|
|
๓. อาศรมวนปรัสถ์ ถ้าไม่พอใจในการเป็นคฤหัสถ์ ก็จะเป็นครูผู้สอนศิษย์ต่อไป เรียกว่า ผู้อยู่ป่า “วะนะปะรัสถะ” ไม่ใช่อยู่เฉยๆ อยู่ทำประโยชน์ เป็นครูเป็นอาจารย์สั่งสอนศิษย์ เป็นผู้ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้แก่คนอื่นต่อไป แล้วเป็นผู้ประพฤติดี ประพฤติชอบ ครูในสมัยก่อนไม่เหมือนครูในสมัยนี้ดอก ครูสมัยนี้พูดอย่างทำอย่าง บอกลูกศิษย์ให้ไว้ผมสั้น แต่ครูไว้ผมยาวประบ่า ที่ครูบอกว่านักเรียนต้องตัดผมสั้นแต่ครูไว้ผมยาว ครูแต่งตัวเหมือนอะไรดี ไปเห็นบางแห่งครูแต่งตัวเหมือนฮิปปี้มาสอนหนังสือ แล้วเด็กมันจะเอาดีได้อย่างไร อย่างนี้เขาเรียกว่า ไม่เป็นครูโดยน้ำใจ สปิริตแห่งความเป็นครูหายไปหมด นึกแต่ว่ากูไปเป็นลูกจ้างสอนหนังสือวันหนึ่งๆ เท่านั้นเอง แล้วก็ไปพูดว่านี่เป็นเสรีภาพส่วนบุคคล มันเกี่ยวกับหน้าที่ เรามีหน้าที่อย่างใด เราก็ต้องลดเสรีภาพส่วนตัวลงไปบ้างเพื่อหน้าที่นั้น เช่น เราไปเป็นครูก็ต้องลดเรื่องอะไรหลายๆอย่าง ต้องอยู่ในระเบียบแบบแผน เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ศิษย์
ครูสมัยก่อนนั้น เขาเป็นครูร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นตัวอย่างแก่ศิษย์จริงๆทุกแง่ทุกมุม ลูกศิษย์จึงเรียบร้อย เดี๋ยวนี้ขอโทษเถอะ ครูเราทุกวันนี้ชักจะแหว่งออกไปทุกทีแล้ว ไม่มีระเบียบที่ดีงาม จึงเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายขึ้นในในวงการศึกษา เพราะฉะนั้น ครูจึงต้องทำตนเป็นตัวอย่าง การสอนที่ดีนั้นคือการทำให้เป็นตัวอย่าง
พระพุทธเจ้า บอกว่า การที่จะสอนผู้อื่นด้วยเรื่องใดต้องทำเรื่องนั้นให้ได้เสียก่อน จึงจะทำเรื่องนั้นให้ไม่ยุ่งเหยิง เราจะสอนใครด้วยอะไร เราต้องทำด้วย ถ้าไม่ทำ การสอนมันไม่มีราคา การพูดให้เขาฟังไม่มีค่า ถ้าไม่ได้ทำให้เขาดูด้วย หลักมันเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้น ครูพวกที่เป็น วนปรัสถะ นี่เขาเป็นครูจริงๆ สั่งสอนศิษย์ด้วยการทำให้ดู การพูดให้เขาดู การแสดงให้เขาดู ทุกอย่าง เพื่อให้ศิษย์ประทับไว้ในจิตใจ นี่เป็นพวกหนึ่ง เรียกว่า “วนปรัสถ์”
Create Date : 14 ธันวาคม 2564 |
Last Update : 14 ธันวาคม 2564 12:57:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 356 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|