Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
โหรสว.ชี้ เรียน "หมอดู" อนาคตรุ่งได้


*“ความอยากรู้เรื่องอนาคตเป็นสิ่งไม่ผิด แต่ต้องอยากรู้โดยไม่ขาดปัญญา ชะตาที่รู้ล่วงหน้าไม่สามารถแก้ไขได้เพราะเราหนีกรรมไม่พ้น แต่สามารถทำกรรมดีให้กรรมเก่าเจือจางได้”

ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.ฉะเชิงเทรา เป็นอีกหนึ่งผู้รู้ที่ศึกษาและสนใจด้านโหราศาสตร์มานานกว่า 20 ปี จนได้ฉายาจากกลุ่มการเมืองว่า “โหร สว.”

“พ่อผมเคยเป็นเด็กวัดที่พระตะบองจึงเชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์และไสยศาสตร์ ผมจึงคุ้นเคยกับศาสตร์เหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนผมไม่ค่อยเชื่อพ่อสักเท่าไหร่ เพราะผมจากบ้านมาเรียนหนังสือตั้งแต่อายุยังน้อย เราจึงห่างกันมาก แต่ประเด็นที่ทำให้กลับไปสนใจในเรื่องนี้อีกครั้ง คือ ตอนอายุประมาณ 38 เคยให้หมอดูทายว่าในอนาคตจะได้ตำแหน่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงาน คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.)หรือไม่ กี่คนๆ ก็ทายว่าได้ แต่เรารู้ดีว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะได้ตำแหน่งนี้ ผมจึงไปซื้อตำราหมอดูของอาจารย์เชย บัวก้านทอง มาศึกษาถึง 10 เล่ม อ่านตั้งแต่ 3 ทุ่ม ถึง ตี 4 จึงได้เข้าใจว่าเพราะอะไรหมอดูถึงทายว่าเราจะได้ตำแหน่ง และสุดท้ายก็ได้จริงๆ มาตอนนี้ผมรู้สึกเสียดายตำราเก่าๆของคุณพ่อมาก เพราะนอกจากผมแล้ว พี่น้องคนอื่นๆไม่มีใครสืบทอดความรู้เหล่านี้ไว้เลย”

“ตอนไปเรียนที่อเมริกา ผมเข้าห้องสมุด ถ่ายเอกสาร หนังสือเกี่ยวกับโหราศาสตร์ จน ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ แซวว่า... ผมว่าพี่บุญเลิศไม่ได้ดูตำราเรียนเลยนะเนี๊ย อ่านแต่ตำราหมอดู ผมมีตำราโหราศาสตร์ภาษาอังกฤษมากว่าภาษาไทย เพราะกวาดซื้อจากทุกๆ ประเทศที่เดินทางไปเยือน ผมยังรวบรวมและแปลคำทำนายของนอสตราดามุสจากภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อศึกษาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

ปัจจุบันผมกำลังมีงานเขียนชิ้นใหม่ คือ หนังสือรู้เท่าทันหมอดู ซึ่งแบ่งประเภทของการพยากรณ์ทั้งหลาย เป็น 6 กลุ่มใหญ่ๆ คือ

กลุ่มที่ 1 การพยากรณ์โดยอาศัยอิทธิพลทางอ้อมของพลังงานผ่านสื่อต่างๆ เช่น การทำนายโดย ไพ่ เซียมซี ปั่นติ้ว การเรียงตัวของหยดเทียนในน้ำมนต์ ฯลฯ คือ กลุ่มที่มีความเชื่อว่า คนที่จับจะมีพลังงานสอดคล้องหรือเป็นมิตรกับพลังงานในวัตถุที่ใช้ทำนาย ผมก็วิจารณ์ไว้ว่าถ้ามันแม่นจริงจับทุกครั้งต้องได้เหมือนเดิมทุกครั้ง มันถึงจะน่าเชื่อถือ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มพยากรณ์ที่แม่นยำน้อยที่สุด มันเป็นไปตามความน่าจะเป็นของหลังสถิติ เพราะฉะนั้นจงอย่าหลงงมงายกับมันมาก”

