Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
18 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
JinMae : ความหวังดีบทที่ 3

หลายวันมานี้ ฉันรู้สึกมีความสุขมาก ที่ได้รู้ว่า
เยื่อใยบาง ๆ ที่ดูเหมือนว่ามันกำลังจะขาด นั้น
ยังคงเหนียวแน่น เกาะกุมหัวใจเราทั้ง 2 คน
และดูเหมือนมันกำลังค่อย ๆ ห่อหุ้มหัวใจที่กำลังเหน็บหนาว
ให้กลับมาอบอุ่นและมีชีวิตอีกครั้ง

แต่แล้วฉันก็รู้ว่าฉันคิดผิดเมื่อได้เห็นภาพนั้น
คาเมะกับใครอีกคนหนึ่ง รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และสัมผัสที่ลึกซึ้ง
สัมผัสที่ฉันอยากจะเป็นเจ้าของเพียงแค่คนเดียว
ฉันก้าวเดินนำหน้าเข้าอาคารไป
โดยที่หวังเล็ก ๆ ว่าคนข้างหลัง จะเรียกฉันไว
้เพื่อบอกเล่าถึงสาเหตุที่ไม่ยอมรอที่จะมาพร้อมกัน
แต่ไม่มีเสียงเรียกใด ๆ มีเพียงแต่เสียงฝีเท้าที่ก้าวตามมาเท่านั้น

1 ..... 2......3........ฉันได้แต่นับในใจ
ยังหวังว่าจะได้ยินเสียงเรียกจากคนข้างหลัง
แต่เปล่าเลย ฉันเป็นอะไร ...นั่นสิ ฉันเป็นอะไร เป็นอะไรสำหรับนาย คาเมะ
มันคงไม่มีหวังแล้วสินะ
ฉันเงยหน้าขึ้น สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่จะหันไปหาคนข้างหลัง
“ อะ นี่ยา เอาไว้ทา ฉันไปละ เดี๋ยวเที่ยงเจอกัน” ก็ยังไม่มีคำพูดใด ๆ

จากมุมตรงนี้ ฉันสามารถที่จะมองเห็นคาเมะได้ชัดเจน
ทุก ๆ วันฉันมักจะยืนอยู่ที่มุมนี้พร้อมกับเพื่อนร่วมห้อง
เพื่อที่จะได้เห็นเวลาที่คาเมะเคลื่อนไหวร่างกายไปตามเสียงดนตร
ีเห็นความมุ่งมั่นและตั้งใจของคาเมะ เห็นความพยายามของคาเมะ
ความพยายาม ที่จะทำให้ความฝันเป็นจริง
ระยะห่างที่ทำให้ฉันได้แต่มองดูเหมือนมันยิ่งกว้างออกมากขึ้น ๆ

“จิน ....” ฉันจำเสียงนี้ได้ดี แต่ยังไม่อยากลืมตาตอนนี้
“จิน ...” เสียงเข้ามาใกล้ ๆ จนแทบได้ยินเสียงลมหายใจ พร้อมทั้งเขย่าที่ต้นแขน เบา ๆ
“ หือออออออออ....” ฉันร้องรับ ราวกับเพิ่งตื่นนอน
“ไม่สบายรึเปล่า” คาเมะเอามือมาอังที่หน้าผาก “ ตัวรุม ๆ นะ”
“เปล่า ไม่เป็นไร ไปกินข้าวกันเถอะ” ฉันยิ้ม อย่างน้อยก็ยังมีความห่วงใยที่เหลืออยู่

