Group Blog
พฤษภาคม 2554

2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
The Matrix Really บทที่ ๑๗ ยาเสพติด ที่ซาตานสร้างขึ้น เพื่อมอมเมาเหล่ามวลมนุษย์ ... T

.
                             The Matrix Really

                                   บทที่ ๑๗

                                 " ยาเสพติด "

                             ที่ซาตานสร้างขึ้นมา

                        เพื่อมอมเมาเหล่ามวลมนุษย์


                         
                           ความสุข ( ความสบาย )

                ทั้งหลายทั้งปวงบนโลกนี้ และทั่วทั้งจักรวาล

                                เป็นสิ่งที่ซาตาน

                      เหล่าความมืดสิ่งที่ชั่วร้ายทั้งหลาย

                                   สร้างขึ้นมา

                          เพื่อมอมเมาเหล่ามวลมนุษย์

                                ให้ลุ่มหลงมัวเมา

                      และตกเป็นทาสของมัน ( ยาเสพติด )

                   คือ " ความสุข " ( ความสบาย ) ทั้งหลาย

                  จะได้เกิดความวุ่นวาย เร่าร้อน ทั้งปวงขึ้นมา

                           ในจิตใจของเหล่ามวลมนุษย์

           เพราะว่า อย่างที่ได้กล่าวเอาไว้ในบทที่ผ่านมา เช่น บทที่ ๙

                      ว่า ... เหล่าความมืด สิ่งที่ชั่วร้ายทั้งหลาย

 ได้ดูดกิน พลังงานความเร่าร้อน ที่เกิดขึ้นมาในจิตใจของเหล่ามวลมนุษย์

             และสรรพสัตว์สิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายทั้งปวง เป็นอาหาร

                                     เพราะฉนั้น

                        ยิ่งเหล่ามวลมนุษย์ ลุ่มหลงมัวเมา

                          ตกเป็นทาส ของ " ยาเสพติด "

   คือ ความสุข ( ความสบาย่ ) ทั้งหลายทั้งปวง ที่พวกมันได้สร้างขึ้นมา

                                 เป็น " เหยื่อ " ล่อ

                                    มากเท่าไหร่

              ก็จะเกิดความวุ่นวาย เร่าร้อนต่าง ๆ ทั้งหลายทั้งปวง

                         เพิ่มสูงขึ้นมาในจิตใจของตนเอง
   
                         มากยิ่งขึ้นไป ตามไปด้วยเท่านั้น

                                 เมื่อพวกซาตาน

              เหล่าความมืด สิ่งที่ชั่วร้ายทั้งหลาย ได้เห็นดังนี้แล้ว

           ก็จะแอบน้ำลายไหล หยดลงมาแหมะ ๆ ๆ ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง

                                      เพราะว่า

           " ความเร่าร้อน " ที่เกิดขึ้นมาในจิตใจของเหล่ามวลมนุษย์

                         และสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายทั้งปวง

                    คือ " อาหาร " เลิศรส ชั้นดี ของพวกมัน

                                       .........


                             ฉุดรั้งจิตใจของสรรพสัตว์

                                 ไม่ให้ลอยขึ้นสู่ที่สูง
                                 
                                         ก็คือ



                                        คนเรา
                                     
                           ตามธรรมดา โดยธรรมชาติแล้ว
                     
                               จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
                 
                          ใจเป็นของเบา กายเป็นของหนัก

                       จิตใจเป็นของสูง ร่างกายเป็นของต่ำ

         กายาตกอยู่ใต้อำนาจของความมืดดำ ( เกิด แก่ เจ็บ ตาย )

                         จิตใจ เป็นสิ่งที่ ขาว สว่าง สดใส

              บริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น ตลอดกาล ตลอดไป

                                      .........

