บ้านซึ่งเป็นมรดกชิ้นเดียวที่สามีได้ซื้อไว้กับธนาคารUOB ซึ่งได้ทำประกันกับทางพรูเดนเชี่ยลประกันชีวิตคู่ไปด้วย

ซึ่งสามีได้มอบบ้านหลังนี้ไว้ให้กับภรรยาที่เค้าใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ณ ตอนนั้นซึ่ง ต่อมาภรรยา ที่มีชื่ออยู่ในสัญญาซึ่งเป็นผู้ที่จะได้รับมรดกคือบ้านหลังนี้

ได้เสียชีวิตลง อยากทราบว่าจะถือเป็นโมฆะ หรือป่าว ซึ่งตอนนี้ ตัวดิฉันเป็นภรรยาใหม่ จดทะเบียนสมรส ถูกต้องตามกฏหมาย .อยู่กินกันมาหลายปีแล้ว

สามีก็ป่วย จนเสียชีวิตลง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการไปเปลี่ยนชื่อ ในตัวหนังสือสัญญาซื้อบ้าน จากชื่อภรรยาเก่า(ซึ่งเสียชีวิตไปก่อนแล้ว)ให้เป็นชื่อภรรยาคนล่าสุดคือตัวดิฉัน ซึ่งดิฉันไม่เคยทราบมาก่อนในเรื่องสัณาญา ไม่รู้ว่าสามีมอบบ้านหลังนี้ให้ใครถ้าเค้าได้เสียชีวิต แต่เค้าบอกว่าบ้านยกให้ดิฉันแต่ไม่มีลายลักษ์อักษร ก่อนเสียชีวิตสามีก็ได้สั่งเสียไว้กับทางแม่เขาเองว่า ให้บ้านหลังนี้แก่ดิฉัน เพราะเราอยู่ที่นี่มาด้วยกัน แม่เค้าก็ตกลงรับปากลูกชายเขาซึ่งเป็นสามีดิฉัน ว่ายกบ้านให้ฉัน ต่อมาหลังจากเสร็จงานสีดำของสามี ตัวดิฉันเองก็ต้องเดินเรื่องเอกสารทุกอย่างเพื่อที่จะเคลียบ้านหลังนี้ จะได้ไม่ต้องส่งค่าบ้านต่อเพราะผู้ซื้อ ได้เสียชีวิตแล้ว แต่ทางธนาคารต้องได้รับคำสั่งศาลให้ใครเป็นผู้จัดการมรดก(ซึ่งฟ้องผู้ตายเพื่อที่จะเดินเรื่องแทนต่อไปได้)ซึ่งดิฉันคุยกันแล้ว กับแม่/พ่อ และผู้เกี่ยวข้องว่าจะให้ฉันเป็น ผจก.มรดกจึงเดินเรื่องตามขั้นตอนที่ศาล โดยทุกคนเซ็นรับทราบพร้อมแนบสำเนาบัตร ปชช.คู่ไปด้วย ...!?

แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงวันนัดฟังคำพิจารณาของศาล ดิฉันก็ไปตามศาลนัด ซึ่งแม่สามีซึ่งอยู่คนละที่ก็เดินทางไปด้วยโดยไม่รู้มาก่อนว่าท่านจะมา

เมื่อศาลอ่านคำร้องแล้วกำลังจะเสร็จสิ้น ก็ได้ถามว่ามีใครมาบ้าง ดิฉันเลยบอกกับศาล/ปว่า มีแม่ผู้ตายมาด้าย ศาลเลยได้ถามแม่เขาไปว่า มีอะไรจะถามไหม 

ซึ่งเค้าได้บอกกับศาลไปว่า "ขอค้านค่ะ" ซึ่งความหมายที่ค้านของเค้าคือ ค้านเรื่องที่บอกว่าจะยกบ้านหลังนี้ให้ฉันซื่งเปลี่ยนใจแล้ว จะเอาบ้านเองไม่ยกให้ฉัน แล้ว. ศาลก็อธิบายให้แม่เค้าฟังว่า วันนี้ศาลแค่จะแต่งตั้ง ผจก.มรดอย่างเดียว เรื่องบ้านหรือเรื่องเงินไปตกลงกันเองซึ่งแม่เค้าไม่เข้าใจ ศาลเลยหยุด แล้ให้ออกมาคุยกันก่อนหน้าห้องพิจารณาคดี จนตกลงกันได้ว่าให้ฉันเป็น ผจก.มรดกต่อไปตามที่ร้องขอมาต่อศาล ศาลจึงได้ทำการปิดคดีนี้ได้