กลุ่มที่ 2 การพยากรณ์จากอิทธิพลของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผ่านร่างทรง อาจเป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่ หรือ ภูตผี ต่างๆ โดย ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า พวกร่างทรงไม่ค่อยน่าเชื่อถือ เพราะไม่รู้ว่าผีจริงหรือผีปลอม และผีในที่นี่มีความฉลาดพอที่จะหยั่งรู้เรื่องของใครต่อใครได้หรือไม่ ถ้าเราไม่มั่นใจว่าทรงจริง หรือ ทรงหลอกก็อย่าไปใช้บริการ จงอย่างมงายโดยไม่พิสูจน์ด้วยตนเองตามหลักกาลามสูตร 10 ประการของพระพุทธศาสนา มิฉะนั้นเราจะตกเป็นเหยื่อของหมอดู

กลุ่มที่ 3 การพยากรณ์จากอิทธิพลของอำนาจจิตในรูปแบบต่างๆ เช่น ตาทิพย์ หูทิพย์ ระลึกชาติ ทายใจคน หรือที่หมอบางคนใช้คำว่าเอ็กซเรย์ แม้ พระพุทธศาสนาจะบอกไว้ว่าอำนาจจิตอาจได้มาด้วยการทำทาน ถือศีล สวดมนต์ ทำสมาธิภาวนาจนได้ฌานสูงถึงขั้นปัญญาญาณ แต่เราก็เป็นปุถุชนธรรมดาที่สามารถถูกต้มตุ๋นได้ เพราะเราพิสูจน์ได้ไม่ว่าหมอดูในกลุ่มนี้มีอำนาจจิตจริงหรือไม่ เราต้องอาศัยคนที่มีปัญญาญาณมาพิสูจน์ ซึ่งก็เป็นเรื่องยากมาก

กลุ่มที่ 4 การพยากรณ์โดยการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของเจ้าชะตา เช่น พยากรณ์จากตัวอักษร ลายเซ็น การเปลี่ยนชื่อ สกุล การดูฮวงจุ้ย เลือกทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวยให้เกิดโชคลาภ จัดสถานที่ให้สอดคล้องกับการเคลื่อนตัวของพลังงานที่ให้คุณ กลุ่มนี้ไม่มีหลักประกันว่ามนุษย์ที่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์แล้วจะโชคดีเสมอไป เพราะเรายังมีวิบากกรรมที่เคยสร้างไว้ในอดีตชาติตามมาเล่นงาน เว้นแต่เราจะทำความดี ถือศีล ทำทานเพื่ออโหสิกรรมให้กัน

กลุ่มที่ 5 การพยากรณ์จากร่องรอยอิทธิพลของพลังงานจากดวงดาวที่มาประทับบนร่างกาย ใบหน้า และปรากฏในลำตัว อวัยวะบางส่วนของมนุษย์ เช่น ลายมือ ลายเท้า โหงวเฮ้งบนใบหน้า ฯลฯ กลุ่มนี้เป็นการพยากรณ์ที่เริ่มมีความเม่นยำขึ้น เพราะมีร่องรอยปรากฏอยู่ให้เห็น แต่การทำนายในลักษณะนี้จะมองอนาคตได้ไม่ไกลมากนักเพราะต้องรอดวงดาวมาประทับ เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างอวัยวะ

กลุ่มที่ 6 การพยากรณ์โดยใช้วิชาโหราศาสตร์ เป็นการพยากรณ์ที่สามารถทำนายการเปลี่ยนแปลงได้ทุกๆ วันตามดวงดาวที่เคลื่อนตัว ทุกองศา ทุกลิปดา ของดวงดาวจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบนโลก การผูกดวงจึงต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจทางดาราศาสตร์ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์ บริสุทธิ์ที่สามารถตอบคำถามหรือให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับดวงดาวและเทหวัตถุบน ท้องฟ้าได้อย่างเป็นรูปธรรม การพยากรณ์กลุ่มนี้จึงละเอียดที่สุด

