แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ เวชศาสตร์ป้องกัน ร.พ.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
 
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 ตุลาคม 2549
 
 
ห้อยจตุคาม ปืนรัวไม่เข้า [น.ส.พ.ไทยรัฐ 15 ต.ค. 49 - 04:34]

เมื่อเวลา 04.15 น. วันที่ 14 ต.ค. พ.ต.ท. สุพจน์ คงนาลึก สารวัตรเวร สภ.อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มงานศพ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 8 ต.ขุนทะเล จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.สุดใจ ญาณรัตน์ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.สรวิช ผดุงชัย ผกก.สภ.อ.ลานสกา พ.ต.ท. วิโรจน์ สุขเกื้อ รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่วิทยาการ กก.วท. เขต 43 นครศรีธรรมราช แพทย์เวร รพ.ลานสกา นำกำลังและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งรุดไปสอบสวน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว กำลังจัดงานบำเพ็ญ กุศลศพนายสมปอง โบกธรณี อายุ 48 ปี สมาชิก อบต.ขุนทะเล เจ้าของบ้าน ที่ถูกรถชนเสียชีวิต ที่ลานหน้าบ้านตั้งเต็นท์ไว้ 8 หลัง จัดเป็นที่นั่งผู้มาร่วมงาน ในเต็นท์ตั้งหน้าบ้านตรงกับที่ตั้งโลงศพ

พบเหยื่อกระสุนนอนตายเลือดทะลักท่วมร่าง 2 ศพ ชื่อ

นายวินัย สุรวงศ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 6 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงด้วยปืนเอชเค 33 และปืนอาก้า เข้าชายโครงขวา เบ้าตาซ้าย และกลางหลังรวม 5 นัด

นายประสิทธิ์ ไกรวานิช อายุ 58 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ขุนทะเล ถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันเข้าขมับขวา และลำตัวพรุน 5 นัด

ส่วนคนเจ็บถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันอาการปางตาย ชื่อ

นายวิเชียร สัจจะมาศ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126/1 หมู่ 6 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงเข้าลำตัว 3 นัด

นายปรีชา สัจจะมาศ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/2 หมู่ 5 ต.นาพรุ อ.พระพรหม ถูกยิงเข้าท้ายทอย 1 นัด และหลัง 1 นัด และนายธรรมรัตน์ ลิ่มชัยพฤกษ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2884/391 ต. ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ถูกยิงเข้าชายโครงซ้าย 2 นัด สะบักหลังซ้าย 1 นัด และ

พบนายสัมฤทธิ์ พงศ์พรหม หรือผู้ใหญ่หมิด อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.นาสาร อ.พระพรหม ยืนถือปืน .38 อยู่ในที่เกิดเหตุ ตามร่างกายมีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันเข้ากลางหลัง 4 นัด ชายโครงขวา 2 นัด และท้ายทอย 1 นัด ทำให้เสื้อที่สวมอยู่ทะลุแต่กระสุนไม่ระคายผิว เป็นที่น่าอัศจรรย์ มีเพียงรอยกระสุนเป็นจ้ำๆ ท้ายทอยบวมเป่ง จึงรีบนำส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช

ในที่เกิดเหตุมีโต๊ะเก้าอี้ล้มกระจัดกระจาย ขวดเหล้าแก้วเหล้า ไพ่ตองตกเกลื่อนพื้น ฐานตั้งโลงศพและซุ้มดอกไม้หน้าศพถูกกระสุนเสียหาย ใต้โคนต้นไม้หน้าบ้านห่างจุดเกิดเหตุราว 15 เมตร มีปลอกกระสุนปืนอาก้าตกเกลื่อน 11 ปลอก และที่พุ่มไม้ข้างบ้านมีปลอกกระสุนปืนเอชเค 33 ตกอยู่ 7 ปลอก คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายซุ่มยิง และพบหัวกระสุนตกอยู่ 9 ปลอก จึงเก็บปลอกกระสุนไว้เป็นหลักฐาน



