The Matrix Really บทที่ ๑๕ . คนนับพันล้านทั่วโลก บูชาสิ่งที่ไม่ควรบูชา .s
.
The Matrix Really
บทที่ ๑๕
คนนับพันล้านทั่วโลก บูชาสิ่งที่ไม่ควรบูชา
แสวงหาในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และดีงาม
สิ่งที่คนเรา
เหล่ามวลมนุษย์
สรรพสัตว์ สิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายทั้งปวง
บนโลกนี้ และทั่วทั้งจักรวาล
สมควรบูชา
ก็คือ
พระเจ้า ( God )
และเหล่าทวยเทพ
ที่คอยปกปักรักษา คุ้มครองโลกของพวกเรา
ให้มีแต่ความสงบร่มเย็น
ไม่ใช่
ซาตาน ( Satan )
และเหล่ามารร้าย
ที่ชอบทำลายล้างโลกของพวกเรา
ให้มีแต่ความวุ่นวายเร่าร้อน
พระเจ้า ( God )
และเหล่าทวยเทพ
ก็คือ
พลังแห่งปัญญา
เป็นความรู้ ( แสงสว่าง ) ที่เกี่ยวกับ ชีวิต
ทำให้
สิ่งที่ดีงามทั้งหลายทั้งปวง
( ความคิด ความเห็น ความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด )
เกิดขึ้นมา
ความรู้นี้ ได้แก่
รู้ถูก รู้ผิด , รู้ดี รู้ชั่ว
รู้สูง รู้ต่ำ , รู้ดำ รู้ขาว , รู้ยาว รู้สั้น
รู้ว่าสิ่งใดสร้างสรรค์ รู้ว่าสิ่งไหนบ่อนทำลาย
รู้ว่าสิ่งใด ที่จะฉุดชีวิตของตน หรือคนที่เรารัก ให้ตกลงไปสู่ความฉิpหาย
รู้ว่าสิ่งไหน ที่จะนำพาชีวิตของตน หรือคนที่เรารัก ให้เจริญรุ่งเรือง
อย่างมั่นคง แข็งแรงและยั่งยืน
เป็นต้น ฯลฯ
ส่วน
ซาตาน ( Satan )
และเหล่ามารร้าย
ก็คือ
อวิชา
เป็นความไม่รู้ ( ความมืด ) ที่เกี่ยวกับชีวิต
ทำให้
สิ่งที่ชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง
( ความคิด ความเห็น ความเข้าใจที่ผิด ไม่ถูกต้อง )
เกิดขึ้นมา
ความไม่รู้นี้ เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับ พลังแห่งปัญญา
( ความรู้ ที่เกี่ยวกับชีวิต ) ทั้งหมด
.........
พระเจ้า ( God )
คือ
พลังแห่งปัญญา
เป็นความรู้ ( แสงสว่าง ) ที่เกี่ยวกับ ชีวิต
ทำให้คนเรา รู้ หน้าที่
มองเห็นสิ่งที่ดี ๆ นั่นก็คือ การเห็นแก่ส่วนรวม
เข้าใจอย่างถูกต้องและถ่องแท้ว่า
คนเราจะเอาแต่ทำตาม สัญชาติญาณสัตว์
คือ แสวงหาความสุข หลีกหนีความทุกข์ ของตนเอง แต่เพียงอย่างเดียว
ไม่ได้ ต้องรู้จักการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และทำเพื่อส่วนรวมด้วย
ส่วน
ซาตาน
คือ
อวิชา
เป็นความไม่รู้ ( ความมืด ) ที่เกี่ยวกับชีวิต
ทำให้คนเราเกิด และตกเป็นทาส อยู่ใต้อำนาจ ของ สัญชาติญาณสัตว์
คือ อยากได้ความสุข เกลียดกลัวความทุกข์
มองเห็นแต่สิ่งที่ไม่ดี นั่นก็คือ การเห็นแก่ตัว
ทำให้คนเราไม่รู้ หน้าที่
ถึงรู้ ก็ไม่อยากจะเห็น
ถึงเห็น ก็ไม่อยากจะสนใจ
ถึงสนใจ แต่จิตใจมันก็ไม่อยากจะทำตาม หน้าที่
ก็เพราะ
จิตใจตกเป็นทาส
อยู่ใต้อำนาจของ สัญชาติญาณสัตว์ ( ความสุข ความสบาย )
คือ ความสุขกับความทุกข์ เห็นความสุขก็อยากได้ เจอความทุกข์ก็เกลียด
กลัว อยู่ร่ำไป
.........
