Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Ryo : วูบหนึ่งในคืนเหงา

เขียนจบซะที แม้ว่าจะงง ๆ ก็ตาม

555555


บอกลากันเถอะนะ ก่อนที่มันจะเกินต้านทาน
เมื่อเธอช่างอ่อนหวาน กับอารมณ์ที่อ่อนไหว
อยากให้คิดสักนิด ว่าจะมีใครมาเข้าใจ
ใครเขาจะให้อภัย ถ้าเกินเลยไปกว่านี้

ถ้าเรายังเผลอ ปล่อยใจเคลิ้มไปอีกที
ก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ จะเป็นยังไง

ชั่ววูบหนึ่งในคืนเหงา อาจจะทำให้เราต้องเสียใจ
คนของฉันต้องร้องให้ คนของเธอต้องปวดร้าว
ฉัน....กลัว แค่วูบเดียวในคืนเหงา
จะทำให้ใจต้องเหน็บหนาว และทุกข์ทนไปอีกนาน

สิ่งที่เราจะทำ อาจไม่ใช่ที่เราต้องการ
ความเหงาไม่ยาวนาน อย่าทำให้ยากกว่านี้




“ดี เลิก เลย นายอยากเลิกก็เลิกเลย” เสียงของเรียวดังพอ ๆ กับอารมณ์ที่ฉุนจัด
“ฉันทำผิดหรือไง ระ.....” อุจี้สะอื้น เปล่งเสียงออกมากอย่างยากลำบาก ยังไม่ทันที่อุจี้จะได้พูดมากไปกว่านี้
“นายไม่เคยผิดหรอก ไม่เคย ฉันแหละผิด ผิดเองทุกอย่าง” เรียวทุบอกตัวเองเสียงดัง ราวกับจะตอกย้ำว่า ความผิดทั้งหมด มันเกิดจากตัวเอง ตัวเองคนเดียว คนเริ่มทุกอย่าง
“ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น” อุจี้ยื้อมือเรียวไม่ให้ทุบอกตัวเอง
ด้วยอารมณ์โมโห เรียวสะบัดมือออกอย่างแรง ทำเอาอุจี้เสียหลักไปชนขอบประตูที่กำลังเปิดออก
“โอ๊ย.....”เสียงร้องของอุจี้ทำให้เรียวที่อารมณ์กำลังเดือดต้องหันมา คนร้องกุมหัวตัวเองที่ตอนนี้มีเลือดซึมตามง่ามนิ้ว ส่วนคนเปิดประตูยังอึ้งทำอะไรไม่ถูก
“เอ่อ คือ เอ่อ” โคยาม่า หน้าซีด ขาสั่น
“นายเป็นไงบ้าง ไปหาหมอ” เรียวเสียงสั่นปราดเข้าไปดูอุจี้ด้วยความเป็นห่วง ไม่วายส่งสายตาอาฆาตไปให้คนที่ทำให้คนตรงหน้าบาดเจ็บ
“ฉันไม่เป็นไร “ สีหน้าของเรียว เล่นเอาอุจี้ใจไม่ดี กลัวเหลือเกินกับอารมณ์ ร้อนของเรียว
“มานี่” เรียวดึงอุจี้ให้เดินผ่านหน้าโคยาม่า ไป อุจี้ได้แต่ส่งสายตาและสีหน้าไปยังโคยาม่า
“อย่าบอก ยามะนะ” ปากอุจี้ขมุบขมิบ ไม่ให้มีเสียง
= = = = == = == = = == = == = =

“อุจี้อยู่ไหน” เสียงยามะโวยวายอยู่นอกห้อง เรียวลุกขึ้น แต่อุจี้คว้ามือเรียวไว้
“ฉันขอ” อุจี้ได้แต่ก้มหน้า สองมือจับข้อมือเรียวแน่น
เรียวนิ่ง เจ็บเหลือเกิน ยิ่งสองมือที่กระชับข้อมือแน่น แม้จะสั่น
ประตูเปิดออกอย่างแรง หลังจากที่อุจี้ปล่อยมือเรียวเพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที
“เป็นยังไงบ้าง เจ็บมากไม๊ ทำไมไม่ระวัง ” ยามะพีถลาเข้ามาลูบหัวลูบหลังอุจี้ไม่สนใจคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
อุจี้ไม่ตอบได้แต่ส่ายหน้า ยามะรั้งคนเจ็บเข้ามาปลอบลูบหลังให้อย่างปลอบขวัญ
อุจี้นิ่งมีเพียงสีหน้าเท่านั้นที่บ่งบอกอาการและความรู้สึกในตอนนี้

“กลับบ้านกัน”ยามะพีประคองอุจี้ให้ลุกขึ้น
“โคยาม่า เอารถมาใช่ไม๊”ยามะพีถามโคยาม่าที่ยังช็อค แต่ดูเหมือนไม่ต่างอะไรกับการสั่ง
“ส่วนนาย....รอฉัน เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ยามะพีส่งสายตาพร้อมเสียงเย็นเยียบมาให้เรียว
“เป็นไรมากไม๊ ฮิโรกิ” ยูยะที่เพิ่งเดินเข้ามาคล้องแขนเข้ากับแขนเรียวที่ยืนนิ่งอยู่ ปากก็ร้องถาม
“ง่ะ” ยูยะเหวอ ไม่มีแม้เสียงตอบ มีเพียงสายตาที่เดาไม่ออกหลาย ๆ คู่ส่งมา
“เรียว เป็นอะไรรึเปล่า” ยูยะถามอย่างเป็นห่วง เห็นเรียวยกสองมือลูบหน้าหลังจากที่ยามะพี กับอุจี้ออกไป
“นี่มันโง่จริงหรือแกล้งโง่วะ”คุซะโนะที่ยืนดูอยู่นาน งึมงำ