สอบสวนนายสัมฤทธิ์ พงศ์พรหม หรือผู้ใหญ่หมิด ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยนายวินัย ผู้ตาย คนติดตาม เดินทางมาร่วมงานศพนายสมปอง ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่หัวค่ำ กระทั่งแขกเหรื่อเดินทางกลับหมดแล้ว จึงชักชวนญาติผู้ตาย กับนายวินัย รวม 6 คน ตั้งวงเล่นไพ่ตองอยู่เป็นเพื่อนศพ กระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น พร้อมกันรู้สึกเหมือนถูกขว้างด้วยก้อนหินเข้าท้ายทอยและกลางหลัง ถึงรู้ตัวว่าถูกคนร้ายลอบยิงถล่ม รีบคว้าพระหลักเมืองจตุคามรามเทพ รุ่นบูรณะหลักเมืองนครศรีธรรมราช ปี 2547 ขึ้นมาอมไว้ในปาก แล้วชักปืนยิงต่อสู้คนร้าย กระทั่งคนร้ายล่าถอยวิ่งไปขึ้นรถปิกอัพสีบรอนซ์เงิน กับรถจักรยานยนต์หนีไปทาง อ.พระพรหม พร้อมกับโชว์วัตถุมงคลท้าวจตุคามรามเทพ กับเหรียญเศียรพระหลักเมืองรุ่นเดียวกันที่คล้องคออยู่

ทางด้าน พ.ต.อ.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบก.ภ. จ. นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเชื่อว่าคนร้ายเป็นมือปืนมีระดับ ยิงเข้าเป้าแทบทุกนัด มีไม่น้อยกว่า 4 คน มาดักซุ่มอยู่ในมุมมืดหน้าบ้าน อาศัยช่วงปลอดคนยิงถล่มเหยื่อกระสุนที่จับกลุ่มเล่นไพ่ตองไม่ทันระวังตัว ทำให้คนในวงถูกกระสุนบาดเจ็บเสียชีวิตไปตามๆ กัน มีเพียงนายสัมฤทธิ์ ที่กระสุนไม่ระคายผิว และคาดว่าคนร้ายน่าจะมุ่งเอาชีวิตนายสัมฤทธิ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายสัมฤทธิ์เคยถูกลอบยิงมาหลายครั้ง แต่ก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง

รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า สำหรับปมสังหารครั้งนี้ ตั้งไว้หลายประเด็น คือความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น ที่นายสัมฤทธิ์ เตรียมลงสมัครชิงตำแหน่งกำนันตำบลนาสาร แทนคนเก่าซึ่งหมดวาระเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งการเลือกตั้งกำนันครั้งที่แล้วนายสัมฤทธิ์ ก็ลงสมัครด้วยแต่แพ้คู่แข่งอย่างฉิวเฉียด เรื่องความขัดแย้งธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่นายสัมฤทธิ์ดำเนินการอยู่มีความขัดแย้งกับผู้รับเหมาคู่แข่งหลายราย ประเด็นสุดท้ายคือความขัดแย้งในวงนักเลงและความแค้นส่วนตัว เนื่องจากนายสัมฤทธิ์ ถือว่าเป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่งในจังหวัด ซึ่งตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงและติดตามจับกุมคนร้ายและคนบงการต่อไป


Create Date : 16 ตุลาคม 2549
Last Update : 16 ตุลาคม 2549 22:17:46 น. 1 comments
Counter : 3326 Pageviews.

 
พบ ข่าวจาก น.ส.พ.ข่าวสด วันอังคาร ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5920 มีเรื่องเกี่ยวกับ ข่าวข้างต้นจึงนำมาลงเสริมเนื้อหาบทความเพิ่มเติมขึ้นอีก

วัตถุมงคลยอดฮิต (1) กำเนิดจตุคามรามเทพ

คอลัมน์ มุมพระเก่า

สรพล โศภิตกุล

อย่าพึงสงสัยถ้าหากวัตถุมงคล "จตุคามรามเทพ" ที่ออกใหม่ และยังไม่ทันจะเห็น "ของจริง" คงมีเพียงภาพถ่าย หรือแม้กระทั่งลายเส้นของพิมพ์ทรงบนแผ่นพับ ใบโบรชัวร์ของคณะกรรมการการจัดสร้าง และรายละเอียดของพิธีกรรมที่ได้จัดทำหรือจะทำขึ้น ก็ได้รับความนิยมจากประชาชนผู้ศรัทธา กระทั่งสั่งจองกันอย่างมโหฬารจนวัตถุมงคลหมดลง และต้องรอรับวัตถุมงคลอีกเดือนหรือสองเดือนข้างหน้านี้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ความนิยมที่ได้รับถึงกลับมีการซื้อขายใบจองกันทีเดียว

ความนิยมที่เกิดขึ้น ก่อให้มีการสร้างวัตถุมงคลจตุคามรามเทพออกมาอย่างต่อเนื่อง ที่จะมีถึงในช่วงมีนาคม ประมาณกันอย่างคราวๆ แล้วถึง 50 รุ่นทีเดียว