                                     แต่การที่

      จิตใจเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง ( จากความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง )

                     ตกร่วงหล่น ลงจากที่สูง ไหลไปสู่ที่ต่ำ

                        ก็เพราะถูกปกคลุมด้วยความมืดดำ

                     คือ อวิชา เป็นความไม่รู้ ที่เกี่ยวกับชีวิต

                         เช่น ไม่รู้ถูก ไม่รู้ผิด ไม่รู้ดี ไม่รู้ชั่ว

               ไม่รู้สูง ไม่รู้ต่ำ ไม่รู้ดำ ไม่รู้ขาว ไม่รู้ยาว ไม่รู้สั้น

                  ไม่รู้ว่าสิ่งใดสร้างสรรค์ สิ่งไหนบ่อนทำลาย

              สิ่งใดจะฉุดชีวิตของตน ให้ตกลงไปสู่ความฉิpหาย

         สิ่งไหนนำพาชีวิตของตัวเองหรือคนที่เรารัก ให้เจริญรุ่งเรือง



                     ก้าวหน้า อย่างมั่นคงแข็งแรง และยั่งยืน

                                     เป็นต้น ฯลฯ

                                           @                      

                  จึงทำให้ ( จิตใจซึ่งเป็น ) นาย กลายเป็นบ่าว

                   ( จิตใจซึ่งเป็น ) เจ้า ( นาย ) กลายเป็นทาส

    ตกอยู่ใต้อำนาจของความต้องการทางร่างกาย ( สัญชาติญาณสัตว์ )

                   คือ อยากได้ความสุข เกลียดกลัวความทุกข์

                                จิตใจซึ่งเป็นของเบา



                                เป็นสิ่งที่สูงส่งยิ่งใหญ่



                         ไม่มีรูปร่าง ไม่มีตัวตน ( ที่แท้จริง )



                              เป็นสิ่งที่ขาว สว่าง สดใส

               บริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น ตลอดกาล ตลอดไป

                                จึงกลายเป็นของที่หนัก 

   มีสภาพคล้ายของเหลว คือ " น้ำ " ตกร่วงหล่น ลงจากที่สูง ไหลไปสู่ที่ต่ำ

                             ในแม่น้ำ มหาสมุทรที่มืดดำ

                        ที่อยู่ของสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายทั้งปวง

                           ( บนโลกนี้ และทั่วทั้งจักรวาล )

                                        ซึ่งก็คือ

                                  " แม่น้ำแห่งชีวิต "

                                        .........

                ชีวิตทั้งหลายทั้งปวงบนโลกนี้ และทั่วทั้งจักรวาล

                     ถึอกำเนิด วิวัฒนาการเกิดขึ้นมาจากในน้ำ

             เริ่มจากสิ่งที่มีชีวิตเล็ก ๆ ซึ่งมองไม่เห็น เช่น แบคทีเรีย

                      กลายเป็นสัตว์ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ปลา

                  วิวัฒนาการขึ้นมาบนบก กลายเป็นคนได้ในที่สุด

                                 " ที่ใดมีน้ำที่นั่นมีชีวิต "

    ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แห้งแล้งยากลำบาก หรือเลวร้ายมากมายเพียงใด 

             บนโลกนี้ ถ้าที่ใดมีน้ำ ที่นั่นจะมีชีวิตอาศัยอยู่ด้วยเสมอ

                             ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก

      ได้ไปนำน้ำในที่แห้งแล้งกันดารมาก ๆ มาสำรวจวิเคราะห์พิสูจน์ดู

ก็ได้พบสิ่งที่มีชีวิตเล็ก ๆ ซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เช่น แบคทีเรีย อาศัยอยู่

                                      เป็นจำนวนมาก

                        ซึ่งเหล่านักวิทยาศาสตร์ชั้นนำทั่วโลก
                 
     ก็ยังทำการพิสูจน์สืบหา ค้นคว้าวิเคราะห์วิจัยกันอยู่ มานานมากแล้ว

  ว่า น้ำบนโลก มาจากไหน ซึ่งที่ผมจำได้อย่างหนึ่ง ก็คือ เค้าสันนิษฐาน

   กันว่า มันจากนอกโลก ในอวกาศ ตกลงมายังผืนดิน บนพื้นพิภพแห่งนี้ 



                            พร้อมกันกับ " ลูกอุกาบาต "



             ( จากการดูสารคดีพวกมิติโลกหลังเที่ยงคืนทางทีวีไทย 

   ซึ่งโชคดีบังเอิญ ได้เจออยู่หลายชุด ชุดนี้ ดีวีดี ๔ แผ่น มั๊ง รวมทุกตอน



                                  ให้เลือกดูเอา )

                                        .........