ตู๊ด ............ตู๊ด.....................ตู๊ด.......................
เสียงโทรศัพท์ของอูจี้ดังหลายครั้ง แต่ไม่มีมีทีท่าว่าเจ้าของเครื่องจะรับ
“ทำไมไม่รับ” ยามะพีเองเป็นฝ่ายที่ทนไม่ไหว จนต้องเปิดปาก
“เอ่อ....” อูจี้ได้แต่อึกอัก
ตู๊ด ............ตู๊ด.....................ตู๊ด.......................
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก อุจี้ยื่นมือจะไปหยิบโทรศัพท์ แต่ดูเหมือนจะช้ากว่า
“ฮัลโหล”ยามะพีกรอกเสียงลงไปอย่างไม่สบอารมณ์
“ยามะพีหรอ ฮิโรกิเป็นยังไงบ้าง”เสียงยูยะแจ๋ว ๆ มาจากโทรศัพท์ อุจี้ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก
“ก็ยังไม่ได้พักผ่อน เพราะเสียงนายโทรศัพท์ของนาย” ยามะพีตอบแบบไม่สบอารมณ์
“โห คนอุตส่าห์เป็นห่วง” ยูยะโอด
“ขอคุยกับฮิโรกิหน่อยได้ไม๊ คุณยามาชิตะ โทโมฮิสะ” ยูยะส่งเสียงล้อ
“ถ้าฉันบอกไม่ได้ล่ะ” ยามะพีพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง
“ไม่เป็นไร งั้นช่วยมาเปิดประตูหน่อย” ยูยะหัวเราะ อาการนิ่งอึ้งของยามะ
สนุกเหลือเกินกับการได้ยั่วแหย่ยามะพี
===========================================

“ฮิโรกิ เป็นไงบ้าง ฉันมาเยี่ยม” ยูยะส่งเสียงมาก่อนที่อูจี้จะได้เห็นตัวเสียอีก
“ฉัน ชิเงะ มัตสึดะ คุซาโนะ .....โคยาม่า....... โคยาม่า โคยาม่า” ยูยะค่อย ๆ ไล่ทีละคน
ดูเหมือนคนสุดท้ายต้องเรียกย้ำ ๆ จนต้องเข้าไปลาก เพราะเจ้าตัวยังเกร็งกลัว ๆ กล้า ๆ อยู่หน้าประตู
“เป็น ยัง. ไง บ้าง .........”โคยาม่าพูดตะกุกตะกัก ตามด้วยอีกประโยค “ฉันขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไร มากหรอก” อุจี้ยิ้มให้แต่สายตาชะเง้อมองอีกคนที่ยังไม่ได้เอ่ยถึง
แต่แล้วยูยะก็ตอบข้อสงสัยของคนเจ็บ
“เรียว ตามมาทีหลังนะ แต่ฝากนี่มาให้ก่อน” ยูยะยังเจื้อยแจ้วพร้อมส่งของที่เรียวฝากมาให้
“ช็อคกาแลต” ยามะพีเสียงสูงมองอย่างสงสัย
“ขอบใจนะ” อุจี้เสียงสั่น
“อย่าให้ยามะพีกินล่ะ เดี๋ยวจะดุมากไปกว่านี้” ยูยะยังไม่วาย เล่นเอาคนถูกแขวะถลึงตาให้
“มัตสึดะ ช่วยหาอะไรมาอุดปากหมอนี่หน่อย” ยามะพีร้องบอก เล่นเอามัตสึดะกับชิเงะกลั้นขำ

==========================================



“ก๊อก ก๊อกๆๆ” เสียงประตูถูกเคาะรัวๆ จนอุจี้รู้สึกรำคาญ
“ใครน่ะ” จี้ส่งเสียงงัวเงียเหมือนไม่อยากจะตื่น เดินไปที่ประตูทั้งที่ตายังไม่ยอมเปิด
ประตูถูกเปิดออกอย่างไม่สบอารมณ์คนถูกปลุกกลางดึก ดูเหมือนอารมณ์จะกรุ่นมากกว่า ที่ไม่เห็นใครเลยที่หน้าประตู
จี้เหลียวซ้ายแลขวา แต่แล้วสายตาก็หยุดอยู่กับของที่วางอยู่ตรงหน้าประตู
แค่เห็นของก็รู้ว่าเป็นใคร อุจจี้ ทรุดลงเอื้อมหยิบของช้าน้ำตารื้นก่อนจะกลายเป็นสะอื้น

“ให้นาย” เสียงคนชอบทำหน้านิ่ง ๆ เหมือนคนไร้อารมณ์ ของเรียว
“ให้ฉันหรอ ให้ทำไม” อยากจะบอกหรอกนะว่าดีใจที่ได้ของจากนาย แต่ฉันก็อยากเห็นนายเขิน
“ให้ก็คือให้ ไม่มีอะไร” เรียวยังปากแข็ง
“ช็อคกาแลตเนี่ยนะ” อุจจี้ทำเสียงล้อเลียน เล่นเอาเรียวเขิน
คงมีไม่กี่คนหรอกนะ ที่จะรู้ความหมายของช็อคกาแลตจากเรียว และจี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น

= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
“ โอย น่าเบื่อจังเลย “ ยูยะ ส่งเสียงดังพร้อมทิ้งตัวลงตรงกลางระหว่างเรียวและคุซาโนะ
“น้อย ๆ หน่อย ” คุซาโนะ ปัดมือยูยะ ที่ปัดป่ายลงมาและลุกหนีอย่างรำคาญ
“ ซวยแล้ว” โคยาม่าครางออกมากับภาพตรงหน้า สยองเหลือเกินกับสายตาของเรียวแว๊บเดียวเท่านั้น
ว่างเปล่า น่ากลัว
“ เรียว” ยูยะส่งเสียงอ้อน ๆ คงเป็นยูยะคนเดียวแหละ ที่กล้าตอแยเรียว
“ มันหาเรื่อง” มัตสึดะ งึมงำ หันไปสบตาชิเงะ ด้วยสายตาที่รู้กัน
“เรียวจัง” ยูยะเรียกย้ำเป็นครั้งที่สอง น้ำเสียงออดอ้นจนหน้าหมั่นไส้
“เรีย.....” ยังไม่ทันที่จะเรียกจบเป็นครั้งที่สาม
“ พอเหอะ แล้วก็กินซะจะได้เงียบปาก” คุซาโนะยัดบางอย่างใส่ปากยูยะ
“อี๊ …..อืม ” ยูยะร้องเสียงหลง ตามด้วยเสียงบ่งบอกว่าพอใจ
“เห็นแล้วนึกถึงฮิโรกิเนอะ”
“ .........” สายตาทุกคู่มองมาที่ยูยะ แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้สึก
“ ฮิโรกิชอบกินของพวกนี้ทีสุด หวาน อร่อย” ยูยะพูดไปยิ้มไปเหมือนกับเพ้อ ผิดกับคนอื่น ๆ
“ เรียว เอาหน่อยไม๊ ดูทำหน้าเข้าสิ เหมือนขาดน้ำตาลเลย” ยูยะยังไม่เลิกตอแย ยื่นขนมให้อย่างเอาใจ
“สวีทกันจริงนะ” เสียงประชดขนาดนี้ไม่ต้องหัดมองยูยะก็รู้ว่าเป็นใคร
“อิจฉาหรอ” ยูยะลากเสียง ลอยหน้าลอยตาใส่ยามะพี ไม่พูดเปล่า มือเกาะแขนเรียวฉอเลาะอย่างจงใจ
“ฮึ….” มีแค่เสียงเบา ๆ ผ่านลำคอเท่านั้น
“อ้าวฮิโรกิ กำลังคิดถึงเลย” ยูยะร้องทักคนที่เดินรั้งท้ายมา คนทั้งห้องก็หันมองตาม
“หวัดดี” ฮิโรกิทักทายพร้อมยิ้มบาง ๆ
“หะ......หายดีแล้วหรอ” โคยาม่าเสียงสั่น
“อืม.....ขอบใจนะ “ ฮิโรกิตอบด้วยรอยยิ้มบาง ๆ คำพูดสุดท้ายเหมือนต้องการจะบอกใครเป็นพิเศษ
“ไหน ๆ ก็พร้อมหน้าพร้อมตาไปหาอะไรกินกันเถอะ ” เสียงนี้ก็คนเดียวแหละ
===========================================
“ เป็นอะไรไป ปวดหัวรึเปล่า” ยามะพีไม่พูดเปล่า เอามืออังหน้าผากอุจี้ที่ดูเซียว ๆ ไป
“ไม่เป็นไรหรอก” อุจี้ยิ้มบาง ๆ สายตามองเลยไปหาใครอีกคน
“อย่าเป็นอย่างนี้สิ ฉันเป็นห่วงนะ” ไม่พูดเปล่ายามะพีรั้งอุจี้เข้ามากอดลูบหัวลูบหลัง
“เรียวจัง เป็นอะไร ปวดหัวรึเปล่า” ยูยะลากเสียงล้อ หันไปหาเรียวบ้าง
“.......” เรียวหันมามอง ตามด้วยรอยยิ้ม และโยกหัวยูยะเบา ๆ
ยูยะโอบแขนรอบเอวเรียวกดตัวเองคางลงเบา ๆ ที่หัวไหล่ พร้อมกับรอยยิ้มที่จางหายไปของเรียว
“นายนี่มัน” ยามะพีหันมาโวย
“ฉันทำไมหรอ ....เรียวจัง” ยูยะลอยหน้าลอยตาถาม ตามด้วยท้ายเสียงอ้อน ๆ ก่อนจะซุกตัวเข้าหาเรียวอีกครั้ง
“ฮึ่ย….”ยามะพีได้แต่เข่นเขี้ยว เพราะคนที่ยั่วโมโห แต่ยังส่งหน้าตากวนโมโหมาให้
“ยามะพี ” เสียงเรียก ฮิโรกิทำให้ยามะพีเย็นลง
“ กะ กะ กินกันเถอะ กำลังร้อน ๆ เลย” คุซาโนะพูดกุกกัก ก็แหม แค่อ้าปากพูด ทุกคนก็หันมามองเป็นตาเดียวเหมือนเค้าทำอะไรผิดมากมาย
“ ที่ร้อนน่ะ อารมณ์หรืออาหาร” นั่นไงยูยะยังไม่วาย สายตาคมกริบของยามะพีตวัดให้ทันที
===========================================
บรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ชวนให้อึดอัด คนช่างพูดก็สรรหาเรื่องมาพูดมายั่วแหย่ คนไม่พูดก็ได้แต่ส่งสายตาคม ๆ มา ถ้าสายตาคมกริบนั้นเป็นมีดคนบนโต๊ะก็คงถูกกรีดไปแล้วหลายแผล
