Private Gang 4 U & Me

BLACK SPARTACUS [ Toussanint Louverture]..1




ที่ใดมีการกดขี่.....ที่นั่นมีการต่อสู้

วลีที่กล่าวข้างต้นนี้ คือสัจธรรมสากลนิรันดรประการหนึ่ง โดยเฉพาะการกดขี่ - กดหัวเป็นทาสอย่างไร้มนุษยธรรม กับการต่อสู้อย่างหลั่งเลือด แลกชีวิตเพื่อให้หลุดพ้นจากแอกอาน ด้วยศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทาส ผู้ถูกกดขี่ทั้งหลายยุคแล้วยุคเล่า ตั้งแต่อดีตตราบปัจจุบัน

ยุคโบราณมีรูปธรรมของการต่อสู้ของทาสผิวขาว ที่เป็นประหนึ่งตำนานของ "สปาร์ทาคัส" วีรบุรุษทาสนักต่อสู้ผู้กล้าหาญ ในการต่อสู้กับอาณาจักรรัฐโรมันอันเกรียงไกร ฝรั่งเศสภายใต้จักรพรรดิของชาวฝรั่งเศส ผู้เป็นเสมอหนึ่งจักรพรรดิของชาวยุโรป และผู้หมายจะพิชิตโลกทั้งโลกในยุคสมัยนั้น "นาโปเลยง โบนาปาร์ต" ความยิ่งใหญ่และประสบการณ์ ด้านการสงครามแห่งกองทัพโรมันและฝรั่งเศสนั้น ใหญ่หลวงเกินกว่าจะนำมาเปรียบเทียบกับ กองกำลังกระจ้อยร่อยของเหล่าทาสผู้โหยหาเสรีภาพ ทั้งสปาร์ทาคัส และลูแวร์ตูร์ ต่อสู้ด้วยจิตวิญญาณแห่งเสรีชนโดยแท้ และจิตวิญญาณของพวกเขายังคงดำรงอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้

ตูส์แสงต์ ลูแวร์ตูร์ (TOUSSAINT LOUVERTURE)
เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ที่ประเทศเวเนซูเอ ลา มีข่าวว่ารัฐบาลเวเนซูเอลาจะให้เงินแก่ นักแสดงชาวอเมริกัน เพื่อสร้างภาพยนตร์ เกี่ยวกับการก่อการกำเริบของทาสในเฮติ หรือที่จริงแล้วก็คือชีวประวัติของ ตูส์แสงต์ ลูแวร์ตูร์ บุคคลที่เป็นสัญรูปในแถบทะเลแค ริบเบียน ผู้นำการปฏิวัติในเฮติ เมื่อศตวรรษที่ 18 ....

เขาคือใคร?

ตูส์แสงต์ ลูแวร์ตูร์ มีชีวิตอยู่ราว ค.ศ.1743 - 7 เมษายน 1803 เป็น 1 ในผู้นำการปฏิวัติเฮติ มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น Francois - Dominique Toussaint Louverture, Toussaint Breda, Toussaint - Louveure เขาได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาของประเทศเฮติคนหนึ่ง เคียงคู่ไปกับ ฌอง-ฌากส์ เดส์สาลีนส์ ผู้นำการปฏิวัติอีกคนหนึ่ง แม้คนทั่วไปสะกดนามสกุลของตูส์แสงต์ผิดไปเป็น L'Ouverture ก็ตาม แต่นักประวัติศาสตร์มักยึดการสะกดนามสกุลของตูส์แสงต์ เป็นลูแวร์ตูร์ตามที่ลูกชายและน้องชายของเขาใช้สะกด