พระเจ้า ( God )
คือ
พลังแห่งปัญญา
เป็นความรู้ ( แสงสว่าง ) ที่เกี่ยวกับ ชีวิต
ทำให้คนเรารู้ เห็น เข้าใจ และปฏิบัติตาม หน้าที่ ต่าง ๆ ของตนเอง
ที่มีอยู่
ได้อย่างถูกต้อง สมบูรณ์ ไม่มีการผิดพลาด
เมื่อคนเราทำตามหน้าที่ของตนเอง
ได้อย่างถูกต้อง สมบูรณ์ ไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นมาแล้ว
ผู้นั้นก็จะกลายเป็นเทพ
ชนิดต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่มากมายหลายรูปแบบ
บนโลกนี้ เช่น เด็ก พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ ทหาร ตำรวจ หมอ ผู้พิพากษา
พ่อค้า นักการเมือง ฯลฯ
ที่คอยช่วยปกปักรักษา คุ้มครองโลกของเรา
ให้มีความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น อยู่ได้ตราบนานเท่านาน
รู้ถึงไหน ก็จะได้รับการยกย่อง
สรรเสริญจากคนดี หมู่มวลมนุษย์และเหล่าทวยเทพผู้มีใจสูงทั้งหลาย
ส่วน
ซาตาน
คือ
อวิชา
เป็นความไม่รู้ ( ความมืด ) ที่เกี่ยวกับชีวิต
ทำให้คนเราไม่รู้
ไม่อยากเห็น ไม่อยากสนใจ ไม่อยากปฏิบัติตาม หน้าที่
ต่าง ๆ ของตนเองที่มีอยู่
คนเราถ้าเอาแต่ทำตาม " สัญชาติญาณสัตว์ "
คือ แสวงหาความสุข หลีกหนีความทุกข์ ของตนเองแต่เพียงอย่างเดียว
โดยไม่รู้หน้าที่ ไม่สนใจสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม
เช่น การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรือทำเพื่อส่วนรวมกันบ้างเลย แล้วล่ะก็
คน ๆ นั้น ก็จะกลายเป็นมารร้าย
ชนิดต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่มากมายหลายรูปแบบ
บนโลกนี้ เช่น เด็ก พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ทหาร ตำรวจ หมอ ผู้พิพากษา
พ่อค้า นักการเมือง ฯลฯ
ที่คอยทำร้าย ทำลายผู้อื่น และโลกของเรา
ให้ได้รับความทุกข์ทรมาณ เดือดร้อน
วุ่นวาย ต่าง ๆ นา ๆ เกิดขึ้นมา ทั่วทุกหย่อมหญ้า
ตัวอย่างเช่น
เด็กที่ตั้งแก๊งไปปล้นจี้ ชิงทรัพย์ ทำร้าย ข่มขืน รุมโทรม หรือฆ่าผู้อื่น
ด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา
พ่อแม่วัยรุ่นเกาหลี ที่เอาแต่เล่นเกมออนไลน์
