ลูกชาย อายุ 4.7 ปี เป็นเด็กพูดช้ากว่าวัย ประมาณ1 ปี และมีการฝึกพูดกับครู มาตั้งแต่3 ขวบ 

เริ่มเรื่อง คือ ตอน3ขวบ ไปเรียนอนุบาลหนึ่งอยู่ที่บ้านเรียนแห่งรักและศานติ เรียนได้ปีนึง ก็ย้าย มาเรียนที่เดียวกับพี่ชาย เพื่อความสะดวกในการเดินทางคะ เป็นโรงเรียนสองภาษา ซึ่งผ่านการทดสอบคะ แต่ทางโรงเรียนให้เรียน อนุบาลหนึ่งอีกครั้ง เพราะน้องอ่อนกว่าเพื่อนๆ ก็ย้ายมาเรียนตอนเทอมสองคะ

พอเรียนมาได้สักเดือน ทางผู้ใหญ่ ก็เรียกผู้ปกครองพบคะ สรุปคร่าวๆคือ ลูกช็อก กับการย้ายมาเรียนแบบสองภาษา และมีพฤติกรรม กวนเพื่อนๆในห้อง บ้าง แต่เรื่องอื่นๆคือดี เช่น ช่วยเหลือเพื่อนและตัวเองได้ (บ้านเรียนฯสอนมาดีคะ) ยิ้มแย้ม ไม่ร้องไห้ (ไม่เคยร้องไห้เวลาไปเรียนเลย) ก็ใช้เวลาปรับตัว ก็ดีขึ้น เชื่อฟังครู นั่งตามจุดได้ ลูกก็ดูสนุกสนานนะคะ ไม่กลัวครูฝรั่ง แต่จะมีปัญหาในการพูดเหมือนเดิม เช่น พอพูดพอตอบไม่ได้ ก็เล่นมือ หรือลุกไปจากที่นั่ง (ในวันนั้นมีประโยคเด็ดคือ “บางทีก็คัดผิดได้” จากผู้ใหญ่) ทางโรงเรียนให้คำแนะนำมาให้ทางบ้านดูแล ให้ความรักกับลูกมากขึ้น ให้บอกลูกว่าลูกทำได้ พูดได้ ซึ่งทางบ้านทำเป็นปกติอยู่แล้วคะ (เราพูดกับลูกตอนใกล้หลับ เหมือนไปบอกจิตใต้สำนึกลูกค่ะ)

ผ่านไปจนปลายเทอม ทางผู้ใหญ่เรียกอีกครั้งแต่ไม่ขอพบแม่ จะพบพ่อแทน (5555เดาเหตุผลออกมั๊ยคะ) ผลที่คุณพ่อมาเล่าคือ ลูกไม่สามารถจำตัวหนังสือ เขียนยังไม่ได้ ลากตัวลขไม่ได้ จำตัวเลขไม่ได้ ในขณะที่เพื่อนท่องสุตรคูณแม่หกได้แล้ว บวกเลข เขียนหนังสือ (เป็นแนววิชาการคะ) ซึ่งอันนี้ ทางบ้าน ไม่ได้ซีเรียสแต่แรกคะ เพราะพี่ชายเค้าเรียนแบบบูรณาการมาตอนอนุบาล ก็อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้คะ  แต่สำหรับที่นี้ ถือว่า ไม่ได้คะ  ผู้ใหญ่แนะนำให้ไปหาหมอที่สถาบันจิตเวชคะ....ให้ไปตรวจ LD และพูดเรื่องยาที่ให้ทานแล้วจำได้ 

มาถึงจุดนี้ เราเป็นแม่ เราดูรู้และกังวล อยู่แล้วว่าพัฒนาการลูกช้า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ทางบ้าน คุณตาคุณยาย ทุกๆคนก็ฝึกเค้าอยู่ตลอดคะ พัฒนาการจากช่วง3ขวบ มา4ขวบดีมาก พูดรู้เรื่อง สื่อสารได้ แต่ประโยคไม่สมบูรณ์ พูดไม่ชัดคะ เรื่องการเขียนใดใด เค้าเขียนในแบบเฉพาะ พอไปเรียนก็เขียนได้ดีขึ้น รู้คำภาษาอังกฤษได้เยอะเลยคะ คิดว่าลูกเป็นประเภทจำภาพ มากกว่าการฟังนะคะ

ระหว่างรอไปตรวจที่สถาบันฯ ก็พาไปทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญ แน่นอน พัฒนาช้า แต่ก็ยังอายุน้อยเกินกว่ากว่าสรุป ตอนนี้ไปจองคิวตรวจที่รามาไว้ ได้คิวสิ้นเดือนมีนา

แต่ แต่ แต่ ไม่ทันคะ เมื่อวันก่อน ทางโรงเรียน โทร.มาเบอร์คุณแม่ แต่ขอคุยกับคุณพ่อ (5555ขำอีกครั้ง) ผลครั้งนี้ โทร.มาแจ้งว่า “น้องไม่เหมาะกับโรงเรียน” ถามความคิดเห็นพ่อแม่ ว่าจะเอายังไง เพราะต้องจัดห้องเรียน อารมณ์คิดเอาเอง ว่าแปลว่า ให้ย้ายลูกไปเรียน (วันนี้ยังไม่ได้โทร.ไปบอกผลสรุปคะ)

ในตอนนี้ คิดว่าก็กลับไปที่บ้านเรียนฯ แต่ที่บ้านก็พูดประมาณว่า เด็กเราผิดรึป่าว ให้เด็กเรียนเทอมเดียว ไม่ให้เรียนต่อ ค่าแรกเข้าหล่ะ นี้เราไม่ได้ลาออก ใช่มั๊ย นานาปัญหามากคะ 

ตัวเรา ก็ อยากหาที่เรียนที่เหมาะกับลูก อยากได้โรงเรียนที่เค้าเข้าใจเด็ก มันเป็นปัญหาอยู่แล้ว ถ้าโรงเรียนไม่มีใจอยากจะดูแลเด็กแบบลูกเรา ต่อให้ลูกน่ารัก หรืออารมณ์ดีแค่ไหนก็ตาม แต่จะไปเรียนที่ไหน แบบไหน ในตอนนี้ ที่ไหนก็เต็มแล้วป่ะ....เรื่องนี้แหละคะที่อยากจะขอคำแนะนำ ที่กล่าวมายาวๆๆคือ บ่นคะ....บ้านอยู่แถบรามอินทรา มีนบุรีคะ....และตอนนี้ในใจแม่ ยังสองจิตสองใจ ว่าจะเรียนแบบไม่เร่ง หรือจะเรียนแบบปกติ

ขอบคุณทุกท่านที่อ่าน และให้คำแนะนำล่วงหน้าคะ

#แม่สายอินดี้ #แม่ผมติสท์