หมอกมุงเมือง
Group Blog
 
 
มกราคม 2568
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
22 มกราคม 2568
 
All Blogs
 
3. ห้วงมารยา : แขไข เทวิณ

เรื่อง : ห้วงมารยา
ผู้เขียน : แขไข เทวิณ
สำนักพิมพ์ : แพร่พิทยา โอเดียนสโตร์
ปีที่พิมพ์ : 2504
เล่มเดียวจบ


             แขไข เทวิณ เป็นนักเขียนนวนิยายรุ่นครู ที่มีผลงานนวนิยายในยุคหนึ่งเป็นจำนวนมาก ผลงานบางเรื่องของท่าน นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ที่รู้จักกันดี เช่น สายสวาทยังไม่สิ้น (ในหนังสือใช้ สายสวาสดิ์ยังไม่สิ้น)หรือเกล็ดแก้ว เป็นต้น แต่น่าเสียดายที่ผลงานเกือบทุกเรื่องของท่าน ไม่ได้นำมาตีพิมพ์ใหม่อีกเลย ทำให้นักอ่านรุ่นปัจจุบันตามหางานของท่านอ่านได้ยาก ในโอกาสนี้ ผมขอนำเสนอ ผลงานในเล่มห้วงมารยา ซึ่งเป็นอีกผลงานหนึ่งของแขไข เทวิณ ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

            ห้วงมารยา ประกอบไปด้วยเรื่องสั้นขนาดยาว จำนวนสามเรื่องคือห้วงมารยา คัทลียาขาว และแรมสวรรค์ ทั้งสามเรื่องสามรส มีพลอตเรื่องที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่กลิ่นอายในสไตล์ของแขไข เทวิณ ชัดเจน สื่อผ่านเรื่องราวทั้งสามเรื่องได้อย่างเข้มข้น ชวนติดตาม
                 ++++++++++++++++++++
           ห้วงมารยา เป็นเรื่องราวชีวิตของ สาวสวยโฉมฉิน สยุมพร ผู้ผ่านประสบการณ์ความรักมาอย่างโชกโชน และใช้ชีวิตไม่ต่างกับชายเสเพล เพียงแต่เธอเป็นเพศหญิง เท่านั้นเอง

        เรื่องราวเริ่มต้นในงานแต่งงานของ แดนดาว น้องสาวของเธอ กับ เรือโทกรีพล เพชรโยธิน นายทหารเรือรูปงาม ที่แท้จริงแล้ว เขาคืออดีตคนรักของโฉมฉินมาก่อน!

             ในช่วงเวลาก่อนหน้า เมื่อกรีพลคบหากับโฉมฉิน และต้องมีภารกิจเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ โฉมฉินก็หันไปคบหานายตันกวงหยก มหาเศรษฐีฮ่องกงที่เดินทางมาประเทศไทย จนเมื่อเขาเดินทางกลับ และกรีพลกลับมา แต่แล้วความลับของหล่อนกลับเปิดเผยออก จนทำให้กรีพล หันไปสนใจแดนดาวแทน และขอแดนดาวแต่งงานไปในที่สุด

          แม้จะแสดงท่าทีไม่สนใจ และมั่นใจในความสวยมากเสน่ห์ของตน แต่โฉมฉินก็มีปากเสียงกับน้องสาวที่พูดจาไม่ไว้หน้าอยู่บ่อยครั้ง ในงานแต่งน้องสาวครั้งนี้เอง เมื่อเธอได้พบกับ เพื่อนหนุ่มของกรีพล มีนามว่า ร้อยเอก ยุทธชัย ศิริรักษ์ เขาแสดงตนว่าเป็นหนุ่มโสดที่สนใจเธออย่างออกนอกหน้า แม้ว่าจะมีเพื่อนสาวอย่างมลฤดี ตามหึงหวงอยู่ก็ตาม อารมณ์บางอย่างในตัวของโฉมฉิน ทำให้เธอหว่านเสน่ห์เพื่อทอดไมตรีกับเขา

        อาจจะเพราะต้องการยั่วให้ กรีพล มองเห็นคุณค่าในตัวของเธอขึ้นมาบ้างก็เป็นได้?