“เรียวจัง ไม่กินหรอ มิโซน่ะ” ยูยะยิ้ม ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้นสายตาของเรียวประสานกับใครอีกคนก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ
“งั้นฉันขอนะ เรียวจังน่ารักที่สุด ” ยูยะยกเอาถ้วยมิโซซด ก่อนจะส่งเสียงตามราวกับต้องการบอกให้รู้ว่าอร่อยแค่ไหน ในขณะที่อีกคน
“กินน้อยจัง ไม่ถูกปากหรอ” ยามะพีหันไปถามอุจจี้ ที่วางตะเกียบลง
“อิ่มแล้วน่ะ” อุจี้ยิ้มบาง ๆ ให้ยามะพี
“ของหวานไม๊” ยามะพีถามต่อ หลัง ๆมานี้อุจี้กินน้อยลง คำพูดและรอยยิ้มก็เช่นกัน
อุจจี้ยิ้มบาง ๆ ก่อนที่จะพูดอะไร เสียงของเรียวก็ขัดขึ้น
“ เค้กช็อคโกแลตร้านนี้อร่อย” เรียวหันมาบอกคนในโต๊ะ ก่อนจะหันไปสั่ง “ น้องขอเค้ก 8 ชิ้น”
“ยังไม่อิ่มเลย ....แต่ก็ได้” โคยาม่าโพล่งออกมา ก่อนจะส่งเสียงอ่อย ๆ เพราะสายตาของเรียว
คุซาโนะ ชิเงะ มัตสึดะ มองหน้ากัน ส่ายหัวเบา ๆ
===========================================
“ ไม่กินหรอ อร่อยนะ ของโปรดนายไม่ใช่หรอ”ยูยะถามฮิโรกิ ที่เอาแต่มองเค้กตรงหน้าไม่มีทีท่าว่าจะตักกินพลางตักเค้กของตัวเองเข้าปาก
“อร่อยมาก ๆ เลยเรียวจัง” สีหน้าและน้ำเสียงบ่งบอกว่ายูยะพึงพอใจแค่ไหนกับรสชาติเค้ก
“เลอะหมดแล้ว” คุซาโนะชี้ไปทางมุมปากที่มีคราบช๊อคกาแลต
“เรียวจัง” ยูยะยังไม่วางช้อน ยื่นหน้าให้เรียวจัดการ
“ขอบคุณ อะ” ยูยะไม่พูดเปล่าตักเค้กแต่พอคำจ่อให้ถึงปากเรียว
“นายกินเถอะ” เรียวบ่ายเบี่ยง
“เถอะนะกินเถอะ นะ นะ นะ “ ยูยะยังยืนยัน ไม่มีทีท่าว่าจะยอมทำตามที่เรียวบอก
“.... อร่อยไม๊” ยูยะยิ้มจนตาหยี เรียวอ้าปากรับขนมที่ยูยะป้อนให้แต่สายตาทอดเลยไปยังอีกคนหนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้เป็นคำตอบแก่คนตรงหน้า
“มันจะต่างกันตรงไหน” ยามะพีพึมพำ
“อะ” ยูยะดึงช้อนจากมือยามะพี พร้อมตัดเค้กในชามจ่อไปที่ปากยามะพีเหมือนป้อนเรียว ต่างกันก็ตรงที่...
“อะไร”ยามะพีมองหน้ายูยะงง ๆ
“กินซิ” น้ำเสียงยูยะยียวนสุด ๆ “จะได้รู้” พร้อมกับดันช้อนมาติดปากยามะพี จนต้องยอมกินอย่างเสียไม่ได้
“ไง” ยูยะเลิกคิ้วถาม
“ไงอะไร” ยามะพียังงง ๆ
“ก็รสชาติเป็นยังไง” ยูยะถาม
“ก็เฉย ๆ” ยามะพีตอบส่ง ๆ ไม่สบอารมณ์ ไม่เข้าใจกับท่าทีของยูยะ
“ของมันแน่อยู่แล้วที่มันธรรมดา เพราะฉันไม่ได้ใส่ใจตอนตักให้ยามะพี ไม่เหมือนกับที่ตักให้เรียวจังนิ ถ้านายอยากให้อร่อยก็ให้ฮิโรกิตักให้สิ” ยูยะสะบัดเสียงใส่ยามะพีและจบด้วยรอยยิ้มหวาน ๆ ส่งให้เรียว
“ไม่น่ารักเอาเสียเลย”ยามะพีงึมงำ
“ขอตั...” ฮิโรกิลุกขึ้น พูดยังไม่ทันจบ เสียงยูยะก็แทรกขึ้น
“ลักเค้ากินขโมยเค้ากินน่ะ...อร่อยไม๊” ยูยะเน้นเสียงทุกคำก่อนเว้นจังหวะโดยไม่สนสายตาของคนในโต๊ะ
“มัตสึดะ” ทั้งโต๊ะนิ่งมองยูยะที่กำลังตักเค้กของมัตสึดะโดยไม่ได้ขอ เช่นเดียวกับที่มัตสึดะเล่นกันกับชิเงะก่อนหน้านี้
“ยูยะ” เรียวเสียงเข้ม แต่เหมือนเจ้าของชื่อยังไม่สนใจ
“อืม หวานดี น่าจะอร่อยกว่าด้วยนะ” ยูยะยิ้มพรายลงมือกินเค้กตัวเองต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ฉันขอตัวไปห้องน้ำแป๊บ”ฮิโรกิลุกขึ้นอีกครั้ง
“หน้าซีด ๆ นะ ฮิโรกิ เจ็บหรอ” น้ำเสียงถามฟังก็รู้ถึงความจริงใจ “ฉันหมายถึงแผลที่หัวน่ะ”