“ทุกคนเรียนโหราศาสตร์ได้หมด แต่ควรมีอิทธิบาท 4 เป็นคุณสมบัติติดตัว คือ 1.ฉันทะ ต้องรักที่อยากจะรู้ อยากจะศึกษา 2. วิริยะ คือ ต้องมีความเพียรพยายามที่จะใช้เวลาศึกษาตำราอย่างจริงจัง 3.จิต ตะ ต้องใช้เหตุใช้ผลตรวจตราสังเกตดาวดวงที่เคลื่อนตัวอยู่ในราศีต่างๆ เพื่อหาเหตุผลว่าดวงดาวเหล่านี้ทำให้เกิดอะไรกับบุคคลบนพื้นโลก 4.วิมังสา ต้องใช้ปัญญา และฉลาดพอที่จะทำนายท้องฟ้าว่างเปล่าได้ รวมถึงสามารถใช้ปัญญาในการคำนวณ จดจำข้อมูลดวงดาวได้”

“หากถามผมว่าคนที่สนใจเรียนโหราศาสตร์จำเป็นต้องมีสัมผัสที่หกหรือไม่ ผมว่าก็มีส่วนนะ เพราะผู้บังคับบัญชาของผมเคยหยิบยืมตำราอาจารย์เชยไปศึกษาถึง 3 เดือน สุดท้ายก็ต้องนำกลับมาคืนเพราะท่านบอกว่าอ่านแล้วไม่เข้าใจ แต่ผมว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของความรักและความสนใจมากกว่า เราต้องให้ความใส่ใจ เข้าใจมันอย่างจริงจัง ถ้าดวงชะตาของผู้ศึกษามีดาวพุธและดาวพฤหัสอยู่ในตำแหน่งที่ดีก็น่าจะเรียน รู้โหราศาสตร์ได้ดี เพราะดาวพุธเป็นดาวของนักปราชญ์ ส่วนดาวพฤหัสเป็นดาวเจ้าปัญญา ดาวคุณธรรม ซึ่งการทำนายแต่ละครั้งต้องใช้ปัญญาในการจดจำข้อมูล และใช้คุณธรรมในการทายทัก ผู้เรียนคนใดไม่มีคุณธรรมก็เป็นได้แค่ซาตาน ไม่ใช่หมอดู ”

“ในเมืองไทยคนที่สนใจโหราศาสตร์มักจะถูกดูถูกว่างมงาย เพราะคนพูดไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง หมอดูในเมืองไทยรายได้ดี เพราะมีคนอยากรู้อนาคตเยอะแยะ อย่างหมอฟันธง ทำนายครั้งละ 2,500 บาท หมอคอนเฟิร์ม พอเริ่มดังก็ขยับราคาจากหลักร้อย ไต่ระดับจนเท่าหมอฟันธง จากสถิติในสหรัฐอเมริกา คนอเมริกาใช้เงินไปกับการปรึกษาหมอดูมากกว่าเงินที่ใช้ในโรงพยาบาล ทุกรัฐของอเมริกาจะมีสมาคมโหราศาสตร์ตั้งอยู่ อเมริกามีการเปิดสอนโหราศาสตร์ในระดับมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 และปัจจุบันมีการเรียนการสอนถึงขั้นปริญญาโท ”

“ความอยากรู้เรื่องอนาคตเป็นสิ่งไม่ผิด แต่ต้องอยากรู้โดยไม่ขาดปัญญา ชะตาที่รู้ล่วงหน้าไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการสะเดาะเคราะห์ เพราะวิธีนี้เป็นเดรฉานวิชาที่ไม่นำไปสู่การหลุดพ้น เราหนีกรรมไม่ได้เพราะเราต้องใช้กรรมเก่าจากอดีตชาติ กรรมเปรียบเหมือนเกลือที่อยู่ในแก้ว ถ้าเติมน้ำน้อยมันก็เค็มมาก เติมน้ำมากความเค็มก็เค็มน้อย เกลือยังมีเท่าเดิมไม่หายไปไหน แต่ความเค็มจะเจือจางด้วยกรรมดีที่เติมลงไป”




