเป็นผลงานของตน โดยไม่มีการอ้างถึงเจ้าของลิขสิทธิ์ หากผู้ใดมีความประสงค์จะนำข้อมูลดังกล่าว ออกเผยแพร่ ตีพิมพ์ หรือ นำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด โปรดติดต่อเจ้าของบทประพันธ์โดยตรง noparut_h@hotmail.com โทร.088-313-4475 / 086-228-4421 |