ไม่มีเสียงตอบจากฮิโรกิ เจ้าตัวเดินไปแทบจะทันที ตามติดด้วยยามะพี
“เดี๋ยวฉันกลับมา”ยามะพี่เข่นเขี้ยว ก่อนจะลุกตามฮิโรกิไป
“พอได้หรือยัง” เรียวถามโดยไม่มองหน้าคนที่ตัวเองกำลังพูดด้วย
“คำถามนั้นฉันควรจะถามนายมากกว่า” ความน่ารัก ใส ๆ ของยูยะดูเหมือนจะน้อยลงไปทุกที
===========================================
“อุจี้…” ยามะพีตามมาคว้าข้อมือฮิโรกิไว้
“เอ่อ .... ฮิโรกิ เป็นอะไรหรือเปล่า” สายตาของฮิโรกิทำเอายามะพีปล่อยมือ พูดด้วยเสียงอ่อย ๆ
“ฉันไม่เป็นไร” คำตอบของฮิโรกิไม่เหมือนกับสิ่งที่เห็น
“แน่นะ” ยามะพีถามด้วยความกังวล
“ถึงฉันเป็นอะไรจริง ๆ ยามะพีจะทำยังไงล่ะ” ไม่ได้ถาม แต่ไม่ได้ต้องการคำตอบ ทั้งฮิโรกิและต่างก็รู้ดีแก่ใจ
“ฮิโรกิ” เสียงยามะพีเบาหวิว
“นายไปก่อน เดี๋ยวฉันตามออกไป” ฮิโรกิพูดโดยไม่หันมองยามะพี
===========================================
“จะไปไหนหรอ เรียวจัง” ยูยะถาม ฟังก็รู้จงใจยั่วอารมณ์ชัด ๆ
“ทำไมต้องถาม” นี่แหละนิชิกิโด้ เรียว
“ก็ต้องการคำตอบ” ยูยะยังลอยหน้าลอยตา
“รู้อยู่แก่ใจ” เรียวตอบ เหมือนจะได้ยินเสียงฟันบดกันกรอด ๆ
“ไม่รู้” ยูยะยังไม่เลิก
“ยูยะ” เรียวเสียงสั่น ไม่ได้กลัว ไม่ได้ตื่นต้น แต่โมโหกำลังข่มใจ
“โอเค ๆ ผมจะรอคุณนิชิกิโด เรียวนะครับ” ยูยะทำมือ โอเค ๆ ผงกหัวหงึก ก่อนจะลุกขึ้นค้อมตัวผายมือให้ ..
ให้มันได้อย่างนี้สิ เทโงชิ ยูยะ
“มองอะไร” เรียวแหวใส่เพื่อนที่เหลือก่อนจะเดินออกไป ที่ตอนนี้นั่งทำหน้าปั้นยาก
“อ้าว” โคยาม่า คุซาโนะ ชิเงะ มัตสึดะร้องขึ้นแทบจะพร้อมกัน
“ฮึ่ย อย่าห้ามดิ อย่าห้าม” มัตสึดะจะก้าวตามไปเอาเรื่อง แถมท่าทางฮึดฮัดเหมือนเพื่อน ๆ ปรามไว้ ทั้งที่ความจริง
“ไปดิ ไป เรียว” เพื่อนที่เหลือพยักเพยิด ไม่มีใครรั้ง แถมตะโกนเรียกให้เรียวรอด้วย
“ไว้ก่อนละกัน” มัตสึดะเสียงอ่อย หันกลับแทบไม่ทัน เรียกเสียงฮาจากเพื่อนได้อีก
“กลับไปก่อนก็ได้นะครับ” ยูยะยิ้มหน้าเป็น บอกกลาย ๆ ว่าไม่ต้องห่วง
“โทรมาละกัน” ชิเงะโยกหัวยูยะเบา ๆ ก่อนจะออกไปพร้อมเพื่อน ๆ
==========================================
“อยู่นี่เอง” ยามะพีกระแอมให้คนยืนอยู่ก่อนรู้ตัว ก่อนจะเข้ามายื่นข้าง ๆ เรียวไม่แม้แต่จะหันมามอง
“ฉันเตือนนายแล้ว” ยามะพีพูดช้า ๆ ชัด ๆ เน้นทุกถ้อยคำเรียวเอียงหัวเล็กน้อย เอานิ้วแหย่รูหู ทำเหมือนไม่ได้ยิน
“เรียว” ยามะพีกดเสียงต่ำ “นายกับฉันเป็นเพื่อนกัน” ยามะพีพูดออกมาอย่างยากเย็น เรียวที่ดูเหมือนไม่ใส่ใจหันมามองเป็นคิ้วผูกเป็นคำถาม “แบ่งปันทุกอย่างจะสุข จะทุกข์ ไม่ว่ารอยยิ้ม หัวเราะ หรือร้องไห้”ยามะพีเอ่ยออกมาอย่างยากเย็น
“นายต้องการพูดอะไรกันแน่” เรียวเริ่มหมดความอดทน
“ทุกอย่าง แต่ไม่ใช่คนที่ฉันรัก”ยามะพีพยายามใจเย็น
“คนรัก หึ แล้วไง คนที่นายรัก ฉันรักไม่ได้งั้นสิ” เรียวเสียงขุ่น
“แล้วทำไมคนที่ฉันรัก นายไม่เลิกรักล่ะน่าจะง่ายกว่าไม๊” เรียวให้สองมือผลักอกยามะพีอย่างแรงไปพร้อม ๆ กับคำพูดที่พรั่งพรู
“ทำไมต้องเป็นฉันล่ะ ฉันรักเค้า เค้ารักฉัน เรารักกัน ฉันเป็นคนที่เค้ารัก” ยามะพีปัดมือเรียวออก
“เรารักกัน เค้าเคยบอกนายหรอว่ารัก ไม่หรอกมั้ง รักของนายมันเห็นแก่ตัว “ เรียวเข่นเขี้ยว กระชากคอเสื้อยามะพีอย่างแรง