                                  ย้อนกลับมาที่เรื่อง

                                  " แม่น้ำแห่งชีวิต "

                               เมื่อจิตใจซึ่งเป็นของเบา



                                เป็นสิ่งที่สูงส่งยิ่งใหญ่



                              ถูกปกคลุมด้วยความมืดดำ 
         
      ซึ่งมาพร้อมกับสิ่งที่ลวงตา และอวิชา ซึ่งเป็นความไม่รู้ ที่เกี่ยวกับชีวิต

                  จึงทำให้ ( จิตใจซึ่งเป็น ) นาย กลายเป็นบ่าว

                   ( จิตใจซึ่งเป็น ) เจ้า ( นาย ) กลายเป็นทาส

    ตกอยู่ใต้อำนาจของความต้องการทางร่างกาย ( สัญชาติญาณสัตว์ )

                    คือ อยากได้ความสุข เกลียดกลัวความทุกข์

     ทำให้จิตใจเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง จากความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง



    ( ที่มีอยู่มากมาย หลากหลาย นานาชนิด นานัปการ สารพัดรูปแบบ )

 มีสภาพคล้ายของเหลว คือ น้ำ ซึ่งตกร่วงหล่น ลงจากที่สูง ไหลไปสู่ที่ต่ำ

                            ในแม่น้ำ มหาสมุทรที่มืดดำ

                       ที่อยู่ของสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายทั้งปวง

                          ( บนโลกนี้ และทั่วทั้งจักรวาล )

                                       ซึ่งก็คือ

                                 " แม่น้ำแห่งชีวิต "

               จิตใจดวงจิตทั้งหลาย ก็จึงได้ค่อย ๆ ก่อร่างสร้างตัว

                ถือกำเนิดเกิดขึ้นมาเป็นสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายทั้งปวง



                     อยู่ในมหาสมุทรที่มืดดำ ( ไปด้วยอวิชา )



                             คือ ความไม่รู้ที่เกี่ยวกับชีวิต



        ( ไม่รู้ว่าตัวเองเกิดมาจากไหน ก่อนที่จะกำเนิดเราเคยเป็นใคร



                ด้วยเหตุผลใด ทำไมคนเราจึงเกิดมาแตกต่างกัน 



            บางคนหน้าตาดี บางคนขี้เหร่ บางคนรวย หลายคนจน



      บางคนโรคมาก บางคนโรคน้อย บางคนโชคดี หลายคนโชคร้าย



          ไม่รู้ว่าเมื่อได้ตายลงไปแล้ว พวกเราจะไปอยู่ที่ไหนกันต่อไป



                           ก็ได้แต่เชื่อกันไปต่าง ๆ นา ๆ



        ตามแต่ศาสนา หรือลัทธิต่าง ๆ ที่ตนเองได้เคารพนับถือกันอยู่ )



       จิตใจของสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายทั้งปวง ซึ่งมีสภาพเหมือนกับ " น้ำ "



                 ก็ไหลวนหมุนเวียน เป็นวงจร " วัฏจักรแห่งชีวิต "



               ไปตามกระแสแห่ง " ตัณหา " ( ความทะยานอยาก )



                            ซึ่งก็เป็น " สัญชาติญาณสัตว์ "



                     คือ อยากได้ความสุข เกลียดกลัวความทุกข์



           ทำทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่าง ในชีวิต ตลอดทั้งชีวิตของตนเอง



                 เพื่อแสวงหาความสุข หลีกหนีความทุกข์อยู่ร่ำไป



                              ด้วยกันเกือบทั้งหมดทั้งสิ้น



                   เวียนว่ายตายเกิด อยู่ในแม่น้ำมหาสมุทรแห่งนี้



              นับพัน หมื่น แสน ล้าน ปี ไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด



                            ตราบจนถึงปัจจุบันนี้ กันนั่นเอง



                                            .....



                                    บทความด้านบนนี้ 



                เป็นเรื่องราวอธิบายขยายความเนื้อหาของบทที่ ๑๖



                    ซึ่งเป็นเพียงบทร่าง ที่ได้กล่าวขึ้นมาเพียงย่อ ๆ



                             ใน The Matrix Really บทที่ ๑๘



                ก็จะเป็นชื่อเรื่องใหม่ ซึ่งจะได้นำเอาบทความด้านล่าง



                        ซึ่งเป็นเนื้อหาของบทที่ ๑๖ มาขยายความ



                             ให้กับท่านผู้ชมทั้งหลาย ได้เข้าใจ



                             อย่างละเอียด ถ่องแท้ โดยสมบูรณ์



                                        กันต่อไป ในที่สุด



                                                .....