ชีวิตในวัยเยาว์
ตูร์แสงต์ ลูแวร์ตูร์ สืบเชื้อสายมาจากเผ่าชนอาร์ราดา แห่งชายฝั่งดาโฮมีย์, แอฟริกา บิดาของเขากาอู - กุยนู เป็นลูกชายของหัวหน้าเผ่าชนแอฟริกาเล็ก ๆ เขาถูกจับเป็นเชลยในสงคราม ถูกผู้ค้าทาสนำไปยังเกาะแสงต์-โดแมงเกอ** แล้วถูกขายให้เป็นทาสแก่ กงต์หรือเคาน์ท เดอ บเรดา ตูร์แสงต์เป็นทั้งบุตรชายและบุตรคนโตของครอบครัว วันเกิดของเขานั้นไม่แน่นอน ถ้าไม่ใช่ 20 พฤษภาคม ก็ต้องเป็น 1 พฤศจิกายน (ซึ่งเป็นวันผองนักบุญ [All Saints' Day] ที่มีการตั้งชื่อ "ตูร์แสงต์" ส่วนนามสกุล "บเรดา" นั้นนำมาจากผู้เป็นเจ้าของทาส หรือนายทาสของเขาเอง
เดอ บเรดา เป็นเจ้านายที่ค่อนข้างมีจิตใจเมตตา และกระตุ้นให้ตูส์แสงต์ เรียนอ่านและเขียนหนังสือ ตูส์แตงส์ได้รับการสอนภาษาฝรั่งเศสขั้นพื้นฐาน (ดังนั้นเขาจึงเขียนและพูดได้อย่างงู ๆ ปลาๆ โดยปรกติใช้ภาษาถิ่นคเรโยล และภาษาฟอน ของชาวแอฟริกัน) และได้บาทหลวงผิวดำสอนภาษาละติน ซึ่งบาทหลวงท่านนี้เป็นเสรีชน นามว่า ปีแยรร์ บัปตีสต์ การศึกษาของเขาเป็นเพียงพื้น ๆ แต่ก็ยังมีความรู้กว้างขวางเกี่ยวกับ พืชผักและสมุนไพร ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบิดาของเขา ความคล่องแคล่วปราดเปรียว และความเฉลียวฉลาด ทำให้เขาเป็นที่โปรดปราน ของท่านกงต์ผู้เป็นเจ้านายยิ่งนัก แล้วเขาก็กลายเป็นผู้ดูแลและผู้เยียวยารักษาปศุสัตว์ เป็นคนขับรถม้า และในที่สุดก็เป็นผู้จัดการที่ดินกรรมสิทธิ์ของบเรดา ซึ่งปรกติแล้วเป็นตำแหน่งที่สงวนไว้สำหรับคนขาวเท่านั้น

หากพูดถึงในฐานะทาสแล้ว ถือว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างสุขสบายไม่น้อยทีเดียว โดยกฏหมายแล้ว เขาได้รับอิสระปี ๑๗๗๗ เมื่ออายุได้ ๓๓ ปี และบันทึกของฝ่ายอาณานิคมชี้บอกว่า เขาได้เช่าทุ่งราว ๑๕ เอเคอร์ พร้อมกับทาส ๑๓ คน เพื่อปลูกกาแฟ ตูส์แสงต์คือชาวแคธิลิค ที่มีศรัทธาแรงกล้า ดำรงชีวิตอย่างเรียบง่าย รู้ประมาณตน และเป็นชาวมังสวิรัติ เขาแต่งงานกับสูซาน สีโมน แม่ม่ายลูกติดหนึ่ง เป็นชายชื่อ "ไอซัค" และเขาทั้งสองก็ยังมีลูกชายด้วยกันอีกคนหนึ่งชื่อ "ปลาศีด"


