กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
 
ธันวาคม 2564
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
space
space
20 ธันวาคม 2564
space
space
space

ความเป็นมาของศาสนาต่างๆ (จบ)


    เมื่อวานนี้ เมื่อพูดจบแล้วพระรูปหนึ่งถามว่า ที่บ้านมีพระพุทธรูป เขาถือว่าพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ จะได้คุ้มครองรักษา เมื่อฟังหลวงพ่อแล้วไม่ตรงกัน ความศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่มีหรือ ?
อยากจะตอบให้เข้าใจว่า ความศักดิ์สิทธิ์นั้นมีอยู่ในใจ เรานึกเราคิดขึ้นเอง ไม่ใช่เกี่ยวเนื่องด้วยวัตถุ แต่เกี่ยวเนื่องด้วยจิตใจ เราสร้างขึ้น นึกขึ้น ว่าสิ่งนั้นศักดิ์สิทธิ์ สิ่งนั้น เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เราสร้างมันขึ้นในใจของเรา  ความจริงนั้น ที่เขาว่ามีพระอยู่ในบ้านจะได้คุ้มครองนั้น เขาพูดภาษาคนธรรมดา ไม่ใช่พูดภาษาธรรมะ

ถ้าพูดตามภาษาธรรมะ ก็ต้องพูดว่า พระที่จะคุ้มครองเรานั้น ไม่ใช่องค์วัตถุที่เรามี แต่หมายถึงธรรมะที่เราเอามาปฏิบัติ   ถ้าเราปฏิบัติธรรม ก็เรียกได้ว่าเรามีธรรมะคุ้มครอง พ่อบ้านปฏิบัติธรรม แม่บ้านปฏิบัติธรรม ลูกบ้านปฏิบัติธรรม เรียกว่า บ้านนั้น อยู่กับพระ

ถ้าเราไม่ปฏิบัติธรรมะ เราก็ไม่ได้อยู่กับพระ ไม่ว่าเราจะมีพระพุทธรูปเชียงแสน สุโขทัย อู่ทอง ที่เขาเรียกว่าพระสามองค์นี้ ที่อยู่บ้านไหนแล้วดีนักหนา เพราะฉะนั้น ตามบ้านต้องหาพระเชียงแสน สุโขทัย อู่ทอง สามองค์มาเรียงไว้ ซึ่งเขาว่าดี ดังนี้ ก็ตาม

ที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ใช่ดีตรงมีพระเชียงแสน สุโขทัย อู่ทอง แต่ดีตรงที่ว่าเรามีพระอยู่ในใจของเรา เราเป็นผู้ประพฤติธรรมะ เราอยู่ในระเบียบวินัย เคารพศีลธรรมในทางศาสนา เคารพกฎหมายของบ้านเมือง เคารพประเพณีอันดีงาม นั่นแหละองค์พระแท้ องค์พระแท้ก็คือองค์ธรรมะที่เราเอามาปฏิบัตินั่นเอง

แต่ที่เรามีพระไว้ก็เป็นเครื่องเตือนใจ  เราเป็นคนขี้หลงขี้ลืม คือมีอะไรไว้เตือนๆหน่อย มองๆเห็นหลวงพ่อก็คิดว่า อื้อ พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้อย่างไร เราเวลานี้ เป็นอย่างไร ต้องปฏิบัติตนตามคำสอนของพระองค์ท่านจึงจะปลอดภัย
 

    การคุ้มครองของพระอยู่ที่เราคุ้มครองตนเองด้วยธรรมะ พูดง่ายๆว่า พระจะรักษาเรา เมื่อเรารักษาพระ ถ้าเราไม่รักษาพระ พระจะรักษาเราได้อย่างไร “รักษาพระ” หมายความว่า รักษาคุณงามความดีไว้ในใจ มีธรรมะประจำใจ ถ้าเรามีธรรมะก็เรียกว่า เรามีพระ ขาดธรรมะ ก็ไม่มีพระ

ใจของเราถ้าไม่มีพระ ก็มีผีแหละ อยู่เฉยๆไม่ได้ดอก พอมีผีแล้วมันก็ยุ่ง เพราะฉะนั้นให้มีพระไว้ สร้างพระในใจ สร้างพระไว้ข้างใน มีพระข้างในได้อานิสงส์มาก

พระข้างนอก เวลานี้เต็มบ้านเต็มเมือง คนขโมยลักกันเหลือเกินแล้ว นี่เมื่อเช้ายังอ่านหนังสือพิมพ์ มีหลวงพ่อองค์หนึ่ง ขโมยเข้าไปรัดคอตาย แล้วไม่ใช่ตายเฉยๆ แทงเอาอีก เลือดทะลัก แล้วก็นอนอยู่ไม่มีใครรู้ ตื่นเช้าพระเข้าไปในวิหาร จึงได้เห็น พระพุทธรูปสามองค์มีค่าหายไปด้วย เป็นเวรเป็นกรรมที่ไปนั่งเฝ้าพระพุทธรูปอยู่ เอาไปเลย เพราะคนมันนิยมในวัตถุ เขาเอาวัตถุไปขาย ไม่ใช่เอาพระไปขาย

