รู้จักอานาปานสติ
คำว่า อานาปานสติ แยกความหมายเป็นสามคำ คือ คำว่า อานะ แปลว่า ลมหายใจเข้า ตรงกับคำว่า อัสสาสะ คำว่า อาปานะ แปลว่า ลมหายใจออก ตรงกับคำว่า ปัสสาสะ และคำว่า สติ ความระลึกรู้ตาม, การกำหนดพิจารณา รวมสามคำเข้าด้วยกัน เป็น อานาปานสติ แปลว่า การกำหนดพิจารณาลมหายใจเข้าและลมหายใจออก หมายถึงการใช้สติเป็นตัวกำหนดลมหายใจเข้าและลมหายใจออกของตน ซึ่งเป็นปัจจุบันแต่ละขณะๆ (เข้าขณะหนึ่ง ออกขณะหนึ่ง) เป็นหนึ่งในวิธีฝึกกัมมัฏฐาน ๔๐ วิธี โดยจัดอยู่ในข้อที่ ๙ แห่งอนุสติ ๑๐
เพราะเป็นหนึ่งในวิธีการฝึกกัมมัฏฐาน จึงเรียกว่า อานาปานสติกัมมัฏฐาน ซึ่งหมายถึงกัมมัฏฐานที่ใช้สติกำหนดลมหายใจเข้า-ออก หรือเรียกว่า อานาปานสติสมาธิ หมายถึง วิธีการฝึกสมาธิโดยใช้สติเป็นเครื่องกำหนดลมหายใจเข้า-ออกทุกๆขณะ นอกจากนี้ ยังเรียกรวมๆว่า อานาปานสติภาวนา หมายถึงการเจริญกัมมัฏฐานโดยวิธีอานาปานสติ หรือการฝึกสมาธิเจริญปัญญาด้วยการใช้สติระลึกอยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออก และนิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า อานาปานสติ หรือ อานาปานะ อานาปาน์.
รู้แล้วท่านให้เอาไปฝึกหัดพัฒนาจิตตนเอง
ปราชญ์บางท่านชี้ให้สังเกตความแตกต่าง ระหว่างอานาปานสติ กับ วิธีฝึกหัดเกี่ยวกับลมหายใจของลัทธิอื่นๆ เช่น การบังคับควบคุมลมหายใจของโยคะ ที่เรียกว่า ปราณยาม เป็นต้น ว่าเป็นคนละเรื่องกันทีเดียว โดยเฉพาะว่า อานาปานสติ เป็นวิธีฝึกสติ ไม่ใช่ฝึกหายใจ คือ อาศัยลมหายใจ เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับฝึกสติ ส่วนการฝึกบังคับลมหายใจนั้น บางอย่างรวมอยู่ในวิธีบำเพ็ญทุกรกิริยา ที่พระพุทธเจ้าเคยบำเพ็ญ และละเลิกมาแล้ว
ถาม
> อานาปานสติ กับ การใช้คำภาวนาพุทโธ แตกต่างกันอย่างไร
เผอิญตอนเย็นไปเจอบทความ สอนการทำสมาธิ แบบหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านสอน “ให้มีสติกับคำภาวนาไม่ต้องดูลมหายใจเมื่อเป็นสมาธิจะทิ้งคำภาวนาเอง”
รวมกับเมื่อปี 2559 ตอนบวชเรียนกับหลวงปู่จันทร์เรียน ท่านสอนผมเป็นการส่วนตัวให้ “ภาวนาพุทโธ” (วัดป่าให้มีสติอยู่ที่คำบริกรรมไม่สนลมหายใจ) ให้ทิ้งวิธีเก่า คือ อานาปานสติ ผมฝึกมา 6 ปี (ปัจจุบัน 11 ปี) แต่ดื้อไม่เชื่อตามที่หลวงปู่สอน เพราะ เชื่อฝังใจว่าอานาปานสติ (มีสติกับลมหายใจอย่างเดียวไม่บริกรรมภาวนา) เป็นวิธีทำสมาธิแบบพระพุทธเจ้าจึงไม่ยอมภาวนาพุทโธ
ตั้งแต่วันที่ 9 -23 เม.ย.64 ผมจึงทดลองสลับนั่งระหว่างอานาปานสติและภาวนาพุทโธ วันละ 1 ชม. 30 นาที ถึง 2 ชม. ทุกวัน เมื่อวานตั้งใจจะลองภาวนาพุทโธ อีกครั้ง 2 ชม. ปรากฏการณ์ทางจิต คือ
ภาวนาพุทโธไปเรื่อยๆเหมือนสวดมนต์ ระลึกถึงคำว่าพุทโธ ไม่สนลมหายใจเมื่อจิตสงบ เกิดแสงสว่างสีขาวไม่แสบตา ที่กลางกระหม่อม ยิ่งภาวนา แสงยิ่งสว่างปกคลุมไปทั้งร่างกาย ร่างกายค่อยเบา โปร่งใสไปเรื่อย เหมือนร่างเรากลายเป็นแสงขาวทั้งร่าง เกิดปีติ น้ำตาไหล ขนลุก ซาบซ่านไปทั้งกาย เกิดความสุขสงบ สบายไปทั้งตัว แสงขาวสว่างมากยิ่งสบายมากเหมือนถูกฟอกไปทั้งตัว ขณะนั้นคำภาวนาเป็นไปแบบอัตโนมัติต่อเนื่อง ภาวนาไปเรื่อยๆ จิตจะทิ้งคำภาวนาไปเอง เหลือแต่ความสงบ จิตสว่างไสวเป็นแสงขาวเด่นชัดที่กลางกระหม่อม ความว่างสงบ เหมือนไม่มีกาย
อยากจะอยู่ในสมาธินานๆ นั่งไปสักพักจิตอิ่มถอนออกจากสมาธิ แล้วแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย เวลาผ่านไป 2 ชม.