ไม่สนใจหน้าที่ของพ่อแม่ ไม่เอาใจใส่ดูแลลูกน้อยทารก ที่พึ่งเกิดขึ้นมา
ทำให้ขาดสารอาหารซูบผอม จนเสียชีวิตก่อนหนึ่งขวบ ( ถ้าจำไม่ผิด )
ฯลฯ และอีกมากมาย
ตัวอย่างข้างบนเป็นของเก่า คัดลอกมาจากบทที่ ๑๔
( update ) ข่าวใหม่ล่าสุด
คือ การที่มีผู้หญิงสาวสองสามคน เอากระต่ายน้อยมาฆ่าเล่น
ด้วยวิธีการต่าง ๆ อย่างโหดเหี้ยมทารุณ
และข่าวที่พึ่งเจอวันนี้
( เสาร์ ที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ )
คือ มีผู้ชายจับลูกแมวน้อยสองตัว เอามาใส่ถุงแล้วปิดปากจนตาย
ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาจาก
การไม่รู้ หน้าที่
ไม่สนใจ ในสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม
เช่น การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรือทำเพื่อส่วนรวมกันบ้างเลย
เช่นเดียวกัน
รู้ถึงไหน ก็จะได้รับการด่า คำสาปแช่ง
จากเหล่าประชาชนคนทั่วไป จำนวนมากมาย
ที่คอยไปรุมยำสารพัดสหบาทา และก็กล่าวคำสบถต่าง ๆ นานา
เช่น ไอ่สัdว์นรก ไอ่เดรัจฉาน ชิงหมามาเกิด เป็นต้น ฯลฯ
ไอ่ผู้หญิงผู้ชาย พวกนี้
มันน่าจะไปเป็นพระเอก นางเอกหนังภาพยนตร์ ฟอร์มใหญ่ยักษ์
เรื่องยาว ไตรภาค ทุ่มทุนสร้างอย่างมหาศาล อลังการ ระบบสามมิติ
ดอบี้สเตอริโอ ๑๐ ทิศทาง
ชื่อเรื่องว่า
ภาค ๑ คนไม่ใช่คน ( ต่ำช้า ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน )
ภาค ๒ เลวกว่านี้ มีอีกมั๊ย
ภาค ๓ Jungraiman ( [^_^]แมน )
and woman in the gang ( และผู้หญิงในแก๊ง )
คนเรานั้น เป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีความฉลาดมากกว่าสัตว์อื่น ๆ
สามารถทำดี หรือทำชั่ว ได้เก่งมากกว่าสัตว์ใด ๆ ทั้งหลาย ทั้งปวงบนโลกนี้
ถ้าทำดีก็สูงส่งยิ่งใหญ่ได้ราวกับเทพ
มีจิตใจที่สูงส่งยิ่งใหญ่ได้ ประดุจดั่ง พระเจ้า
( อยู่เหนือความสุข และความทุกข์ ทั้งหลายทั้งปวง คือ ความบริสุทธิ์
สะอาด สงบ ร่มเย็น ได้ตลอดกาล ตลอดไป )
ถ้าทำชั่ว หรือสิ่งที่ไม่ดี ก็สามารถมีการกระทำและจิตใจ ที่ต่ำช้า หรือ
เลวทรามได้มากกว่าสัตว์เดรัจฉานทั้งหลายทั้งปวง นับสิบ ร้อย พันเท่า
ฯลฯ
.........