ช่วงนี้รู้สึกว่าสังคมไทยจะฮิตเหลือเกินเรื่องดูดวง มีทั้งโหร ส.ส. ส.ว. คอนเฟิร์ม ฟันธง โหร ค.ม.ช. โหร ฯลฯ มากมาย หนังสือพิมพ์ไม่มีอะไรลงก็ไปเอาขี้ปากหมอดูมาพาดหัวหน้าหนึ่ง บ้างก็ถึงขั้นสแกนกรรม X-ray กรรม อีกสักหน่อยคงจะมี CTscan กรรม หรือ Cardiogram กรรม กันบ้างกระมัง

หมายเหตุ ต่อไปนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ในฐานะที่ผมเองก็ศึกษาทางโหราศาสตร์ พอมีความรู้เรื่องดูดวงอยู่บ้าง เท่าที่เห็นมา หมอดูแบ่งได้เป็น 5 พวกครับ

1. ผู้มีญาณพิเศษติดตัว - เหมือนในการ์ตูนหรือนิยายล่ะครับ หมอดูกลุ่มนี้มีสัมผัสพิเศษติดตัว ไม่ว่าจะเป็นตาทิพย์มองเห็นความเชื่อมโยงของเจ้ากรรมนายเวร หรือชีวิตความเป็นไปได้จริง พวกนี้มีน้อยถึงน้อยมาก และส่วนใหญ่ของจริงก็ไม่เปิดเผยตัวเองออกมาสู่สาธารณะด้วย เพราะคนเป็นแบบนี้เค้าทรมานครับ รู้ในเรื่องที่ไม่อยากรู้ เห็นในสิ่งที่ไม่อยากเห็น รู้ไปก็เท่านั้น แต่ถ้าคุณเจอแล้วเค้ายอมบอกอะไรๆคุณนับว่าเป็นวาสนาที่หาได้ยากยิ่ง...

2. ผู้สำเร็จอภิญญาญาณ - พระสงฆ์ หรือผู้ปฏิบัติกรรมฐาน หรือ ผู้ที่กำหนดจิตให้แน่วแน่ถึงขั้น อาจจะได้รับสัมผัสพิเศษมาครับ ในพระไตรปิฎกเองก็กล่าวถึงระดับอภิญญาไว้ว่าเป็น อิทธิฤทธิืแบบหนึ่ง คือ ทิพยเนตร ทิพยโสต ทิพยญาณ บางคนก็สำเร็จได้ถึงขึ้นบุพเพนิวาสานุสติญาณ คือรู้อดีตชาติของตนและคนอื่น ได้จุตูปปาตญาณ รู้กำเนิดแห่งกรรมเป็นมา ส่วนมากพระเกจิอาจารย์ดังๆที่ร่ำลือกันว่าดูหมอแม่นจะเป็นจำพวกนี้ครับ แต่ของจริงท่านมักจะไม่อวดอ้างฤทธิ์ของตนเอง และไม่เรียกร้องให้คนไปเป็นลูกศิษย์ลูกหาทำนายพร่ำเพรื่อ เพราะขั้นนี้ต้องรักษาศีลสัตย์ให้บริสุทธิ์ ไม่งั้นเสื่อมครับ

3. ร่างทรง - สำหรับร่างทรงแท้ที่จูนคลื่นวิญญาณเข้ากับโอปปาติกะระดับสูงได้ ก้จะพอล่วงรู้ความเป็นมาเป็นไปของดวงชะตาที่ผ่านมา และกำลังจะเกิดขึ้นได้ส่วนหนึ่ง ส่วนพวกร่างทรงที่ทรงผีมั่วๆ ก้อาจจะพอรู้เรื่องธรรมดาๆทั่วไปบ้าง แต่ร่างทรงแท้ๆก็มีน้อยอีกนั่นแหละ ที่เห็นๆกันอยู่ตามศาลเจ้าเป็นทริกปาหี่ซะหมดครับ