“หมายความว่าไงที่ว่าเห็นแก่ตัว “ยามะพีถามน้ำเสียงติดอารมณ์กรุ่น
“อย่ามาทำหน้าโง่ เห็นแล้วน่าหมั่นไส้”เรียวกระชากคอเสื้อยามะพีอย่างแรง ก่อนจะปล่อยออกอย่างแรงเช่นกัน
“พูดออกมาได้ เค้ารักฉัน นายเคยถามเค้าสักคำไม๊ ว่าเค้ารักนายหรือเปล่า อย่าเหมาเอาฝ่ายเดียว” น้ำเสียงเรียวขมขื่นในที
“งั้นฉันควรหลีกทางให้นายสองคนอย่างนั้นหรอ”ยามะพีเอ่ยหลังจากเงียบไป คำพูดและน้ำเสียงอ่อนแรงเต็มที
“เรียวจัง” เสียงสดใสของยูยะก็ดังมาก่อนที่เจ้าตัวจะถลาเข้ามาเกาะแขนเรียวอย่างออดอ้อน ยังไม่ทันที่จะมีใครพูดอะไรต่อเสียงอีกเสียงหนึ่งก็ดังตามมา
“ยามะพี”ฮิโรกิ แม้จะพูดกับยามะพีแต่สายตามองมาทางเรียวและยูยะ
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า หน้าตานายดูแย่จัง”ฮิโรกิจับไหล่สองข้างของยามะพีหันมาหาตัว
“กลับกันเถอะ ฉันเหนื่อย”ยามะพีเสียงแผ่ว
“โอ๊ยหวานกันจริ๊ง”น้ำเสียงยูยะเหน็บแนมแกมประชดทั้งที่ตัวเองเกาะ แขนเรียวไม่ปล่อย
สองคนเหมือนจะไม่สนใจเดินจากไป มีเพียงเสียงคำรามในคอของเรียวเท่านั้น
“ไอ้ยามะพี ไอ้ทุเรศ ไอ้เพื่อนเฮงซวย”
===========================================
“ทนไม่ไหวแล้วนะ อะไรกัน พวกนายทำอะไรกันอยู่”ยูยะโวยวาย
“พวกนายทำอะไรกัน เล่มเกมส์อะไรกัน” ยูยะยังเสียงดังโวยวายเหมือนเดิม
“ฉันถามนายนะเรียว เงียบอยู่ได้ ทำอะไรสักอย่างสิ” ยูยะทิ้งตัวลงข้างเรียวเขย่าแขนอย่างคนเอาแต่ใจ
“พอเถอะน่า รำคาญ” เรียวแกะมือออก น้ำเสียงเป็นอย่างที่พูดไปนั่นแหละ รำคาญ
“อะไรกัน นายทนเฉยอยู่ได้ยังไง ฮิโรกิกับยามะพีทำอะไรกันอยู่ สองคนนั้นจะเป็นยังไงทำไมนายยังทนอยู่ได้
ฉันทนไม่ไหวแล้วนะอะไรของนาย ไม่เดือดร้อน ไม่โมโห สองคนนั้นก็กระไร ไม่เอาแล้ว ๆ ฮือออออออ ” ยูยะร่ายยาวจนกลายเป็นร้องไห้
“เฮ้อ” เรียวตัดใจนั่งลงข้าง ๆ รั้งเอาคนงอแงมากอดปลอบ ไม่รู้จะจะทำอะไรได้ดีกว่านี้
“นิ่งซะ นายหาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น” เรียวลูบหัวลูบหลังปลอบ
“ยามะพีไม่สนใจฉันเลย อะไร ๆ ก็ฮิโรกิ ฮิโรกิ ทนไม่ได้ ทนไม่ไหวแล้วนะเรียว” ยูยะร้องไห้หนัก
“เรียวแยกฮิโรกิออกจากยามะพี นะ นะ นะ ฉันขอร้องนะ ฉันจะตายอยู่แล้ว ฮือออออ” ยูยะยกมือไหว้ปลก ๆ น้ำตานอง
เรียวเองไม่ใช่ไม่อยากทำแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน รู้สึกเรื่องราวมันไกลออกไปทุกที อย่าว่าแต่ยูยะคิดว่าตัวเองเสียยามะพีไปเลย เรียวเองก็รู้สึกว่าตัวเองเสียฮิโรกิไปด้วยเหมือนกัน ภายใต้ท่าทางนิ่ง ๆ เฉย ๆ ของฮิโรกิน่ากลัวกว่ายูยะ กับยามะพีหลายเท่า อย่างน้อยยามะพีกับยูยะโวยวายก็ยังทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรและจะทำอะไร แต่กับฮิโรกิ เรียวไม่รู้ หรือว่าไม่เคยรู้เลย
“เลิก” ถ้าวันนั้นแค่เรียวยอมทำอย่างที่ฮิโรกิบอกเรื่องราวมันคงจบง่ายกว่านี้
ถ้าเพียงแค่วันนั้นเรียวยอมทำตามแต่โดยดี คงไม่ต้องมีใครต้องเจ็บปวด คิดถึงเลือดสีแดงสดที่อาบเต็มฝ่ามือ
รอยยิ้มแห้งแล้ง สายตาว่างเปล่า น้ำตาที่อาบสองแก้มของฮิโรกิแล้ว เรียวเองก็ปวดใจไม่น้อย ในเวลานั้นควรเป็นเรียวเอง ควรเป็นตัวเค้าเองหรือเปล่าที่ควรอยู่เคียงข้างฮิโรกิ แต่นี่เค้ากำลังทำอะไร
“ฉันขอ” น้ำเสียงอ้อนวอนของฮิโรกิ
ฉันควรจะทำยังไงดีนะ

