แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ เวชศาสตร์ป้องกัน ร.พ.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
25 พฤศจิกายน 2549
 
 
เราจะเอาจริงเรื่องวินัย และคุณธรรมของคนในชาติกันหรือยัง?

โดย สมชัย วุฑฒปรีชา อดีตปลัดกระทรวงและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
จาก คอลัมภ์ กระแสทรรศน์ น.ส.พ.มติชนรายวัน
วันเสาร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10486

ปัจจุบันมีปัญหาในเรื่องวินัย และคุณธรรมของคนในชาติค่อนข้างมาก ทั้งในระดับเยาวชน คนหนุ่มสาว และประชาชนโดยทั่วไป รวมทั้งปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักศึกษาอาชีวะ ซึ่งมีเรื่องรุนแรงค่อนข้างบ่อย

รัฐบาลชุดที่แล้วมีแนวความคิด ส่งเด็กบัญชีดำไปรับการอบรมจากทางกองทัพ ในรูปของโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองเพื่อที่จะแก้ไขและบรรเทาปัญหาเรื่องวินัย, ความประพฤติ, ความรุนแรง และการทะเลาะวิวาทซึ่งไม่ได้ผลมากนัก

รัฐบาลปัจจุบันได้เน้นนโยบายด้านคุณธรรมเป็นอย่างมาก ดังนั้นในโอกาสนี้ ขอเสนอแนวความคิดที่จะแก้ไขเรื่องวินัยและคุณธรรมของคนในชาติ



ดังต่อไปนี้

1.ใช้กิจกรรมลูกเสือเป็นเครื่องมือในการอบรมบ่มนิสัย ของนักเรียนในระดับประถมปีที่ 1 ถึงมัธยมปีที่ 3 เพราะนักเรียนทุกคนทั้งชายและหญิง ถูกบังคับให้เรียนวิชาลูกเสืออยู่แล้วตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.3 แต่เป็นการเรียนที่ไม่ได้เอาจริงเป็นส่วนใหญ่ ทั้งผู้เรียน ผู้สอน และผู้บริหาร ถ้าหาทางปรับปรุงการเรียนการสอนวิชาลูกเสือ โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนทุกคนเป็นลูกเสือทั้งกายและใจ โดยมีศีลของลูกเสือ (คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือ) เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ถ้าทำได้จะเป็นการสร้างคุณธรรม ระเบียบวินัยให้กับนักเรียนเป็นอย่างมาก

2.ในระดับมัธยมปลาย, อาชีวศึกษา (ปวช. และ ปวส.) ตลอดจนถึงระดับอุดมศึกษา ให้นักเรียนและนักศึกษาทุกคน (ทั้งชายและหญิง) ต้องเรียนวิชารักษาดินแดน โดยเปลี่ยนหลักการจากเรียนรักษาดินแดนเพื่อหนีทหาร เป็นเรียนรักษาดินแดนเพื่อเตรียมเป็นกำลังสำรองที่มีคุณภาพของชาติ

สำหรับนักศึกษาหญิงอาจปรับหลักสูตรให้ต่างจากเพศชายบ้าง ซึ่งถ้าคุณภาพถึงระดับที่ต้องการ ทางทหารควรลดกำลังทหารประจำการลงได้ส่วนหนึ่ง วินัยเหล็กของรักษาดินแดนจะช่วยสร้างวินัยให้กับคนหนุ่มสาวและการฝึกร่วมกันเป็นเวลานาน จะแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบันการศึกษา ส่วนปัญหาครูฝึกที่ไม่เพียงพอของกรมการรักษาดินแดนนั้นอาจเสริมกำลังฝึกโดยกองทัพภาคทั่วประเทศก็น่าจะทำได้