4. นักโหราศาสตร์ - พวกนี้ถือเป็นนักสถิติศาสตร์ผสมกับคณิตศาสตร์แบบหนึ่ง ทั้งฮวงจุ้ย โหงวเฮ้ง โหราศาสตร์ไทย จีน หรือยูเรเนียน ต้องการการคิดคำนวณละเอียดยิบๆ ตามหลักตำรา และแต่ละคนก็มีตำราปรับปรุงของตัวเองขึ้นมาอีก ส่วนพวกทำนายไพ่ป๊อกหรือไพ่ยิปซี หรือหมอดูลายมือ ก็เป็นการอ่านคำทำนายจากหลักสูตรวิชาของการตีความ หมอดูทั่วไปจะเป็นกลุ่มนี้มากที่สุด เพราะถ้าศึกษาและตั้งใจมากพอก็ทำได้ทุกคนครับ แต่จะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับนิสัยส่วนตัวมากกว่า

5. หมอดูจิตวิทยา - หมอดูกลุ่มนี้อาศัยการพูดคุยหลอกล่อให้คนที่มาดูดวงเล่าเรื่องของตัวเอง แล้วค่อยๆตะล่อมทำนายไปให้กำกวม ปลอบโยนและปลอบประโลมใจครับ ไม่ได้ใช้ศาสตร์แห่งการทำนายสักเท่าไร หมอดูพวกนี้ว่าไปแล้วก็คือจิตแพทย์ที่อ้างไสยศาสตร์แทนที่จะเป็นวิทยาศาสตร์ ดีๆนี่เองครับ

ซึ่งหมอดูทั้ง 5 แบบ มีทั้งแท้และเก๊ แต่เท่าที่เห็นอยู่ในสื่อทุกวันนี้ ถ้าพวกที่อ้างว่ามีญาณพิเศษนั้น ส่วนตัวผมคิดว่าเก๊ 100% ครับ อย่่างพวกสแกนกรรม หรือตาทิพย์คอนเฟิร์ม พวกเขาใช้จิตวิทยาร่วมกับการสมประโยชน์ของสื่อ หาเงินเข้ากระเป๋าอย่างน่ารังเกียจ ส่วนพวกหมอดูการเมืองก็เอาโหราศาสตร์มารับใช้จุดประสงค์ส่วนตัวทางการเมือง ไม่ทำนายตามจรรยาบรรณโหรของตัวเองเลย

ของจริงเค้าไม่แสดงตัวออกสื่อกันนักหรอกครับ...

เซ็งสื่อไทยที่ไม่มีอะไรก็พาดหัวเรื่องหมอดู คนธรรมดาเค้ายังห้ามไม่ให้ดูดวงบ่อยๆ นี่ดวงเมืองดูกันจนช้ำหมดแล้ว ภาษาหมอดูก็คงเรียกว่า ดูจนดวงแตกเลยทีเดียวเชียว เฮ้อ...ประเทศนี้ปกครองด้วยระบอบโหราธิปไตยรึไงกัน

ส่วนตัวผมเอง ดูดวงแต่ไม่เชื่อดวงครับ คือมีคติว่า ถ้าใครเชื่อดวงชะตา ดวงชะตาก็จะชักพาไป ส่วนคนไม่เชื่อดวงก็ทำอะไรไม่ได้ สบายใจดีครับ

ป.ล. แต่การดูดวงเป็นทำให้เนื้อหอมในหมู่สาวๆครับ ตั้งแต่เด็กสาวจนถึงวัยดึกแก่แม่ม่ายเลย การันตี!!!

Credit : พลังจิต.คอม

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E



Create Date : 26 มีนาคม 2553
Last Update : 26 มีนาคม 2553 1:56:06 น. 0 comments
Counter : 1267 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.