===========================================

“อุจี้ งานนี้นายไปกับยามะพีนะ”
“อุจี้ วันนี้ นายไปกับยามะพีนะ”
“อุจี้ ฉันไปรอที่บ้านนะ นายกับพร้อมยามะพีนะ”
“ยามะพี ฉันเห็นอุจจี้ดูท่าไม่ค่อยสบายนะ”
“ยามะพี เห็นอุจจี้ไม๊”
“ยามะพี นายกลับพร้อมอุจจี้หรอ”
“แหม นายสองคนนี่เกินเพื่อนแล้วนะ เห็นแล้วอิจฉา”
“อุจี้ .... ยามะพี” เหตุการณ์มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไรกันนะ
ทุกครั้งที่พูดถึงอุจจี้ จะต้องมียามะพีทุกครั้ง ทั้งที่ความจริงแล้ว ควรจะเป็นเรียวมากกว่า

“ฮิโรกิ” เรียวเอ่ยปากเรียกชื่อนี้ออกมาอย่างยากเย็น
“เดี๋ยวนี้ฉันเป็นแค่ฮิโรกิ แล้วสินะ ไม่ใช่อุจจจี้ สำหรับนายอีกแล้วหรือเรียว” อุจจี้พูดด้วยน้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจ นิ้วสองข้างพันกันไปมาอย่างสับสน
“ ไม่ใช่อย่างนั้น คือ..คือ..” เรียวหลุดหัวเสียตามประสาคนใจร้อนแต่แล้วก็เสียงอ่อยเพราะได้เห็นน้ำตาคลอ ๆ จากคนตรงหน้า
“เป็นอะไรไปอุจจี้” เรียวตะกองกอดคนตรงหน้า ถามเบา ๆ
“คิดถึง”คำพูดสั้น ๆ พร้อมกับน้ำตาที่หยดลง ทำเอาคนเจ้าอารมณ์สั่น เพราะความรู้สึกคิดถึงไม่ต่างกัน
“ฉันก็คิดถึงนายเหมือนกัน” เรียวกระชับอ้อมกอดแน่นกว่าเดิม จุมพิตเบา ๆ ที่กระหม่อมอย่างรักใคร่ เล่นเอาคนในอ้อมกอดสะอื้นหนัก
“ เลิกกันเถอะนะ” อุจจี้เสียงสั่นจำได้ดี ครั้งสุดท้ายที่ทำให้ห่างกันก็เพราะเรื่องนี้ และคำพูดประโยคนี้ ไม่มีการตอบรับจากเรียวสิ่งทำเอาอุจจี้ใจไม่ดี
“เรียว”อุจจี้กำเสื้อเรียวแน่น ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นสบตา กลัวกับความเงียบของเรียวเหลือเกิน ก่อนจะกลายเป็นสะอื้นหนัก
“อย่าร้องไห้เลยนะ ฉันผิดเอง” เรียวลูบหัวอุจจี้เบา ๆ แต่ทำให้อุจจี้ร้องไห้หนักกว่าเก่า
“เลิกกันเถอะนะ” อุจจี้ยังย้ำประโยคเดิม ด้วยเสียงสะอื้น
“นายแน่ใจแล้วหรอ” เรียวดันอุจจี้ออกให้มาสบตา
อุจจี้พยักหน้าหลายครั้งจนหัวคลอน ตอกย้ำความแน่ใจ
“ฉันไม่อยากให้เรียวต้องไปไหนมาไหนกับยูยะอีกแล้ว ฉันอยากเป็นคนที่อยู่ข้างๆ เรียว อยากให้เรียวอยู่ข้าง ๆเวลาที่ฉันป่วย อยากให้เรียวเป็นคนไปรับไปส่ง อยากกินข้าวกับเรียว อยากทำทุกอย่างกับเรียว ฉันทนไม่ได้ที่คนที่อยู่ข้าง ๆเรียวไม่ใช่ฉัน ชื่อเสียงอะไรฉันก็ไม่สนแล้วล่ะ ในเมื่อทุกวันนี้ฉันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันเหลือแค่เรียวคนเดียว วิธีที่จะทำให้คนจำฉันได้ และคิดถึงฉัน โดยที่ให้ฉันไปอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่เรียว ฉันไม่อยากทำแล้วนะเรียวนะ “ อุจจี้พูดยาวราวกับว่าถ้าไม่ได้พูดทุกคำในตอนนี้ จะไม่มีโอกาสได้พูดอีก
“แต่ว่า” เรียวอึกอัก ไม่ใช่ไม่เข้าใจในสิ่งที่อุจจี้กำลังบอก แต่พูดอะไรไม่ออกมากกว่า
“ฉันรักวงการนี้ก็จริง ฉันชอบร้องเพลงก็จริง แต่ฉันรักเรียวมากกว่า ถ้าฉันต้องเลือก ฉันก็เลือกที่จะอยู่กับเรียวนะ”
“ฉันบังคับนายมากไปจริง ๆ “ได้ฟังความอัดอั้นของอุจจี้แล้ว ยิ่งทำเอาเรียวไม่รู้จะพูดอะไร เรียวบังคับอุจจี้มากไปจริง ๆ ไม่เคยรู้เลยว่าความหวังดีของเรียวจะทำให้อุจจี้เจ็บปวดขนาดนี้ เรียวเพียงแค่อยากให้ทุกคนยังจำอุจจี้ได้ เพราะจี้ไม่มีงาน วันนึงจี้ก็จะถูกลืม การที่ให้อุจจี้ใกล้ชิดกลับยามะพีก็เพียงเพราะยามะพีมีชื่อเสียง มีงาน ถ้าเทียบกับเรียวเองแล้ว ยามะพีน่าจะช่วยได้มากกว่าเยอะ เรียวคิดเสมอว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวที่เรียวทำให้อุจจี้ได้และทำให้อุจจี้มีความสุข
“งั้นเลิกกันเถอะนะ” อุจจี้เงยหน้ารอคอยคำตอบจากเรียว
“เราเลิกกันน่ะหรอ ” เรียวทำหน้ายียวน อุจจี้ตาค้าง “ฉันล้อเล่น” เรียวกอดเอาใจ
“แล้วยูยะ กับยามะพี.....” อุจจี้ถามอย่างกังวล
“เรื่องฉันจัดการเอง ” เรียวบอก
“อ่อ แล้วจากนี้ไป อย่าใกล้ชิดกับยามะพีอีกนะ ถึงฉันจะเป็นคนบอกให้นายไปกับยามะพี แต่ไม่ได้ให้เว่อร์
อยู่ในห้องกันสองคนฉันไม่ชอบ ห้องนอนนายก็ไม่ควรให้คนอื่นเข้าไป มันห้องส่วนตัวโลกส่วนตัวนายเข้าใจไม๊ แล้วไอ้แบบนี้ แบบนี้ แบบนี้ ฉันขอล่ะ เห็นแล้วฉันหงุดหงิด” เรียวออกท่าออกทาง ประคอง ตะกองกอด และท่าอื่น ๆ เหมือน ๆ กับที่อุจี้เคยทำกับยามะพี
“หึงหรอ” อุจี้ถามล้อ ๆ
“ไม่หึง แต่ไม่ชอบ”เรียวเสียงขุ่นไม่มองหน้า
“นั่นแหละแปลว่าหึง” อุจี้หัวเราะคิก
“หัวเราะอะไร” เรียวถาม
“เปล่า” อุจี้ลากเสียงสูง
“เปล่าอะไร เห็นอยู่” เรียวเสียงไม่สบอารมณ์
“เปล่าจริง ๆนะ “ อุจี้แสร้งทำตาละห้อย หลบสายตาดุ ๆ ด้วยการเอาหน้าซุกลงที่อกพร้อมกับสองมือโอบรอบเอวเรียวไว้
----------------------------------------------------------------------------End-----------------------------------------------------
“ยามะพี ยูยะ ฉันว่านายสองคนจำเป็นต้องคุยกันเองนะ” เรียวจับมือสองคนประสานไว้ก่อนจะเดินจากไป
อารมณ์ที่อ่อนไหว
“เรียว คุยได้ไหม” เสียงยูยะดังมาตามสาย ดึกดื่นป่านนี้ โทรมาแบบนี้คงมีเรื่องอีกเป็นแน่
“อืม ว่ามา” เรียวตอบไปแบบนั้นมือหนึ่งปัดปอยผมที่ปรกหน้าอุจี้ที่หลับอยู่ข้าง ๆ อย่างเบามือ
“เหงาน่ะ” ยูยะพูดแค่นั้นแล้วก็เงียบไป
“ยามะพีล่ะ” เรียวถามเพราะรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่
“อยู่กอง” ยูยะน้ำเสียงล้าเต็มที
“โอเคไหม” แม้จะพูดอยู่กับยูยะ แต่สายตาก็ไม่ได้ละจากคนที่นอนซุกตัวอยู่ข้าง ๆ
“สบายอยู่แล้ว” แม้จะพูดมาแบบนั้นแต่เรียวก็รู้ได้ดีว่า คนพูดรู้สึกอย่างไร
“ยูยะ” เรียวเรียกชื่อยูยะ เพราะความคิดบางอย่างกำลังผุดขึ้นมา แม้จะละอายกับสิ่งที่คิด
“หืม” เสียงยูยะดูเนือยผิดกับเวลาที่เห็นในตอนกลางวัน
และแล้วเพียงแค่วูบเดียวในคืนเหงอาของใครบางคนเรื่องต่าง ๆก็เริ่มขึ้น