แล้วก็ที่วัดมงกุฎ ฯ มีท่านมหาอยู่องค์หนึ่ง มีพระมากราคาหลายล้าน อวดแขกบ่อย แขกมาก็เอามาอวดว่าสมัยโน้นสมัยนี้ นี่เชียงแสน นั่นสุโขทัย โน่นอู่ทอง คุยใหญ่ ฤกษ์งามยามดีพ่อเข้ามาฆ่าเสียเลย ขนไปหมดกุฏิแถมฆ่าเสียด้วย

อย่างนี้ไม่ใช่ถูกฆ่าเพราะมีพระ แต่ถูกฆ่าเพราะคนมันละโมบในวัตถุเกี่ยวเนื่องกับพระนั่นเอง เลยมันเอาไป เพราะฉะนั้น พระดีๆ อย่าเอาไว้ในวัดเลย มันยุ่ง

ที่วัดเรามีองค์หนึ่ง ความจริงไม่ดีอะไรนักดอก แต่ว่าเป็นทองเหลือง ไว้ในศาลา พระยืนแบบนี้ แต่เล็กกว่านี้ ขโมยเอาไปเสียเลย เขามาบอกผมว่า เขามาลักพระไปเสียแล้ว ผมก็บอกว่าก็ดีเหมือนกันแหละ ไม่ต้องไปวิตกต่อไป เพราะถ้ายังมีเราก็ต้องรักษา ขโมยเอาไปแล้วก็ดีเราไม่ต้องรักษา แล้วก็ไม่หาองค์ใหม่มาวางต่อไปแล้ว เอาไปแล้วก็แล้วไป นี่เขาจะเอามาวางใหม่ก็ไม่ต้อง มันยุ่งเปล่าๆ

   เรามีพระข้างในขโมยเอาไม่ได้ อยู่ในใจเรา อยู่มั่นคงในใจเของเรา พระองค์ในดีกว่าพระองค์นอกแต่ว่าตามวัดตามวาก็ต้องมีบ้าง ตามวัดตามโบสถ์ในศาลาไม่มี คนก็ว้าเหว่เหมือนกับที่หอประชุมนี้ เดิมทีผมจะไม่มีอะไรเลย ไม่มีโต๊ะบูชา ไม่มีพระพุทธรูป  ญาติโยมบอกว่าไม่เหมือนศาลาโน้น ที่ศาลาโน้นมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เวลาไหว้พระก็เห็น มาที่นี่ไหว้พระก็เฉยๆ ไม่เห็นอะไร เลยบอกว่าก็โยมสร้างเองแล้วกัน ก็เลยสร้างของเขาเองทั้งโต๊ะทั้งพระเอามาวางไว้พอเหมาะพอดี องค์น้อยๆขโมยก็ไม่เอาดอกอย่างนั้น เล็กๆ ถ้าของมีค่าไม่ได้ ขโมยชอบ ฝรั่งก็ชอบซื้อไปไว้ดู

    ท่านอธิบดีกรมศิลปากร  ไปเจอฝรั่งคนหนึ่ง เขาบอกว่า ผมสบาย นอนกับพระพุทธเจ้าทุกคืน แกก็ถามว่า นอนอย่างไร ไปดูหน่อย ก็ไปเห็นที่เตียงนอนมีพระพุทธรูปวางเต็มหมด ปลายเตียงก็มี เวลานอนก็เตะพระพุทธรูปทุกคืน   แกก็บอกว่านอนแบบนี้ ไม่ใช่นอนกับพระพุทธเจ้านี่นา ไปเตะพระพุทธเจ้าทุกคืน อัปรีย์จัญไรฉิบหาย  ก็ถามว่าแล้วทำอย่างไร เลยออกแบบให้เขาทำหิ้งซ้อนไว้ในห้องนอนนั่นแหละ ฝรั่งไม่ประสีประสาอะไรดอก เขาไม่มีที่สูงที่ต่ำดอก ไปที่เมืองอังกฤษไปเที่ยวบ้างเช็คสเปียร์ที่เมืองสแตรทฟอร์ด  เตียงนอนเช็คสเปียร์ปลายเตียงเขามีรู สำหรับใส่คัมภีร์ใบเบิ้ล คัมภีร์ใบเบิ้ลเอาไปไว้ปลายตีน
เมืองไทยเราไม่ได้ อินเดียก็ไม่ได้นะ คัมภีร์ต้องเอาไว้ที่สูง  ฝรั่งไม่ถือ เพราะฉะนั้น ลูกชายลูกสาวคลำหัวพ่อได้ไม่เป็นไร  คนไทยคลำหัวอย่างนั้นก็ถูกเตะเท่านั้นเอง มันผิดกันในเรื่องนี้ เรื่องสูงเรื่องต่ำนี้ผิดกัน เขาไม่ถือนี่ เพราะฉะนั้น ที่เขาบอกว่านอนกับพระพุทธเจ้าสบายใจ แต่เขาทำแบบที่ว่ามานั้น มันไม่เขาท่าเลย ฝรั่งมันเป็นอย่างนั้น.

 


Create Date : 20 ธันวาคม 2564
Last Update : 20 ธันวาคม 2564 15:59:55 น. 0 comments
Counter : 380 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space