                                บทความเก่า



                                ของบทที่ ๑๖
                                          
                  หลอกลวงสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายทั้งปวง

                       บนโลกนี้ และทั่วทั้งจักรวาล

                           ให้ตกเป็นทาสของมัน

                                     .....

                                                                                             
                              พระเจ้า ( God )

                        ทำให้คนเรา รู้ เห็น เข้าใจ

                              และปฏิบัติตาม

              หน้าที่ ( ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น )

                มีความสุขก็ได้ มีความลำบากก็ไม่เป็นไร

                             “ เห็นแก่ส่วนรวม ”

                                     
                              ซาตาน ( Satan )

                      ทำให้คนเราเกิด และตกเป็นทาส

                              อยู่ใต้อำนาจของ

             “ สัญชาติญาณสัตว์ ” ( ความสุข ความสบาย )

               คือ อยากได้ความสุข เกลียดกลัวความทุกข์

                                 “ เห็นแก่ตัว ”

                                      .....

  “ การเห็นแก่ส่วนรวม ” เป็นสิ่งที่ถูก “ การเห็นแก่ตัว ” เป็นสิ่งที่ผิด

                          แต่ที่คนจำนวนมากมาย

                        นับหลายร้อยล้านคนทั่วโลก

                   มักเห็นแก่ตัว มากกว่าเห็นแก่ส่วนรวม

                                    ก็เพราะ

                           ความสุข ( ความสบาย )

   “ การเห็นแก่ส่วนรวม ” เป็นสิ่งที่ดี “ การเห็นแก่ตัว ” เป็นสิ่งที่ชั่ว

                          แต่ที่คนจำนวนมากมาย

                        นับหลายร้อยล้านคนทั่วโลก

                   มักเห็นแก่ตัว มากกว่าเห็นแก่ส่วนรวม

                                    ก็เพราะ

                          ความสุข ( ความสบาย )

                           “ การทำเพื่อส่วนรวม "

 เห็นแก่ความสงบร่มเย็นของส่วนรวม มากกว่าประโยชน์สุขส่วนตัว

                       คือ การกระทำที่สูงส่งยิ่งใหญ่
             
                            " การทำเพื่อตัวเอง "

 เห็นแก่ประโยชน์สุขส่วนตัว มากกว่าความสงบร่มเย็นของส่วนรวม

                     เป็น การกระทำที่ต่ำช้าเลวทราม
                 
                          แต่ที่คนจำนวนมากมาย

                        นับหลายร้อยล้านคนทั่วโลก

                มักทำเพื่อตัวเอง มากกว่าทำเพื่อส่วนรวม

                                    ก็เพราะ

                          ความสุข ( ความสบาย )    

 “ การเห็นแก่ตัว ” ทำให้จิตใจมืดดำ ขุ่นมัว สกปรก วุ่นวาย เร่าร้อน

“ การเห็นแก่ส่วนรวม ” ทำให้จิตใจขาวสว่าง บริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น

                          แต่ที่คนจำนวนมากมาย

                        นับหลายร้อยล้านคนทั่วโลก

                   มักเห็นแก่ตัว มากกว่าเห็นแก่ส่วนรวม

                                    ก็เพราะ

                           ความสุข ( ความสบาย )

                                      .....

                          คนเรารู้จักการปฏิบัติตาม

             “ หน้าที่ ” ( ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น )

                 มีความสุขก็ได้ มีความลำบากก็ไม่เป็นไร

          ก็เพราะมีปัญญา คือ วิสัยทรรศน์ที่กว้างขวางยาวไกล

                         มีความรู้ที่สั่งสมมาจากอดีต

                  มองเห็นถึงผลของการกระทำในปัจจุบัน

                 ที่จะเกิดขึ้นมาในอนาคต ทั้งใกล้และไกล

                      คนเราเอาแต่ตกเป็นทาส ทำตาม

  “ สัญชาติญาณสัตว์ ” ( อยากได้ความสุข เกลียดกลัวความทุกข์ )

                       แสวงหาแต่ความสุขความสบาย

  ก็เพราะไม่มีปัญญา คือ อวิชชา เป็นวิสัยทรรศน์ ที่คับแคบ สั้นจุ๊ดจู๋

            ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่สนใจความรู้ ที่สั่งสมมาจากอดีต

       มองเห็นแต่ความสุข ความสบาย ที่เกิดขึ้นมีอยู่ในปัจจุบัน

    ไม่สนใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้น มีตามมาในอนาคต ทั้งใกล้หรือไกล

                                    .........