วูบหนึ่งในคืนเหงา
“ยามะพี พักนี้ข่าวนายกับยูยะ” เรียวเปิดประเด็นไว้เท่านั้น
“จริงด้วย” “ใช่” “ไม่ค่อยดีเท่าไรนะ”
“นายจะทำไงต่อไป “ และอีกหลายๆ คำพูดจากคนรอบข้างเพียงเพราะการเปิดประเด็นของเรียว
“ฉันว่าเรื่องนายมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่ ๆ” เรียวพูดกับยามะพีเมื่อยู่กัน 2 คน
“อืม ฉันเองก็สงสารยูยะนะ” ยามะพีสีหน้ากังวลเห็นได้ชัด
“เอางี้......”เรียวบอกและเรื่องราวต่าง ๆ ดำเนินต่อไป
“จะดีหรอ” ยามะพียังลังเล
“เห็นหมอนั่นร่าเริงตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าไม่คิดอะไรนะ” เรียวตบบ่ายามะพีเบา ๆ

สิ่งที่เราจะทำ อาจไม่ใช่ที่เราต้องการ
“ฉันไม่ทำไม่ได้หรือเรียว” อุจี้ส่งเสียงออดอ้อน
“แต่มันดีกับนายนะ ถือว่าเป็นการช่วยยูยะกับยามะพีด้วย” เรียวปลอบ
“แต่ว่า” อุจี้ยังอิดออด
“ไม่มีอะไรเสียหายนิ หรือว่านายแอบชอบยามะพีอยู่”เรียวเสียงเขียว
“เปล่านะเปล่าเลย”อุจี้ปฏิเสธเสียงแข็ง
“เปล่าก็ดีแล้ว ที่ฉันให้นายไปไหนมาไหนกับยามะพีช่วงนี้ เพราะคนจะได้ไม่ลืมนาย อีกอย่างยามะพีกับยูยะก็มีข่าวเยอะไปหมดมันไม่ค่อยดีเท่าไร”

หลังจากนั้น
“ข่าวประจำวันนี้ ภาพสุดสวีท ยามะพีกับอุจจี้ “



ฉัน....กลัว แค่วูบเดียวในคืนเหงา
จะทำให้ใจต้องเหน็บหนาว และทุกข์ทนไปอีกนาน




จบไปอีก 1 เรื่อง โว้โว




Create Date : 01 ตุลาคม 2551
Last Update : 1 ตุลาคม 2551 22:09:09 น. 2 comments
Counter : 611 Pageviews.

 
สวัสดีวันพุธค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมเยียนที่บล็อกนะคะ
ว่างๆก็แวะมาอีกนะคะ ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ

มีความสุขมากมากนะคะ


โดย: discipula วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:14:39:38 น.  

 
แหม กว่าจะเม้นได้ ของแรงน่าดูนะ ฟันแทงไม่เข้าง่ะ


ขอบคุณมากสำหรับเรื่องนี้ ในที่สุดก็จบแล้ว มันใช้เวลากี่เดือนง่ะ จำไม่ได้แล้ว

แต่เรื่องนี้ ตอนรีเควส ขอ เรียวจี้นะจำได้ แต่ทำไมอ่านแล้วไปติดใจยูยะล่ะ

มะจงใจให้เค้าเกลียดยูยะเปล่า ทำไมเรื่องนี้ ยูยะเค้าแรดเหลือเกิน

อ่านแล้วชอบ คาแรคเตอร์ยูยะง่ะ 555 น่ารักดี แรดแบบใสๆๆ


เดี๋ยวก็รีเควส ยูยะเรียว ซะเลย


ปล. เรื่องหน้าอย่าลืมนะ


โดย: เมียไอดอลชื่อดังแห่งเกาะญี่ปุ่น IP: 203.154.144.2 วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:13:22:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

salanare
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add salanare's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.