อีกรุ่นหนึ่งที่เพิ่งได้รับแผ่นพับแนะนำมา คือ รุ่น "ร่ำรวยคุ้มดวง" จัดสร้างด้วยวัตถุประสงค์สมทบทุนสร้าง "ธรรมเจดีย์" วัดดิษฐวราราม (วัดท่าเสม็ด) อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดจองไปตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ จนถึง 25 มีนาคมนี้ ที่ศูนย์พระเครื่องชั้นนำทั่วไป สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.0-2952-7944, 08-1497-8883

ในรุ่นนี้ได้ทำพิธีถึง 5 พิธี โดยพิธีที่ได้ทำไปแล้ว คือ การทำพิธีพุทธาเทวาภิเษก ครั้งที่ 1 ณ มณฑลพิธีเทศบาลบ้านแหลม สุพรรณบุรี ครั้งที่ 2 ณ มณฑลพิธีหาดทรายขาว วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งที่ 3 ณ ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช

และจำทำพิธีครั้งที่ 4 พิธีมหาพุทธาภิเษก ณ ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2550 และครั้งที่ 5 ณ วิหารหลวงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2550

ถามว่า "จตุคามรามเทพ" คืออะไร เป็นที่เชื่อได้ว่ากระทั่งผู้บูชาจตุคามรามเทพบางท่าน ยังไม่ทราบถึงความเป็นมาเหตุที่กำเนิดวัตถุมงคล "จตุคามรามเทพ" นั้น คือในปี พ.ศ.2528 พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล (ขณะมียศเป็น พ.ต.อ.) ได้มารับตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รู้จักกับกลุ่มพ่อค้าชาวจีน 4-5 คน ซึ่งชมชอบในการเสี่ยงโชคลาภต่างๆ หนึ่งในนั้นเป็นร่างทรง และมักทำพิธีอัญเชิญเจ้าเข้าทรงเป็นประจำในยามค่ำคืน และสถานที่อัญเชิญร่างทรงนั้น คือ วัดนางพระยา

คืนหนึ่ง พล.ต.ท.สรรเพชญได้ติดตามกลุ่มพ่อค้าชาวจีนนี้ไปยังวัดนางพระยาด้วย และคืนนั้นร่างทรงที่ประทับได้กล่าวว่า "กูคือพระยาชิงชัย เป็นแม่ทัพรักษาเมืองด้านทิศตะวันออก" แต่พล.ต.ท.สรรเพชรมีความเคลือบแคลงสงสัย จึงได้ใช้ธูปจุดไฟหนึ่งกำมือ จี้ไปที่ร่างของคนทรง แต่ไม่ปรากฏอาการอย่างใดเกิดขึ้นกับร่างทรงนั้น และร่างทรงได้พูดขึ้นว่า "เออ มึงไม่เชื่อ เอาอย่างนี้ดีกว่า มึงไปเอาดาบที่กุฏิท่านสมภารมา กูจะสักกระหม่อมให้ดู"



...........

ข่าวจาก น.ส.พ.ข่าวสด วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5921

วัตถุมงคลยอดฮิต (2) กำเนิดจตุคามรามเทพ

คอลัมน์ มุมพระเก่า

โดย สรพล โศภิตกุล

หนึ่งในคณะได้ไปเอาดาบที่กุฏิเจ้าอาวาสวัดตามที่ร่างทรงบอก ทั้งที่ไม่เคยมีใครทราบมาก่อนว่า มีดาบเล่มนี้อยู่ที่กุฏิเจ้าอาวาสมาก่อน เมื่อได้ดาบมาแล้วร่างประทับทรงได้จับดาบชูขึ้น แล้วเอาปลายดาบลงทิ่มบนศีรษะของร่างทรงเองอย่างแรงหลายครั้ง เสียงดังฉึกหากแต่ไม่ระคายผิวหนังแต่อย่างใด เป็นที่อัศจรรย์ต่อสายตาทุกคู่ที่จับตามองอยู่ในขณะนั้น

ในคืนต่อมา ได้มีการประทับทรงอีกโดยกลุ่มพ่อค้าชาวจีนกลุ่มเดิม หากแต่ที่ประทับร่างทรงนั้นกลับไม่ใช่พระยาชิงชัย แต่ก็มีเสียงบอกจากร่างคนทรงว่า "กูใหญ่กว่าอ้ายชิงชัย มันมาโม้ให้พวกสูฟัง กูนี่แหละใหญ่กว่า มึงไปหากระดาษมาวาดใบหน้ากู กูจะบอกลักษณะ แล้วพวกสูพาไปถามอ้ายหนวดดู อ้ายหนวดรู้จักกูดี"

พล.ต.ท.สรรเพชญ ได้ถามร่างประทับทรงนั้นว่า "อ้ายหนวดคือใคร?"