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ ทำสมาธิแบบภาวนา พุทโธให้ทุกท่านครับ
https://pantip.com/topic/41361323
มีสองตอน ตอนแรกสงสัย (อานาปานสติ กับ การใช้คำภาวนาพุทโธ แตกต่างกันอย่างไร) ก็ตามนั้น ลมหายใจเข้า + ลมหายใจออก + สติ + คำภาวนาพุทโธ, นับตัวเลข, นั่นนี่โน่น ธัมโม สังโฆ เป็นอาทิ
เมื่อเรานั่งท่องพุทโธซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในใจ จิตก็ไม่ซ่านไม่ส่ายไปคิดเรื่องอื่น ก็เรียกว่าจิตมีสมาธิขั้นเริ่มต้น ตอนนี้จะเกิดปรากฎการณ์อย่างที่เล่า เช่น เห็นแสงสว่าง (โอภาส) ตัวเบา ไม่มีกาย เป็นต้น ขั้นนี้เรียกว่าขั้นสมถะ (จิตพอสงบ) หากผู้ปฏิบัติเกิดความยินดีพอใจชื่นชมกับสภาวะนั่นนี่โน่น ตอนนี้เรียกตามหลักว่า วิปัสสนูปกิเลส (บาลีเรียก ธัมมุทธัจจ์ แปลว่า ความฟุ้งซ่านธรรม) ผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่จะหลงจะติดกันอยู่แค่นี้ ในบางรายถึงเพี้ยนจำเลขที่บ้านไม่ได้ก็มี
https://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/10/Y9785609/Y9785609.html
- สติ ซึ่งมักมาคู่กับสัมปชัญญะ ปัญญาระดับเริ่มต้น (แบบสั้นๆ สติ ความระลึกได้ สัมปชัญญะ ความรู้ตัว)
- สติ ความระลึกได้, นึกได้, ความไม่เผลอ, การคุมใจไว้กับกิจหรือกุมจิตไว้กับสิ่งที่ทำที่เกี่ยวข้อง, จำการที่ทำและคำที่พูดแล้วแม้นานได้
ลมหายใจเข้า - ออก = กัมมัฏฐาน คำภาวนานั่นนี่โน่นก็ดี นับเลข เป็นต้นก็ดี เหมือนเครื่องตรึงจิตให้อยู่กับกัมมัฏฐานได้ดีเท่านั้น
ส่วนที่ว่า นั่งว่าพุทโธๆๆ ไม่สนใจลมหายใจเข้า-ออก ได้ไหม ? ก็ได้ ท่องไป พุทโธๆๆ นอกจากพุทโธก็ได้อีก ธัมโมๆๆๆ สังโฆๆๆๆ จิตก็ไม่ฟุ้งเรื่องอื่นสงบอยู่กับคำที่ท่อง พุทโธๆๆ ฝนตกฟ้าร้องก็ไม่สนใจ ท่องพุทโธๆๆ จิตสงบๆหน่อย เอาแล้วทีนี้ มีตัวเบา ตัวลอย ตัวหาย มีความสุข ฯลฯ ซึ่งตนเองไม่เคยประสบมาเลยในชีวิต ก็หลงติดยึดมั่นหมาย กลายเป็นกิเลส (วิปัสสนูปกิเลส) ขัดขวางวิปัสสนา (ปัญญา) ไปฉิบ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=samathijit&month=04-2021&date=06&group=1&gblog=14
ก็ติดวนอยู่ตรงนั้นจึงไปไม่สุดทางของไตรสิกขา ที่ว่า ศีลเพื่อสมาธิ สมาธิเพื่อปัญญา ปัญญาเพื่อวิมุตติ
ถาม
> หลวงตาบัว เล่าเหตุการณ์ช่วง ก่อนท่านบรรลุธรรม มีการ ภาวนา พุธโท ๆๆๆๆๆๆ ถียิบ ทั้งวันทั้งคืน อยู่หลายเดือน
การทำเเบบนี้ พุธโท ๆๆๆๆๆๆ ถียิบ ทั้งวันทั้งคืน จัดว่า เป็นอานาปานสติ ชนิดนึงไหมครับ
https://pantip.com/topic/42057396
ถ้าจับหลักได้ มีหลักแล้ว ก็ตอบได้เองว่า ท่องพุทโธรัวๆ เป็นอานาปานสติไหม เป็นไม่เป็น ว่ามันคนละเรื่อง แล้วบรรลุธรรมอะไร ?
Create Date : 07 เมษายน 2565 |
|
0 comments |
Last Update : 17 มกราคม 2567 10:43:43 น. |
Counter : 860 Pageviews. |
|
|
|