Free TextEditor ลืมบอกไปว่า พื้นที่แสดงเนื้อหาไม่พอ ต้องต่อไปยังความคิดเห็นด้านล่าง
๑๗ นาฬิ กา ห้าสิบห้านาที . ๕๕ วินาที
Free TextEditor
พระเจ้า ( God )
และเหล่าทวยเทพ
ก็คือ
พลังแห่งปัญญา
เป็นความรู้ ( แสงสว่าง ) ที่เกี่ยวกับ ชีวิต
ทำให้
สิ่งที่ดีงามทั้งหลายทั้งปวง
( ความคิด ความเห็น ความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด )
เกิดขึ้นมา
ทำให้คนเรา รู้ เห็น เข้าใจ
และ ปฏิบัติตาม
หน้าที่ ( ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น )
มีความสุขก็ได้ มีความลำบากก็ไม่เป็นไร
มองเห็นสิ่งที่ดี ๆ
นั่นก็คือ
การเห็นแก่ส่วนรวม
มากกว่าประโยชน์สุขส่วนตัว
คอยปกปัก รักษา
ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น
ทั้งทางร่างกาย และทางจิตใจ ให้มีอยู่ได้ตลอดกาล ตลอดไป
ส่วน
ซาตาน ( Satan )
และเหล่ามารร้าย
ก็คือ
อวิชา
เป็นความไม่รู้ ( ความมืด ) ที่เกี่ยวกับชีวิต
ทำให้
สิ่งที่ชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง
( ความคิด ความเห็น ความเข้าใจที่ผิดไม่ถูกต้อง )
เกิดขึ้นมา
ทำให้คนเราเกิด และตกเป็นทาส
อยู่ใต้อำนาจของ
สัญชาติญาณสัตว์ ( ความสุข ความสบาย )
คือ อยากได้ความสุข เกลียดกลัวความทุกข์
มองเห็นแต่สิ่งที่ไม่ดี
นั่นก็คือ
การเห็นแก่ตัว
มากกว่าความสงบร่มเย็นของส่วนรวม
คอยสร้าง
ขุ่นมัว สกปรก วุ่นวาย เร่าร้อน
ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ให้เกิดขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา
กล่าวโดยย่อ
ได้ดังนี้
ก็คือ
พระเจ้า ( God )
ทำให้คนเรา รู้ เห็น เข้าใจ
และปฏิบัติตาม
หน้าที่ ( ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น )
มีความสุขก็ได้ มีความลำบากก็ไม่เป็นไร
เห็นแก่ส่วนรวม
ซาตาน ( Satan )
ทำให้คนเราเกิด และตกเป็นทาส
อยู่ใต้อำนาจของ
สัญชาติญาณสัตว์ ( ความสุข ความสบาย )
คือ อยากได้ความสุข เกลียดกลัวความทุกข์
เห็นแก่ตัว
๒ สิ่งนี้
พระเจ้า กับ ซาตาน
การปฏิบัติตาม หน้าที่ ( ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น )
กับการ
ตกเป็นทาสของ สัญชาติญาณสัตว์ ( ความสุข ความสบาย )
การเห็นแก่ส่วนรวม กับ การเห็นแก่ตัว
สิ่งใดถูก สิ่งไหนผิด
สิ่งใดดี สิ่งไหนชั่ว , สิ่งใดสูง สิ่งไหนต่ำ , สิ่งใดดำ สิ่งไหนขาว ,
สิ่งใดยาว สิ่งไหนสั้น , สิ่งใดสร้างสรรค์ สิ่งไหนบ่อนทำลาย
สิ่งใดที่จะฉุดชีวิตของตน
หรือคนที่เรารัก ให้ตกลงไปประสบ พบกับความฉิpหาย
สิ่งไหนที่จะยกระดับชีวิตของตน
หรือคนที่เรารัก ให้เจริญรุ่งเรือง อย่างมั่นคง แข็งแรง และยั่งยืน
เป็นเรื่องที่คนเรา
สามารถพิจารณาตัดสิน และเข้าใจกันได้ไม่ยากว่า
การเห็นแก่ส่วนรวม เป็นสิ่งที่ถูก การเห็นแก่ตัว เป็นสิ่งที่ผิด
การเห็นแก่ส่วนรวม เป็นสิ่งที่ดี การเห็นแก่ตัว เป็นสิ่งที่ชั่ว
การเห็นแก่ส่วนรวม คือ การกระทำที่สูงส่งยิ่งใหญ่