3.ในด้านคุณธรรมของเยาวชน และบุคคลทั่วไป ขอฝากข้อคิดไว้ 2 ประการ คือ

3.1 ใช้การศึกษาพื้นฐานในระดับการศึกษาภาคบังคับ (ป.1-ม.3) เป็นเบ้าหล่อหลอมคุณธรรมและวัฒนธรรมที่ต้องการให้กับเยาวชนในชาติ เพราะเด็กไทยทุกคนจะต้องเข้าสู่เบ้าหล่อหลอมนี้ ในฐานะที่เบ้าหล่อหลอมนี้เป็นการศึกษาภาคบังคับของเด็กไทยทุกคน ถ้าประเทศต้องการพลเมืองไทยในอนาคตให้มีคุณภาพ คุณธรรม วัฒนธรรมอย่างไร ก็จะต้องทำให้สำเร็จในระหว่างที่เด็กไทยเหล่านี้อยู่ในเบ้าหล่อหลอมของชาติ

3.2 สำหรับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่เป็นพุทธศาสนิกชน ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 95% จะต้องหาวิธีการให้พุทธศาสนิกชนเหล่านี้เป็น

พุทธในทางปฏิบัติมากกว่าเป็นพุทธตามสำมะโนครัว

ภารกิจนี้ถ้าได้ปรึกษากับมหาเถรสมาคม เพื่อให้มีการกำหนดนโยบายเรื่องนี้ให้เป็นภารกิจหลักของวัดทุกวัดทั้งประเทศ โดยแต่ละวัดจะต้องจัดทำพื้นที่ที่วัดต้องรับผิดชอบ (Area coverage)

ภายในพื้นที่จะต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับคุณธรรมของคนแต่ละกลุ่มอายุ (วัยเด็ก, วัยรุ่น, วัยสูงอายุ)

ภายในพื้นที่จะต้องกำหนดเกณฑ์การประเมินความสำเร็จในการยกคุณธรรมของประชาชนในพื้นที่เป็นเกณฑ์สำคัญสูงสุด โดยกำหนดแนวทางดำเนินการให้วัดทุกวัดเข้าไปทำและดำเนินกิจกรรมกับประชาชนในพื้นที่ โดยให้ความสำคัญกับกิจกรรมในเชิงรุกมากกว่าการตั้งรับที่วัด

ส่วนความสำเร็จในด้านอื่นควรเน้นให้ความสำคัญรองลงไปกว่าความสำเร็จในการยกระดับคุณธรรมของประชาชนในพื้นที่ที่วัดรับผิดชอบ ของดีอีกอย่างหนึ่งที่ควรจะฟื้นฟูเอาจริงเอาจัง และนำมาเสริมกิจกรรมของวัดและสถาบันศาสนา คือ

กิจกรรมลูกเสือชาวบ้านซึ่งมีจำนวนรวม 5 ล้านคนในปัจจุบัน ถ้าหาทางใช้การฝึกลูกเสือชาวบ้านเป็นการสร้างวินัยและคุณธรรมของคนในชาติ ก็น่าจะเป็นยุทธศาสตร์ที่ดีอีกอย่างหนึ่ง

ความคิดเห็นที่เสนอมานี้ก็โดยยึดหลักว่าทั้งกิจกรรมลูกเสือ, วิชารักษาดินแดน, การจัดการศึกษาพื้นฐาน, พุทธศาสนาและลูกเสือชาวบ้านเป็นของดีที่เรามีอยู่แล้วในชาติ ถ้ากำหนดให้นำสิ่งเหล่านี้มาเป็นยุทธศาสตร์ของชาติ และหาวิธีการที่จะนำยุทธศาสตร์นี้ไปสู่ความสำเร็จก็น่าจะแก้ปัญหา และเป็นประโยชน์ต่อชาติ



Create Date : 25 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2549 19:45:01 น. 4 comments
Counter : 926 Pageviews.

 
เป็นแนวคิดที่ดีครับ แต่ในทางปฎิบัติแล้ว...


โดย: PutterZ (ToppuT ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:01:13 น.  