          และเพราะเหตุนี้เอง เมื่อยุทธชัย ชวนให้เธอเดินทางไปร่วมงานแต่งงานของนายทหารรุ่นน้อง ทะแกล้ว กับ แก้วทิพย์แฟนสาว ที่เป็นคนอีสานบ้านเดียวกัน หนุ่มสาวทั้งสี่คน จึงเดินทางด้วยรถไฟเพื่อไปยังหมู่บ้านในชนบทแสนกันดารแห่งนั้น

           ที่นั่นเอง ทำให้ โฉมฉิน มองเห็นสภาพการใช้ชีวิตอย่างยากลำบากของพ่อแม่ ทะแกล้ว ที่พยายามจะจัดงานแต่งให้กับลูกชาย และยังได้รู้จักกับเด็กสาวแสนสวยนามจันทรา ที่ทำให้เธอมองเห็นภาพของตัวเอง แย่งยุทธชัย มาจากมลฤดี ขณะที่จันทรา สาวน้อยบ้านป่าแสนสวยก็ประทับใจยุทธชัย และหว่านเสน่ห์ให้กับเขาเช่นเดียวกัน

        ความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นแก่ร่างกายของโฉมฉิน จนต้องรักษาตัวที่หมู่บ้านแห่งนั้น แม้จะถูกเข้าใจว่าไปล่วงละเมิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนต้องหาหมอผี มารักษา แต่เมื่อหายดีแล้ว หล่อนเริ่มเข้าใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น

       “ตลอดเวลายี่สิบห้าปีที่ดิฉันผ่านชีวิตมา ดิฉันโง่เพราะว่าดิฉันสวย ความสวยและความทระนงในทางที่ผิดคิดว่าตัวนั้นฉลาดเลิศแล้ว ใครอื่นอาจจะเคยหัวเราะเยาะดิฉันมามากต่อมากแล้ว แต่ดิฉันไม่รู้สึกตัว กระจกเงาและคำเยิรยาทำให้ดิฉันลำพอง ดิฉันคงมองผู้หญิงคนอื่นแม้แต่น้องสาวตัวเองอย่างเยาะเย้ย เพราะเขาไม่สวยเท่าดิฉัน

        ดิฉันเคยคิดว่าความสวยจะนำดิฉันไปสู่ความั่งคั่งร่ำรวย เป็นกุหลาบแดงดอกเดียวในวงสังคม และดิฉันจะได้ความรักที่ซื่อสัตย์ จากเทพบุตรผู้โก้หร่านสักคนหนึ่ง แต่คุณยุทธคะ นั่นเป็นเพียงความใฝ่ฝันที่น่าหัวเราะ ดิฉันหลงลำพอง จนชีวิตต้องประสบความผิดพลาด เป็นคนสวยที่สังคมรังเกียจ เขามองดิฉันเช่นเดียวกับนกการะเวก ที่หลงระเริงฟ้าสูง จนต้องตกลงมาตายในที่สุด”

            และโฉมฉิน ก็ตัดสินใจ ที่ใช้ชีวิตหญิงโสด โดยไม่ต้องพึ่งพายุทธชัยอีกต่อไป เมื่อหล่อนตระหนักดี ว่าเขามองหล่อน ไม่ต่างกับหญิงไร้ค่า ที่ต้องงอนง้อ เพราะกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้แต่งงาน คำปฏิเสธนั้นเอง ที่ทำให้ โฉมฉินรู้ว่า หล่อนเข้าใจโลกและชีวิตได้เด่นชัดขึ้นแล้วในเวลานี้
         +++++++++++++++++++++++
           เรื่องคัทลียาขาว เป็นเรื่องสั้นที่บอกเล่าถึงเรื่องราวของ มธุรส ชลากร หญิงสาวที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง เมื่อเธอต้องมาทำงานเป็นพนักงานในร้านเสริมสวย แสงสุรีย์ ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานที่สดสวย สะดุดตา ผู้เขียนเปรียบเทียบมธุรส กับ ดอกคัทลียาสีขาว ที่เธอเองปลูกเอาไว้อย่างทะนุถนอม ตราบจนกระทั่งมั่น เริ่มแตกช่อดอกอันสวยงาม และเป็นดอกไม้อันหายาก กับ หญิงสาวที่แม้จะไม่สวยโดดเด่น เหมือนคัทลียาสีม่วง

            แต่ความอ่อนโยนบริสุทธิ์จากเนื้อแท้ภายในใจนั่นต่างหาก ที่ทำให้เธอ ได้พบกับ ชายหนุ่มที่มองเห็นคุณค่านั้น จนนำไปสู่การแต่งงานอย่างมีความสุขในที่สุด

       พี่อาจจะพอใจดอกไม้มามาก อยากเด็ด แล้วก็เด็ดจริงๆเสียด้วย เด็ดทิ้งเด็ดขว้าง อย่างคนบาปหนา อย่างคนจิตใจชั่ว แต่สำหรับดอกไม้สวยสะอาดตาอย่างคัทลียาขาว มันมีค่างวดในตัวของมันเอง จนพี่ไม่อยากแตะต้อง กลัวจะเป็นราคีแก่เขา แล้วจะกลายเป็นบาปแก่พี่ไปจนวันตาย
           +++++++++++++++++++++++
           สำหรับเรื่องสุดท้าย คือแรมสวรรค์ อันเป็นชื่อโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่โรงแรมแห่งนี้ เมื่อดาเรศ ธนากร เด็กสาวจากอยุธยา ตัดสินใจหนีออกจากบ้านที่เข้มงวด และความเข้าใจว่าพ่อแม่รักพี่สาวที่นิสัยสงบเสงี่ยมเรียบร้อย กว่าตนเอง