“ ฉันขอนะ” ฉันคีบเอาชิ้นที่คาเมะชอบที่สุดมาจากจาน
แต่ ไม่มีเสียงร้องของคาเมะโวยวายเหมือนอย่างเคย
“ว้า .....เอาคืนไป ไม่เอาแล้ว” มันไม่เหมือนอย่างที่เคยเพราะอะไรนะ
“ฉันว่าคนที่ไม่สบายน่าจะเป็นนายมากกว่า” ใช่สิ
เมะอาจจะไม่สบาย เพราะอากาศหนาว เมื่อคืน
“ไหน ๆ มา ฉันดูหน่อย ว่ามีไข้รึเปล่า” ฉันลุกขึ้น โน้มตัวเข้าไปหาคนตรงหน้า
มือสองข้างประคองหน้าคนตรงหน้าไว้
ตอนนี้ หน้าผากของฉันชนกับหน้าผากของเมะ
รู้สึกได้ ถึงไออุ่น ๆ ที่ค่อยเพิ่ม ๆ ขึ้น

“เอ ..... ไม่เป็นไรนะ แต่แบบนี้ชัวร์กว่า” ก่อนจะฝังริมฝีปากลงบนริมฝีปากของเมะ
“ นายทำบ้าอะไรของนาย ” คาเมะผลักฉันออก โวยวายเสียงดัง
“ ก็แค่ดูว่ามีไข้รึเปล่า ทำเป็นโวยวายไปได้” จะให้บอกว่าไงล่ะ
บอกว่าเห็นริมฝีปากของนายแล้วนึกถึง
ภาพเมื่อเช้าก็เลยแค่อยากจะลบรอยไอ้หมอนั่นก็เท่านั้น รึไง
“ดูดิ คนมองหมดแล้ว” คนมองกันเยอะจริง ๆ
ฉันฉุดคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะโมโหเอามาก ๆ ให้นั่งลง
แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เมะลุกออกจากโต๊ะ เดินออกไป
“เมะ...”ฉันเรียกพร้อมกับรีบลุกออกจากโต๊ะตามไป
“คาเมะ ....” ฉันคว้าแขนของคาเมะไว้ได้
“ปล่อย”น้ำเสียงเฉียบของคาเมะทำเอาฉันใจหาย
“ นายเป็นอะไรของนาย ทำไมนายจะต้องโกรธด้วย”
ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมคาเมะต้องโกรธมากมายขนาดนี้

“สนุกมากไม๊” สายตาและน้ำเสียงเฉียบของคาเมะ บ่งบอกถึงอารมณ์โกรธจริง ๆ
“ อะไรของนาย” นั่นสิอะไร ทำไมกับไอ้หมอนั่น
คาเมะกับยอมแต่กับฉัน คาเมะ กับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ .....
“ งั้นเอาเป็นว่าฉันขอโทษก็แล้วกันนะ” ดูเหมือนว่าถ้ายิ่งพูดไปฉันเองกระมัง ที่จะต้องเจ็บ
“ตกลงนายไม่เป็นอะไรแน่นะ” ไม่มีเสียงตอบรับจากคาเมะ
ต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับนายแน่ ๆ เพียงแต่ว่ามันเรื่องอะไร
“เลิกยุ่งกับฉันซะที” คาเมะทำลายความเงียบ
“อะไรนะ ..” ฉันหูฝาดไปแน่ ๆ
“ฉันบอกว่า เลิก ยุ่ง กับ ฉัน ซะ ที” เมะ เน้น ชัด ๆ ทีละคำ
“ นายพูดบ้าอะไรของนาย” ฉันพูดพร้อมสาวเท้าเข้าไปหา
“อย่างที่นายได้ยินนั่นแหละ”
“หมายความว่ายังไง ฉันหรอที่ยุ่งกับนาย ” ฉันมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้ ไม่แม้จะสบตา
“ พอแล้ว ฉันเหนื่อย” คำพูดของคาเมะไม่ต่างอะไรกับ คลื่นลูกใหญ่
ที่ซัดเข้าหาปราสาททรายที่ก่อตัวอยู่

ฉันคว้าแขนของเมะที่กำลังจะเดินไป
แต่คาเมะสะบัดมันออก ตอนนี้ฉันได้ยินแต่เสียงคาเมะ
“จิน จิน นายต้องไม่เป็นอะไรนะ”


Create Date : 18 พฤษภาคม 2551
Last Update : 18 พฤษภาคม 2551 1:55:28 น. 0 comments
Counter : 247 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

salanare
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add salanare's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.