กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
 
ธันวาคม 2564
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
space
space
19 ธันวาคม 2564
space
space
space

เทวนิยม (๘) วรรณะ



   ศาสนาในโลกนี้จึงมี ๒ ศาสนา คือ ศาสนาที่นับถือเทพเจ้า เรียกว่า “เทวนิยม” ประเภทหนึ่ง ศาสนาที่ไม่นับถือเทพเจ้าเป็นหลัก เรียกว่า “ธรรมนิยม” หรือ “สัจจนิยม” หรือ "อเทวนิยม"  ศาสนาในโลกนี้   ส่วนมากมีพวกเทวนิยม เช่น ศาสนาคริสต์  ที่มีพระผู้เป็นเจ้า พระเยซู อ้างตัวว่าเป็นพระบุตรของบิดา มาจากสรวงสวรรค์  พระนบีโมฮัมหมัด ก็อ้างตัวว่าเป็น โปรเฟส หรือเป็นผู้แทนของพระผู้เป็นเจ้า มาสั่งสอนประชาชน

พวกชาวฮินดูทั้งหลาย   เขียนคัมภีร์พระเวท  ก็บอกว่าเอาจากพระโอษฐ์ของพระผู้เป็นเจ้า พระพรหมเป็นผู้สั่งมาให้เขียนอย่างนี้   ให้ว่าอย่างนี้  แล้วคนที่เขียนนั้น  ต้องเป็นพราหมณ์ คนอื่นไม่ได้   พราหมณ์มีหน้าที่รับเอาพระเวทมาจากพระพรหม   พราหมณ์เป็นผู้สอน   คนอื่นสอนไม่ได้ เพราะคนฮินดูเขาแบ่งเป็น ๔ ชั้น เรียกว่า กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร

กษัตริย์ มีหน้าที่รบป้องกันบ้านเมือง ป้องกันศาสนา

พราหมณ์ มีหน้าที่สอนศีลธรรมแก่ประชาชน  แล้วก็พวก

แพศย์ มีหน้าที่ค้าขาย

พวกศูทร เป็นกรรมกร

พราหมณ์ นั้นเกิดจากปากของพระผู้เป็นเจ้า เอาเปรียบ เกิดจากปากเลย

กษัตริย์ออกมาจากแขนมีหน้าที่รบข้าศึก

พวกแพศย์ คือพ่อค้าเกิดจากท้องของพระผู้เป็นเจ้า

พวกศูทรแย่หน่อย เกิดจากหน้าแข้งของพระผู้เป็นเจ้า  เกิดคนละที่ละแห่ง  ก็เลยแบ่งเป็นวรรณะ ๔



    ความจริง วรรณะ ๔ นี้ ไม่ใช่ให้ถือให้เกลียดกัน  เดิมทีไม่ได้เกลียดกันดอก  เขาแบ่งงานกัน.

วรรณะ ๔ ของพราหมณ์ :  กษัตริย์ มีหน้าที่ทำงานนักรบปกครองบ้านเมือง

พราหมณ์ มีหน้าที่ จัดการทางศึกษาเล่าเรียน

พวกแพศย์ มีหน้าที่ ค้าขายทางเศรษฐกิจ

พวกศูทร มีหน้าที่ กรรมกรใช้แรงงาน เขาแบ่งงานกันทำ

แต่ว่าต่อมามันเกิดกิเลสขึ้น  อะไรๆเอากิเลสเข้าใส่แล้วมันยุ่งทั้งนั้นน่ะแหละ  ทำให้เกิดปัญหาถือชั้นวรรณะกัน  กินร่วมกันไม่ได้  ภาชนะอันหนึ่ง  ถ้าพวกศูทรมาแตะต้อง  พวกพราหมณ์ พวกกษัตริย์ พวกแพศย์ กินไม่ได้   อาหารตั้งอยู่  ถ้าอาหารบริบูรณ์ดี  พวกศูทรเดินมามีเงาทับ มันเททิ้งหมดเลย   แต่ถ้าอาหารขาดแคลนมันก็ไม่เทเหมือนกัน  มันถือไม่เข้าเรื่อง  นี่เป็นเรื่องวรรณะ 

พระพุทธเจ้าบอกว่า  คนไม่ได้ประเสริฐเพราะวรรณะ ไม่ได้เลวเพราะวรรณะ คนประเสริฐเพราะการกระทำ เลวก็เพราะการกระทำ ไม่ใช่ดีเลวเพราะชาติเกิด แต่ดีเลวเพราะการกระทำ.  คนเราเลือกเกิดไม่ได้ จะเกิดเป็นอะไรก็ตาม ถ้าทำดีแล้วเป็นต้องดีทั้งนั้น  (แล้วยกตัวอย่าง) คนชั้นศูทร แต่เขาประพฤติดี ประพฤติชอบ แม้แต่กษัตริย์ก็ยังให้เกียรติ  กษัตริย์ถ้าประพฤติไม่ดีก็เป็นที่ดูหมิ่นแก่คนทั้งหลาย   ไม่ใช่อยู่ที่การเกิดหรือวรรณะ   แต่อยู่ที่กรรมดีคือการกระทำ  พระพุทธเจ้าสอนไว้อย่างนั้น  พวกพราหมณ์เขาถือว่า พระพรหมเป็นผู้สร้าง.
 