การกบฏและการเจรจา
ข่าวเกี่ยวกับการปฏิวัติฝรั่งเศสปี ๑๗๘๙ และเนื้อความที่ว่า "เสรีภาพ , สมภาพ , ภราดรภาพ" (Liberte' E'galite' Fraternite')ได้แผ่ลามถึงแสงต์-โดแมงเกอ เมื่อปี ๑๗๙๐ และผลกระทบอย่างทรงอานุภาพบนเกาะแห่งนี้ {:ทหารฝรั่งเศสที่ยกพลขึ้นบกที่ ปอร์โตแปรงส์ได้เข้าร่วมกับฝ่ายนิโกรและเมอลัทโท (Mulatto[es]:ลูกครึ่งพ่อแม่ผิวตรงกันข้าม หรือผิวดำกับผิวขาว)
ด้วยการรวมตัวกันฉันพี่น้อง และประกาศแจ้งว่าสมัชชาแห่งชาติในประเทศฝรั่งเศสได้ประกาศว่า "ทุกคนมีเสรีและเท่าเทียมกัน" ชั่วระยะเวลาไม่นานนัก ความคิดเกี่ยวกับปรัชญาของยุคเรืองปัญญาหรือยุคสว่าง ( the enlightenment: ขบวนการทางปรัชญาในยุโรป ศตวรรษที่ ๑๘ มีลักษณะเด่นพิเศษอยู่คือ การวางใจในเหตุผลและประสบการณ์มากกว่า คำสอนต้องเชื่อและประเพณี และการเน้นเป้าหมายทางการเมืองและความก้าวหน้าทางสังคม แบบมนุษยธรรมนิยม) ก็ค่อย ๆ แผ่ขยายออกไปครอบคลุมทั่วเกาะแห่งนี้ }
และยิ่งเมื่อคำมั่นที่ให้โดยประกาศสิทธิมนุษยชน ถูกเจ้าของเรือกสวนไร่นา ปฏิเสธที่จะมอบให้แก่ประชากรผิวดำแห่งแสงต์-โดแมงเกอ กลายเป็นต้นเหตุให้เกิดการปลุกปั่นให้การก่อการกำเริบของทาส กระจายออกไปทั่ว ตูส์แสงต์ไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ที่ประสบเคราะห์ร้ายนั้น ซึ่งนำโดย แวงศังต์ โอเฌ แต่กระนั้นเมื่อมีการลุกฮือขึ้นต่อต้านของทาส ในจังหวัดทางตอนเหนือเมื่อเดือนสิงหาคม ๑๗๙๑ ตูส์แสงต์เองกลับอยู่ในภาวะลังเลใจเป็นที่สุด
ในระยะแรกตูส์แสงต์ คัดค้านการทำลายล้างและการหลั่งเลือด ซึ่งกำลังระบายออกมาโดย พลพรรคกบฏ แม้ดูเหมือนเป็นที่แน่นอนว่า เขามีความสามารถที่จะเป็นผู้นำกบฏก็ตาม ตูส์แสงต์ใช้เวลาอยู่หลายเดือนในการรักษาทาส ของเจ้านายของเขาให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย และกรรมกรปฏิวัติไม่ให้เผาเรื่อกสวนไร่นา อย่างไรก็ตามทันทีที่ชัดเจนว่าชีวิตของคนขาวทุกคนตกอยู่ภายใต้การคุกคาม และการก่อการกบฏนับวันจะเติบโตเข้มแข็งขึ้น ตูส์แสงต์จึงช่วยครอบครัวของเจ้านายของเขาหลบหนีไป ส่งครอบครัวของเขาเองไปยังจุดที่ปลอดภัยในซานโต โดมิงโกของสเปน...และตัวเขาเองจึงเดินทางสู่ค่ายของทาสกบฏที่กำลังเผาเรือกสวนไร่นา...และกำลังเข่นฆ่าคนขาวและเมอลาทโท เป็นดั่งเช่นผักปลา...
ไม่นานเขาได้ตระหนักถึงความไม่เชี่ยวชาญ..และการไร้ความสามารถของบรรดาผู้นำกบฏ..ทั้งความเต็มอกเต็มใจที่จะประนีประนอม..กับฝ่ายหัวรุนแรงผิวขาว...ความชิงชังรังเกียจคนเหล่านั้น..และจากการใช้ประสบกาณ์อันหลากหลายของเขา..ในการจัดการและการใช้อำนาจ....ไม่นานนักเขาก็จัดการรวบรวมพลพรรคของตนเองขึ้นมา..และจัดการฝึกคนเหล่านี้ในด้านยุทธวิธีของการสงครามจรยุทธ์....
ปี ๑๗๙๓ เขาเป็นองค์รักษ์ของฌอร์ฌส์ บีอัสสู ผู้นำคนสำคัญในการปฏิวัติเฮติคนหนึ่ง


(**Saint-Domingue: อาณานิคมตั้งแต่ ๑๖๕๙ ถึง ๑๘๐๔ เมื่อได้รับอิสรภาพเป็นประเทศเฮติ หรือเฮที คำว่า "แสงต์ โดแมงเกอ" ... เป็นภาษาฝรั่งเศสที่มาจากคำภาษาสเปน "สานโต โดมิงโก" [Santo Domingo ตามตัวอักษรอาจเป็น Saint - Dominique หรือ Saint- Dinmanche
ครั้งหนึ่งสเปนเคยยึดครองเกาะอิสเปโญลา] ทั้งหมด ซึ่งก็มีชื่อ ซานโต โดมิงโกเช่นเดียวกัน แต่ในสนธิสัญญาริสวิค เมื่อปี ๑๖๙๗ สเปนรับรองว่าฝรั่งเศสเป็นผู้ครอบครองดินแดน 1 ใน 3 ของอินดีสตะวันตก)....




ขอขอบคุณภาพสวย ๆ จากคุณเนยสีฟ้า





 

Create Date : 13 มีนาคม 2552
1 comments
Last Update : 4 พฤษภาคม 2554 2:08:31 น.
Counter : 2019 Pageviews.

 

ตัวหนังสือใหญ่จัง แม่คุณ

แวะไปดูสีพื้นบล็อคผมหน่อยดิ เปลี่ยนใหม่ เรียบกว่าเดิม แต่อาจเชย

 

โดย: c (chaiwatmsu ) 6 เมษายน 2552 0:57:33 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


i'm jaya
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Born to Be Free



Photobucket



Photobucket



New Comments
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add i'm jaya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.