           ดาเรศ ได้มีโอกาสพบกับ เพลง สุรภาค ชายหนุ่มในคอลัมน์มิตรทางจดหมาย ในหน้าหนังสือพิมพ์ และถูกตาถูกใจ จนกลายเป็นความรัก

          อารมณ์เพ้อฝัน และน้อยใจเมื่อทะเลาะกับพ่อ ทำให้หล่อนตัดสินใจนัดแนะ จะหนีจากต่างจังหวัด มาใช้ชีวิตหางานทำ ด้วยหลงแสงสีในเมืองกรุง เพลง สุรภาค นัดหมายให้เธอมารอพบเขาที่โรงแรมแห่งนี้

        แรมสวรรค์!

           ณ สถานที่แห่งนี้เอง ที่เด็กสาวดาเรศได้เผชิญกับผู้คนหลากหลาย ทั้งป้าเจ้าของโรงแรม ที่ยิ้มแย้มด้วยอัธยาศัยไมตรียามมีเงินจ่ายค่าห้อง หรือกลายสภาพเป็นนางยักษ์ เมื่อหล่อนไม่เหลือเงินติดตัวมาชำระ ทอศรี หญิงขายตัวข้างห้อง ที่มีน้ำใจคอยช่วยเหลือเธอด้วยความบริสุทธิ์ใจ และยังมีรัตน์ ชายหนุ่มรูปงาม ที่ทำให้เธอเกิดความประทับใจ

           ขณะที่ เพลง สุรภาค กลับหายตัวไป ไม่ติดต่อมาเลย จนกระทั่งเงินที่นำมาด้วยหมดลง

         เมื่อนั้นเอง ที่หล่อนถูกป้าเจ้าของแรมสวรรค์ ขับไล่หากรัตน์ ก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เขาสารภาพว่าชอบพอเธอตั้งแต่แรกเห็นแล้ว เขาเองทำงานป่าไม้อยู่ทางเหนือมาพักอยู่ที่แรมสวรรค์เพราะมาติดต่อธุระบางอย่าง และพาเธอไปเที่ยว ซื้อข้าวของให้ดาเรศ จนในที่สุด หญิงสาวก็ยอมตกเป็นของเขา

            ในคืนวันนั้นเอง ที่หล่อนไม่รู้ว่า เพลง เดินทางมาพบที่แรมสวรรค์พอดี เขามองเห็นภาพบาดตานั้นและจากไป พร้อมกับเขียนโน้ตฝากให้เธอ บอกเหตุผลที่เพิ่งได้รับจดหมายว่าเขาไปทำธุระต่างเมือง เพิ่งกลับมาถึงบ้าน และรีบมาหาเธอที่แรมสวรรค์...

        และความจริงอันโหดร้ายจากปากทอศรี ที่บอกเธอว่า รัตน์เองก็มีผู้หญิงที่คบหาหลายคน เขาไม่เคยจริงจังกับใครเลย ในเมื่อชีวิตเขาเองก็ต้องเร่ร่อนไปทั่ว เพราะทำงานค้ายาเสพติด!

            ท้ายสุดเมื่อดาเรศ ตาสว่าง และรับรู้ว่า ความรักที่ตนเองแสวงหานั้นไม่ได้อยู่ไกลแสนไกล จากใครคนอื่นเลย หากแต่อยู่ที่พ่อกับแม่ ยังบ้านชนบทที่เธอเคยนึกเบื่อหน่าย จนต้องจากมานั่นเอง...
            ++++++++++++++++++++
           สามเรื่อง สามรส จากปลายปากกาของแขไข เทวิณ ที่ชวนอ่านและประทับใจอย่างยิ่งครับ



Create Date : 22 มกราคม 2568
Last Update : 22 มกราคม 2568 13:34:07 น. 0 comments
Counter : 291 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ


ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สามปอยหลวง
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




ฉันติดคุก ครั้งนี้ ชั่วชีวิต เพราะทำผิด คิดรัก ตัวอักษร ถูกคุมขัง ตั้งแต่เช้า จนเข้านอน ขอวิงวอน โปรดอย่า มาประกัน

คุกหนังสือ คือโซ่ทอง ที่คล้องล่าม คุกหนังสือ คือความงาม ในความฝัน คุกหนังสือ คือดนตรี กล่อมชีวัน คุกหนังสือ คือสวรรค์ ฉันรักเธอ

จาก คุกหนังสือ : แคน สังคีต

New Comments
Friends' blogs
[Add สามปอยหลวง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.