การเห็นแก่ตัว เป็น การกระทำที่ต่ำช้าเลวทราม
การเห็นแก่ตัว ทำให้จิตใจมืดดำ สกปรก ขุ่นมัว วุ่นวาย เร่าร้อน
การเห็นแก่ส่วนรวม ทำให้จิตใจขาว สะอาด สดใส สงบ ร่มเย็น
คนเรารู้จักการปฏิบัติตาม
หน้าที่ ( ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น )
มีความสุขก็ได้ มีความลำบากก็ไม่เป็นไร
ก็เพราะมีปัญญา คือ วิสัยทรรศน์ที่กว้างขวางยาวไกล
คนเราเอาแต่ตกเป็นทาส ทำตาม
สัญชาติญาณสัตว์ ( แสวงหาแต่ความสุขความสบาย )
คือ อยากได้ความสุข เกลียดกลัวความทุกข์
ก็เพราะไม่มีปัญญา คือ อวิชชา เป็นวิสัยทรรศน์ ที่คับแคบ สั้นจุ๊ดจู๋
การเห็นแก่ส่วนรวม
ทำเพื่อส่วนรวม
เป็นการกระทำที่สร้างสรรค์
คอยช่วยเหลือค้ำจุนโลกของเรา ให้มีแต่ความสงบร่มเย็น
การเห็นแก่ตัว
ทำเพื่อตนเอง ( แต่เพียงอย่างเดียว )
เป็นการกระทำที่คอยบั่นทอน
บ่อนทำลายโลกของเรา ให้มีความวุ่นวาย เดือดร้อน เกิดขึ้นมา
ทั่วทุกหย่อมหญ้า
การเอาแต่ตกเป็นทาส
ทำตาม สัญชาติญาณสัตว์ ( แสวงหาแต่ความสุขความสบาย )
โดยไม่สนใจ หน้าที่
ไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม
เป็นสิ่งที่จะฉุดชีวิตของตน
หรือคนที่เรารัก ให้ตกลงไปประสบ พบกับความฉิpหาย
การรู้ เห็น เข้าใจ
และปฏิบัติตาม หน้าที่ ( ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น )
มากกว่าทำตาม สัญชาติญาณสัตว์
ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม
เป็นสิ่งที่ยกระดับชีวิตของตน
หรือคนที่เรารัก ให้เจริญรุ่งเรือง อย่างมั่นคง แข็งแรง และยั่งยืน
สิ่งที่คนเราเหล่ามวลมนุษย์
ทั้งหลายทั้งปวง ทั่วทั้งบนโลกของเรานี้
สมควรยกย่อง เทิดทูน บูชา
และ แสวงหาตลอดทั้งชีวิตของตน
ก็คือ
หน้าที่ ( ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น )
มีความสุขก็ได้ มีความลำบากก็ไม่เป็นไร
การเห็นแก่ส่วนรวม
ไม่ใช่
สัญชาติญาณสัตว์ ( ความสุข ความสบาย )
คือ อยากได้ความสุข เกลียดกลัวความทุกข์
การเห็นแก่ตัว
แต่ทำไม ???
ผมเห็นคนจำนวนมากมาย
นับพันล้านคน ทั่วทั้งบนโลกของเรานี้ รู้จัก สนใจ มองเห็น บูชา
แสวงหา และพูดถึง แต่ ความสุข กันทั้งหมด
ผมไม่ค่อยเห็นผู้ใด ที่จะรู้จัก สนใจ มองเห็น บูชา แสวงหา
หรือพูดถึง ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น
ซึ่งก็คือ หน้าที่
เหมือนกับอาจารย์ของผม
ซึ่งเป็นนักปราชญ์ ที่ได้รับการยอมรับ ยกย่องในระดับโลก
กันบ้างเลย
แต่ความจริงแล้ว
มันก็เป็นเรื่องธรรมดา
ไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดอะไร
ซึ่งมันก็เป็นเพราะว่า
...
The Matrix Really
บทที่ ๑๖
coming soon
พบกันได้ที่นี่ เร็ว ๆ นี้ ( ถ้าไม่ถูกลบไปเสียก่อน )
ก็สามารถไปหาดูได้ที่ห้องสมุด ( ปรัชญา ) , ศาสนา และ เฉลิมไทย
หรือที่บล๊อคแก๊งของผม จะมีน้อยกว่าที่พันทิปอยู่ ๑ บท
ถ้าพันทิปห้องต่าง ๆ ถึงบทที่ ๑๖ ในบล๊อคก็จะมีถึงแค่ บทที่ ๑๕
ดังนี้ เป็นต้น
Free TextEditor