 
เมื่อ30ปีก่อนประเทศเกาหลีใต้ มีสภาพยากจนประชาชนขาดอาหารไม่มีจะกิน นอนรอความตาย

มีชาวนาคนหนึ่งจำชื่อไม่ได้แล้ว ต้องการช่วยชาวบ้านให้พ้นความตาย ได้นำชาวบ้านให้พัฒนาตนเอง ให้เป็นคนมีคุณภาพ มาร่วมแรงร่วมใจกัน ปลูกพืชอาหาร น่าจะเป็น"มันภูเขา" ที่สามารถไปปลูกได้บนภูเขา

โดยปลุกใจนำชาวบ้านขึ้นเขาไปปลูกต้นมัน จนมีมัน เป็นอาหารให้ทานกันทั้งหมู่บ้านจนพ้นจากความตาย และ พัฒนาต่อเรื่องอื่นๆ จนความเป็นอยู่ของชาวบ้านดีขึ้น

รัฐบาลเกาหลีใต้ เห็นหมู่บ้านนี้ มีผู้นำพัฒนาชาวบ้านให้มีคุณภาพ ทำให้คนในหมู่บ้านมีความเป็นอยู่ดีขึ้น จึงนำมาทำเป็นหมู่บ้านนำร่อง ให้หมู่บ้านอื่นๆ เข้ามาเรียนรู้ นำสู่การปฏิบัติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จนขยายเป็นเกือบทั้งประเทศ

ทำให้ปัจจุบันเกาหลีใต้กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยมีรายได้ประชาชนเพิ่มขึ้น ความเป็นอยู่ของประชาชน ดีขึ้น จำได้ว่าเป็นโครงการ"แซมมูอวล อันดอง"หรือเปล่าไม่แน่ใจ ด้วยโครงการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ให้ดี ทำให้ประเทศเกาหลีใต้ กลายเป็นประเทศที่หลุดพ้นจากความยากจน ประชาชนมีความสุขขึ้น

ถ้าประเทศเรา รัฐบาลใดก็ตามถ้านำแนวทางที่ท่านสมชัย วุฑฒิปรีชา อดีตปลัดกระทรวงและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอข้างต้นมาปฏิบัติจริง ประเทศเราก็คงไม่แพ้ ประเทศเจริญแล้วได้ไม่ยาก จากการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ร่วมกับการพัฒนาทรัพยากร(4M-Man.Material,Money,Management)อื่นๆคู่ไปด้วย


โดย: ผู้อยากให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง (samrotri ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:11:54 น.  

 
เรียนขออนุญาติ อาจารย์ทรงวุฒิ มลิวัลย์ นำคอลัมน์ กระแสทรรศน์ สพฐ. จาก น.ส.พ.มติชน
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10487
มาลงเพิ่ม บทความที่ผมนำมาลง หวังว่าอาจารย์คงไม่ขัดข้องเพราะ อยากจะช่วยเผยแพร่บทความดีๆ ให้เข้ามาในบล็อกแก็งครับ

"ร้อยรักสามัคคี ร่วมสร้างความดีถวายในหลวง"
โดย ทรงวุฒิ มลิวัลย์

ปรากฏการณ์โลกร้อนได้ทวีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้ ล่าสุดก็ได้เกิดภูเขาน้ำแข็งที่แตกตัวมาจากขั้วโลกได้ลอยมาใกล้ชายฝั่งทวีปออสเตรเลีย กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อย่างไม่ได้ตั้งใจแต่หารู้ไม่ว่าหายนะภัยกำลังจะมาเยือนจากสถานการณ์โลกร้อน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะวัตถุสิ่งของทางธรรมชาติเท่านั้น ภัยจากความรุ่มร้อนของมนุษย์โลกด้วยกันเองก็กำลังร้อนแรงไม่แพ้กัน หรือว่าไฟประลัยกัลป์ที่คนเก่าก่อนเล่าสอนลูกสอนหลานไว้ กำลังจะเริ่มเผาผลาญโลกในเวลาอีกไม่นาน