 
https://www.facebook.com/photo/?fbid=613599903278517&set=gm.3023489617924611

“ ตั้งแต่วันแรกที่เธอเริ่มงาน ไม่มีนักเรียนคนไหน ที่ปฏิเสธอาหารกลางวันของโรงเรียนเลย แต่พอวันถัดมา เด็กนักเรียนที่มีชนชั้นสูงกว่าเธอราว 66 คน ก็เตรียมอาหารใส่ปิ่นโตมาจากบ้านเอง “ ครูใหญ่กล่าว

“ ผมงงมากจริง ๆ ว่าอะไรทำให้เด็ก ๆ กลายเป็นแบบนี้ไปได้ มันเหนือความเข้าใจของผมไปมาก “

โดยครั้งนี้ ผู้ปกครองนักเรียนที่แบนอาหารกลางวัน ได้กล่าวว่า ก่อนมีการเลือกแม่ครัวคนใหม่เข้ามา ทางผู้ปกครองได้มีการเลือก แม่ครัวอีกคนหนึ่งไว้แล้ว แต่ครูใหญ่และคณะกรรมการบริหาร ได้เลือกสุนิตาแทน

“ ฉันมองว่า เนื่องจากโรงเรียนนี้มีจำนวนนักเรียนที่มีชนชั้นสูงจำนวนมาก ดังนั้น ก็ควรจะเลือกแม่ครัวที่มีชนชั้นสูงด้วยเช่นกัน “ หนึ่งในผู้ปกครองให้สัมภาษณ์

แต่งานนี้มีเสียงของผู้ปกครองอีกหลายท่าน ที่ไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำของเด็ก ๆ ในครั้งนี้ “ เรามองว่า หญิงดาลิตทุกคน ก็ควรได้รับโอกาสที่ดี ๆ ฉันมองว่า นอกจากเธอจะมาเป็นแม่ครัวแล้ว เธอยังสมควรได้รับอาหาร ขนมปัง และเนยดี ๆ สำหรับทานอีกด้วย “ ผู้ปกครองอีกท่านกล่าว

เมื่อเรื่องนี้ถูกพูดออกไปในวงกว้าง จึงลุกลามไปถึงกระทรวงการศึกษาธิการอีกด้วย ทำให้ทางหน่วยงานของภาครัฐ จำเป็นจะต้องลงมาตรวจสอบ เพื่อหาคนต้นคิด และสรุปข้อขัดแย้งนี้

“ เพราะการกีดกัน หรือ คว่ำบาตร อาหารกลางวันที่ชนชั้นจัณฑาลทำนั้น ในทางกฎหมายถือว่าเป็นความผิด หรือ เป็นการละเมิดกฏหมายสิทธินะ เพราะมันสามารถสร้างความรุนแรงและอันตราย ให้แก่สังคมได้ “ Harshbardhan อดีตประธานเทศบาลท้องถิ่นรัฐ กล่าว

“ พวกเราอยู่ในยุคสมัยใหม่แล้ว การโต้เถียงเรื่องพวกนี้ มีแต่จะทำลายความรักความสามัคคีให้หมดไป สำหรับผมนั้น กรณีนี้ควรต้องมีผู้ที่ได้รับโทษ และต้องไต่สวนให้ถึงระดับการไต่สวนสูงสุดด้วย “

เรื่องนี้ อาจดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ความเป็นจริงแล้วนั้น การแบ่งแยกด้วยเรื่องชนชั้นและวรรณะ ของทางอินเดียนั้น ถือว่าในทางกฎหมายเป็นความผิดที่รุนแรงมาก

การกล่าวเหยียด การดูถูก การประเมินค่าราคาคนด้วยทัศนคติดั้งเดิม ของคนเพียงกลุ่มเดิม ๆ นั้น มันไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนความเจริญของบ้านเมืองได้จริง ๆ ค่ะ และมีแต่จะเป็นการบ่อนทำลายความสามัคคี ของสังคมลงไปด้วย

การศึกษาที่ว่าสำคัญนั้น ยังไม่สู้ การอบรมสั่งสอน และ การให้ความรักความอบอุ่น ของพ่อแม่เลยนะคะ การสอนให้ลูกมองอะไรให้กว้าง และ ลึก หลายมิติ นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมากจริง ๆ

ยุคใหม่ สมัยใหม่แล้ว ชุดความคิด ก็ต้องปรับเปลี่ยน และ ต้องเริ่มยอมรับสิ่งที่เป็นไปมากขึ้นด้วยค่ะ สังคมของอินเดียนั้นใหญ่และกว้างมาก และแน่นอน ความซับซ้อนนี้ มีมาหลายพันปี อาจต้องใช้เวลาสักนิด แต่เชื่อว่าไม่นาน ต้องดีขึ้นแน่นอนค่า

172170172

มองที่โน่นที่นั่นแล้ว อืม พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งประชาธิปไตย  มองคนเท่าเทียมกัน  ดีชั่วอยู่ที่การกระทำ

 



Create Date : 19 ธันวาคม 2564
Last Update : 2 มกราคม 2565 16:45:33 น. 0 comments
Counter : 343 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space