ร่างประทับทรงได้ตอบกลับไป "มึงผันหน้าตอนนั่งทำงานไปทางไหน บ้านมันก็อยู่ทางนั้นแหละ ไปหามันได้"

เมื่อร่างประทับทรงตอบกลับมาเช่นนั้น ทุกคนก็ทราบได้ทันทีว่า "อ้ายหนวด" ที่ร่างประทับทรงนั้นบอก คือ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธร เขต 8 ผู้เป็นที่รู้จักกันดีว่า มีวิชาอาคมแข็งกล้า เป็นศิษย์ฆราวาสของสำนักวัดเขาอ้อ ตักสิลาแห่งพุทธาคมอันเลื่องชื่อของภาคใต้

วันต่อกลุ่มพ่อค้าชาวจีน และพล.ต.ท.สรรเพชญ ได้เดินทางไปพบ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ที่บ้านพักเลขที่ 764/5 ภายในซอยราชเดช ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก็พบว่า พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้คอยท่าอยู่แล้วคล้ายกับจะรับรู้ว่าจะมีผู้ไปหา

เมื่อทำความเคารพต่อ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ถามถึงกิจธุระที่มาพบในครั้งนี้ พล.ต.ท.สรรเพชญ จึงได้ยื่นภาพวาดใบหน้าของดวงวิญญาณที่ได้บอกรูปลักษณะผ่านร่างทรงให้ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ดู

เมื่อ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ดูภาพใบหน้านั้น ก็ได้ถาม พล.ต.ท.สรรเพชญ อย่างตื่นเต้นว่า "ท่านผู้กำกับนำรูปนี้มาจากไหน รูปนี้เป็นอดีตกษัตริย์แห่งอาณาจักรศรีวิชัย มีพระนามว่า จตุคามรามเทพ หรือจันทรภาณุ"

พล.ต.ท.สรรเพชญ จึงได้เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ณ วัดนางพระยา ให้ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ทราบ

ต่อมาในคืนที่ 3 นั้น กลุ่มพ่อค้าชาวจีน และ พล.ต.ท.สรรเพชญ ได้ทำการเชิญประทับร่างทรงอีกครั้ง ที่วัดนางพระยา หากคราวนี้องค์จตุคามรามเทพที่ประทับทรงมีกิริยาอาการที่ดุมาก แล้วบอกว่า "บ้านเมืองลุกเป็นไฟ กูรอมึงมาเป็นพันปีแล้ว กูอยากให้ช่วยสร้างหลักเมือง ทำจากไม้ตะเคียนทอง งอกอยู่ทางทิศเหนือของเมืองนครศรีฯ บัดนี้มันรอมึงอยู่"

นอกจากนั้น องค์จตุคามรามเทพยังได้บอกผ่านร่างทรง ซึ่งก็คือ นายอะผ่อง สกุลอมร ถึงขั้นตอนของพิธีต่างๆ ที่จะต้องทำกัน ซึ่งมีหลายพิธีที่ต้องใช้เวลา เช่น พิธีกรรมชุมนุมตัดชัย ทำในวิหารหลวง ให้ปักธงศรีวิชัยขึ้นหมู่พระธาตุ เป็นนัยว่าเราเปิดธงรบกับ พวกเหล่าร้าย เช่น พวกโจร หรืออาถรรพ์จัญไรต่างๆ ที่รบกวนเมืองนครศรีฯ

พิธีกรรมต่างๆ ที่องค์จตุคามรามเทพได้บอกผ่านทางร่างทรงนั้น มีมากมายหลายพิธีด้วยกัน




โดย: samrotri (samrotri ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:01:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

samrotri
Location :
ฉะเชิงเทรา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




น.พ.สำเริง ไตรติลานันท์
แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ เวชศาสตร์ป้องกัน
ตำแหน่ง นายแพทย์เชี่ยวชาญ หัวหน้ากลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชน ร.พ.พนมสารคาม และ ร.พ.สร้างเสริมสุขภาพตำบลเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โทรฯ 0896112714
[Add samrotri's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com