ที่เครียดตอนนี้คือ บ้านที่ดิฉันอยู่ตอนนี้ซึ่งเคยอยู่กับสามีมาตลอด คิดมาตลอดว่า บ้านยังไงก็บ้านเราเพราะเรามีทะเบียนสมรส ซึ่งแม่สามีก็บอกว่าให้ ยู่บ้านหลังนี้ต่อไป ซึ่งเป็นมรดกชิ้นเดียวที่สามีบอกว่ามอบให้ 

แต่แม่สามีได้กลับคำพูด บอกดิฉันว่า จะเอาบ้าน ไม่ให้บ้านดิฉันแล้ว  เป็นใครก็อึ้ง เสียใจ พูดอะไรไม่ออก ได้แต่บอกออกไปว่า "ทำไมกลับคำพูดแบบนี้หละ แม่รับปากกับพี่เค้าไว้ก่อนตาย แม่บอกทุกคนว่าบ้านยังไง ก็ให้หนูเพราะรับปากลูกไว้ก่อนตาย เพราะเค้าก็สั่งนักสั่งหนาไว้ก่อนตายว่าให้หนู แต่พอมาตอนนี้ แม่จะเอาบ้าน แล้วหนูจะไปอยู่ไหน )บ้านก็ทำส่งมากับสามีตลอด " 

ดิฉันเลยบอกแม่เค้าไป ว่ายังไงดิฉะนก็มีสิทธิ์ที่จะได้บ้านหลังนี้ ถ้าแม่จะเอาหนูก็ไม่ยอมหมือนกัน(ดิฉันทำถูกหรือป่าว) ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็ขายบ้านแล้วแบ่งเงินกัน 

แต่ดิฉันคิดว่า สิทธิ์การเป็นภรรยา สมควรที่จะได้บ้านหลังนี้รึป่าวค่ะ ดิฉันอยากทราบ จะได้รู้ว่าต่อไปจะทำยังไงต่อไปดี ซึ่งเงินต่างๆเช่นเงินประกันสังคม  ก็ได้รับตามกฏหมาย อย่างถูกต้องแล้ว เงินจากบริษัทที่ทำงานที่สามีได้ทำประกันไว้ ทางhr ก็ได้เดินเรื่องให้แม่เค้าเรียบร้อย ล้ว ซึ่งดิฉันก็พลอยได้ส่วนนี้มาบ้างเล็กน้อยตามสิทธิ์ แต่เงินต่างๆจากการทำบุญ การช่วยเหลือต่างๆที่เพื่อนๆสามีดิฉันได้ช่วยกันเพื่อหาเงินมาช่วยในช่วงการรักษา เขาก็ได้นำเงินทั้งหมดให้กับทางแม่สามีไปทั้งหมด ซึ่งจำนวนเงินที่รู้มาก็เจอะพอสมควร(เพื่อนๆได้ช่วยกันทำเสื้อแล้วขายเพื่อนำเงินมาช่วย ในราคา ตัวละ 200 บาท ทราบมาว่าทุกคนในโรงงานซื้อทุกคนเพื่ออยากช่วย คิดดูค่ะว่ายอดเบินที่เค้าให้แม่ไปเป็นจำนวนเยอะแค่ไหน โดนที่ดิฉันไม่ได้เรียกร้องใดๆเลย ฉันรู้มาตลอดว่สแม่สามีไม่ชอบดิฉันมาตั้งแต่แรก ยู่แล้ว เลยไม่ยุ่งอะไรด้วย เขาอยากได้ก็เอาไป 

แต่สิ่งเดียวที่ดิฉันเสียใจคือ เรื่องบ้านที่อยู่ตอนนี้ เค้าก็จะเอาด้วย 

ถ้าดิฉันจะฟ้อง ดิฉันจะมีสิทธิ์ได้บ้านหลังนี้ไหมค่ะ 

มีใครพอจะให้คำปรึกษาดิฉันได้ไหมค่ะ 

ดิฉันเสียค่า ว่าจ้างทนายดำเนินเรื่องที่ขอจัดตั้งตนเป็น ผจก.มรดก ไปแล้ว จำนวนนึง (ดิฉันไม่มีเงินพอจะว่าจ้างทนายมากมายถ้าแพงจนเกินไป)ถ้าจะต้องทำต่อไปในอนาคต จึงอยากปรึกษามาในกระทู้นี้ค่ะ 

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านกระทู้ดิฉัน

ทุกท่านอาจจะเข้าใจว่า "เรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้"

ฉันโดนกับตัวเองแล้วก็วันนี้  คำพูด เชื่อถือไม่ได้ถ้าไม่มีการเซนต์เป็นลายลักษ์อักษร