                          “ การทำเพื่อส่วนรวม "

 เห็นแก่ความสงบร่มเย็นของส่วนรวม มากกว่าประโยชน์สุขส่วนตัว

                        เป็นการกระทำที่สร้างสรรค์

      คอยช่วยเหลือค้ำจุนโลกของเรา ให้มีแต่ความสงบร่มเย็น

                            " การทำเพื่อตัวเอง "

 เห็นแก่ประโยชน์สุขส่วนตัว มากกว่าความสงบร่มเย็นของส่วนรวม

                        เป็นการกระทำที่คอยบั่นทอน

   บ่อนทำลายโลกของเรา ให้มีความวุ่นวาย เดือดร้อน เกิดขึ้นมา

                               ทั่วทุกหย่อมหญ้า

                           แต่ที่คนจำนวนมากมาย

                         นับหลายร้อยล้านคนทั่วโลก

                 มักทำเพื่อตัวเอง มากกว่าทำเพื่อส่วนรวม

                                     ก็เพราะ

                           ความสุข ( ความสบาย )    

                                       .....


                         การเอาแต่ตกเป็นทาส

ทำตาม “ สัญชาติญาณสัตว์ ” ( อยากได้ความสุข เกลียดกลัวความทุกข์ )

               แสวงหาเสพสัมผัสแต่ความสุขความสบาย

    โดยไม่สนใจ “ หน้าที่ ” ( ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น )

             มีความสุขก็ได้ มีความยากลำบากก็ไม่เป็นไร

                   ไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม

                        เป็นสิ่งที่จะฉุดชีวิตของตน

        หรือคนที่เรารัก ให้ตกลงไปประสบ พบกับความฉิpหาย

                             การรู้ เห็น เข้าใจ

   และปฏิบัติตาม “ หน้าที่ ” ( ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น )

                 มากกว่าทำตาม “ สัญชาติญาณสัตว์ ”

                     ปฏิบัติแต่สิ่งที่ถูกต้องและดีงาม

                       เป็นสิ่งที่ยกระดับชีวิตของตน

   หรือคนที่เรารัก ให้เจริญรุ่งเรือง อย่างมั่นคง แข็งแรง และยั่งยืน

                                   .........


              หน้าที่ ( ความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น )

                มีความสุขก็ได้ มีความลำบากก็ไม่เป็นไร

                             " เห็นแก่ส่วนรวม "

    สัญชาติญาณสัตว์ ( อยากได้ความสุข เกลียดกลัวความทุกข์ )

                     แสวงหาแต่ความสุข ความสบาย

                                 " เห็นแก่ตัว "

                                       .....
                   
             หน้าที่สร้างคน สัญชาติญาณสัตว์ทำลายคน

     หน้าที่ทำให้คนมีคุณค่า สัญชาติญาณสัตว์ทำให้คนไร้ราคา

             หน้าที่หล่อหลอมคนให้แข็งแกร่ง และยิ่งใหญ่

        สัญชาติญาณสัตว์ทำให้ชีวิตคนเหลวแหลก และตกต่ำ

 หน้าที่เป็นสิ่งที่สามารถค้ำชูโลกของเรา ให้มีแต่ความสงบร่มเย็นได้

         สัญชาติญาณสัตว์เป็นสิ่งที่คอยบ่อนทำลายโลกของเรา

                   ให้มีแต่ความวุ่นวายเร่าร้อนต่าง ๆ นา ๆ

                 สารพัดรูปแบบ เกิดขึ้นมาทั่วทุกหย่อมหญ้า


                                       .....


                 บทความที่ ๑๖ นี้ ยังไม่ได้จบโดยสมบูรณ์

             เป็นเพียงบทร่าง ที่ผมพิมพ์ขึ้นมาคร่าว ๆ เท่านั้น

                   ส่งมาให้ท่านที่สนใจอ่านเล่น ๆ กันก่อน





                         ไม่มีรูปร่าง ไม่มีตัวตน ( ที่แท้จริง )



                              เป็นสิ่งที่ขาว สว่าง สดใส

               บริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น ตลอดกาล ตลอดไป






Free TextEditor



Create Date : 01 พฤษภาคม 2554
Last Update : 1 พฤษภาคม 2554 19:42:34 น.
Counter : 476 Pageviews.

1 comments
  
เยีี่ยมชมบล็อก ซ: D
โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 1 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:45:56 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

samma
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]