ณ วันนี้รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ น่าจะเดินมาถูกทางในเรื่องการนำนโยบาย

"คุณธรรมนำความรู้มาใช้"

เพราะธรรมที่นำมาใช้จะช่วยหยุดความร้อนรุ่มของมวลมนุษย์ชาติ ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดหรือศาสนาไหน ล้วนต่างมีธรรมประจำศาสนาของตัวเอง หากทุกคนฝักใฝ่ในธรรมของแต่ละศาสนาย่อมนำมาให้โลกเย็นลงได้อย่างเหนือความคาดหมาย

จากกระแสธรรมประกอบกับในวโรกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ไทยที่ชาวต่างชาติล้วนชื่นชมในพระบารมีให้เป็นที่ปรากฏชัดว่าพระองค์เป็นที่รักใคร่เทิดทูนของเหล่าพสกนิกรชาวไทยตลอดมา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงได้จัดโครงการ

"ร้อยรักสามัคคี ร่วมสร้างความดีถวายในหลวง"

ขึ้นโดยข้าราชการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งนักเรียนในสังกัดทุกคนทั่วประเทศจะได้จัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติในหลวง ด้วยการ

เชิญชวนให้ผู้ปกครองและชุมชนร่วมกันตั้งปณิธานที่จะกระทำความดีและบำเพ็ญประโยชน์ รวมทั้งเป็นการปลูกฝังให้ทุกคนจงรักภักดีและเรียนรู้ที่จะปฏิบัติตนตามรอยพระยุคลบาทอย่างเป็นรูปธรรม และต่อเนื่องตลอดปี 2550 ตลอดจนเป็นการพัฒนาระบบและสร้างเครือข่ายคุณธรรมที่จะส่งเสริมการศึกษาตามหลักการคุณธรรมนำความรู้อย่างยั่งยืนตลอดไป

กิจกรรมทั้งหมดจะเป็นการร่วมคิดร่วมทำร่วมนำเสนอจากนักเรียน ทุกคนทุกโรงเรียนและเริ่มกิจกรรมพร้อมกัน

ในวันที่ 4 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 09.00-10.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ ITV เชื่อมเครือข่ายกับ 4 ภูมิภาค เพื่อให้สังคมได้รับรู้ถึงการรวมพลังของครูและนักเรียนกว่า 13 ล้านคน ในทุกภาคของประเทศไทย ได้ร่วมกันตั้งปณิธานและลงมือทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเทิดพระเกียรติแด่พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยอย่างยิ่งใหญ่อีกโครงการหนึ่ง

ส่วนรายละเอียดของโครงการติดตามได้ทาง ETV หรือ UBC 96 วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2549 และรายการเช้าวันนี้ที่เมืองไทย ช่อง 5 วันที่ 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา 07.20-07.35 น. ซึ่งเลขาธิการ กพฐ.จะไปออกรายการาสดด้วยตัวเอง อย่าลืมติดตามนะครับ และขอเชิญชวนให้ทุกท่านมาร่วมสร้างความดีด้วยกันเพื่อในหลวงของเราและจะเป็นการลดกระแสความร้อนแรงของกระแสโลกได้อีกทางหนึ่ง


โดย: ผู้อยากให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง (samrotri ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:44:12 น.  

 
เห็นด้วยเต็มที่เลยค่ะ


โดย: ดาวสีแดง (ดาวสีแดง ) วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:16:31:30 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

samrotri
Location :
ฉะเชิงเทรา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




น.พ.สำเริง ไตรติลานันท์
แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ เวชศาสตร์ป้องกัน
ตำแหน่ง นายแพทย์เชี่ยวชาญ หัวหน้ากลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชน ร.พ.พนมสารคาม และ ร.พ.สร้างเสริมสุขภาพตำบลเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โทรฯ 0896112714
[Add samrotri's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com